[CR] ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก ตะลุยหิมะญี่ปุ่น นั่งรถไฟ 15 วัน จากเหนือสุดถึงใต้สุด ตอนที่29 Ibusaki - Yamakawa ใต้สุดญี่ปุ่น

ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก ตะลุยหิมะญี่ปุ่น นั่งรถไฟ 15 วัน จากเหนือสุดถึงใต้สุด
ตอนที่ 29 ภูเขาไฟใหญ่ที่สุดในโลก และหาดอบทรายร้อน ใต้สุดของญี่ปุ่น Ibusuki - Yamakawa
                                                    
                                                    
                                                    
ออกจาก Yufuin 9.00 น. ไป Ibusuki - Yamakawa ใต้สุดของญี่ปุ่น โดยรถเร็วท้องถิ่น ไปต่อรถชิงกันเซ็นที่ Kurume เพื่อไปต่อรถที่ Kagoshima-Chuo ไป Ibusuki เมืองใต้สุดของเกาะคิวชู
                                                    
                                                    
                                                    
ลงรถที่สถานี Kagoshima-Chuo แล้วไปยืนอยู่สุดชานชาลาชิงกันเซ็น 12 มองเห็นภูเขาไฟซากุระหยิหมะที่ใหญ่ที่สุดในโลก ถ้าจะให้เห็นชัดที่สุดต้องนั่งบนชิงช้าสวรรค์ซึ่งอยู่หลังตึกสูงข้างสถานี แม้จะลงไปเดินถนนก็ยังมีต้นไม้ยืนแถวบนเกาะกลางถนนบัง
                                      
                                      
                                      
เดินลงไปหน้าสถานี จึงเห็นว่า เมืองนี้มีต้นไม้ใหญ่ ไม้ดอกไม้ประดับ เป็นเมืองดินดำน้ำชุ่มเพราะเป็นเมืองเจ้าแห่งภูเขาไฟ ทางเข้า-ออก ด้านภูเขาไฟมีลานให้ขายสินค้า โอว็อป สถานีอื่นๆ ของ JR ก็มีเช่นกัน น่าจะเป็นวันหนึ่งของสัปดาห์ เพราะเห็นที่เกียวโต ที่เราอยู่ 3 วัน มีขายเพียงวันเดียว สถานีอื่นๆ ที่เราผ่านไปก็เห็นมีบ้างไม่มีบ้าง คนที่ซื้อสินค้ามักเป็นคนสูงวัยที่เงินเหลือใช้ อุดหนุนสินค้าทำมือ
                                      
เดินขึ้นไปชั้นบนมีที่ว่างที่สาวน้อยยืนกดโทรศัพท์อยู่ มีของวางบนม้านั่ง 1 ถุง ป้าให้ลุงนั่งรอ ป้าจะไปห้องน้ำ ไปรอคิวนานทีเดียว พอออกจากห้องน้ำมาลุงบอกว่า มีคนลืมของทิ้งไว้ เจ้าของไปนานแล้ว ผู้ชายคนที่เพิ่งเดินจากไปบอกให้ลุงเอาไป เพราะเขาเสียดายของ ลุงจึงหยิบมา ในถุงมีแพนเค้กมีไส้ 1 คู่ เมล็ดถั่วเหลือง กับ ถั่วลันเตาต้ม อย่างละ 1 ถุง กะหล่ำปลีครึ่งหัว มีสลิปราคาสินค้า 970 เยน สงสารเจ้าของจัง คงอดอาหารกลางวัน ต่อไปจนถึงมื้อเย็นด้วยแน่ๆ
                                      
จากคาโกชิหมะ- จูโอะ ต่อรถท้องถิ่นไป ยามากาว่า (Yamakawa) ไม่ใช่ IBusaki ยามากาว่า เป็นสถานีสุดท้ายต่อจาก Ibusaki ซึ่งเป็นชื่อเมือง เป็นเส้นทางรถไฟอีกสายหนึ่ง ที่ผ่านความเขียวขจีของทุ่งนา ป่า เขา แต่คราวนี้เลียบและผ่านแม่น้ำไม่ใช่ลำธาร มีการต่อท่อขนาดใหญ่นำน้ำลงมาจากภูเขาเพื่อใช้ในชุมชน โรงงานอุตสาหกรรมแปรรูปผลิตผลจากการเกษตร มีป่าดิบชื้นที่อากาศหนาวเย็น ไม้ยืนต้นมีมอสเกาะคล้ายๆ ภาคใต้ของไทยแต่อากาศหนาวเย็นกว่ามาก ดูน่าสนใจ แต่ไม่สวยเท่าเส้นทางจาก Oita-Yufuin
                                      
