กราบสวัสดีทุกท่านชาวพันทิปทุกคนจร่ะ วันนี้จะพาไปเบิกเนตร ที่เดิมๆกับประสบการณ์ที่มากกว่า
ติดตามไปกับเราได้เลยที่ กระทู้นี้ที่เดียว ไปเริ่มการเดินทางกันดีกว่าจร้าาาาาาาาาาาา
ก่อนออกเดินทางเราต้องเตรียมตัวให้พร้อมดังนี้เลย
1 ควรมี Application ในการเดินทางทั้งหลายเพื่อความสะดวก เเต่อย่าใช้มันมาก มันไปทุกที่ที่มีทาง ทั้งๆบางที เขาห้ามไป 555
2 Application ที่เกี่ยวกับร้านอาหาร อันนี้ขาดไม่ได้เลยจร้า เพราะไปต่างที่เหมือนคนตาบอด สีสันชวนกินเเต่(เบ้ปาก)
3 Application สุดท้ายที่ควรมีคือ เกี่ยวกับที่พัก หลับนอน ใครสะดวกนอนบนรถ ก็เอาที่สบายใจจร่ะ
4 คำที่อยู่ในเครื่องหมาย "" ที่ จขท. เขียนไว้ ท่านสามารถพิมพ์ค้นหาได้ใน App เหล่านี้ได้เลย
ท้าวความ : จขท. ไปช่วงหลังปีใหม่นิดๆกับแฟน (4 มกราคม 2559) พอดีต้องเดินทางไปทำธุระที่ชุมพรก็เลยเเวะไปเที่ยวเมืองระนอง ฝน 8 แดด 4 บ้างไม่พิมพ์มากแหละเริ่มการเดินทางเลย
วันที่ 1 ถึงชุมพร : เมื่อเราเข้าเขตชุมพรสิ่งที่บ่งบอกได้คือ.................ป้าย ฟังไม่ผิด คือป้ายจริงๆ เเต่ถ้าทางประวัติศาสตร์แล้วคือ "ศาลพ่อตาหินช้าง" *ขออภัยด้วยจร้า จขท. ลืมถ่ายมาให้ดูน่ะ พอเราเห็นป้ายประมาณ บ่าย 2 แล้วเราก็หาดรงเเรมเเละให้นำทางไปในทันที สิ่งที่ท่านจะเจอกับโรงเเรมที่ชื่อว่า................................................
"โรงเเรมภาราดร" (ถึงประมาณ บ่าย 3)
เหตุที่เลือกโรงเเรมนี้เพราะ อยู่ในตัวเมือง ราคาถูก เเละอีกอย่างใกล้กับตลาดโต้รุ่งชุมพรอีกด้วยเดินไปถึงได้
เราก็เอาที่นี้เป็นหลัก ที่จอดรถกลางเเจ้ง Wi-Fi บางห้องไม่ถึง ใครจะนอนที่นี้ต้องปลงนิดหนึง (ตามราคา 360/คืน)
มาถึงห้องก็อาบน้ำพักผ่อน จากความเหนื่อยล้าในการนั่งรถ เเละขับรถ
พอใกล้เย็นๆ ก็หาสถานที่ชิวๆ ธรรมชาติๆ ก็เลยไปที่นี้เลย
"โครงการพระราชดำริหนองใหญ่ (แก้มลิงชุมพร)" ห่างจากที่พักประมาณ 10 กิโลได้
มาถึงประมาณ 5 โมง ธรรมชาติดีมากๆเลย ขอบอก
มีปลามากมายในหนองน้ำนี่ด้วย
มีอาหารปลาให้ด้วย เป็นแบบตู้บริจาค
มีสะพานให้เราเดิน เก๋ๆ ด้วย
เยี่ยมเลย กระโดดโลดเต้นไป 10 รอบได้ 5555555
