[CR] สงกรานต์นี้ เกาะเต่าคนเดียว เฟี้ยวเงาะ!

เกาะเต่า เค้าว่าสวยๆ กัน ของจริงเป็นยังไงต้องไปดูเอง! การเดินทางครั้งนี้เป็นการเดินทางคนเดียวค่ะ และก็เป็นแบบ backpack ด้วย จริงๆ เราวางแผนมาซักพักแล้วประมาณปลายเดือนมกราคม 2559 ว่าจะไปเกาะเต่าช่วงสงกรานต์ แต่ก่อนจะถึงสงกรานต์อยู่ๆ ก็ไม่อยากไปซะงั้น จนกลับไปอ่านแผนการที่เคยเขียนไว้ เออ! ไปก็ไปวะ!!!!



               เราเริ่มเดินทางวันที่ 13 เม.ย. 59 จากบ้านมาขึ้นรถไฟฟรีที่สถานีรถไฟหัวลำโพง ขบวนรถที่ 171 กรุงเทพ – ทุ่งสง เวลา 13:00-21:21 น. เป็นรถไฟเร็ว ชั้น 3 ค่ะ ซึ่งเราได้ข้อมูลมาว่ารถไฟเร็วจะจอดเฉพาะสถานีใหญ่ๆ ไม่ได้จอดทุกสถานีค่ะ



               และนี่ก็คือขบวนที่เราขึ้นค่ะ ซึ่งวิธีสังเกตว่าเลขที่คันดูยังไง ให้เราดูที่ป้ายในรูปนะค่ะ ส่วนเลขที่ติดที่ขบวนรถเลย ไม่รู้ว่าคืออะไรเหมือนกัน

13:00 น. รถไฟออกจากสถานีรถไฟหัวลำโพง ออกตรงเวลาจะถึงตรงเวลารึเปล่า รอดู



               ระหว่างทางก็ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ เจอสถานีชื่อแปลกๆ แล้วก็สถานีที่เคยได้ยินว่ามีที่เที่ยวสวยๆ ด้วย ครั้งหน้ารู้แล้วว่าเดินทางประมาณกี่ชั่วโมงจากกรุงเทพ

16:40 น. สถานีรถไฟเพชรบุรี



18:45 น. สถานีรถไฟประจวบคิรีขันธ์



21:12 น. สถานีรถไฟชุมพร



               ในที่สุดเราก็มาถึงสถานีรถไฟชุมพรเวลา 21:20 โดยประมาณค่ะ รถไฟเคลื่อนเข้าสถานี 21:12 เป๊ะ แต่จอดสนิทพร้อมลงก็ประมาณ 21:20   ค่ะ และเราไปที่พัก Salsa Hostel ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟค่ะ ออกจากสถานีเดินตรงอย่างเดียว เจอสี่แยกเรือลมพระยาก็เดินไปเรื่อยๆ มีร้านขายอาหารข้างทางเยอะแยะและมี 7/11 ไม่เปลี่ยวค่ะ ถ้านั่งพี่วินประมาณ 20   บาทค่ะ แต่เราเลือกที่จะเดิน!



และนี่ก็คือ Salsa Hostel พี่เจ้าของร้านเป็นพี่ผู้ชาย ใจดีและเป็นกันเองมากค่ะ ไม่ได้ถ่ายรูป hostel เท่าไหร่ เพราะค่อนข้างเหนียวตัวและอยากอาบน้ำนอน ฮ่าๆ


นี่คือเตียงที่นอนค่ะ เป็นเตียงเด็กหอสองชั้น เรานอนชั้นบนเพราะตรงแอร์พอดี เย็นสบายสุดๆ




              ถ่ายรูปได้มีรายละเอียดมาก ฮ่าๆ ประมาณนี้ค่ะ ในห้องมีราวตากผ้าให้ มีตู้เย็นเล็กๆ ห้องนี้มีเตียง 2   ชั้น 3 เตียง และเตียงชั้นเดียว 1 เตียงอยู่ขวามือค่ะ ถ่ายไม่ติด Salsa Hostel เป็นที่พักที่น่าอยู่ดีนะคะ สะอาด สบาย และห้องน้ำสะอาดด้วยค่ะ ตอนเช้ามีอาหารเช้าเล็กๆ แบบขนมปัง ไข่ นม คอนเฟล็กซ์ ให้พร้อมค่ะ (สำหรับรายละเอียดเดี๋ยวจะแจงให้ตอนท้ายนะคะ)


