คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 53
ผมฟังหลายๆ ท่านผมว่า อาจเข้าใจผิดในบางประเด็นครับ
1 "สิทธิพื้นฐาน" ตามรัฐธรรมนูญไทย ยังคงต้องมีอยู่ แม้ว่าจะเสีย หรือ ไม่เสียภาษีก็ตาม
เช่น สิทธิ์ ในการรักษาพยาบาล ทุกคนย่อมได้สิทธิ์ตามนั้น
สิทธิ์ ในการใช้ถนน สวนสาธารณะ การติดต่อสถานที่ราชการ ต้องเข้าแถวรับบัตรคิวทุกคน
คือรัฐจัดหาขั้นพื้นฐานให้ตาม Maslow's hierachy of need อยู่แล้ว
ส่วน "สิทธิพิเศษ" เป็นสิ่งที่ต้องแยกออกมา โดยไม่ต้องเอาอย่างที่ผมยกตัวอย่างก็ได้
แต่ต้องสร้างแรงจูงใจ ไม่ว่าจะกรณีใดๆ ก็ควรครับ
และไม่ใช่อย่างที่คนขาวเหยียดคนผิวสี ไม่ใช่สังคมนิยม ไม่ใช่มาแต่บ่นว่าจนๆ ยังงั้นอย่างงี้ แล้วไม่ทำอะไร
2 ผมคิดขึ้นเพื่อจะหาวิธีการให้ "รักประเทศไทย" แบบเป็นรูปธรรม โดยการเสียภาษีรายได้บุคคล
(ผมนึกไม่ออกว่า จะทำยังไงดี จะทำให้ประเทศไทย มีชื่อเสียงอย่าง น้องเมย์รัชนก ผมก็ไม่สามารถ)
หรือใครมีวิธีให้รักประเทศไทยอย่างเป็นรูปธรรมอื่นๆ ก็เสนอนะครับ
3 ผมอยากให้ ลูก หลาน ของพวกเรา ได้ปลูกฝังความคิดอยากเสียภาษี
จะได้ทำงานมากขึ้น เพิ่ม productivity ผลผลิต ให้มาก GDP ก็จะสูงขึ้นด้วย
ตามสมการ GDP = C + G + I + (Ex-In)
โดยการปลูกฝังอย่างเป็นรูปธรรมคือ เสียมาก ก็ มีสิทธิ์พิเศษ มาก
แต่สิทธิ์พื้นฐานเท่าเทียมกัน
4 ทุกคนมีสิทธิ์ ได้ สิทธิพิเศษ ครับ เพียงแต่ต้องพยายาม
(ไม่ใช่เอาแต่บ่นว่าไม่มีสิทธิ์ แต่ไม่พยายามทำอะไรเลย เรียกร้องแต่จะเอา
อะไรก็ให้รัฐอุ้ม เช่น สวนยาง เวลา กก ละ 40 ออกมาขอให้รัฐช่วย
แต่เวลา กก ละ 100 เงียบ ไม่ออกมาบอกว่าได้เยอะไป หรือตั้งกองทุน
รับแค่ 80 เอาอีก 20 เก็บเข้ากองทุน ไว้พยุงราคา
5 ใครมีอะไร เสนอ รบกวนเสนอเลยนะครับ เพื่อประเทศไทย ของพวกเรา
( งด วิจารณ์ อย่างหยาบคายนะครับ ช่วยๆ กัน)
1 "สิทธิพื้นฐาน" ตามรัฐธรรมนูญไทย ยังคงต้องมีอยู่ แม้ว่าจะเสีย หรือ ไม่เสียภาษีก็ตาม
เช่น สิทธิ์ ในการรักษาพยาบาล ทุกคนย่อมได้สิทธิ์ตามนั้น
สิทธิ์ ในการใช้ถนน สวนสาธารณะ การติดต่อสถานที่ราชการ ต้องเข้าแถวรับบัตรคิวทุกคน
คือรัฐจัดหาขั้นพื้นฐานให้ตาม Maslow's hierachy of need อยู่แล้ว
ส่วน "สิทธิพิเศษ" เป็นสิ่งที่ต้องแยกออกมา โดยไม่ต้องเอาอย่างที่ผมยกตัวอย่างก็ได้
แต่ต้องสร้างแรงจูงใจ ไม่ว่าจะกรณีใดๆ ก็ควรครับ