เมื่อเต็มที่กับการดื่มด่ำธรรมชาติอันสวยหรูเเล้ว เราก็เดินทางกลับกันดีกว่า ออกมาเจอกับเพื่อนเก่าที่เรียนไม่จบ (แอบแซว 55)
หาดูยากน่ะ คนเลี้ยงน้อย
ในขณะที่กำลังนั่งรถกลับก็บ่นๆกับเเฟนว่า เพิ่ง 5 โมงครึ่งเองอ่ะ ก็ไปหาที่ไปพักผ่อนหย่อนใจเพิ่มได้ม่ะก่อนไปเดินตลาดโต้รุ่ง
ในใจคิดว่าในเมืองน่าจะมีสวนสาธารณะมั้งเเหละ หาใน Internet ก็เจอกับ
"สวนอาภากรเกียรติวงศ์"
และภายในสวนสาธารณะแห่งนี้ มีการประดิษฐานพระรูปเสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพรที่ชาวชุมพรนับถือ
ดังนั้นกราบไหว้สักหน่อย
พอได้นั่งเล่นเดินชิวเรียบร้อยขับรถออกจากสวนเลี้ยวซ้ายตรงไปทั้งทั้งถนนก็เป็นถนนคนเดินทั้งสายเเล้ว ก็หาอะไรกิน
เล็กๆน้อยๆ (จขท. ไม่เคยกินเบาๆ 555) วันนี้พอเเค่นีเนอะ
วันที่ 2 จากชุมพร-ตัวเมืองระนอง : ตื่นประมาณ 6 โมงอาบน้ำเเต่งตัวไปหาอะไรกินกัน รองเท้าเบาๆก่อนที่ จขท.
จะไปทำธุระ นี่เลยต้องมาที่นี้ คนชุมพรเเนะนำให้มาคือ ร้านโจ๊กหน้าโรงพยาบาลชุมพร
อร่อยใช้ได้ เลยที่เดียว
พอ จขท. ทำธุระเสร็จประมาณ 9.30 น. ก็เริ่มหิวแหละหาร้านอร่อยๆจาก App กันดีกว่าเจอร้านนี้เลย คอมเม้น
ถล่มถลาย ให้ 4 ดาว 5 ดาวเลยที่เดียวอีกทั้งบอกว่ารอนานมาก ไหนไปพิสูจน์ซิ !!!
"ร้านก๋วยเตี๋ยวท้าพิสูจน์" ร้านจะอยู่เลยแยกปฐมพรไปซ้ายมือ ทางไประนองพอดี
โชคดีตอนมาถึง ยังไม่มีคนมากเท่าไหร่ คงรอไม่นาน
รอไม่ถึง 10 นาทีก็ได้เเล้ว น่ากินๆ หน้าตาดีไม่เลว
พอกินเเล้ว อุ๊ย รสชาติเลิศมาก (แบบชนิดที่ว่า จขท.ไม่เติมเครื่องปรุงอ่ะ เป็นไงล๊า มาลองซะ)
อิ่มแปล้ เรียบร้อยก็ออกเดินทางไป ระนอง กัน ระหว่างทางเขากำลังทำถนนอยู่เลย
ประมาณ 10.30 น. ก็มาถึง "ศิลาจารึกสลักพระปรมาภิไธย ย่อ จปร." ตั้งอยู่ติดกับเส้นแบ่งเขตระหว่าง
จังหวัดระนอง และจังหวัดชุมพร เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนิน ประพาสทางบก
ทางเรือ รอบแหลมมลายู พ.ศ.2433 ตรงกับ ร.ศ.109 และในคราวนั้น ได้เสด็จพระราชดำเนินจากเมืองชุมพร
มาเมืองกระ(กระบุรี) เพื่อตรวจราชการแผ่นดิน และความเป็นอยู่ของราษฎร (ข้อมูลจาก Internet อิอิ ดูดีมีสาระละซี๊)
เอ่อใช่ ลืมบอกไปเลยที่แห่งนี้เนี้ย จะตรงกับด่านทหารตรวจคนอะไรทำนองนี้ด้วย เดินจนแสบหน้าเสร็จเเล้ว
