เอาภาพนี้มาแปะแทนเพราะไม่อยากเอาภาพสปอยล์ขึ้นภาพแรก
ภาพเปิดตอนนี้
- เปิดตอนมาหลังจากดราม่าระหว่างพ่อแม่แท้ๆ ของคนน้องจบลงด้วยดี คนน้องจึงได้รับอนุญาตจากแม่ให้ไปทำงานพิเศษพร้อมเรียนรู้การเป็นกุ๊กที่ร้านของพ่อได้
- หลังจากนั้นคนน้องก็ตั้งใจทำงานเต็มที่ โดยจัดแจงขนหนังสือเกี่ยวกับการทำอาหารและการเป็นกุ๊กมานั่งศึกษาอย่างตั้งอกตั้งใจ
- กำลังนั่งจดเพลินๆ ไส้ดินสอของคนน้องก็หมด พระเอกเลยอาสาไปหยิบไส้ดินสอของตัวเองมาให้
- แต่พอเปิดโต๊ะเจอจดหมายลาของคนพี่ (จากตอน 65) ปุ๊บ สีหน้าของพระเอกก็เปลี่ยนไปแว่บหนึ่ง ก่อนจะปิดลิ้นชักลงพร้อมกับทำหน้าเหมือนพยายามข่มกลั้นความรุ้สึกไม่อาจตัดใจเอาไว้
- ฉากตัดอีกครั้ง ไปทางฝั่งคนพี่ที่หนีไปเป็นครูสอนภาษาอังกฤษในเกาะห่างไกล ภาพฉายให้เห็นคนพี่ลุกขึ้นมาทำกิจวัตรประจำวันต่างๆ ตั้งแต่ตื่นเช้ายันไปสอนที่โรงเรียนจนโรงเรียนเลิกกลับบ้าน
- ระหว่างนั้นจะได้เห็นเสียงพูดคุยของนักเรียนในโรงเรียนเป็นระยะๆ จับความได้ว่าหมู่นี้คนพี่ดูร่าเริงขึ้น ช่างพูดช่างคุยมากขึ้น (อนุมานได้ว่าช่วงแรกที่มาอยู่นั้นท่าทางคนพี่คงไม่ได้ดูร่าเริงเท่าไหร่เพราะเพิ่งโดนจับแยกจากแฟนมา อารมณ์น่าจะคล้ายเรื่องเอ็มม่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ช่วงที่เอ็มม่าตัดสินใจหนีจากวิลเลี่ยมไปเป็นเมดในคฤหาสน์แถบบ้านนอก )
- หลังสอนเสร็จกลับบ้าน คนพี่ก็แวะซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เก็ต ก่อนจะแวะไปซื้อเบียร์ที่ร้านขายเหล้า
- เลือกของเสร็จจะไปจ่ายเงินปุ๊บก็มีเสียงร้องทักมาทันที คนพี่หันไปดู ก็พบว่าคนร้องทักเป็นไอ้หนุ่มม.ปลายชื่อ
"คาคิซากิ" ลูกชายเจ้าของร้านขายเหล้า และเป็นลูกศิษย์คนหนึ่งที่โรงเรียนที่คนพี่สอนอยู่
หน้าตาไอ้หนูคาคิซากิ
- ไอ้หนูคาคิซากิเรียกชื่อเล่นคนพี่ว่า
"อาจารย์อุวาบามิ" (อุวาบามิ แปลตรงตัวว่างูเหลือม แต่เป็นคำสแลงหมายถึง
"คนชอบดื่มเหล้าหนักๆ" ด้วย) ฟังจากคำพูดคำจาที่พูดกันแล้วท่าทางเหมือนไอ้หนูคาคิซากิจะสนิทกับคนพี่เพราะคนพี่มาซื้อเหล้ากินที่ร้านของไอ้หนูนี่ประจำทุกๆ เสาร์
- แต่วันนี้คนพี่กลับมาซื้อเหล้า (เบียร์) ตั้งแตต่กลางสัปดาห์ซึ่งผิดปกติ ไอ้หนูเลยทักว่ามีอะไรรึเปล่า คนพี่ก็ยืดอกตอบอย่างภูมิใจว่าเพิ่งโดนอ.หัวหน้าภาคชมมาว่าตั้งแต่คนพี่มาสอนคะแนนเฉลี่ยภาษาอังกฤษของนักเรียนก็ดีขึ้น เลยมาซดเบียร์ฉลองนั่นแล
