ที่ดิฉันตัดสินใจโพสเรื่องราวทั้งหมดนี้ขึ้นมา เพราะอยากให้เป็นข้อเตือนภัยสำหรับคนอื่นๆด้วยคะ
และอยากขอคำปรึกษาด้านกฏหมายค่ะ เรื่องมีอยู่ว่า
เมื่อประมาณช่วงเดือน พฤษภาคม 2558 ดิฉันได้รู้จักกับผู้ชายคนหนึ่ง เข้ามาตีสนิทและเข้ามาจีบ
แล้วหลอกขอยืมเงินไปรักษาแม่ที่ป่วยเป็นโรคหัวใจ โดยอ้างว่าส่งตัวไปรักษาที่ต่างประเทศและค่าใช้จ่ายไม่พอ
เค้ามีวิธีการพูดที่รักแม่มากยอมทำทุอย่างเพื่อแม่ ขอแค่ให้แม่หาย
ด้วยความไว้ใจและเป็นคนขี้สงสารและคิดว่าช่วยเหลือชีวิตคนคนหนึ่ง ด้วยความประมาทและความโง่เองที่ไม่ได้ตรวจสอบให้ดีก่อนว่าเป็นเรื่องจริงไหม
ได้โอนเงินให้เค้ายืมไปรักษาแม่ โดยที่เค้าบอกว่าจะชดใช้คืนทั้งหมดหลังจากกลับมา
แต่ตอนหลังมาทราบความจริงว่าแม่ได้ป่วยจริงเมื่อประมาณปลายเดือน ตุลาคม 2558 จากทางพี่ชายแท้ๆของเค้า
เราจึงติดตามทวงถามมาตลอด แต่เค้าหลบหน้า และรับสายเป็นครั้งคราวแล้วบอกว่าจะคืน
จนเราคิดว่าถูกหลอกแน่จึงเข้าไปแจ้งความที่ สน.บางซื่อ แต่ทางตำรวจไม่รับ เราท้อมาก
เลยลองเปลี่ยนไปแจ้งความที่ สน. พหลโยธิน ในวันที่ 2 ธันวาคม 2558
ทางเจ้าหน้าที่รับทำคดี ได้โทรหาคนคนนี้ให้และนัดวันมาไกล่เกลี่ย แต่พอถึงวันนัดเค้าไม่มา
ทางตำรวจออกหมายเรียกแล้ว 3 ครั้ง ก็ไม่มา
โดยดิฉันได้สืบทราบมาว่า ผู้ชายคนนี้ได้โอนรถที่คาดว่าไปซื้อมาหลังจากที่ดิฉันโอนเงินยืมค่ารักษาแม่ตามที่อ้างไปไม่กี่วัน
ให้ผู้หญิงคนหนึ่ง ในวันที่ 2 ธันวาคม 2558 ก็คือวันที่ตำรวจโทรหาเค้าในวันนั้นเลย
เลยตามสืบได้อีกว่าเค้าได้ไปแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้ซึ่งเป็นคนพิจิตร และเป็นพยาบาลที่สาธารณสุขแห่งหนึ่งใน อ.บางมูลนาง จ.พิจิตร
ทางตำรวจเลยเรียกภรรยาเค้าและแม่ของภรรยามาสอบถามว่ารู้เห็นเป็นใจไหม แต่วันนัดก็ไม่มา ทางตำรวจจึงออกหมายเรียก
เค้ามาแล้วอ้างว่ารถที่ได้รับโอนเป็นคนกู้เงินสหกรณ์มาให้สามีซื้อ
แต่ทางตำรวจขอหลักฐานกลับไม่ให้ แถมยังไปฟ้องว่าดิฉันหมิ่นประมาทเค้าที่สน.จ.พิจิตร
หลักฐานที่ดิฉันนำเข้าแจ้งความคือ
1.ข้อความขอยืมเงิน
2.สลิปการโอนเข้าบัญชี
3.คลิปเสียงสนทนาการทวงเงิน
ความคืบหน้า
1.แม่และพี่ชายให้การเป็นพยานกับตำตรวจแล้วว่าไม่ได้ป่าย
2.คนขายรถได้ยืนยันให้การแล้วว่าขายรถให้คนนี้จริง
3.ภรรยาและแม่ยายของคนคนนี้ได้มาให้ปากคำที่ สน.โดยอ้างเรื่องรถที่รับโอนมาว่ากู้เงินมาฝากให้คนนี้ซื้อแต่ไม่มีหลักฐานมาแสดง
