วันหยุดจบ เราไม่จบ! ชวนเที่ยวตลาดดอกไม้เจ๋งๆ รอบโลก

พูดถึงตลาดดอกไม้ เราทุกคนก็ต้องนึกถึงปากคลองตลาด ที่ไม่ได้เป็นแค่แหล่งวัตถุดิบหลักของร้านดอกไม้เล็กใหญ่เท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแลนด์มาร์กของกรุงเทพฯ เพราะมันเต็มไปด้วยสีสัน ความวุ่นวายจอแจที่มีเสน่ห์ ใครชอบบรรยากาศแบบนี้ เชิญตามมาดูตลาดดอกไม้ของประเทศอื่นๆ ทั่วโลกด้านล่างนี้เล้ย ร้านดอกไม้loveyouflower เค้าได้รวบรวมตลาดดอกไม้ต่างๆ ซึ่งมีแง่มุมน่าสนใจไม่ซ้ำกันไว้ วันหยุดหน้าใครจะไปประเทศไหน ก็ลองไปตามเก็บลิสต์กันโลดด


ดอกไม้ตลาดประมูลดอกไม้ อัลซเมียร์ (Aalsmeer Flower Auction) เนเธอร์แลนด์



จะไม่เริ่มต้นที่นี่ก็คงไม่ได้ เพราะ ‘อัลซเมียร์’ ได้ชื่อว่าเป็นเมืองดอกไม้โลก ที่นี่มีตลาดประมูลดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดซึ่งมีการซื้อขายดอกไม้ราว 20 ล้านดอกทุกวัน (นี่ยังไม่รวมวันพิเศษอย่างวันวาเลนไทน์ หรือวันแม่นะ แน่นอนว่าวันเหล่านี้การซื้อขายจะเยอะขึ้นไปอีก) โดยดอกไม้หลักของที่นี่ก็ได้แก่ ทิวลิป กุหลาบ เดซี่ ลิลลี่ เป็นต้น การทำงานของที่นี่ใช้ระบบที่ทันสมัย ทำงานกันรวดเร็วและเป็นระเบียบมาก ในโกดังเก็บดอกไม้ชั้นล่างสุดของตึกนั้น จะจัดวางดอกไม้ตามหมวดหมู่ มีบาร์โค้ดกำกับ พร้อมข้อมูลการผลิต ผู้ปลูก และสายพันธุ์ โดยเมื่อการประมูลจากห้องชั้นบนเสร็จสิ้น พนักงานในห้องเก็บดอกไม้ซึ่งต่างก็มีรถลากสินค้า ก็จะขับรถค้นหาสินค้าตามซอกซอยต่างๆ รวบรวมดอกไม้สำหรับผู้ซื้อแต่ละรายตามออเดอร์ที่สั่งลงมาอย่างเรียบร้อย


บรรยากาศการประมูลดอกไม้ จริงจังสุดๆอะ


พนักงานในโกดังจัดสินค้าตามออเดอร์ประมูล โดยการใช้รถลากขับไปตามล็อกต่างๆ

สำหรับใครที่สนใจ อยากเห็นตลาดดอกไม้สุดทันสมัยแห่งนี้ ที่นี่ก็เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ เราจะได้เห็นทั้งดอกไม้สุดตระการตานานาพันธุ์ และได้เห็นการทำงานของพนักงานขับรถลากที่วุ่นวายแต่เป็นระเบียบได้อย่างน่าทึ่ง ใครที่อยากไปชมก็ให้เข้าไปในวันจันทร์-ศุกร์นะคะ เพราะที่นี่ปิดไม่ให้เข้าชมในวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ด้วย โดยการประมูลจะเริ่มตั้งแต่เช้า แล้วจบลงภายในไม่กี่ชั่วโมง จึงควรเข้าไปเช้าๆ หน่อยค่ะ



ดอกไม้บลูเมนมาร์ค (Bloemenmarkt) อัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์



