หลายคนคงได้ยินข่าวกันแล้วนะครับ ว่าจะมีโรงแรมมาเปิดในดอนเมือง เมื่อวานมีเวลาเลยแวะไปเยี่ยมชม
เลยขอ พนักงาน ถ่ายรูปทำรีวิวเล็ก ๆ มาฝากเพื่อน ๆ กันครับ รูปจากกล้องมือถือหมดเลยนะครับ ไปชมกันเลยครับ
ป้ายโฆษณาที่จะเห็นตั้งๆตามมุมต่างๆ ในสนามบิน
ตัวโรงแรม Sleep Box จะตั้งอยู่บริเวณชั้น 4 ของอาคารเทอร์มินัล 2
ใครนึกไม่ออกก็อยู่บนชั้นที่เราเช็คอินขึ้นไปหนึ่งชั้นครับ
ถ้าลงรถเข้ามาจากด้านนอกก็อยู่ด้านบนหัวเรานี่ละครับ
บริเวณเคาน์เตอร์เช็คอินครับ จะมีพนักงานประจำอยู่น่าจะสองท่านตลอด เคาน์เตอร์ดูเรียบง่าย ตกแต่งโทนดำขาว
สำหรับโรงแรม Sleep Box นี่บริหารงานโดยเครือ Miracle Group โดยใช้งบลงทุนไปกว่า 20 ล้านบาท
บนเนื้อที่ประมาณ 500 ตารางเมตร ไม่ได้เป็นแคปซูลเมืองสนามบินอื่น ๆ นะครับ เพียงแค่นำแนวคิดมาปรับใช้
คือการตอบโจทย์ของลูกค้าในการพักผ่อนระยะสั้นในสนามบิน
จำนวนห้องพักจะมีทั้งหมด 25 ห้อง แบ่งเป็นสองโซน โซนแรกมี 5 ห้อง อีกโซนมี 20 ห้อง
เพิ่งเปิดให้บริการไปเมื่อวันที่ 14 มีนาคม ที่ผ่านมา ใกล้ ๆ เคาน์เตอร์เช็กอินก็มีที่นั่งพร้อมนาฬิกาบอกเวลาเมืองสำคัญต่าง ๆ
มาดูราคากันบ้างครับ เริ่มต้นที่ 3 ชม. 1000 บาท
ส่วนกลางคืนจะมีราคาเหมาค้างคืน 21.00-6.00 น. 1800 บาท
ทั้งสองแบบจะมีคูปองอาหารให้มูลค่า 200 บาทให้ไปใช้ได้ที่เล้านจ์ด้านหน้าหรือเมจิคฟูดคอร์ทนะครับ
ลองสอบถามพนักงานว่าถ้าผมมาค้างคืนแล้วตื่นเกินหกโมงนี่ทำไง
พนักงานตอบว่า เลยไปกะคิดชมละ 200 คะ อะจ้าก
ไปครับตามไปดูห้องพักกัน ต้องขอบคุณน้องพนักงานคนนี้มากเลยครับ
อำนวยความสะดวกให้ ยิ้มแย้มดีมากเลยครับ แม้ผมจะมาขอแค่ถ่ายรูปไม่ได้ใช้บริการ
ห้องโซนที่ผมไปดูจะเป็นโซนที่มี 20 ห้องนะครับ
เปิดมาด้านซ้ายขวาเป็นกำแพงดำ แขวนเจ้าตัวนี้อยู่ครับ
Dream Catcher เป็นเครื่องลางของชาวอินเดียแดง น่าจะเคยเห็นในหนังบางเรื่อง
เชื่อกันว่าจะช่วยป้องกันฝันร้ายได้ครับ แขวนไว้เพียบเลย สวนจตุจักรกะมีขายนะครับ
ห้องพักจะมีอยู่สองด้านนะครับ โซนด้านที่ไม่มีหน้าต่างจะอยู่ฝั่งหันหน้าเข้าอาคารเทอร์มินัล 2
กับอีกฝั่งจะมีหน้าต่าง ติดถนนวิภาวดีเลยครับ
ลายประตูน่ารักดีครับ ดูชวนให้หลับเลย ลายเดียวกันหมด
