แจ๊คหม่า ซื้อ Lazada
ปฐมบทจากจีน... สู่ตลาดเวียดนาม
----------------

เทียบด้วยกลยุทธช่องทางจำหน่ายในเวียดนาม
ที่ปัจจุบัน Grocery Store > Mega Store > online Store
อนาคตอีกไม่นาน เราคงต้องเขียนกลับด้านกัน

----------------

"ความหนาแน่นประชากร" และ
"การลงทุนระบบคมนาคมพื้นฐานของภาครัฐ"
เคยเป็น key factor ที่สำคัญของแจ๊คหม่า
ในการเติบโตของ alibaba & taobao ภายในจีน

เพราะการที่ประชากรจีนอยู่เบียดเสียดแน่นบนอาคารสูง
เมื่อรวมกับการออกแบบโครงข่ายโลจิสติกส์ที่แข็งแรง
จะทำให้ ค่าใช้จ่ายการกระจายสินค้าลดลง จนสามารถแข่งขันกับ Mega store
ที่มีต้นทุนที่ดินสูงลิบได้

สุดท้าย กระทั่งบรรดาสินค้าอุปโภค
ก็ยังซื้อ-ขายกันบน taobao ของแจ๊คหม่า

ยังผลให้บรรดา Mega store หลายรายที่เคยคาดหวังกับตลาดจีนสูงลิบ
และปูพรมลงทุนในจีนเมื่อหลายปีก่อน
บางรายต้องกลับออกมาเลียแผลอย่างชอกช้ำ

การถอยทัพออกจากจีนของ Tesco Lotus, Best Buy
จะเป็น case study กับ Wal Mart และ Carrefour ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดลดลงเรื่อย ๆ
ให้ต้องตัดสินใจครั้งสำคัญทุกปลายปี

รวมทั้งทำให้ CP Lotus ซึ่งเป็น Retail Store ของเจ้าสัวใหญ่เจริญโภคภัณฑ์
ที่เปิดดำเนินการกว่าห้าสิบสาขาในกว่างสีจ้วงของจีนนั้น
เกิดการถดถอย จนต้องปรับเปลี่ยนมาใช้กลยุทธ Product เสริม

--------------------

กับเวียดนามนั้น
ด้วย key factor เดียวกัน
ในวันนี้ ที่ "อัตราความหนาแน่นประชากร" พร้อมแล้ว
รอเพียง "การลงทุนระบบคมนาคมพื้นฐานของภาครัฐ"
ให้พัฒนาจนเหมาะสมกับ Logistics cost

เชื่อได้ว่าการเติบโตของ online store ในเวียดนาม
จะก้าวขึ้นไปนำ Mega store ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
กับ Key factor เหล่านี้
แจ๊ค หม่า มี Know how และประสบการณ์พรั่งพร้อมอยู่แล้ว


-----------------------------------------------------------------------------------


กับ Mega Store ในเวียดนาม

อาจเป็นความหลักแหลม ที่ Casino Group จะขาย BigC-Vietnam ออกไป
โดยมี TCC Group ของคุณเจริญ ร่วมกับ Central Group
เข้าประมูล BigC-Vietnam ด้วยเม็ดเงินแสนกว่าล้าน
โดยสามารถต่อยอดร่วมกับ Metro AG’s Cash & Carry เวียดนาม
ที่คุณเจริญซื้อมาล่วงหน้ารอท่าไว้แล้ว

หากทุนไทยชนะ Bid ซื้อ BigC-Vietnam มาได้
กลุ่มทุนนี้จะมีไม้เด็ดอย่างไร ในการรักษาตลาดจากการช่วงชิงของแจ๊คหม่าในอนาคต
คงต้องรอดูกันต่อไป

--------------------

กับ Grocery Store ในเวียดนาม

บรรดา Distributor ทั้งหลาย
ต้องอ่านตลาดให้ขาด ว่าผลิตภัณฑ์ประเภทไหนจะยังคงอยู่ในเชลฟ์ได้
หลังการมาของ online store

นอกจากนี้ ยังต้องเร่งพัฒนาระบบ Logistics ของตนให้แข็งแรงมากขึ้น
ทั้งในส่วนของ Hard ware - Soft ware ยันมาถึง Khow how

ความร่วมมือกับบรรดา Grocery store ให้มากยิ่งขึ้น
ทั้งทางด้านการตลาด และ khowledge sharing มีความสำคัญไม่น้อย
เพื่อรักษาฐานลูกค้า ไม่ให้เปลี่ยนพฤติกรรม ไปเข้าห้าง/ซื้อของออนไลน์

อย่างไรก็ตาม ตลาดนี้จะถูกแจ๊คหม่าแย่งชิงออกไปอย่างแน่นอน
ด้วยบริบทของสังคม ที่บรรดา GenY และ GenZ ซึ่งเกิดมาในยุค connectivity device
มีกำลังซื้อมากขึ้นเรื่อย ๆ

-------------------

กับ SME ไทย

แน่นอนว่า ตลาดเวียดนามวันนี้
การเดินเข้าหา distributor ยังคงเป็นช่องทางอันดับแรกที่หวังผลได้จริง

แต่การวางหมากระยะกลาง และระยะยาว
ที่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยน/เพิ่มช่องทางกระจายสินค้า
บรรดา SME ต้องวิเคราะห์ให้หนักครับ

ในวันนี้ ที่ตลาดโลกยังหาทางไปไม่เจอ
คู่แข่งแออัดยัดเยียดกันเต็มตลาด
แค่เดินสะดุด ... อาจถูกเหยียบย่ำจนเจ็บยาวได้

ธุรกิจที่เน้น เป็นฐานผลิต OEM ให้ผู้อื่น
โดยที่ไม่มี เทคโนโลยี/วัตถุดิบต้นน้ำเป็นของตนเอง จะมีแต่หนทางที่ตีบตัน
เพราะ ในระยะกลางและระยะยาว การปรับเปลี่ยน/เพิ่มช่องทางกระจายสินค้า
เพื่อเข้าสู่ Mega Store และ Online Store นั้นจะมีค่าใช้จ่ายในการทำตลาดใหม่สูงมาก
ในขณะที่ต้นทุนแรงงานไทยแพงกว่าเพื่อนบ้านอยู่แล้ว
ทำให้ต้องแข่งขันกับราคาตลอดเวลา

Branding เท่านั้นคือคำตอบ ....


โดย : ตะลอนมาสเตอร์

http://marketeer.co.th/2016/04/aliba-buy-lazada/
http://www.bloomberg.com/news/articles/2016-03-10/casino-s-big-c-vietnamese-stores-said-to-attract-lotte-tcc-bids