ก็ออกเดินทางต่อ
พอประมาณ 11.00 เราก็เดินทางมาถึง "วัดสุวรรณคีรี ปากจั่น" ที่มีคำว่าปากจั่น เป็นเพราะว่าอยู่ที่ตำบล ปากจั่น
เพราะมีอีกวัดที่ชื่อเหมือนจะอยู่ที่ก่อนเข้าตัวเมืองระนอง เป็นวัดที่เป็นงานศิลปะพม่า (ชเวดากอง)
ยอดเจดีย์บุทองคำหนัก 19 บาท สวยงามไม่น้อย ทางเข้าวัดจะอยู่เลยโรงพักปากจั่นมาประมาณ 500 เมตร ด้านซ้ายมือ
ที่นี่มีเทพทันใจให้ขอพรด้วย (แอบถ่ายเขามาด้วย อิอิ วิธีขอพรเทพทันใจ)
เรามาเเล้ว กราบไหว้เทพทันใจกันหน่อยเนอะ นี่คือของที่กราบไหว้
เมื่อเรากราบไหว้เสร็จเเล้ว เราก็ออกเดินทางต่อไป ไม่ถึง 20 นาทีก็พบกับหมู่บ้าน
"ชุมชนซาลาเปา ทับหลี" ที่นี้ขึ้นชื่อเรื่องซาลาเปาที่มีความเล็กพอดีคำ แป้งน้อย ใส้เยอะ
บอกเลยขอเเวะซื้อกินหน่อย
อืมหืม ขอบอกเลยว่า เด็ด จริง ไม่เหมือนที่อื่นเเน่นอน ใส้เยอะมาก แป้งน้อยจริง ที่อื่นๆที่เราเห็นอาจะเป็นเพียง
เเค่ชื่อแฝงในการขายเท่านั้นเอง ต้องมาลองถึงที่ รับรองไม่เสียใจ
เมื่อออกเดินทางเดินทางยาวเลย ข้างทางเต็มไปด้วย.........................
ใช่เเล้ว พืชเศรษฐกิจ ของบ้านเขา
พอขัยรถมาจนถึงเวลาประมาณ 12.00 น. ก็พบกับ"สะพานละอุ่น"
มีความสวยงามของสีน้ำที่สีเขียว ปกติเเล้วไม่มีใครจอดตรงกลาสะพานนี้น่ะ
เเต่ จขท. จอดถ่านรูป 5555 ไม่รู้ไม่ผิดมั้ง 555555
จากนั้นขับรถมาต่อ เพียงไม่ถึง 15 นาทีเท่านั้นก้ถึง "น้ำตกปุญญาบาล" ตั้งอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติลำน้ำกระบุรี
ติดถนนอยู่ด้านซ้ายมือ เป็นน้ำตกที่ไม่ใหญ่มากนัก มีน้ำไหลแรงตลอดปี แต่มีทิวทัศน์ที่สวย น้ำตกมีทั้งหมด 3 ชั้น
มีต้นน้ำมาจากลำห้วยเล็กๆ ในเขตป่าละอุ่น ป่าราชกูด ชั้นที่ 1ปุญญบาล เป็นชั้นที่สวยที่สุด
ลักษณะเป็นสายน้ำไหลตกลงมาตามเชิงชั้นสูงประมาณ 20 เมตร ร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ ด้านล่างเป็นแอ่งน้ำตื้นๆ
เสียค่าเข้าชมคนละ 20 บาท เหมือนอุทยานธรรมชาติทั่วไป
เอาน้ำตบหน้าเรียบร้อยจนชื่นใจเราก็ออกเดินทางต่อไปยังตัวเมืองระนองกันเลย
ตั้ง Location มาที่ "บ่อน้ำร้อนรักษะวาริน" จะมี 3 บ่อคือ บ่อพ่อ บ่อเเม่ พ่อลูก เเต่ด้วยความร้อนของแดด
