สงครามนำมาซึ่งความสูญเสีย ผู้คนล้มตาย ครอบครัวต้องพลัดพราก ต้องสังเวยคนอันเป็นที่รักไปให้กับความโหดร้ายของสงคราม และมันยังทำให้ประเทศอันยิ่งใหญ่ต้องย่อยยับไม่มีชิ้นดี

เราเห็นกันมานักต่อนักแล้วจากทั่วทุกมุมโลก

ท่ามกลางเสียงลั่นไกปืน เสียงกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว กลิ่นดินปืน เศษซากปรักหักพังของเมือง ศพแล้วศพเล่าที่โดนปลิดวิญญาณลงเป็นใบไม้ร่วง มันทำให้คนๆหนึ่งทนไม่ไหวอีกต่อไป

พอทีเถอะ หยุดทีได้มั้ย…. อย่าฆ่ากันไปให้สูญเสียไปมากกว่านี้เลย

มันถึงเวลาที่จะต้องทำอะไรซักอย่างแล้ว ไม่ใช่การจับปืนลุกขึ้นสู้เพื่อหยุดยั้ง แต่เป็นคำขอร้องวิงวอนจากใจในโอกาสพิเศษสุดของชาติ

เขาถือโอกาสที่ทีมชาติของเขาผ่านเข้าสู่ฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เพื่อส่งข้อความบางอย่างถึงพี่น้องของเขา โดยอาศัยจังหวะเวลาที่ผู้คนกำลังยินดีปรีดาจนไม่อยากจะรบกัน

กรุณาวางอาวุธแล้วหันมาคุยกันดีๆเถอะนะ…ได้โปรดอย่าฆ่ากันเองอีกเลย

และเพื่อตอกย้ำถึงความจริงใจในการอาสาขอยุติการนองเลือดจากฝีมือคนในชาติเดียวกันเองแล้ว เขาคนนั้นจึงยื่นข้อเสนอในสิ่งที่แทบจะเรียกว่าเป็นไปไม่ได้โดยสิ้นเชิง

นั่นคือการให้ทีมชาติลงเตะในฐานที่มั่นของพวกกบฏโดยขอร้องให้ฝ่ายรัฐบาลที่ถือว่าเป็นฝ่ายตรงข้ามกันโดยสิ้นเชิงเข้ามาร่วมจัดการแข่งขันด้วย
ฟังดูเหมือนเป็นข้อเสนอของคนเสียสติ แต่ว่าปาฏิหาริย์ก็มีจริง เมื่อทั้งสองฝ่ายยินยอมจะตกลงทำตามคำร้องขอของกัปตันทีมชาติผู้นี้

สิ่งที่เขาทำมันมากกว่าสิ่งที่นักฟุตบอลคนหนึ่งจะทำได้ ไม่น่าแปลกใจเลยถ้าหากว่าประเทศนี้จะบูชาเขาราวกับ….เทพเจ้า

และไม่ว่าคุณจะรู้สึกอย่างไรกับเขาในฐานะนักฟุตบอล แต่ในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง เราขอนับถือคุณอย่างสุดหัวใจ

กับเรื่องราวของเขาในวันนี้

ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา กับการอาสาหยุดไฟสงครามกลางเมืองด้วย….. ฟุตบอล



*ไม่มั่นใจว่าควรจะแท็กอันไหนบ้าง แต่ขอแท็กอาวุธยุทโธปกรณ์ไปด้วยละกันครับ เพราะมีเนื้อหาสงครามด้วย เผื่อว่ามีข้อผิดพลาดจะได้แก้ไขถูกครับ *