14 เม.ย. 59
               เช้าวันที่ 2 เราตื่นแต่เช้าเพื่อมารอรถทัวร์สองชั้นของเรือลมพระยาตอน 05:30 น. อย่าลืมเอาตั๋วเรือไปนะคะ ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีก็ถึงท่าเรือ เราซื้อตั๋วเรือแบบ speed boat ของเรือลมพระยา



               06:38 รอ check in เรือค่ะ คนเยอะพอสมควร ใช้เวลาตรงนี้นานนิดนึงค่ะ เราปรารถนาจะอยู่ท่ามกล่างฝรั่ง แต่… คนไทยอื้อ !!! แต่ยังดีที่ไม่ค่อยมีคนจีน

         *** จริงๆ แล้วเราถึงชุมพรตอน 3 ทุ่มกว่า ก็สามารถนอนเรือนของคืนนั้นไปเกาะเต่าได้นะคะ แต่เนื่องจากเราโทรไปที่เรือเกาะเจริญ เค้าบอกว่าช่วงสงกรานต์เค้าไม่เดินเรือ ให้ติดต่อเรือลมพระยาเอา เราก็เลยจองเรือที่ Salsa Hostel แต่พอมาถึงพี่เจ้าของ hostel บอกว่า จริงๆ แล้วไปเรือนอนก็ยังทัน เพราะรถไฟรอบเรามาตรงเวลามาก แต่เรือน่าจะเต็มแล้ว และที่สำคัญไม่ได้มีแค่เกาะเจริญเท่านั้น ยังมีเรือโชคกัลปังหาอีกบริษัทนึงก็ไปได้ โดยปกติจะไม่มีเหตุการณ์ที่เรือจะไม่ไปเกาะ ถ้าเกาะเจริญไปไม่ได้ โชคกัลปังหาเค้าก็จะออกแทน หรืออาจจะออกไปพร้อมๆ กัน ฉะนั้นยังไงก็มีเรือนอนไปแน่นอน เพราะเรือนอนเค้าต้องเอาของไปส่งให้ร้านค้าที่อยู่บนเกาะ ซึ่งเราก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีโชคกัลปังหา ***


               และแล้วเราก็ check in เรือเสร็จเรียบร้อย พร้อมจะลงเรือแล้วและนี่คือสะพานที่เดินไปลงเรือ ตอนเช้าของที่นี่อากาศดีมากๆ ลมพัดมีไอเย็นหน่อยและวิวดีสุดๆ ค่ะ



               เรือลำใหญ่จุคนได้เป็นร้อยมั้งค่ะ กะๆ จากสายตาเอา เป็นเรือ 2 ชั้น ชั้น 1 เป็นห้องปรับอากาศ เย็นสบายแต่เรามาทั้งทีขอดูวิวเยอะๆ จึงไปนั่งที่ชั้นสองหรือชั้นดาดฟ้าเรือ

07:04 น.



มองลงมาเป็นแบบนี้ค่ะ



เรือออกแล้วค่ะ สีน้ำทะเลสวยมากๆ บรรยากาศชิวสุดๆ



ฝรั่งเนี่ยเค้าชอบอ่านหนังสือนะคะ เห็นเวลาเค้าว่างๆ จะเอา pocket book เล่มเล็กๆ มานั่งอ่านกัน แอบถ่ายหน่อยละกันนะ



               เรือที่เรานั่งไปจะมีผู้โดยสารอยู่ 2 เกาะนะคะ เรือจะไปส่งผู้โดยสารที่เกาะนางยวนก่อน เราเลยได้เห็นเกาะนางยวนแบบแผลบๆ ไม่ได้ดึงดูดเท่าไหร่นะคะ แต่ว่าน้ำคือใสมากจริงๆ



พอเรือแวะเกาะนางยวนแล้วก็หันหัวเรือไปที่เกาะเต่าซึ่งห่างกันไม่ไกล ไม่เกิน 15 นาที ประมาณนะค่ะ และแล้วก็มาถึงแล้วเกาะเต่า จ. สุราษฎร์ธานี




