ควรแก้กฎหมายจราจร หรือ บังคับใช้ให้เคร่งครัดดี

ทุกเทศการ สิ่งหนึ่งที่สื่อทำ คือ การนับความสูญเสีย ซึ่งยิ่งกว่า สงคราม
แล้วมักสรุปว่าเป็นเหล้า จบ ได้ตัวคนร้ายละ ปีหน้ารายงานใหม่

แอลกอฮอล์ และยาเสพติดอื่น เป็นสาเหตุหนึ่งของความประมาท ความเสียหายจริง ไม่มีใครเถียง แต่มันตรวจยาก

การลดความเร็วรถยนต์ลง น่าจะได้ผลเร็วกว่า และแน่นอนกว่า ตรวจสอบง่ายกว่า
แค่บังคับใช้กฎหมายให้เคร่งครัด ไม่ต้องตั้งด่าน ไม่ต้องรอเป่าตอนสงสัย ตอนเกิดเหตุ

กฎจราจรเมืองไทยที่กำหนดความเร็วไว้ แค่ 80 กม/ชม ในเขตเทศบาล
90 กม/ชม บนถนนหลวง และ 120 กม/ชม บนทางมอเตอร์เวย์

ในทางปฏิบัติ การขับ80 บนทางด่วน ถึงจะอยู่ในเขตเทศบาล ทุกคนรู้สึกว่ามันช้าไป
ขืนทำแบบนั้น ก็ถูกรถคันหลังด่ายับ เผลอๆ จะถูกปาด ถูกแกล้งไปเลย

เราทุกคนเลย ขับเกินกำหนด คือราว 100-110 ทั้งบน ทางด่วนในเขตเทศบาล และ ถนนหลวง
ตำรวจก็จำเป็นต้องอลุ้มอล่วย ถือว่า 110 โอเค ไม่งั้นก็ต้องจับหมดทั้งถนน

ในทางปฏิบัติจริงเลยกลายเป็นไม่มีใครทำถูกกฎหมาย ไม่มีขื่อมีแป ในเรื่องนี้

การจำกัดความเร็วเป็นหัวใจหลักของ การลดความเสียหายจากการจราจร

ที่จริงความเร็ว 80-90 ไม่ได้ช้าไป ประเทศอื่นๆ ก็ใช้ราวๆนี้
ถ้าบังคับใช้จริงๆซักปี จะช่วยลดการสูญเสียได้มาก ทำให้ประเทศเราปลอดภัยขึ้น น่าอยู่ขึ้น น่าลงทุนขึ้น

ใครๆก็ว่า คนไทยดูน่ารักเสมอยกเว้น เวลาอยู่หลังพวงมาลัยรถ

ตกลง เราจะแก้กฎหมายหรือบังคับใช้ดี  เรื่องนี้ไม่ต้องประชามติ ไม่ต้องการความเห็น เป็นเรื่องความรู้ล้วนๆ

ถ้าของเดิมถูกอยู่แล้ว ก็ต้องบังคับใช้ ถ้าของเดิมไม่ถูกก็ควรรีบแก้ไข สนช. ก็มีงานทำเพิ่มนิดหน่อยไม่น่ายาก