" ถึงตลาดนางเลิ้งดูเวิ้งว้าง คณานางน่าชมช่างคมสัน
นั่งร้านรายขายผักน่ารักครัน ห่มสีสันแต่งร่างดังนางใน
พวกจีนไทยในตลาดก็กลาดกลุ้ม ทั้งสาวหนุ่มแซ่อยู่เด็กผู้ใหญ่
นั่งขายของสองข้างหนทางไป ล้วนเข้าใจพ้อตัดซัดชำนาญ "
...นิราศชมพระราชวังดุสิต...
ที่จริงวันนี้ ตั้งใจจะไปเดินเที่ยวย้อนอดีตและเก็บภาพที่ชุมชนป้อมมหากาฬ ซึ่งกำลังเป็นข่าวทางหน้าหนังสือพิมพ์ว่า ทางกรุงเทพมหานคร กำลังจ้องจะไล่และรื้อไม่เว้นแต่ละวัน กำหนดให้สละที่อยู่อาศัย วันสุดท้าย คือ วันที่ 30 เมษายน 2559 ที่จะถึงนี้ แต่ในขณะที่กำลังยืนอ่านหนังสือพิมพ์(แจกฟรี) ตอนรอรถเมล์อยู่นั้น สายตาเหลือบไปเห็นข่าวว่า วันนี้ทางกรุงเทพมหานคร จะเข้าไปติดประกาศอย่างเป็นทางการภายในชุมชนพอดี ส่วนของผู้อยู่อาศัยในชุมชนป้อมมหากาฬ ก็บอกว่า ไม่ต้องการที่จะย้ายไปอยู่อื่น เพราะอยู่กันมาหลายชั่วคนแล้ว มีความผูกพันกับที่นี่ แต่ก็ยินดีขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งของตำนานชุมชนป้อมมหากาฬ แค่ร้องขอพื้นที่ส่วนน้อยได้อยู่อาศัย ตรงบริเวณท้ายสุดของพื้นที่ และอาสาที่จะดูแลสวนสาธารณะให้โดยไม่คิดค่าตอบแทนแต่ประการใด
เมื่อพิจารณาดูแล้ว วันนี้คงไม่เหมาะที่จะไปเดินถ่ายภาพภายในชุมชน เพราะคนในชุมชนก็คงอยู่ในอารมณ์หวาดระแวง ถ้าหากเห็นมีคนมาเดินถ่ายภาพในชุมชนของตัวเอง ก็อาจเกิดความเข้าใจผิดกันได้ เลยตัดสินใจเปลี่ยนเป้าหมาย ณ เดี๋ยวนั้นทันที โดยเปลี่ยนไปเป็น “ ตลาดนางเลิ้งและชุมชนนางเลิ้ง “ ที่อยู่ในละแวกที่ไม่ห่างไกลกันมากนัก ซึ่งน่าจะทดแทนกันได้ และยังเป็นชุมชนเก่าแก่ในอดีตซึ่งมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน แถมยังเกิดขึ้นอยู่ในยุคสมัยที่ใกล้เคียงกันอีกด้วย
การเดินทางโดยรถเมล์ไปชุมชนตลาดนางเลิ้งนั้น สามารถไปได้หลายเส้นทางด้วยกัน ถ้าเริ่มต้นที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ หากนั่งรถเมล์สาย 8(สายแห่งตำนาน) ขึ้นป้ายหยุดรถเมล์ฝั่งโรงพยาบาลราชวิถี เลี้ยวซ้ายที่แยกตึกชัย ผ่านโรงพยาบาลรามาธิบดี เลี้ยวขวาที่แยกศรีอยุธยา ผ่านกรมทางหลวง ข้ามทางรถไฟและเลี้ยวซ้ายที่แยกเสาวนีย์ วิ่งเลียบทางรถไฟไปจนถึงแยกยมราช วิ่งเลี้ยวโค้งขวาเข้าสู่ถนนหลานหลวง ผ่านตลาดมหานาค ข้ามสะพานขาว นับไปอีก 3 ป้ายรถเมล์ ก็ให้กดกริ่งลงได้เลย เดินข้ามสะพานไปฝั่งตรงข้าม ก่อนเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนวัดสุนทรธรรมทาน(วัดแคนางเลิ้ง) เดินเข้าไปอีกประมาณ 170 เมตร ก็ถึงย่านชุมชนนางเลิ้ง เดินเข้าซอยอีกหน่อยก็ทะลุถึงตัวตลาดนางเลิ้งแล้ว