               และเรือก็เทียบท่า เรารีบไปเอากระเป๋าแล้วขึ้นฝั่งเพื่อไปโฮสเทล สำหรับที่เกาะเต่าเรานอนที่ Jizo’s Hostel อยู่ที่หาดทรายรี เราโทรคุยกะ hostel นี้เรื่อยๆ ตั้งแต่ปลาย ม.ค.  เค้าบอกว่าไม่ต้องมัดจำ มาแล้วเข้าพักได้เลยแต่เราไม่ไว้ใจเท่าไหร่เพราะเป็นช่วงเทศกาล ตอนคุยกับ hostel เค้าบอกว่าไม่ไกลเดิน 10-15 นาทีก็ถึง โอเค! เราเลยเดิน เดินมั่วไปหมด เลยโทรถาม hostel อีกรอบ ทีนี้เค้าบอก ‘พี่นั่ง taxi มาเลยครับ ค่อนข้างไกลอยู่ ถ้าเดินมานี่ไกลเลยครับ’     อ้าว!!! ทำไมพูดไม่ตรงกัน เราเลยตัดสินใจไปเช่ามอเตอร์ไซค์ซะเลยจะได้ไม่ต้องเสียค่ารถ 2 ต่อ

               สำหรับการเช่ามอเตอร์ไซค์ที่นี่ต้องสุ่มๆ หน่อยนะคะ เรตอยู่ที่ 200 บาท / วัน แต่บางร้านเค้าเอาค่ามัดจำ 3,000-5,000 บาท แต่เราบังเอิญไปเจอร้านนึง เป็นร้านที่ไม่สะดุดตาแต่สุดจะโอเค ชื่อร้าน Rambo พี่เจ้าของร้านชื่อ พี่พัด เป็นผู้หญิงท้อง 8 เดือน ถ้าใครไปอาจจะไม่เจอพี่เค้าเพราะจะคลอดแล้ว ที่นี่มีทั้งมอเตอร์ไซค์ทั้งเกียร์ออโต้และเกียร์ธรรมดา 200 บาท เท่ากันแต่ไม่ต้องมัดจำ!!! ตกลงเอาที่นี่เลย เลยได้คุยเรื่องเรือนอนขากลับ ราคา 400 บาท เป็นของเรือพรทวีสินค่ะ และ one day trip 5   เกาะ ราคา 600 บาท (Shark Bay / อ่าวโตนด / อ่าวหินวง / Mango Bay / เกาะนางยวน)   

               เราตัดสินใจเช่ารถกะซื้อตั๋วเรือกับพี่เค้าแต่ one day trip เรายังชั่งใจอยู่ เพราะที่ Jizo’s hostel ก็มีขายเหมือนกัน แต่ 700 บาท เราเลยตัดสินใจซื้อทุกอย่างจากร้านพี่พัด (รายละเอียดจะแจงตอนท้ายนะคะ)


ข้าวผัดหมู 60 บาท อร่อยดีค่ะ เพราะหิวมากกกกกกกกกกกกกกก อร่อยจริงๆ


               พอเราเก็บของ อาบน้ำเสร็จเรียบร้อยเราก็ไปหาข้าวกิน เราๆ มักจะคิดว่าอาหารบนเกาะแพงอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ถ้ามองดีๆ จะให้เค้าขาย 30-35 บาท ก็คงไม่ได้ เพราะพวกของต่างๆ เค้าก็ต้องจ้างเรือไปเอาที่ฝั่งเหมือนกัน ราคาก็เลยสูงกว่าเป็นเรื่องปกติ อาหารตามสั่งเริ่มต้นที่ 60 บาทค่ะ แม้กระทั่งข้าวไข่เจียวก็ 60 เหมือนกัน จากที่ดูๆ อาหารตามสั่งทั่วๆ ไปจะอยู่ที่ 60-80 บาทค่ะ

               พอกินข้าวเสร็จก็บ่ายกว่าๆ แล้ว แดดร้อนสุดๆ เราแว้นไป Freedom Beach เป็นหาดที่ทางไปไม่โหด เราขี่แต่ทางราบมาตลอดพอขึ้นเขานิดนึงเริ่มไม่ไหว ถ้าคนที่ขี่รถแข็งๆ อยู่แล้วก็ไม่น่ามีปัญหาค่ะ