- ไอ้หนูก็ทักว่านึกว่าผู้ใหญ่จะกินเหล้าเฉพาะเวลาอยากลืมเรื่องแย่ๆ ซะอีก คนพี่ก็เลยบอกว่าไม่ใช่นะ เวลาอยากฉลองก็กินเหมือนกัน ไอ้หนูเลยถามว่ากินเหล้าแล้วช่วยให้คลายทุกข์ได้จริงเหรอ คนพี่ก็ตอบว่ากินเหล้าแล้วไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาอะไรก็จริง แต่อย่างน้อยก็ทำให้ลืมความทุกข์ได้ ถึงจะแค่ชั่วคราวก็เถอะ
- ได้ยินแบบนั้นไอ้หนูก็ยิ้มเศร้าๆ บอกว่าดีจัง ตัวเองก็อยากเป็นผู้ใหญ่เร็วๆ เหมือนกัน จะได้กินเหล้าให้เมาแก้กลุ้มแบบคนพี่ได้ คนพี่เห็นท่าทางไอ้หนูแบบนั้นก็ถามว่ามีเรื่องไม่สบายใจอะไรเหรอ แต่ไอ้หนูไม่ตอบ กลับเปลี่ยนเรื่องกลบเกลื่อนจนคนพี่ไม่มีจังหวะถามอีก
- ตัดมาวันรุ่งขึ้นช่วงกลางวันหลังกินข้าวเที่ยงเสร็จ คนพี่เห็นวันนั้นอากาศดีเลยตัดสินใจขึ้นไปดูวิวบนดาดฟ้า
- แต่เพิ่งขึ้นไปก็ได้ยินเสียงคนคุยกันอยู่ จับความได้ว่าเป็นนักเรียนชายกำลังสารภาพรักกับนักเรียนหญิง คนพี่ได้ยินเสียงฝ่ายชายก็จำได้ว่าเป็นไอ้หนูคาคิซากิที่ร้านเหล้า เลยลนลานรีบหลบเข้าที่กำบังเพราะกลัวจะไปขัดจังหวะอีกฝ่าย
- ทางด้านไอ้หนูคาคิซากิสารภาพรักออกไป แต่ฝ่ายผู้หญิงที่โดนสารภาพกลับปฏิเสธไม่รับรัก ไอ้หนูคาคิซากิเลยได้แต่อึ้ง ก่อนจะปรับสีหน้าเป็นปกติก่อนจะตอบรับเป็นเชิงยอมรับการตัดสินใจของอีกฝ่าย แล้วปล่อยให้อีกฝ่ายหน้าแดงวิ่งหนีไป
- หลังฝ่ายหญิงวิ่งหนีไปแล้ว คนพี่ก็ได้แต่นั่งนิ่ง ท่าทางลนลานเหมือนทำอะไรไม่ถูกอยู่อย่างนั้น แต่ยังไม่ทันทำอะไร ไอ้หนูก็ส่งเสียงเรียกคนพี่ออกมาซะก่อน เล่นเอาคนพี่ตกใจว่าไอ้หนูเห็นด้วยเหรอ เลยโดนตอกเอาว่าเห็นตั้งแต่ตอนขึ้นมาแล้ว
- โดนเห็นจะๆ แบบนี้ไอ้หนูเลยไม่มีทางกลบเกลื่อนหรือเฉไฉไปนอกเรื่องอีก ก็เลยมานั่งปรับทุกข์กัน ไอ้หนูบ่นว่าสภาพตัวเองตอนนี้ถ้าเป็นผู้ใหญ่ละก็คงสั่งเหล้ามากระแทกปากให้หายช้ำกันไปข้างแล้ว คนพี่ก็พยายามปลอบไอ้หนูให้เลิกยึดติดกับความเจ็บปวดที่ถูกสลัดรัก แล้วก้าวต่อไปดีกว่า ไอ้หนูยังเพิ่งอยู่ม.ปลาย อนาคตยังมีโอกาสได้เจอคนดีๆ อีกเยอะ ไม่จำเป็นต้องมายึดติดกับรักแรกที่ไม่สมหวังหรอก
- โดนพูดแบบนั้นเข้าไปไอ้หนูก็ไม่พอใจ ร้องบอกคนพี่ว่าตัวเองจริงจังนะถึงได้สารภาพรักออกไป ทั้งความทรงจำที่มีต่อคนคนนั้น ทั้งความรู้สึกที่มีต่อคนคนนั้นมาตลอดไม่ใช่ความรู้สึกบางเบาที่จะลืมกันได้ง่ายๆ ว่าจบก็ย้อนถามคนพี่ว่าถ้าเป็นคนพี่จะลืมได้รึเปล่า จะดื่มเหล้ารดแผลใจให้ลืมได้รึเปล่า