เนเธอร์แลนด์นี่เป็นดินแดนสวรรค์ของคนรักดอกไม้จริงๆนะ ตลาดนี้ถึงแม้จะเล็กจิ๋วไปเลยถ้าเทียบกับที่ ‘อัลซเมียร์’ แต่ความเก๋นั้นไม่เป็นรองใคร แน่นอนว่าถ้านึกถึงเมืองอัมสเตอร์ดัมก็ต้องนึกถึงคลอง ตลาดดอกไม้ ‘บลูเมนมาร์ค’ ก็ไม่ทิ้งคอนเซ็ปต์ เพราะร้านดอกไม้ทุกร้านของเค้าลอยอยู่ในคลองซิงเกล (Singel) ระหว่างมุนต์แปลน สแควร์ (Muntplein) กับ โคนิงสแปลน สแควร์ (Koningsplein) ซึ่งที่นี่เค้าขายดอกไม้กันมาแบบนี้ ตั้งแต่ปี 1860 แน่ะ

‘บลูเมนมาร์ค’ เป็นตลาดดอกไม้ลอยน้ำแห่งเดียวในโลก แม้ว่าจะมีร้านดอกไม้เพียง 15 ร้านเท่านั้น และปัจจุบันทุกร้านก็ก่อเสารองรับไว้หมดแล้ว ไม่ได้ลอยอยู่จริงๆ แต่มันก็เจ๋งอยู่ดีล่ะเนอะ ถ้าใครไปเที่ยวอัมสเตอร์ดัมแล้วผ่านไปแถวนั้น ก็อย่าลืมซื้อดอกทิวลิปสวยๆ กลับมาใส่แจกันในห้องที่โรงแรมสักหน่อยล่ะ



ดอกไม้ตลาดดอกไม้ เกวงกา (Cuenca Flower Market) เมืองเกวงกา เอกวาดอร์



เมืองเกวงกา ประเทศเอกวาดอร์ อาจไม่ใช่เมืองที่คนรู้จักมากนัก แต่ก็มีสองอย่างที่ขึ้นชื่อมากๆ อย่างแรกคือเมืองนี้มีโบสถ์ถึง 50 แห่ง อันเป็นมรดกตกทอดจากยุคที่สเปนมาล่าอาณานิคม และอีกอย่างก็คือตลาดดอกไม้แห่งนี้แหละ ซึ่งขอบอกว่าน่าไปเดินสุดๆ เพราะตลาดตั้งอยู่บริเวณโบสถ์ ‘Inmaculada Concepción’ ซึ่งเสริมให้ตลาดมีบรรยากาศไม่เหมือนใคร ระหว่างเดินชมเลือกซื้อดอกไม้ก็จะเห็นอาคารโบสถ์ทรงคลาสสิก ที่ให้ร่มเงาแก่ร้านดอกไม้เล็กๆ ซึ่งเรียงรายกันอยู่บนพื้นที่ปูกระเบื้องอย่างเป็นระเบียบและสะอาดตา เดินๆไปอาจจะลืมตัวนึกว่าอยู่ในเมืองรุ่งเรืองเก่าแก่อย่างโรมก็เป็นได้

ที่ตลาดเกวงกา เราจะพบกับดอกไม้แสนสวยนานาพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นกล้วยไม้ กุหลาบ ลิลลี่ รวมทั้งเห็นความน่ารักของพ่อค้าแม่ค้า ชาวเมือง และนักท่องเที่ยว ที่ต่างก็ดูแฮปปี้ สโลว์ไลฟ์กันจริงๆ เรียกได้ว่าเป็นแลนด์มาร์กของเมืองที่ใครก็ต้องไปเดินเล่น ถ่ายรูปเล่นกันเลยล่ะ