ห้องที่พนักงานเปิดให้ดู เป็นห้องมีหน้าต่างครับ
เปิดประตูมากะเจอห้องขนาดประมาณ 15 ตารางเมตร ได้
อารมณ์ประมาณโรงแรมทูนโฮเตลเลย แต่แอบเล็กกว่าครับ
เตียงเป็นเตียงคู่ขนาดเล็ก ผมว่ามันเล็กกว่าควีนไซส์นะนี่
เนื่องจากตอนที่ผมไปเป็นช่วงเวลาบ่ายสามได้ พนักงานบอกว่าช่วงบ่ายจะไม่ค่อยขายห้องฝั่งนี้
เพราะจะโดนแดดเต็ม ๆ จากที่ได้สัมผัส เตียงนอนหนา หมอนนุ่ม ใช้ได้ ตามสไตล์โรงแรมดี ๆ เลยครับ
บริเวณหัวเตียงมีน้ำดื่มและโทรศัพท์ไว้บริการ แต่ไม่ยักเห็นตู้เย็นแหะ
ฝั่งตรงข้ามเตียงก็มีทีวีไม่ใหญ่มากไว้ดูแก้เหงาครับ
ไปดูห้องน้ำกันบ้างดีกว่าครับ เปิดประตูไป ห้องน้ำถือว่าใหญ่พอควรเลย
กินพื้นที่ไปเกือบ หนึ่งในสามของห้องแล้ว มีที่อาบน้ำ ม่านปิดพร้อมเครื่องทำน้ำร้อน
(ผมว่าช่วงนี้คงไม่ต้องใช้ละมั้ง ขอเป็นเครื่องทำน้ำเย็นแทนดีกว่า)
มีทั้งสบู่ แชมพู บริการ ตกแต่งแนวโทนม่วง
ห้องน้ำแยกส่วนแห้งส่วนเปียกออกแบบได้ดีทีเดียว เสียอย่างเดียวไม่มีสายชำระ
หมดละครับ เดินออกมาผ่านประตู ดูสบายตา ๆ ผมว่าออกแบบน่ารักดีเลย
ออกมาดูด้านนอกบ้าง บริเวณเล้านจ์ของโรงแรม หรือจะเรียกว่าร้านกาแฟหน้าโรงแรมเลยกะได้
บริเวณเล้าน์นี่เหมือนจะเปิดบริการ 24 ชม.เลย ถ้าเข้าพักมีคูปองอาหาร 200 บาทสามารถนำมาใช้ได้ที่นี่ด้วย
ไปดูเมนูกับราคา ถ้าเทียบกันร้านอื่น ๆ ในสนามบิน ถือว่าไม่แพงมากนัก
โดยรวมข้อดี คือในส่วนห้องพักผมว่าเหมือนบัดเจ็ทโรงแรมของเครือใหญ่ ๆ ในประเทศไทยเลย
อุปกรณ์อำนวยความสะดวกในห้องถือว่าดีเลยทีเดียว เรื่องไวไฟไม่ได้ลองใช้เลยไม่รู้สัญญาณเป็นไง
ข้อเสีย ที่ผมว่าคนส่วนใหญ่ต้องพูดกันแน่ ๆ คือเรื่องของราคา ที่ดูค่อนข้างแพงสำหรับคนไทย
ราคานี้นี่ไปพักในเมืองได้ห้องใหญ่ ๆ นอนสบายเลยทีเดียว น่าจะมีราคาคนไทยลดสัก 50% นี่จะดูน่าสนใจมาก
แต่จากที่สอบถามพนักงานก็บอกว่าได้รับการตอบรับค่อนข้างดีทีเดียวเลย
หมดละครับกับการรีวิวครั้งนี้ ไว้เจอกันใหม่รีวิวครั้งหน้า ฝากริวิว เทอร์มินัล 2 ไว้เพื่อใครยังไม่ได้อ่าน
http://ppantip.com/topic/34632653
เดี๋ยวจะมาเขียนรีวิวเทอร์มินัล ภาค 2 กันต่อ กับการกลับมาของเกท 5X ของดอนเมือง
และร้านค้าใหม่ ๆ ที่เปิดแล้วในดอนเมือง ถ่ายรูปมาเก็บ ๆ มาบ้างแล้ว คอยติดตามกัน