ไม่ค่อยอินกับที่นี่เท่าไหร่ คือสวยในระดับธรรมดา น้ำใส หาดสะอาด ไม่มีขยะ แต่ทราบไม่ค่อยขาวละเอียด



ตอนเดินถ่ายรูปเห็นแม่ลูกคู่นี้พอดี แม่กำลังสอนลูกสาวก่อกองทราย น่ารักดี


               อากาศร้อน ร้อนมาก ร้อนที่สุด ร้อนจนไม่ไหว เลยขี่รถกลับไปนอนเล่นที่ที่พักแล้วช่วงเย็นจะไปชมวิวพระอาทิตย์ตกน้ำที่ดุสิตบัญชารีสอร์ท ที่เค้าว่าสวยๆ      จริงๆ ทางดุสิตบัญชาไปง่ายมากๆ แต่เราดูแผนที่ไม่เป็นเลยเปิด map ในมือถือ และสุดท้ายยยยยยยยย….. หลง! ปาไปจะ 6 โมงเย็นแล้วแต่เราก็ยังไม่เจอดุสิตบัญชาซักที ใน map พาเราไปอีกซีกโลกนึงที่คนฉลาดเค้าไม่ไปกัน ฮ่าๆ มันพาเราขึ้นเขาและเราจึงได้รอยที่ระลึกมา ต่อจากนี้เราจะไม่ขี่รถขึ้นเขาแล้ว

ทางที่ดีที่สุดคือถามทางจากชาวบ้านแถวนั้น
เรา : ขอโทษนะคะพี่ ดุสิตบัญชาไปทางไหนค่ะ
พี่ชาวบ้าน : น้องตรงไปอย่างเดียวเลยจ้า
เรา : ทางดีมั้ยพี่
พี่ชาวบ้าน : ทางดี ขี่ง่าย เค้าลาดถนนแล้ว
เรา : ต้องขึ้นเขามั้ยพี่
พี่ชาวบ้าน : ขึ้นจ้า นิดเดียว
เรา : ต้องขึ้นเขาด้วยหรอพี่ นิดเดียวจริงๆ นะ
พี่ชาวบ้าน : จ้า

               แบบว่าใจแป้วอีกแล้ว ไม่ชอบเลยต้องขึ้นเขาอีกแล้ว ฮ่าๆ แต่ทางดีจริงๆ ค่ะ ตรงไปยาวๆ จะเจอเนินเขานิดหน่อย เป็นถนนปนทรายอยู่ในช่วงทำถนน ในใจนี่คือ ล้อปัด ล้อปัด ล้อปัดแน่ๆ มีพี่พม่าเค้ายืนดูตอนเราขี่ลง ประมาณว่าจะเข้ามาช่วยถ้าลงไม่ได้ แต่ในที่สุด เราก็ลงได้ ใจหายใจฟ่ำหมด

โซนเอนหลังดูพระอาทิตย์ตก บรรยากาศดีมากๆ



ทางเดินลงไปดูพระอาทิตย์ตกน้ำค่ะ



ระหว่างรอเมื่อไหร่พระอาทิตย์จะตก นั่งดูปูกะเพรียงไปพลางๆ



กำลังจะตกแล้วค่ะ สวยงามมากๆ เมื่อไม่เห็นหน้า ฮ่าๆๆๆๆ



                หลังจากพระอาทิตย์ตกเป็นที่เรียบร้อย เราก็ขี่รถกลับ hostel ไปอาบน้ำ กินข้าว คืนนี้เราจะไปดูโชว์ควงไฟกัน ถ้าคืนนี้ได้ดูควงไฟถือว่ามันนี้ภาระกิจเราเสร็จสิ้นละ แต่ … วันนี้ไม่มีควงไฟค่ะ! เซ็งนิดนึง ใครก็บอกถ้ามาแถวทรายรีต้องมาดูนะ ป่ะ กลับไปนอนเพราะพรุ่งนี้ต้องไปดำน้ำ!!!
ชื่อสินค้า:   เกาะเต่า เกาะนางยวน สุราษฎร์ธานี
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่