- คนพี่ชะงักไปนิดหนึ่งก่อนจะพูดออกมาทั้งรอยยิ้มว่าได้สิ ก็ฉันเป็นผู้ใหญ่นี่นา ถึงจะเสียใจบ้างก็ต้องรู้ตัวว่าจะอยู่แบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ไม่ได้ ต้องรู้จักปรับอารมณ์ใหม่ แล้วตัดสินใจว่าอะไรควรเก็บไว้อะไรควรทิ้ง แล้วก้าวต่อไปให้ได้
- คนพี่พูดต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ตามเหตุผลที่ตัวเองเห็นว่าถูก ว่าเป็นสิ่งที่ควรทำ...โดยไม่รู้ตัวแม้แต่น้อยว่าขณะที่พูดนั้นตัวเองกลับเป็นฝ่ายน้ำตาไหลเสียเอง
- เห็นอาจารย์เป็นฝ่ายร้องไห้ออกมาแบบนั้น ไอ้หนูก็ถึงกับลนลานทำอะไรไม่ถูก ได้แต่นั่งเงอะงะอยู่แบบนั้นเท่านั้น
- ข้างฝ่ายคนพี่ในตอนนี้ก็ไม่อาจสะกดกลั้นความรู้สึกของตัวเองต่อไปได้ ภาพความทรงจำมากหลายที่เคยมีร่วมกับพระเอกพรั่งพรูออกมาเป็นสาย แล้วกลายเป็นน้ำตากับเสียงสะอื้นท่ามกลางดาดฟ้าอันเงียบงันนั้น
อ่านตอนนี้จบปุ๊บ ผมนึกถึงเพลงนี้ขึ้นมาเลยแฮะ
ยังเดาเรื่องไม่ออกว่าจะดำเนินต่อไปทางไหน แต่ไอ้หนูคนใหม่นี่ไปได้หลายทางแฮะ จะเป็นรักใหม่ของคนพี่ก็ได้ หรือจะเป็นตัวกลางพาคนพี่กับพระเอกก็ได้ทั้งนั้น แต่จะไปทางไหนนี่ก็สุดจะเดาเหมือนกัน
คงต้องรอดูตอนหน้าละครัรบ
[Spoil] Domestic na Kanojo #92 - อยากให้เธออยุ่ตรงนี้...
ภาพเปิดตอนนี้
- เปิดตอนมาหลังจากดราม่าระหว่างพ่อแม่แท้ๆ ของคนน้องจบลงด้วยดี คนน้องจึงได้รับอนุญาตจากแม่ให้ไปทำงานพิเศษพร้อมเรียนรู้การเป็นกุ๊กที่ร้านของพ่อได้
- หลังจากนั้นคนน้องก็ตั้งใจทำงานเต็มที่ โดยจัดแจงขนหนังสือเกี่ยวกับการทำอาหารและการเป็นกุ๊กมานั่งศึกษาอย่างตั้งอกตั้งใจ
- กำลังนั่งจดเพลินๆ ไส้ดินสอของคนน้องก็หมด พระเอกเลยอาสาไปหยิบไส้ดินสอของตัวเองมาให้
- แต่พอเปิดโต๊ะเจอจดหมายลาของคนพี่ (จากตอน 65) ปุ๊บ สีหน้าของพระเอกก็เปลี่ยนไปแว่บหนึ่ง ก่อนจะปิดลิ้นชักลงพร้อมกับทำหน้าเหมือนพยายามข่มกลั้นความรุ้สึกไม่อาจตัดใจเอาไว้
- ฉากตัดอีกครั้ง ไปทางฝั่งคนพี่ที่หนีไปเป็นครูสอนภาษาอังกฤษในเกาะห่างไกล ภาพฉายให้เห็นคนพี่ลุกขึ้นมาทำกิจวัตรประจำวันต่างๆ ตั้งแต่ตื่นเช้ายันไปสอนที่โรงเรียนจนโรงเรียนเลิกกลับบ้าน
- ระหว่างนั้นจะได้เห็นเสียงพูดคุยของนักเรียนในโรงเรียนเป็นระยะๆ จับความได้ว่าหมู่นี้คนพี่ดูร่าเริงขึ้น ช่างพูดช่างคุยมากขึ้น (อนุมานได้ว่าช่วงแรกที่มาอยู่นั้นท่าทางคนพี่คงไม่ได้ดูร่าเริงเท่าไหร่เพราะเพิ่งโดนจับแยกจากแฟนมา อารมณ์น่าจะคล้ายเรื่องเอ็มม่า [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ )
- หลังสอนเสร็จกลับบ้าน คนพี่ก็แวะซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เก็ต ก่อนจะแวะไปซื้อเบียร์ที่ร้านขายเหล้า
- เลือกของเสร็จจะไปจ่ายเงินปุ๊บก็มีเสียงร้องทักมาทันที คนพี่หันไปดู ก็พบว่าคนร้องทักเป็นไอ้หนุ่มม.ปลายชื่อ "คาคิซากิ" ลูกชายเจ้าของร้านขายเหล้า และเป็นลูกศิษย์คนหนึ่งที่โรงเรียนที่คนพี่สอนอยู่
หน้าตาไอ้หนูคาคิซากิ
- ไอ้หนูคาคิซากิเรียกชื่อเล่นคนพี่ว่า "อาจารย์อุวาบามิ" (อุวาบามิ แปลตรงตัวว่างูเหลือม แต่เป็นคำสแลงหมายถึง "คนชอบดื่มเหล้าหนักๆ" ด้วย) ฟังจากคำพูดคำจาที่พูดกันแล้วท่าทางเหมือนไอ้หนูคาคิซากิจะสนิทกับคนพี่เพราะคนพี่มาซื้อเหล้ากินที่ร้านของไอ้หนูนี่ประจำทุกๆ เสาร์
- แต่วันนี้คนพี่กลับมาซื้อเหล้า (เบียร์) ตั้งแตต่กลางสัปดาห์ซึ่งผิดปกติ ไอ้หนูเลยทักว่ามีอะไรรึเปล่า คนพี่ก็ยืดอกตอบอย่างภูมิใจว่าเพิ่งโดนอ.หัวหน้าภาคชมมาว่าตั้งแต่คนพี่มาสอนคะแนนเฉลี่ยภาษาอังกฤษของนักเรียนก็ดีขึ้น เลยมาซดเบียร์ฉลองนั่นแล
- ไอ้หนูก็ทักว่านึกว่าผู้ใหญ่จะกินเหล้าเฉพาะเวลาอยากลืมเรื่องแย่ๆ ซะอีก คนพี่ก็เลยบอกว่าไม่ใช่นะ เวลาอยากฉลองก็กินเหมือนกัน ไอ้หนูเลยถามว่ากินเหล้าแล้วช่วยให้คลายทุกข์ได้จริงเหรอ คนพี่ก็ตอบว่ากินเหล้าแล้วไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาอะไรก็จริง แต่อย่างน้อยก็ทำให้ลืมความทุกข์ได้ ถึงจะแค่ชั่วคราวก็เถอะ
- ได้ยินแบบนั้นไอ้หนูก็ยิ้มเศร้าๆ บอกว่าดีจัง ตัวเองก็อยากเป็นผู้ใหญ่เร็วๆ เหมือนกัน จะได้กินเหล้าให้เมาแก้กลุ้มแบบคนพี่ได้ คนพี่เห็นท่าทางไอ้หนูแบบนั้นก็ถามว่ามีเรื่องไม่สบายใจอะไรเหรอ แต่ไอ้หนูไม่ตอบ กลับเปลี่ยนเรื่องกลบเกลื่อนจนคนพี่ไม่มีจังหวะถามอีก
- ตัดมาวันรุ่งขึ้นช่วงกลางวันหลังกินข้าวเที่ยงเสร็จ คนพี่เห็นวันนั้นอากาศดีเลยตัดสินใจขึ้นไปดูวิวบนดาดฟ้า
- แต่เพิ่งขึ้นไปก็ได้ยินเสียงคนคุยกันอยู่ จับความได้ว่าเป็นนักเรียนชายกำลังสารภาพรักกับนักเรียนหญิง คนพี่ได้ยินเสียงฝ่ายชายก็จำได้ว่าเป็นไอ้หนูคาคิซากิที่ร้านเหล้า เลยลนลานรีบหลบเข้าที่กำบังเพราะกลัวจะไปขัดจังหวะอีกฝ่าย
- ทางด้านไอ้หนูคาคิซากิสารภาพรักออกไป แต่ฝ่ายผู้หญิงที่โดนสารภาพกลับปฏิเสธไม่รับรัก ไอ้หนูคาคิซากิเลยได้แต่อึ้ง ก่อนจะปรับสีหน้าเป็นปกติก่อนจะตอบรับเป็นเชิงยอมรับการตัดสินใจของอีกฝ่าย แล้วปล่อยให้อีกฝ่ายหน้าแดงวิ่งหนีไป