[CR] รีวิว Sleep Box ดอนเมือง By TutorTon
เลยขอ พนักงาน ถ่ายรูปทำรีวิวเล็ก ๆ มาฝากเพื่อน ๆ กันครับ รูปจากกล้องมือถือหมดเลยนะครับ ไปชมกันเลยครับ
ป้ายโฆษณาที่จะเห็นตั้งๆตามมุมต่างๆ ในสนามบิน
ตัวโรงแรม Sleep Box จะตั้งอยู่บริเวณชั้น 4 ของอาคารเทอร์มินัล 2
ใครนึกไม่ออกก็อยู่บนชั้นที่เราเช็คอินขึ้นไปหนึ่งชั้นครับ
ถ้าลงรถเข้ามาจากด้านนอกก็อยู่ด้านบนหัวเรานี่ละครับ
บริเวณเคาน์เตอร์เช็คอินครับ จะมีพนักงานประจำอยู่น่าจะสองท่านตลอด เคาน์เตอร์ดูเรียบง่าย ตกแต่งโทนดำขาว
สำหรับโรงแรม Sleep Box นี่บริหารงานโดยเครือ Miracle Group โดยใช้งบลงทุนไปกว่า 20 ล้านบาท
บนเนื้อที่ประมาณ 500 ตารางเมตร ไม่ได้เป็นแคปซูลเมืองสนามบินอื่น ๆ นะครับ เพียงแค่นำแนวคิดมาปรับใช้
คือการตอบโจทย์ของลูกค้าในการพักผ่อนระยะสั้นในสนามบิน
จำนวนห้องพักจะมีทั้งหมด 25 ห้อง แบ่งเป็นสองโซน โซนแรกมี 5 ห้อง อีกโซนมี 20 ห้อง
เพิ่งเปิดให้บริการไปเมื่อวันที่ 14 มีนาคม ที่ผ่านมา ใกล้ ๆ เคาน์เตอร์เช็กอินก็มีที่นั่งพร้อมนาฬิกาบอกเวลาเมืองสำคัญต่าง ๆ
มาดูราคากันบ้างครับ เริ่มต้นที่ 3 ชม. 1000 บาท
ส่วนกลางคืนจะมีราคาเหมาค้างคืน 21.00-6.00 น. 1800 บาท
ทั้งสองแบบจะมีคูปองอาหารให้มูลค่า 200 บาทให้ไปใช้ได้ที่เล้านจ์ด้านหน้าหรือเมจิคฟูดคอร์ทนะครับ
ลองสอบถามพนักงานว่าถ้าผมมาค้างคืนแล้วตื่นเกินหกโมงนี่ทำไง
พนักงานตอบว่า เลยไปกะคิดชมละ 200 คะ อะจ้าก
ไปครับตามไปดูห้องพักกัน ต้องขอบคุณน้องพนักงานคนนี้มากเลยครับ
อำนวยความสะดวกให้ ยิ้มแย้มดีมากเลยครับ แม้ผมจะมาขอแค่ถ่ายรูปไม่ได้ใช้บริการ
ห้องโซนที่ผมไปดูจะเป็นโซนที่มี 20 ห้องนะครับ
เปิดมาด้านซ้ายขวาเป็นกำแพงดำ แขวนเจ้าตัวนี้อยู่ครับ
Dream Catcher เป็นเครื่องลางของชาวอินเดียแดง น่าจะเคยเห็นในหนังบางเรื่อง
เชื่อกันว่าจะช่วยป้องกันฝันร้ายได้ครับ แขวนไว้เพียบเลย สวนจตุจักรกะมีขายนะครับ
ห้องพักจะมีอยู่สองด้านนะครับ โซนด้านที่ไม่มีหน้าต่างจะอยู่ฝั่งหันหน้าเข้าอาคารเทอร์มินัล 2
กับอีกฝั่งจะมีหน้าต่าง ติดถนนวิภาวดีเลยครับ
ลายประตูน่ารักดีครับ ดูชวนให้หลับเลย ลายเดียวกันหมด
ห้องที่พนักงานเปิดให้ดู เป็นห้องมีหน้าต่างครับ