อยากทราบว่า ดิฉันพอจะจับคนเลวๆคนนี้ได้ไหม เพื่อไม่ให้ไปหลอกคนอื่นๆอีก และเชื่อว่าคงมีอีกหลายคนที่เป็นเหยื่อ
และคิดว่ามีคนร่วมกระบวนการ เพราะเค้าพาไปเจอผู้ใหญ่ เพื่อน เพื่อยืนยันว่ามีปัญญาคืนเงินแน่ๆให้เราไว้ใจ
ตอนนี้ดิฉันเดือดร้อนมาก ไม่มีรายได้ตกงาน เงินที่จะจ้างทนายก็ไม่มีเลย แม้กระทั้งเงินที่จะดูแลลูก
ทุนที่สำรองไว้ก็หมดแล้วจากการตามสืบตามคดีและใช้ในชีวิตประจำวัน
ทุกๆอย่างเราตามสืบเองหมดแล้วป้อนให้ทางตำรวจ แต่คดีก็ไม่ไปถึงไหนเลย
ทุกวันนี้ต้องลำบากมากับความไว้ใจคนอื่นของตัวเอง และสงสารครอบครัวที่ต้องมาลำบากเพราะเรา
อยากให้คนชั่วๆได้รับกรรม และไม่อยากให้ไปหลอกคนอื่นๆอีก ทุกวันนี้นอนร้องไห้ทุกคืนคะ
ขอคำแนะนำด้วยนะคะว่าควรต้องทำอย่างไรต่อไป คดีจะหมดอายุความก่อนไหม
ทุกวันนี้มันไม่รับสายไม่ติดต่อไม่ได้มาประมาณ 1 เดือนแล้วคะมีแต่ทางภรรยาและแม่ยายมาแจ้งฟ้องเราเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว
ขอบคุณทุกๆ ท่านล่วงหน้าคะ
ปล.อยากลงหลักฐานหน้าตาชื่อนามสกุล เลขบัญชีคนเลวนั้นแต่ก็ไม่ทราบจะทำได้ไหมกลัวถูกฟ้องกลับคะ
อยากให้ทุกๆคนได้เห็นหน้ามันและระวังถูกมันหลอก
เครียดถูกหลอกให้โอนเงินล้านกว่าบาท แจ้งความคดีฉ้อโกงตั้งแต่ 2 ธันวาคม 2558 จนปัจจุบันคดีไม่คืบหน้าไม่รู้ต้องทำยังไงแล้ว
และอยากขอคำปรึกษาด้านกฏหมายค่ะ เรื่องมีอยู่ว่า
เมื่อประมาณช่วงเดือน พฤษภาคม 2558 ดิฉันได้รู้จักกับผู้ชายคนหนึ่ง เข้ามาตีสนิทและเข้ามาจีบ
แล้วหลอกขอยืมเงินไปรักษาแม่ที่ป่วยเป็นโรคหัวใจ โดยอ้างว่าส่งตัวไปรักษาที่ต่างประเทศและค่าใช้จ่ายไม่พอ
เค้ามีวิธีการพูดที่รักแม่มากยอมทำทุอย่างเพื่อแม่ ขอแค่ให้แม่หาย
ด้วยความไว้ใจและเป็นคนขี้สงสารและคิดว่าช่วยเหลือชีวิตคนคนหนึ่ง ด้วยความประมาทและความโง่เองที่ไม่ได้ตรวจสอบให้ดีก่อนว่าเป็นเรื่องจริงไหม
ได้โอนเงินให้เค้ายืมไปรักษาแม่ โดยที่เค้าบอกว่าจะชดใช้คืนทั้งหมดหลังจากกลับมา
แต่ตอนหลังมาทราบความจริงว่าแม่ได้ป่วยจริงเมื่อประมาณปลายเดือน ตุลาคม 2558 จากทางพี่ชายแท้ๆของเค้า
เราจึงติดตามทวงถามมาตลอด แต่เค้าหลบหน้า และรับสายเป็นครั้งคราวแล้วบอกว่าจะคืน
จนเราคิดว่าถูกหลอกแน่จึงเข้าไปแจ้งความที่ สน.บางซื่อ แต่ทางตำรวจไม่รับ เราท้อมาก
เลยลองเปลี่ยนไปแจ้งความที่ สน. พหลโยธิน ในวันที่ 2 ธันวาคม 2558
ทางเจ้าหน้าที่รับทำคดี ได้โทรหาคนคนนี้ให้และนัดวันมาไกล่เกลี่ย แต่พอถึงวันนัดเค้าไม่มา