- หลังฝ่ายหญิงวิ่งหนีไปแล้ว คนพี่ก็ได้แต่นั่งนิ่ง ท่าทางลนลานเหมือนทำอะไรไม่ถูกอยู่อย่างนั้น แต่ยังไม่ทันทำอะไร ไอ้หนูก็ส่งเสียงเรียกคนพี่ออกมาซะก่อน เล่นเอาคนพี่ตกใจว่าไอ้หนูเห็นด้วยเหรอ เลยโดนตอกเอาว่าเห็นตั้งแต่ตอนขึ้นมาแล้ว
- โดนเห็นจะๆ แบบนี้ไอ้หนูเลยไม่มีทางกลบเกลื่อนหรือเฉไฉไปนอกเรื่องอีก ก็เลยมานั่งปรับทุกข์กัน ไอ้หนูบ่นว่าสภาพตัวเองตอนนี้ถ้าเป็นผู้ใหญ่ละก็คงสั่งเหล้ามากระแทกปากให้หายช้ำกันไปข้างแล้ว คนพี่ก็พยายามปลอบไอ้หนูให้เลิกยึดติดกับความเจ็บปวดที่ถูกสลัดรัก แล้วก้าวต่อไปดีกว่า ไอ้หนูยังเพิ่งอยู่ม.ปลาย อนาคตยังมีโอกาสได้เจอคนดีๆ อีกเยอะ ไม่จำเป็นต้องมายึดติดกับรักแรกที่ไม่สมหวังหรอก
- โดนพูดแบบนั้นเข้าไปไอ้หนูก็ไม่พอใจ ร้องบอกคนพี่ว่าตัวเองจริงจังนะถึงได้สารภาพรักออกไป ทั้งความทรงจำที่มีต่อคนคนนั้น ทั้งความรู้สึกที่มีต่อคนคนนั้นมาตลอดไม่ใช่ความรู้สึกบางเบาที่จะลืมกันได้ง่ายๆ ว่าจบก็ย้อนถามคนพี่ว่าถ้าเป็นคนพี่จะลืมได้รึเปล่า จะดื่มเหล้ารดแผลใจให้ลืมได้รึเปล่า
- คนพี่ชะงักไปนิดหนึ่งก่อนจะพูดออกมาทั้งรอยยิ้มว่าได้สิ ก็ฉันเป็นผู้ใหญ่นี่นา ถึงจะเสียใจบ้างก็ต้องรู้ตัวว่าจะอยู่แบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ไม่ได้ ต้องรู้จักปรับอารมณ์ใหม่ แล้วตัดสินใจว่าอะไรควรเก็บไว้อะไรควรทิ้ง แล้วก้าวต่อไปให้ได้
- คนพี่พูดต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ตามเหตุผลที่ตัวเองเห็นว่าถูก ว่าเป็นสิ่งที่ควรทำ...โดยไม่รู้ตัวแม้แต่น้อยว่าขณะที่พูดนั้นตัวเองกลับเป็นฝ่ายน้ำตาไหลเสียเอง
- เห็นอาจารย์เป็นฝ่ายร้องไห้ออกมาแบบนั้น ไอ้หนูก็ถึงกับลนลานทำอะไรไม่ถูก ได้แต่นั่งเงอะงะอยู่แบบนั้นเท่านั้น
- ข้างฝ่ายคนพี่ในตอนนี้ก็ไม่อาจสะกดกลั้นความรู้สึกของตัวเองต่อไปได้ ภาพความทรงจำมากหลายที่เคยมีร่วมกับพระเอกพรั่งพรูออกมาเป็นสาย แล้วกลายเป็นน้ำตากับเสียงสะอื้นท่ามกลางดาดฟ้าอันเงียบงันนั้น
อ่านตอนนี้จบปุ๊บ ผมนึกถึงเพลงนี้ขึ้นมาเลยแฮะ
ยังเดาเรื่องไม่ออกว่าจะดำเนินต่อไปทางไหน แต่ไอ้หนูคนใหม่นี่ไปได้หลายทางแฮะ จะเป็นรักใหม่ของคนพี่ก็ได้ หรือจะเป็นตัวกลางพาคนพี่กับพระเอกก็ได้ทั้งนั้น แต่จะไปทางไหนนี่ก็สุดจะเดาเหมือนกัน
คงต้องรอดูตอนหน้าละครัรบ