เปิดประตูมากะเจอห้องขนาดประมาณ 15 ตารางเมตร ได้
อารมณ์ประมาณโรงแรมทูนโฮเตลเลย แต่แอบเล็กกว่าครับ
เตียงเป็นเตียงคู่ขนาดเล็ก ผมว่ามันเล็กกว่าควีนไซส์นะนี่
เนื่องจากตอนที่ผมไปเป็นช่วงเวลาบ่ายสามได้ พนักงานบอกว่าช่วงบ่ายจะไม่ค่อยขายห้องฝั่งนี้
เพราะจะโดนแดดเต็ม ๆ จากที่ได้สัมผัส เตียงนอนหนา หมอนนุ่ม ใช้ได้ ตามสไตล์โรงแรมดี ๆ เลยครับ
บริเวณหัวเตียงมีน้ำดื่มและโทรศัพท์ไว้บริการ แต่ไม่ยักเห็นตู้เย็นแหะ
ฝั่งตรงข้ามเตียงก็มีทีวีไม่ใหญ่มากไว้ดูแก้เหงาครับ
ไปดูห้องน้ำกันบ้างดีกว่าครับ เปิดประตูไป ห้องน้ำถือว่าใหญ่พอควรเลย
กินพื้นที่ไปเกือบ หนึ่งในสามของห้องแล้ว มีที่อาบน้ำ ม่านปิดพร้อมเครื่องทำน้ำร้อน
(ผมว่าช่วงนี้คงไม่ต้องใช้ละมั้ง ขอเป็นเครื่องทำน้ำเย็นแทนดีกว่า)
มีทั้งสบู่ แชมพู บริการ ตกแต่งแนวโทนม่วง
ห้องน้ำแยกส่วนแห้งส่วนเปียกออกแบบได้ดีทีเดียว เสียอย่างเดียวไม่มีสายชำระ
หมดละครับ เดินออกมาผ่านประตู ดูสบายตา ๆ ผมว่าออกแบบน่ารักดีเลย
ออกมาดูด้านนอกบ้าง บริเวณเล้านจ์ของโรงแรม หรือจะเรียกว่าร้านกาแฟหน้าโรงแรมเลยกะได้
บริเวณเล้าน์นี่เหมือนจะเปิดบริการ 24 ชม.เลย ถ้าเข้าพักมีคูปองอาหาร 200 บาทสามารถนำมาใช้ได้ที่นี่ด้วย
ไปดูเมนูกับราคา ถ้าเทียบกันร้านอื่น ๆ ในสนามบิน ถือว่าไม่แพงมากนัก
โดยรวมข้อดี คือในส่วนห้องพักผมว่าเหมือนบัดเจ็ทโรงแรมของเครือใหญ่ ๆ ในประเทศไทยเลย
อุปกรณ์อำนวยความสะดวกในห้องถือว่าดีเลยทีเดียว เรื่องไวไฟไม่ได้ลองใช้เลยไม่รู้สัญญาณเป็นไง
ข้อเสีย ที่ผมว่าคนส่วนใหญ่ต้องพูดกันแน่ ๆ คือเรื่องของราคา ที่ดูค่อนข้างแพงสำหรับคนไทย
ราคานี้นี่ไปพักในเมืองได้ห้องใหญ่ ๆ นอนสบายเลยทีเดียว น่าจะมีราคาคนไทยลดสัก 50% นี่จะดูน่าสนใจมาก
แต่จากที่สอบถามพนักงานก็บอกว่าได้รับการตอบรับค่อนข้างดีทีเดียวเลย
หมดละครับกับการรีวิวครั้งนี้ ไว้เจอกันใหม่รีวิวครั้งหน้า ฝากริวิว เทอร์มินัล 2 ไว้เพื่อใครยังไม่ได้อ่าน
http://ppantip.com/topic/34632653
เดี๋ยวจะมาเขียนรีวิวเทอร์มินัล ภาค 2 กันต่อ กับการกลับมาของเกท 5X ของดอนเมือง
และร้านค้าใหม่ ๆ ที่เปิดแล้วในดอนเมือง ถ่ายรูปมาเก็บ ๆ มาบ้างแล้ว คอยติดตามกัน
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น