จขท. ก็เลยอดเอาโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายภาพ งั้นเอาภาพไอติมแทนเนอะ (50 บาท ถ้วยใหญ่)
บริเวณรอบๆ
เมื่ออิ่มกับน้ำพุร้อนเสร็จเเล้วเราก็ขับรถเข้าตรงไปอีกประมาณ 6 กิโลเมตร เราก็จะพบกับ "วัดหาดส้มแป้น"
เป็นที่ตั้งของศาลาที่ประดิษฐานรูปเหมือนหลวงพ่อคล้าย ซึ่งเป็นพระภิกษุที่ประชาชนในภาคใต้ให้ความเคารพนับถือมาก
และมรณภาพที่วัดนี้
และที่โดดเด่นเลยของวัดนี้คือ มีปลาพวงเป็นจำนวนมากเป็นคลองบริเวณข้างๆวัด
และปลาพวงที่นี้ชอบกิน
มะละกอ (แอบคิดในใจว่า มันจะย่อยได้ไหมเนี้ย)
ต่อจากนั้นเราก็ออกเดินทางต่อไปโดยถามป้าขายอาหารปลาบริเวณเหล่านั้น
เพื่อที่จะเดินทางออกไปต่อที่ "ระนอง แคนยอน" หรืออีกชื่อคือ บึงมรกต
ซึ่งเมื่อสมัยก่อนที่นี้เคยเป็นเหมืองเเร่เก่ามาก่อน
เมื่อเราขับรถออกไปบริเวณข้างทางก็ให้บรรยากาศความรู้สึกที่
ฟิน มากๆ ทั้งป่าเขาเป็นทางเลียบเขา ระมัดระวังกันด้วยน่ะคร้า
เมื่อมาถึงก็มีที่จอดรถเรียบร้อย เราก็ถึงที่หมาย
ที่นี้ยังมีอาหารปลา ขนมปัง จำหน่ายด้วยราคาก็ปะมาณถุงละ 30-50 บาทสำหรับขนมปัง
(อาหารปลาไม่รู้น่ะ ราคาเท่าไหร่ อิอิ)
เมื่อให้อาหารปลาจนชื่นใจเเล้วเราก็ต้องขับรถกลับทางเดิม จุดที่เที่ยวต่อไปคือ
"พระราชวังรัตนรังสรรค์ (จำลอง)" ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขารัตนรังสรรค์ (ใกล้ศาลากลางจังหวัดระนอง) อยู่ในตัวเมือง
โดย "พระยารัตนเศรษฐี" (คอมซิมก๊อง) เจ้าเมืองระนองในขณะนั้น เนื่องด้วยรัชกาลที่ 5
ได้ทรงเสด็จประพาสหัวเมืองปักษ์ใต้ฝ่ายตะวันตกเป็นครั้งแรกที่จะได้เสด็จไปถึงเมืองระนอง
พระยารัตนเศรษฐีจึงได้สร้างพลับพลาที่ประทับรับเสด็จที่บนเนินควนอันอยู่ใจกลางเมือง
เเต่ตอนที่เราไป ปิดไม่ให้เข้าชมด้านในซึ่งน่าเสียดายมากๆเลยทีเดียว
เมื่อชม และเเชะรูปเรียบร้อยเวลาก็ 14.30 น. แล้วก็ควรหาที่พักได้เเล้ว
เราก็เปิด Application ในการหาที่พักที่นอนเราก็ได้ที่นี้เลย
"เพชร ระนอง @ทาวน์ "
ทำการ Check-In เรียบร้อยราคาไม่เเพง 900 บาทเท่านั้นไปดูห้องกันเลยขอบอก
ว่าโอเครกับราคามาก ห้องใหญ่ด้วย
เราก็นอนหลับไหลไปกับสายลมของแอร์ที่เย็นฉ่ำ ตื่นมาก็ตอนเย็นเลยทีเดียวไปกระทู้ต่อไปเลยเนอะ
คลิกลิงค์ต่อไปน่ะจร้า (อักษรเต็มแล้ว)