แต่ถ้าใครอยากนั่งไปลงตรงหน้าตลาดนางเลิ้งเลย ก็ควรนั่งรถเมล์สาย ปอ. 171 (เคหะธนบุรี - หมู่บ้านนักกีฬา) ที่ป้ายหยุดรถเมล์ฝั่งโรงพยาบาลราชวิถี เช่นเดียวกับรถเมล์สาย 8 ไปลงตรงด้านหน้าทางเข้าตลาดนางเลิ้งเลย นั่งหลับๆตื่นๆยาวๆไปตามเส้นทางเดียวกับรถเมล์สาย 8 แต่พอไปถึงแยกยมราช จะไปเลี้ยวขวาเข้าถนนพิษณุโลก ก่อนเลี้ยวซ้ายอีกครั้ง ตรงแยกสนามม้านางเลิ้ง เข้าสู่ถนนนครสวรรค์ เมื่อรถเมล์เลี้ยวซ้ายตรงสนามม้านางเลิ้ง ก็ให้เตรียมตัวเอาไว้ พอรถข้ามสะพานเทวกรรมรังรักษ์ ก็ให้กริ่งลงที่ป้ายรถเมล์แถวหน้าตลาดนางเลิ้งได้เลย เพียงแต่อาจต้องรอรถเมล์สายนี้นานหน่อยก็เท่านั้น
วันนี้ก็ตั้งใจเลือกที่จะใช้บริการรถเมล์สาย ปอ. 171 ฝั่งโรงพยาบาลราชวิถี(ป้ายเดียวกับรถเมล์สาย 8) เพื่อไปยังตลาดนางเลิ้ง แต่รอแล้วรอเล่า นานร่วมๆชั่วโมง รถเมล์สาย ปอ. 171 ก็ไม่โผล่มาสักที จึงเปลี่ยนแผนไปนั่งรถเมล์สาย 12 (ห้วยขวาง – ปากคลองตลาด)ดีกว่า รถเมล์สาย 12 นี้ อาจไม่ได้ผ่านหน้าตลาดนางเลิ้งโดยตรง(รถวิ่งไม่ขาดระยะค่อนข้างถี่) แต่จะวิ่งโค้งอ้อมมาลงตรงด้านหน้าคุรุสภา เดินข้ามคลองเลี้ยวซ้ายแล้วรอขึ้นรถเมล์สาย 53 หรือ เดินเท้าต่อไปอีกหน่อย ก็ทะลุถึงตลาดนางเลิ้งได้แล้ว ด้วยเหตุผลทั้งหมดทั้งปวงนี้ เลยกลายเป็นที่มาของ Trip นี้
(เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2559)
[CR] เที่ยวกรุงเทพ 360 องศา “ ชุมชนอีเลิ้งในอดีต สู่นางเลิ้ง ณ วันนี้ ”
นั่งร้านรายขายผักน่ารักครัน ห่มสีสันแต่งร่างดังนางใน
พวกจีนไทยในตลาดก็กลาดกลุ้ม ทั้งสาวหนุ่มแซ่อยู่เด็กผู้ใหญ่
นั่งขายของสองข้างหนทางไป ล้วนเข้าใจพ้อตัดซัดชำนาญ "
...นิราศชมพระราชวังดุสิต...
ที่จริงวันนี้ ตั้งใจจะไปเดินเที่ยวย้อนอดีตและเก็บภาพที่ชุมชนป้อมมหากาฬ ซึ่งกำลังเป็นข่าวทางหน้าหนังสือพิมพ์ว่า ทางกรุงเทพมหานคร กำลังจ้องจะไล่และรื้อไม่เว้นแต่ละวัน กำหนดให้สละที่อยู่อาศัย วันสุดท้าย คือ วันที่ 30 เมษายน 2559 ที่จะถึงนี้ แต่ในขณะที่กำลังยืนอ่านหนังสือพิมพ์(แจกฟรี) ตอนรอรถเมล์อยู่นั้น สายตาเหลือบไปเห็นข่าวว่า วันนี้ทางกรุงเทพมหานคร จะเข้าไปติดประกาศอย่างเป็นทางการภายในชุมชนพอดี ส่วนของผู้อยู่อาศัยในชุมชนป้อมมหากาฬ ก็บอกว่า ไม่ต้องการที่จะย้ายไปอยู่อื่น เพราะอยู่กันมาหลายชั่วคนแล้ว มีความผูกพันกับที่นี่ แต่ก็ยินดีขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งของตำนานชุมชนป้อมมหากาฬ แค่ร้องขอพื้นที่ส่วนน้อยได้อยู่อาศัย ตรงบริเวณท้ายสุดของพื้นที่ และอาสาที่จะดูแลสวนสาธารณะให้โดยไม่คิดค่าตอบแทนแต่ประการใด