                                      
ตอนนั่งชิงกันเซ็นได้ลอดถ้ำยาวหลายกม.ด้วย รถไฟพาเที่ยวเส้นทางที่สวยงาม ด้านหนึ่งเป็นเชิงเขาและหมู่บ้านของเกษตรกร อีกด้านหนึ่งเป็นทะเล กับบ้านของชาวประมง ทะเลสวย น้ำใส กว้างใหญ่สุดสายตา ไร้หาดทราย มีกำแพงกั้นน้ำทั้งแบบบล็อครูปตัวกับขาคน สลับกับ แบบกากบาทที่ก่อซ้อนกันให้มีช่องให้คลื่นผ่านไปได้เป็นการลดแรงปะทะ กับแบบกำแพงที่นานๆ จะสลับ 1 อัน
                                      
                                      
                                      
                                      
จากสถานี Sesekushi, Nakamyo Kiire, Maenohama จนถึง Nukumi มองเห็นภูเขาไฟ ซากุระหยิ หมะ ผ่านท้องทะเล ได้ทุกสถานี แต่เห็นชัดที่สุดที่สถานี Serekushi สถานี Ibusaki เป็นชื่อเมือง มีชื่อด้านการอบทรายร้อน นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นผู้สูงวัย คงเป็นความเชื่อว่า การเอาตัวลงไปฝังในหลุมแล้วให้เขาใช้พลั่วโกยทรายอุ่นๆ ถมตัวให้เหลือแต่หัว เวลาที่อากาศหนาว จะช่วยปรับสมดุลของร่างกายได้ จะทำให้มีอายุยืนยาวอย่างแข็งแรง คนจัดทัวร์พานักท่องเที่ยวสูงวัยลงที่สถานี Ibusaki จนบนรถเหลือคนไม่ถึง 10 คน
                                      
                                      
ไปถึง Yamakawa ยังไม่ทันจะได้ออกจากสถานี สอบถามนางสถานีว่าเราจะไป Miyazaki แล้วต่อไป Beppu ต้องจองที่นั่งหรือไม่ เธอบอกว่า ให้นั่งรถกลับไปเปลี่ยนรถที่ Kagoshima-Chuo แล้วเปลี่ยนรถไป Miyazaki จากนั้นก็เปลี่ยนรถไปเบ๊บปุ อีก 4 นาที รถจะเข้าสถานีแล้วให้ข้ามรางไปขึ้นอีกฟากหนึ่ง
                                      
ดูเหมือนว่า ทั้งสถานีจะมีเธอคนเดียวเธอจึงไม่วิ่งไปออกตั๋วให้เรา เราคิดว่าขากลับ กับขาไปไปคงเหมือนกัน คือ ใช้เวลา 1.10 ชม. เราได้ที่นั่งที่หันหน้าให้ทะเลแต่อยู่อีกด้านหนึ่งของรถ มีที่ว่าง แต่มีหนุ่มคนหนึ่งนั่งพาดขาและเอากระเป๋าวางแบบจอง 2 เบาะ 4 ที่นั่งคนเดียว ที่ที่เรานั่งแดดส่องเต็มที่ อากาศร้อนและในรถก็ปรับอากาศ จนป้าต้องถอดเสื้อออก 2 ตัว
                                      
พอไปได้เกินครึ่งทาง เราทนแดดไม่ไหว เห็นเขาเอาขาลงแล้ว ลุงจึงชวนย้ายไปนั่งตรงข้าม เขาลุกหนี ไปนั่งแทนที่เรา รถที่นั่งกลับไม่ใช่รถเร็วแบบขาไป จึงมีเบาะนั่งเอียงข้างด้วย จับเวลาที่ผ่านไปเท่าขาไปแล้ว ยังต้องไปอีกหลายสถานี ป้าก็เกิดง่วง ลุงบอกว่าหลับได้เลย ลุงจะเฝ้า พองีบไปนิดหน่อย รถจอด เห็นคนลงเกือบหมด
                                      
ผู้หญิงกับเจ้าหนุ่มที่ย้ายที่นั่ง ไปนั่งแทนที่เดิมเรา ยังนั่งเฉย ในขณะที่คนอื่นๆ ลงหมด มองไม่เห็นป้ายสถานี ลุงเชื่อว่ายังไม่ถึงเพราะคนหน้าญี่ปุ่นอีก 2 คนก็ยังไม่ลง ป้าเห็นผู้หญิงทำท่าชะเง้อ เหมือนไม่แน่ใจ ป้าจึงวิ่งลงไปที่ชานชาลา เห็นคนขับลงรถแล้ว ผู้โดยสารชุดใหม่ขึ้นมา ถามคนว่าใช่สถานี Kagoshima-Chuo ไหม บอกว่าใช่ ป้ารีบวิ่งไปตบมือเรียกลุง พอลุงลงรถ คนหน้าญี่ปุ่นก็วิ่งตามลุง ลงไปด้วย
                                      