http://ppantip.com/topic/35042044
รีวิวเที่ยว ชุมพร-ระนอง ไปด้วยกันไม่เบื่อ (ได้ความรู้,รูปเยอะ) part 1
ก่อนออกเดินทางเราต้องเตรียมตัวให้พร้อมดังนี้เลย
1 ควรมี Application ในการเดินทางทั้งหลายเพื่อความสะดวก เเต่อย่าใช้มันมาก มันไปทุกที่ที่มีทาง ทั้งๆบางที เขาห้ามไป 555
2 Application ที่เกี่ยวกับร้านอาหาร อันนี้ขาดไม่ได้เลยจร้า เพราะไปต่างที่เหมือนคนตาบอด สีสันชวนกินเเต่(เบ้ปาก)
3 Application สุดท้ายที่ควรมีคือ เกี่ยวกับที่พัก หลับนอน ใครสะดวกนอนบนรถ ก็เอาที่สบายใจจร่ะ
4 คำที่อยู่ในเครื่องหมาย "" ที่ จขท. เขียนไว้ ท่านสามารถพิมพ์ค้นหาได้ใน App เหล่านี้ได้เลย
ท้าวความ : จขท. ไปช่วงหลังปีใหม่นิดๆกับแฟน (4 มกราคม 2559) พอดีต้องเดินทางไปทำธุระที่ชุมพรก็เลยเเวะไปเที่ยวเมืองระนอง ฝน 8 แดด 4 บ้างไม่พิมพ์มากแหละเริ่มการเดินทางเลย
วันที่ 1 ถึงชุมพร : เมื่อเราเข้าเขตชุมพรสิ่งที่บ่งบอกได้คือ.................ป้าย ฟังไม่ผิด คือป้ายจริงๆ เเต่ถ้าทางประวัติศาสตร์แล้วคือ "ศาลพ่อตาหินช้าง" *ขออภัยด้วยจร้า จขท. ลืมถ่ายมาให้ดูน่ะ พอเราเห็นป้ายประมาณ บ่าย 2 แล้วเราก็หาดรงเเรมเเละให้นำทางไปในทันที สิ่งที่ท่านจะเจอกับโรงเเรมที่ชื่อว่า................................................
"โรงเเรมภาราดร" (ถึงประมาณ บ่าย 3)
เหตุที่เลือกโรงเเรมนี้เพราะ อยู่ในตัวเมือง ราคาถูก เเละอีกอย่างใกล้กับตลาดโต้รุ่งชุมพรอีกด้วยเดินไปถึงได้
เราก็เอาที่นี้เป็นหลัก ที่จอดรถกลางเเจ้ง Wi-Fi บางห้องไม่ถึง ใครจะนอนที่นี้ต้องปลงนิดหนึง (ตามราคา 360/คืน)
มาถึงห้องก็อาบน้ำพักผ่อน จากความเหนื่อยล้าในการนั่งรถ เเละขับรถ
พอใกล้เย็นๆ ก็หาสถานที่ชิวๆ ธรรมชาติๆ ก็เลยไปที่นี้เลย
"โครงการพระราชดำริหนองใหญ่ (แก้มลิงชุมพร)" ห่างจากที่พักประมาณ 10 กิโลได้
มาถึงประมาณ 5 โมง ธรรมชาติดีมากๆเลย ขอบอก
มีปลามากมายในหนองน้ำนี่ด้วย
มีอาหารปลาให้ด้วย เป็นแบบตู้บริจาค
มีสะพานให้เราเดิน เก๋ๆ ด้วย
เยี่ยมเลย กระโดดโลดเต้นไป 10 รอบได้ 5555555
เมื่อเต็มที่กับการดื่มด่ำธรรมชาติอันสวยหรูเเล้ว เราก็เดินทางกลับกันดีกว่า ออกมาเจอกับเพื่อนเก่าที่เรียนไม่จบ (แอบแซว 55)