ทางตำรวจออกหมายเรียกแล้ว 3 ครั้ง ก็ไม่มา
โดยดิฉันได้สืบทราบมาว่า ผู้ชายคนนี้ได้โอนรถที่คาดว่าไปซื้อมาหลังจากที่ดิฉันโอนเงินยืมค่ารักษาแม่ตามที่อ้างไปไม่กี่วัน
ให้ผู้หญิงคนหนึ่ง ในวันที่ 2 ธันวาคม 2558 ก็คือวันที่ตำรวจโทรหาเค้าในวันนั้นเลย
เลยตามสืบได้อีกว่าเค้าได้ไปแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้ซึ่งเป็นคนพิจิตร และเป็นพยาบาลที่สาธารณสุขแห่งหนึ่งใน อ.บางมูลนาง จ.พิจิตร
ทางตำรวจเลยเรียกภรรยาเค้าและแม่ของภรรยามาสอบถามว่ารู้เห็นเป็นใจไหม แต่วันนัดก็ไม่มา ทางตำรวจจึงออกหมายเรียก
เค้ามาแล้วอ้างว่ารถที่ได้รับโอนเป็นคนกู้เงินสหกรณ์มาให้สามีซื้อ
แต่ทางตำรวจขอหลักฐานกลับไม่ให้ แถมยังไปฟ้องว่าดิฉันหมิ่นประมาทเค้าที่สน.จ.พิจิตร
หลักฐานที่ดิฉันนำเข้าแจ้งความคือ
1.ข้อความขอยืมเงิน
2.สลิปการโอนเข้าบัญชี
3.คลิปเสียงสนทนาการทวงเงิน
ความคืบหน้า
1.แม่และพี่ชายให้การเป็นพยานกับตำตรวจแล้วว่าไม่ได้ป่าย
2.คนขายรถได้ยืนยันให้การแล้วว่าขายรถให้คนนี้จริง
3.ภรรยาและแม่ยายของคนคนนี้ได้มาให้ปากคำที่ สน.โดยอ้างเรื่องรถที่รับโอนมาว่ากู้เงินมาฝากให้คนนี้ซื้อแต่ไม่มีหลักฐานมาแสดง
อยากทราบว่า ดิฉันพอจะจับคนเลวๆคนนี้ได้ไหม เพื่อไม่ให้ไปหลอกคนอื่นๆอีก และเชื่อว่าคงมีอีกหลายคนที่เป็นเหยื่อ
และคิดว่ามีคนร่วมกระบวนการ เพราะเค้าพาไปเจอผู้ใหญ่ เพื่อน เพื่อยืนยันว่ามีปัญญาคืนเงินแน่ๆให้เราไว้ใจ
ตอนนี้ดิฉันเดือดร้อนมาก ไม่มีรายได้ตกงาน เงินที่จะจ้างทนายก็ไม่มีเลย แม้กระทั้งเงินที่จะดูแลลูก
ทุนที่สำรองไว้ก็หมดแล้วจากการตามสืบตามคดีและใช้ในชีวิตประจำวัน
ทุกๆอย่างเราตามสืบเองหมดแล้วป้อนให้ทางตำรวจ แต่คดีก็ไม่ไปถึงไหนเลย
ทุกวันนี้ต้องลำบากมากับความไว้ใจคนอื่นของตัวเอง และสงสารครอบครัวที่ต้องมาลำบากเพราะเรา
อยากให้คนชั่วๆได้รับกรรม และไม่อยากให้ไปหลอกคนอื่นๆอีก ทุกวันนี้นอนร้องไห้ทุกคืนคะ
ขอคำแนะนำด้วยนะคะว่าควรต้องทำอย่างไรต่อไป คดีจะหมดอายุความก่อนไหม
ทุกวันนี้มันไม่รับสายไม่ติดต่อไม่ได้มาประมาณ 1 เดือนแล้วคะมีแต่ทางภรรยาและแม่ยายมาแจ้งฟ้องเราเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว
ขอบคุณทุกๆ ท่านล่วงหน้าคะ
ปล.อยากลงหลักฐานหน้าตาชื่อนามสกุล เลขบัญชีคนเลวนั้นแต่ก็ไม่ทราบจะทำได้ไหมกลัวถูกฟ้องกลับคะ
อยากให้ทุกๆคนได้เห็นหน้ามันและระวังถูกมันหลอก