และไม่ใช่อย่างที่คนขาวเหยียดคนผิวสี ไม่ใช่สังคมนิยม ไม่ใช่มาแต่บ่นว่าจนๆ ยังงั้นอย่างงี้ แล้วไม่ทำอะไร
2 ผมคิดขึ้นเพื่อจะหาวิธีการให้ "รักประเทศไทย" แบบเป็นรูปธรรม โดยการเสียภาษีรายได้บุคคล
(ผมนึกไม่ออกว่า จะทำยังไงดี จะทำให้ประเทศไทย มีชื่อเสียงอย่าง น้องเมย์รัชนก ผมก็ไม่สามารถ)
หรือใครมีวิธีให้รักประเทศไทยอย่างเป็นรูปธรรมอื่นๆ ก็เสนอนะครับ
3 ผมอยากให้ ลูก หลาน ของพวกเรา ได้ปลูกฝังความคิดอยากเสียภาษี
จะได้ทำงานมากขึ้น เพิ่ม productivity ผลผลิต ให้มาก GDP ก็จะสูงขึ้นด้วย
ตามสมการ GDP = C + G + I + (Ex-In)
โดยการปลูกฝังอย่างเป็นรูปธรรมคือ เสียมาก ก็ มีสิทธิ์พิเศษ มาก
แต่สิทธิ์พื้นฐานเท่าเทียมกัน
4 ทุกคนมีสิทธิ์ ได้ สิทธิพิเศษ ครับ เพียงแต่ต้องพยายาม
(ไม่ใช่เอาแต่บ่นว่าไม่มีสิทธิ์ แต่ไม่พยายามทำอะไรเลย เรียกร้องแต่จะเอา
อะไรก็ให้รัฐอุ้ม เช่น สวนยาง เวลา กก ละ 40 ออกมาขอให้รัฐช่วย
แต่เวลา กก ละ 100 เงียบ ไม่ออกมาบอกว่าได้เยอะไป หรือตั้งกองทุน
รับแค่ 80 เอาอีก 20 เก็บเข้ากองทุน ไว้พยุงราคา
5 ใครมีอะไร เสนอ รบกวนเสนอเลยนะครับ เพื่อประเทศไทย ของพวกเรา
( งด วิจารณ์ อย่างหยาบคายนะครับ ช่วยๆ กัน)
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
ความเห็นส่วนตัว
1.รายการของสิทธิพิเศษที่ยกมา มันเป็นสินค้าสาธารณะ มันกันคนอื่นมาใช้ร่วมได้ยาก
ทางปฏิบัติน่าจะทำได้ลำบาก
ถึงทำได้ก็โดนต่อต้านมากเหมือนสมัยคนผิวขาว กีดกัน คนผิวสี
2.คนจ่ายภาษีมากควรได้สิทธิในการโหวตมาก เป็นวิธีเมื่อ 200 ปีก่อน
มันมีปัญหาคือ
เมื่อคนร่ำรวย จ่ายภาษีมาก จึงมีสิทธิโหวตมาก
เมื่อมีสิทธิโหวตมาก เขาก็ย่อมโหวตเรื่องต่าง ๆ ให้ประโยชน์เข้าตัว (กลุ่มคนรวย)
ปีถัด ๆ ไป เขาก็จะยิ่งรวยมากขึ้น จ่ายภาษีมากขึ้น แล้วก็มีสิทธิโหวตมากขึ้นไปอีก
วนเป็นวงกลม
แล้วคนยากจนที่เสียภาษีน้อยก็จะถูกกีดกันออกไป
และไม่มีสิทธิเรียกร้องอะไร
มันจะเกิดการแยกชั้นขึ้นเรื่อย ๆ และสะสมปัญหาหนักขึ้นเรื่อย ๆ
1.รายการของสิทธิพิเศษที่ยกมา มันเป็นสินค้าสาธารณะ มันกันคนอื่นมาใช้ร่วมได้ยาก
ทางปฏิบัติน่าจะทำได้ลำบาก
ถึงทำได้ก็โดนต่อต้านมากเหมือนสมัยคนผิวขาว กีดกัน คนผิวสี
2.คนจ่ายภาษีมากควรได้สิทธิในการโหวตมาก เป็นวิธีเมื่อ 200 ปีก่อน
มันมีปัญหาคือ
เมื่อคนร่ำรวย จ่ายภาษีมาก จึงมีสิทธิโหวตมาก