หาดูยากน่ะ คนเลี้ยงน้อย
ในขณะที่กำลังนั่งรถกลับก็บ่นๆกับเเฟนว่า เพิ่ง 5 โมงครึ่งเองอ่ะ ก็ไปหาที่ไปพักผ่อนหย่อนใจเพิ่มได้ม่ะก่อนไปเดินตลาดโต้รุ่ง
ในใจคิดว่าในเมืองน่าจะมีสวนสาธารณะมั้งเเหละ หาใน Internet ก็เจอกับ
"สวนอาภากรเกียรติวงศ์"
และภายในสวนสาธารณะแห่งนี้ มีการประดิษฐานพระรูปเสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพรที่ชาวชุมพรนับถือ
ดังนั้นกราบไหว้สักหน่อย
พอได้นั่งเล่นเดินชิวเรียบร้อยขับรถออกจากสวนเลี้ยวซ้ายตรงไปทั้งทั้งถนนก็เป็นถนนคนเดินทั้งสายเเล้ว ก็หาอะไรกิน
เล็กๆน้อยๆ (จขท. ไม่เคยกินเบาๆ 555) วันนี้พอเเค่นีเนอะ
วันที่ 2 จากชุมพร-ตัวเมืองระนอง : ตื่นประมาณ 6 โมงอาบน้ำเเต่งตัวไปหาอะไรกินกัน รองเท้าเบาๆก่อนที่ จขท.
จะไปทำธุระ นี่เลยต้องมาที่นี้ คนชุมพรเเนะนำให้มาคือ ร้านโจ๊กหน้าโรงพยาบาลชุมพร
อร่อยใช้ได้ เลยที่เดียว
พอ จขท. ทำธุระเสร็จประมาณ 9.30 น. ก็เริ่มหิวแหละหาร้านอร่อยๆจาก App กันดีกว่าเจอร้านนี้เลย คอมเม้น
ถล่มถลาย ให้ 4 ดาว 5 ดาวเลยที่เดียวอีกทั้งบอกว่ารอนานมาก ไหนไปพิสูจน์ซิ !!!
"ร้านก๋วยเตี๋ยวท้าพิสูจน์" ร้านจะอยู่เลยแยกปฐมพรไปซ้ายมือ ทางไประนองพอดี
โชคดีตอนมาถึง ยังไม่มีคนมากเท่าไหร่ คงรอไม่นาน
รอไม่ถึง 10 นาทีก็ได้เเล้ว น่ากินๆ หน้าตาดีไม่เลว
พอกินเเล้ว อุ๊ย รสชาติเลิศมาก (แบบชนิดที่ว่า จขท.ไม่เติมเครื่องปรุงอ่ะ เป็นไงล๊า มาลองซะ)
อิ่มแปล้ เรียบร้อยก็ออกเดินทางไป ระนอง กัน ระหว่างทางเขากำลังทำถนนอยู่เลย
ประมาณ 10.30 น. ก็มาถึง "ศิลาจารึกสลักพระปรมาภิไธย ย่อ จปร." ตั้งอยู่ติดกับเส้นแบ่งเขตระหว่าง
จังหวัดระนอง และจังหวัดชุมพร เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนิน ประพาสทางบก
ทางเรือ รอบแหลมมลายู พ.ศ.2433 ตรงกับ ร.ศ.109 และในคราวนั้น ได้เสด็จพระราชดำเนินจากเมืองชุมพร
มาเมืองกระ(กระบุรี) เพื่อตรวจราชการแผ่นดิน และความเป็นอยู่ของราษฎร (ข้อมูลจาก Internet อิอิ ดูดีมีสาระละซี๊)
เอ่อใช่ ลืมบอกไปเลยที่แห่งนี้เนี้ย จะตรงกับด่านทหารตรวจคนอะไรทำนองนี้ด้วย เดินจนแสบหน้าเสร็จเเล้ว
ก็ออกเดินทางต่อ