เมื่อพิจารณาดูแล้ว วันนี้คงไม่เหมาะที่จะไปเดินถ่ายภาพภายในชุมชน เพราะคนในชุมชนก็คงอยู่ในอารมณ์หวาดระแวง ถ้าหากเห็นมีคนมาเดินถ่ายภาพในชุมชนของตัวเอง ก็อาจเกิดความเข้าใจผิดกันได้ เลยตัดสินใจเปลี่ยนเป้าหมาย ณ เดี๋ยวนั้นทันที โดยเปลี่ยนไปเป็น “ ตลาดนางเลิ้งและชุมชนนางเลิ้ง “ ที่อยู่ในละแวกที่ไม่ห่างไกลกันมากนัก ซึ่งน่าจะทดแทนกันได้ และยังเป็นชุมชนเก่าแก่ในอดีตซึ่งมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน แถมยังเกิดขึ้นอยู่ในยุคสมัยที่ใกล้เคียงกันอีกด้วย
การเดินทางโดยรถเมล์ไปชุมชนตลาดนางเลิ้งนั้น สามารถไปได้หลายเส้นทางด้วยกัน ถ้าเริ่มต้นที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ หากนั่งรถเมล์สาย 8(สายแห่งตำนาน) ขึ้นป้ายหยุดรถเมล์ฝั่งโรงพยาบาลราชวิถี เลี้ยวซ้ายที่แยกตึกชัย ผ่านโรงพยาบาลรามาธิบดี เลี้ยวขวาที่แยกศรีอยุธยา ผ่านกรมทางหลวง ข้ามทางรถไฟและเลี้ยวซ้ายที่แยกเสาวนีย์ วิ่งเลียบทางรถไฟไปจนถึงแยกยมราช วิ่งเลี้ยวโค้งขวาเข้าสู่ถนนหลานหลวง ผ่านตลาดมหานาค ข้ามสะพานขาว นับไปอีก 3 ป้ายรถเมล์ ก็ให้กดกริ่งลงได้เลย เดินข้ามสะพานไปฝั่งตรงข้าม ก่อนเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนวัดสุนทรธรรมทาน(วัดแคนางเลิ้ง) เดินเข้าไปอีกประมาณ 170 เมตร ก็ถึงย่านชุมชนนางเลิ้ง เดินเข้าซอยอีกหน่อยก็ทะลุถึงตัวตลาดนางเลิ้งแล้ว
แต่ถ้าใครอยากนั่งไปลงตรงหน้าตลาดนางเลิ้งเลย ก็ควรนั่งรถเมล์สาย ปอ. 171 (เคหะธนบุรี - หมู่บ้านนักกีฬา) ที่ป้ายหยุดรถเมล์ฝั่งโรงพยาบาลราชวิถี เช่นเดียวกับรถเมล์สาย 8 ไปลงตรงด้านหน้าทางเข้าตลาดนางเลิ้งเลย นั่งหลับๆตื่นๆยาวๆไปตามเส้นทางเดียวกับรถเมล์สาย 8 แต่พอไปถึงแยกยมราช จะไปเลี้ยวขวาเข้าถนนพิษณุโลก ก่อนเลี้ยวซ้ายอีกครั้ง ตรงแยกสนามม้านางเลิ้ง เข้าสู่ถนนนครสวรรค์ เมื่อรถเมล์เลี้ยวซ้ายตรงสนามม้านางเลิ้ง ก็ให้เตรียมตัวเอาไว้ พอรถข้ามสะพานเทวกรรมรังรักษ์ ก็ให้กริ่งลงที่ป้ายรถเมล์แถวหน้าตลาดนางเลิ้งได้เลย เพียงแต่อาจต้องรอรถเมล์สายนี้นานหน่อยก็เท่านั้น
วันนี้ก็ตั้งใจเลือกที่จะใช้บริการรถเมล์สาย ปอ. 171 ฝั่งโรงพยาบาลราชวิถี(ป้ายเดียวกับรถเมล์สาย 8) เพื่อไปยังตลาดนางเลิ้ง แต่รอแล้วรอเล่า นานร่วมๆชั่วโมง รถเมล์สาย ปอ. 171 ก็ไม่โผล่มาสักที จึงเปลี่ยนแผนไปนั่งรถเมล์สาย 12 (ห้วยขวาง – ปากคลองตลาด)ดีกว่า รถเมล์สาย 12 นี้ อาจไม่ได้ผ่านหน้าตลาดนางเลิ้งโดยตรง(รถวิ่งไม่ขาดระยะค่อนข้างถี่) แต่จะวิ่งโค้งอ้อมมาลงตรงด้านหน้าคุรุสภา เดินข้ามคลองเลี้ยวซ้ายแล้วรอขึ้นรถเมล์สาย 53 หรือ เดินเท้าต่อไปอีกหน่อย ก็ทะลุถึงตลาดนางเลิ้งได้แล้ว ด้วยเหตุผลทั้งหมดทั้งปวงนี้ เลยกลายเป็นที่มาของ Trip นี้
(เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2559)