ดอกไม้มาร์เช่ โช เฟลอร์ (Marché Aux Fleurs) ปารีส ฝรั่งเศส



‘Marché Aux Fleurs’ แปลว่า ตลาดดอกไม้ ซึ่งแน่นอนว่าในฝรั่งเศสไม่ได้มี ‘มาร์เช่ โช เฟลอร์’ แห่งเดียว แต่วันนี้เราจะพูดถึง ‘Marché Aux Fleurs et aux oiseaux’ หรือ ตลาดดอกไม้และนก ซึ่งอยู่ใจกลางปารีส โดยสำหรับคนปารีสนั้น เรียก ‘มาร์เช่ โช เฟลอร์’ เฉยๆ ก็เข้าใจกันดีว่าหมายถึงที่นี่ค่ะ

ที่บอกว่าอยู่ใจกลางปารีส คือกลางมากจริงๆ เพราะอยู่บนเกาะอีล เดอ ลา ซิเต้ (Île de la Cité) กลางแม่น้ำแซนนั่นเอง ‘มาร์เช่ โช เฟลอร์’ แห่งนี้มีอายุเก่าแก่กว่า 200 ปี (เปิดมาตั้งแต่ปี 1808) โดยเป็นแบบกึ่งอินดอร์กึ่งเอาท์ดอร์ เพราะเค้าสร้างเป็นศาลาโปร่งๆ ให้เดินเล่นได้สบาย ร่มรื่นกำลังดี และที่นี่ไม่ได้มีแค่ร้านดอกไม้เท่านั้นนะ ยังมีขายต้นไม้นานาชนิด ของตกแต่ง ไปจนถึงผัก ผลไม้สดๆ หรือของทำมือก็มี และในวันอาทิตย์ก็จะมีขายนกนานาพันธุ์ เรียกได้ว่าเป็นปอดกลางปารีส ที่ไปเดินเล่นแล้วน่าจะสดชื่นไม่น้อยเลยนะเนี่ย

ใครไปเที่ยวปารีส ต้องได้ไปแถวนั้นชัวร์ๆ เพราะใกล้กับแลนด์มาร์กสำคัญอย่าง น็อทร์-ดาม (Cathédrale Notre-Dame de Paris) บอกเลยว่า ‘มาร์เช่ โช เฟลอร์’ หาง่ายมาก ไปชิลๆ ได้แบบไม่ต้องแพลนอะไร แค่เดินขึ้นจากรถไฟใต้ดินก็ถึงเลยค่ะ (บนเกาะมีสถานี Cité สถานีเดียว)



ดอกไม้ตลาดดอกไม้ แอดเดอร์ลีย์ สตรีท (Adderley Street Flower Market) เคปทาวน์ แอฟริกาใต้



ตลาดนี้เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กของเคปทาวน์ พอๆกับปากคลองตลาดของเราแหละ แถมยังมีอีกอย่างที่คล้ายเคียงไทยเรามาก คือที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องความอึกทึก และความเป็นกันเองของร้านดอกไม้ทุกร้าน สำหรับดอกไม้ขึ้นชื่อของที่นี่ก็ได้แก่ คาร์เนชั่น ลิลลี่ และที่ขาดไม่ได้คือ ดอก ‘pincushion protea’ ดอกไม้ประจำชาติของแอฟริกาใต้เอง


ดอก ‘pincushion protea’ คือดอกกลมๆ ที่หน้าตาคล้ายดอกเข็มของเรา ดูสวยยูนีค จัดช่อแล้วให้ความโมเดิร์นมากๆ

สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างของตลาด ‘แอดเดอร์ลีย์ สตรีท’ คือ คนในร้านดอกไม้ที่นี่ส่วนใหญ่มีเชื้อสายมลายูกันทั้งนั้น เชื้อสายใกล้เคียงเรามาก แต่เดินทางไปตั้งรกรากไกลถึงที่นั่นเลย ใครที่ชอบอ่านประวัติศาสตร์คงจะพอทราบว่า เคปทาวน์เป็นเมืองสำคัญในยุคล่าอาณานิคม หากดูในแผนที่ ที่นี่จะเป็นจุดกึ่งกลางของเส้นทางเดินเรือจากยุโรปมาเอเชีย ซึ่งในปี 1652 เรือของบริษัท ‘Dutch East India Company’ ก็ได้มาตั้งถิ่นฐานที่นี่เพื่อเป็นสถานีกลางทางของการเดินเรือค้าขายจากเนเธอร์แลนด์ไปสู่เอเชีย จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการนำแรงงานทาสจากอินโดนีเซียเข้ามาที่นี่จำนวนมาก