พอประมาณ 11.00 เราก็เดินทางมาถึง "วัดสุวรรณคีรี ปากจั่น" ที่มีคำว่าปากจั่น เป็นเพราะว่าอยู่ที่ตำบล ปากจั่น
เพราะมีอีกวัดที่ชื่อเหมือนจะอยู่ที่ก่อนเข้าตัวเมืองระนอง เป็นวัดที่เป็นงานศิลปะพม่า (ชเวดากอง)
ยอดเจดีย์บุทองคำหนัก 19 บาท สวยงามไม่น้อย ทางเข้าวัดจะอยู่เลยโรงพักปากจั่นมาประมาณ 500 เมตร ด้านซ้ายมือ
ที่นี่มีเทพทันใจให้ขอพรด้วย (แอบถ่ายเขามาด้วย อิอิ วิธีขอพรเทพทันใจ)
เรามาเเล้ว กราบไหว้เทพทันใจกันหน่อยเนอะ นี่คือของที่กราบไหว้
เมื่อเรากราบไหว้เสร็จเเล้ว เราก็ออกเดินทางต่อไป ไม่ถึง 20 นาทีก็พบกับหมู่บ้าน
"ชุมชนซาลาเปา ทับหลี" ที่นี้ขึ้นชื่อเรื่องซาลาเปาที่มีความเล็กพอดีคำ แป้งน้อย ใส้เยอะ
บอกเลยขอเเวะซื้อกินหน่อย
อืมหืม ขอบอกเลยว่า เด็ด จริง ไม่เหมือนที่อื่นเเน่นอน ใส้เยอะมาก แป้งน้อยจริง ที่อื่นๆที่เราเห็นอาจะเป็นเพียง
เเค่ชื่อแฝงในการขายเท่านั้นเอง ต้องมาลองถึงที่ รับรองไม่เสียใจ
เมื่อออกเดินทางเดินทางยาวเลย ข้างทางเต็มไปด้วย.........................
ใช่เเล้ว พืชเศรษฐกิจ ของบ้านเขา
พอขัยรถมาจนถึงเวลาประมาณ 12.00 น. ก็พบกับ"สะพานละอุ่น"
มีความสวยงามของสีน้ำที่สีเขียว ปกติเเล้วไม่มีใครจอดตรงกลาสะพานนี้น่ะ
เเต่ จขท. จอดถ่านรูป 5555 ไม่รู้ไม่ผิดมั้ง 555555
จากนั้นขับรถมาต่อ เพียงไม่ถึง 15 นาทีเท่านั้นก้ถึง "น้ำตกปุญญาบาล" ตั้งอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติลำน้ำกระบุรี
ติดถนนอยู่ด้านซ้ายมือ เป็นน้ำตกที่ไม่ใหญ่มากนัก มีน้ำไหลแรงตลอดปี แต่มีทิวทัศน์ที่สวย น้ำตกมีทั้งหมด 3 ชั้น
มีต้นน้ำมาจากลำห้วยเล็กๆ ในเขตป่าละอุ่น ป่าราชกูด ชั้นที่ 1ปุญญบาล เป็นชั้นที่สวยที่สุด
ลักษณะเป็นสายน้ำไหลตกลงมาตามเชิงชั้นสูงประมาณ 20 เมตร ร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ ด้านล่างเป็นแอ่งน้ำตื้นๆ
เสียค่าเข้าชมคนละ 20 บาท เหมือนอุทยานธรรมชาติทั่วไป
เอาน้ำตบหน้าเรียบร้อยจนชื่นใจเราก็ออกเดินทางต่อไปยังตัวเมืองระนองกันเลย
ตั้ง Location มาที่ "บ่อน้ำร้อนรักษะวาริน" จะมี 3 บ่อคือ บ่อพ่อ บ่อเเม่ พ่อลูก เเต่ด้วยความร้อนของแดด
จขท. ก็เลยอดเอาโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายภาพ งั้นเอาภาพไอติมแทนเนอะ (50 บาท ถ้วยใหญ่)