เมื่อมีสิทธิโหวตมาก เขาก็ย่อมโหวตเรื่องต่าง ๆ ให้ประโยชน์เข้าตัว (กลุ่มคนรวย)
ปีถัด ๆ ไป เขาก็จะยิ่งรวยมากขึ้น จ่ายภาษีมากขึ้น แล้วก็มีสิทธิโหวตมากขึ้นไปอีก
วนเป็นวงกลม
แล้วคนยากจนที่เสียภาษีน้อยก็จะถูกกีดกันออกไป
และไม่มีสิทธิเรียกร้องอะไร
มันจะเกิดการแยกชั้นขึ้นเรื่อย ๆ และสะสมปัญหาหนักขึ้นเรื่อย ๆ
แสดงความคิดเห็น
จ่ายภาษีมาก ควรได้สิทธิ์ "มาก" กว่าคนจ่ายน้อย คุณเห็นด้วยไหม เชิญอภิปราย
เลยขออนุญาต ตั้งกระทู้แรกของผม
เหตุผลคือ ผมว่าคนไทยควรรักประเทศให้มากๆ จากการกระทำ ไม่ใช่เอาแต่พูดๆ ไปว่ารัก
แต่เอาเปรียบประเทศ เช่น ขายของในที่สาธารณะ แล้วอ้างว่าขายมานานไม่ยอมไป
อ้างว่าเสียภาษีให้รัฐแล้ว (ภาษี vat) จริงๆ ต้องเอามาโชว์เลยว่าเสียภาษีรายได้บุคคลธรรมดาเท่าไร
ผมจึงมีแนวคิดว่า
ใครจ่ายภาษีมาก(รายได้บุคคลธรรมดา) ไม่ใช่ภาษีรถยนต์หรือภาษี vat นะครับ
เช่นจ่ายเกินห้าแสนบาทต่อปี
ควรได้สิทธิ์ มากกว่า เช่น ไม่ต้องเข้าคิว(มีช่องทางพิเศษ)ในสถานที่ราชการ
มีสิทธิ์จอดในที่ ขาว-เขียว (เป็นกฎใหม่) ไม่ใช่ขาวแดง
ได้เลนพิเศษ ในการวิ่ง (เพื่อไปหารายได้ จ่ายให้รัฐเพิ่ม)
ได้ทะเบียนแบบพิเศษ ที่มีสิทธิ์ในการวิ่งรถทุกวัน (ถ้ามี กม ห้ามวิ่งในวันคู่คี่)
(เวลาเด็กจากรถคันอื่นเห็นหรือถาม ว่าพ่อครับ ทำไมคันนั้นวิ่งตรงนี้ได้
ผู้ปกครองจะได้ตอบว่า "เพราะเขาจ่ายภาษีมาก ช่วยประเทศมาก"
เป็นการปลูกฝังการรักชาติ ช่วยกันเสียภาษี ไม่หนีภาษี)
ได้สิทธิ์เลือกตั้งห้าใบ (เนื่องจากเสียงนี้มีประโยชน์ ต่อประเทศชาติมาก)
ถ้าจ่ายเกินล้านบาท ต้องได้มากกว่านี้อีก แล้วทำเป็นขั้นๆ เลยว่าเท่าไรควรได้อะไรบ้าง(จูงใจให้ช่วยประเทศมากๆ)
อาจจะมีคนโวยวาย ว่าไม่เป็นธรรม เลือกปฏิบัติ รังแกคนจน ไม่เป็นประชาธิปไตย สร้างความแตกแยก
แต่ไม่มีใครห้ามคุณนิครับ
ก็แค่เสียภาษีมาก (หมายความว่าคุณรักชาติมากจริงๆ ไม่ใช่เอาแต่พูดไปวันๆ ไม่ทำอะไรเลย)
"คุณก็ได้สิทธิ์นั้นแล้ว"
ขอเชิญแสดงความคิดเห็นในเชิงสร้างสรรค์นะครับ
(ไม่แบ่งแยก ไม่แบ่งชนชั้น ขอแค่คุณรักชาติไทยเราก็พอ)
ปล 1 เหมือน รถมอเตอร์ไซด์ มี กม ห้ามขึ้นสะพาน
พวกคุณ มอเตอร์ไซด์ จะโวยวายทำไม
เขาไม่ได้ห้ามคุณ แต่เขาห้ามมอเตอร์ไซด์
คุณไปขับรถ เขาก็ไม่ห้ามแล้วนะครับ
2 ผมพยายาม tag ให้ไปหลายๆ ห้องนะครับ จะได้ช่วยกันคิด
ขอบคุณมากๆ ครับ