เส้นทางที่ไปใต้สุดของเกาะคิวชู ทำให้เราได้เห็นว่า ญี่ปุ่นก็มีป่าสนต้นใหญ่เหมือนกัน แต่ไม้เนื้อแข็งที่สามารถเลื่ิอยมาทำโครงของสิ่งก่อสร้าง ก็ยังคงหายากมากอยู่นั่นเอง คงด้วยเหตุนี้จึงทำให้ผู้ปกครองยุคดั้งเดิมของญี่ปุ่น ที่คิดว่าตัวเองเป็นลูกพระอาทิตย์ คนญี่ปุ่นทำได้ทุกอย่างจึงคิดจะครองโลกเพื่อดูดทรัพยากรธรรมชาติจากประเทศอื่นๆ มาเป็นของตัวเอง นำประเทศเข้าสู่สงครามโลก โดยจับมือกับเยอรมนีที่เชื่อมั่นว่า พวกเขาคือผู้ที่มีเชื้อสายอารยันที่เก่งที่สุดในบรรดาคนผิวขาว ขนาดแพ้สงครามและถูกปรับค่าปฏิกรณ์สงครามไปมากมาย ทั้งญี่ปุ่นและเยอรมนี ก็ยังสามารถปรับปรุงพัฒนาประเทศให้ยืนอยู่แถวหน้าที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าประเทศที่ชนะสงครามอย่างอเมริกา อังกฤษ ฝร่งเศส และรัสเซีย
                                      
ขากลับจากใต้สุดของญี่ปุ่น รถไฟแล่นผ่าน Kumamoto Station รถจอดไม่นาน เราไม่ได้ลงเที่ยว และวันนั้นก็ยังไม่เกิดแผ่นดินไหว
                                      
ทางรถไฟสายนี้มีสถานี USA ด้วย มีป้าย USA ตั้งเด่นเห็นแต่ไกลอยู่บนเขา กว่าจะกลับถึงเบ๊ปปุก็ดึกแล้ว มั่นใจว่า จะนอนที่เดิมเมื่อคืน เพราะไม่ใช่วันหยุด และคืนก่อนก็ไม่ค่อยมีแขก แต่ ปรากฏว่า คืนนี้มีทัวร์ลง โรงแรม Business Hotel เต็ม บังเอิญเมื่อวานเห็นที่แผนที่เมือง มีคำว่าเกสต์เฮ้าส์เตะตาอยู่ จึงลองเดินไปดู เมื่ออ่านแผนที่เข้าใจแล้ว จึงเดินข้ามถนนไปร้านเดลี่ที่เปิดหมือน 7-11 ซื้อบะหมี่ติดไป
                                      
เดินตามแผนที่ โดยเลี้ยวขวาจากสถานีรถไฟ ผ่านหน้า Sea Wave Hotel ถึงทางแยกแล้วเลี้ยวซ้าย แต่เราเดินย้อนเข้าอีกทาง เพราะจุดที่ดูแผนที่เลยลงเนินไปแล้ว เราแค่เดินย้อนกลับไปที่ไฟแดงแรก แล้วเลี้ยวซ้ายเข้า เดินไปเรื่อยๆ ประมาณ 400 เมตร เห็นป้าย 150 เมตรเป็นภาษาญี่ปุ่น
                                      
ลองเลี้ยวขวาตามป้าย เจอจริงๆ โชคมีห้องว่าง พักส่วนตัว แต่ใช้ห้องน้ำและห้องส้วมรวม คืนละ 5,000 เยน ประมาณ 1,600 บาท ถูกที่สุดเท่าที่เคยพักมา มีครัวให้ด้วย เป็นโชค 3 ชั้น เราได้กะหล่ำปลี ถั่วเหลืองกับถั่วลันเตาต้มสุกแช่แข็งมา และมาเจอที่ต้มผัก
ป้าเคยเจอของกินในห้องน้ำ 2 ครั้ง เจ้าของวางไว้ตรงที่วางของ หลังโถนั่ง พอทำธุระเสร็จก็ลืม แต่เป็นตอนดึก คิดว่าพอเราไม่เก็บคนทำความสะอาดมาเห็นจะได้เอาไปกิน แต่ครั้งนี้มีคนยัดเยียดเพราะเขาเองก็เดินทางจึงไม่เอาเสียเอง ได้ตังค์ ได้ของกิน ได้ที่พักราคาถูก และได้เห็นสถานที่กับสิ่งต่างๆ ที่ประทับใจ วันนี้จึงกลายเป็นวันที่วิเศษที่สุด ในการท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น
                                      
ชื่อสินค้า:   Ibusaki - Yamakawa ใต้สุดญี่ปุ่น
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  รถไฟ บันทึกนักเดินทาง เที่ยวต่างประเทศ Backpack
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่