บริเวณรอบๆ
เมื่ออิ่มกับน้ำพุร้อนเสร็จเเล้วเราก็ขับรถเข้าตรงไปอีกประมาณ 6 กิโลเมตร เราก็จะพบกับ "วัดหาดส้มแป้น"
เป็นที่ตั้งของศาลาที่ประดิษฐานรูปเหมือนหลวงพ่อคล้าย ซึ่งเป็นพระภิกษุที่ประชาชนในภาคใต้ให้ความเคารพนับถือมาก
และมรณภาพที่วัดนี้
และที่โดดเด่นเลยของวัดนี้คือ มีปลาพวงเป็นจำนวนมากเป็นคลองบริเวณข้างๆวัด
และปลาพวงที่นี้ชอบกิน มะละกอ (แอบคิดในใจว่า มันจะย่อยได้ไหมเนี้ย)
ต่อจากนั้นเราก็ออกเดินทางต่อไปโดยถามป้าขายอาหารปลาบริเวณเหล่านั้น
เพื่อที่จะเดินทางออกไปต่อที่ "ระนอง แคนยอน" หรืออีกชื่อคือ บึงมรกต
ซึ่งเมื่อสมัยก่อนที่นี้เคยเป็นเหมืองเเร่เก่ามาก่อน
เมื่อเราขับรถออกไปบริเวณข้างทางก็ให้บรรยากาศความรู้สึกที่
ฟิน มากๆ ทั้งป่าเขาเป็นทางเลียบเขา ระมัดระวังกันด้วยน่ะคร้า
เมื่อมาถึงก็มีที่จอดรถเรียบร้อย เราก็ถึงที่หมาย
ที่นี้ยังมีอาหารปลา ขนมปัง จำหน่ายด้วยราคาก็ปะมาณถุงละ 30-50 บาทสำหรับขนมปัง
(อาหารปลาไม่รู้น่ะ ราคาเท่าไหร่ อิอิ)
เมื่อให้อาหารปลาจนชื่นใจเเล้วเราก็ต้องขับรถกลับทางเดิม จุดที่เที่ยวต่อไปคือ
"พระราชวังรัตนรังสรรค์ (จำลอง)" ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขารัตนรังสรรค์ (ใกล้ศาลากลางจังหวัดระนอง) อยู่ในตัวเมือง
โดย "พระยารัตนเศรษฐี" (คอมซิมก๊อง) เจ้าเมืองระนองในขณะนั้น เนื่องด้วยรัชกาลที่ 5
ได้ทรงเสด็จประพาสหัวเมืองปักษ์ใต้ฝ่ายตะวันตกเป็นครั้งแรกที่จะได้เสด็จไปถึงเมืองระนอง
พระยารัตนเศรษฐีจึงได้สร้างพลับพลาที่ประทับรับเสด็จที่บนเนินควนอันอยู่ใจกลางเมือง
เเต่ตอนที่เราไป ปิดไม่ให้เข้าชมด้านในซึ่งน่าเสียดายมากๆเลยทีเดียว
เมื่อชม และเเชะรูปเรียบร้อยเวลาก็ 14.30 น. แล้วก็ควรหาที่พักได้เเล้ว
เราก็เปิด Application ในการหาที่พักที่นอนเราก็ได้ที่นี้เลย
"เพชร ระนอง @ทาวน์ "
ทำการ Check-In เรียบร้อยราคาไม่เเพง 900 บาทเท่านั้นไปดูห้องกันเลยขอบอก
ว่าโอเครกับราคามาก ห้องใหญ่ด้วย
เราก็นอนหลับไหลไปกับสายลมของแอร์ที่เย็นฉ่ำ ตื่นมาก็ตอนเย็นเลยทีเดียวไปกระทู้ต่อไปเลยเนอะ
คลิกลิงค์ต่อไปน่ะจร้า (อักษรเต็มแล้ว)
http://ppantip.com/topic/35042044