ดอกไม้ตลาดดอกไม้ ฟาเตปุรี (Fatehpuri Phool Mandi) นิวเดลี อินเดีย



‘Phool Mandi’ แปลว่า ตลาดดอกไม้ ส่วน ‘Fatehpuri’ นั้นมาจากชื่อของมัสยิดที่อยู่ติดกับตลาด ที่นี่คือแหล่งจับจ่ายของร้านดอกไม้ทั่วอินเดีย ตลาดแห่งนี้จึงมีเงินสะพัดมหาศาลทุกวันจากการขายช่วงเช้าแค่ไม่กี่ชั่วโมง และที่เด็ดไปกว่านั้นคือหลายร้านจะขายกันแต่ดอกดาวเรืองเท่านั้น อาจจะมีร้านขายกุหลาบ หรือขายเฉพาะกลีบกุหลาบให้เห็นบ้างเหมือนกัน แต่ความเหลืองอร่ามของกองดอกดาวเรืองนั้นจะสะดุดตาเรามาแต่ไกล

ดอกดาวเรืองผูกพันกับชีวิตคนอินเดียมากกว่าดอกไม้ชนิดอื่นก็ว่าได้ สีเหลืองส้มของมันเป็นสัญลักษณ์ของความรุ่งเรือง เป็นมงคล แถมดอกไม้ชนิดนี้ยังแข็งแรง ทนแดดทนฝน คนอินเดียก็เลยนิยมใช้บูชารูปเคารพ เพราะเป็นสัญลักษณ์แทนความศรัทธา ยึดมั่นเด็ดเดี่ยวในศาสนานั่นเอง นอกจากนี้ถ้าไปอินเดียอาจจะเห็นเค้าแขวนพวงมาลัยดาวเรืองไว้หน้าประตูบ้านด้วย เพราะมันมีกลิ่นฉุนซึ่งแมลงไม่ชอบ ในด้านสรรพคุณดาวเรืองจึงช่วยไล่แมลงไม่ให้เข้าบ้าน หรือไม่ให้มาตอมรอบๆ รูปเคารพได้นั่นเอง



ดอกไม้ตลาดดอกไม้ ซิดนีย์ (Sydney Flower Market) ออสเตรเลีย



ตลาดดอกไม้คือไอเดียดีสุดๆ สำหรับการเริ่มต้นเช้าอันสดใสในซิดนีย์ ที่นี่อาจไม่ได้มีประวัติศาสตร์ หรือกิมมิคแปลกๆอะไรถ้าเทียบกับที่อื่นที่เราพูดถึงมา แต่ความดีงามคือร้านดอกไม้ทุกร้านเป็นผู้ปลูกดอกไม้เอง อาจจะมีบางอย่างที่อิมพอร์ตเข้ามาบ้าง แต่หลักๆคือเป็นดอกไม้ที่ปลูกในซิดนีย์ เนื่องจากในซิดนีย์มีฟาร์มดอกไม้หลายแห่ง แถมยังปลูกได้หลายสายพันธุ์ เพราะมีสภาพอากาศที่หลากหลายแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ โดยการขนส่งจากแต่ละฟาร์มมาตลาดก็ใช่เวลาแค่ 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น จึงเป็นดอกไม้ที่สดจริง Local จริง ทั้งดีต่อสิ่งแวดล้อมเพราะขนส่งไม่ไกล และได้สนับสนุนคนท้องถิ่นอย่างแท้จริงด้วย



เป็นไงชอบที่ไหนกันบ้างคะ เก๋ทุกที่เลยเนอะ ใครที่ชอบท่องเที่ยวแนว local life หลายที่ในนี้น่าไปมากๆอ่า


อ้างอิงจากบทความ พาเที่ยวตลาดดอกไม้เจ๋งๆ รอบโลก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่