สวัสดีครับ เนื่องในวันสงกรานต์ผมและเพื่อนๆได้หยุดงานยาว เราจึงรวมตัวกันปรึกษากันว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดี ซึ่งก่อนหน้านี้บังเอิญผมได้เข้าไปดูโปรโมชั่นของสวนสยามที่น่าสนใจมาก ประกอบกับที่ผมไม่ได้ไปเที่ยวสวนสนุกแห่งนี้นานมาก น่าจะสิบกว่าปีแล้ว จึงได้เสนอเพื่อนๆไป เพื่อนๆก็เห็นดีเห็นงามด้วย เราจึงตกลงไปเที่ยวสวนสยามทะเลกรุงเทพกันในวันที่ 14 เมษายน ที่ผ่านมา
เราออกเดินทางจากที่พักในจังหวัดปทุมธานี มาถึงสวนสยามเวลาประมาณ 15.30น. หลังจากจัดการเรื่องบัตรผ่านเรียบร้อย เราจึงพากันมุ่งหน้าไปยังสวนน้ำตามที่วางแผนไว้ เพื่อเล่นน้ำดับร้อนให้ชุ่มปอด เริ่มต้นด้วยสไลเดอร์ซูเปอร์สไปรัล อันนี้สนุกดีกินน้ำทางจมูกไปหลายเลย หลังจากนั้นต่อด้วย
สไลเดอร์สีรุ้งไฮไลท์ของสวนน้ำแห่งนี้ อันนี้ผมกับเพื่อนไม่กล้าเล่นที่ระดับสูง เนื่องจากก่อนจะเล่นได้สังเกตุการณ์ เห็นอาตี๋สองท่านพุ่งลงมาด้วยความเร็วสูง ท่านหนึ่งแฉลบกับผิวน้ำจนเกือบถึงขอบสระ อีกท่านพยายามจะยืนทันทีที่พุ่งลงสระ ด้วยความเร็วที่พุ่งลงมาส่งผลให้อาเฮียแกตีลังกาควงสองตลบขาชี้ฟ้าอย่างงดงาม ดุจระบำใต้น้ำ พาให้คณะญาติ อาม่า อากง ทั้งหลายส่งเสียงร้องหวาดเสียวกันยกใหญ่ เมื่อพวกผมเห็นเช่นนั้นแล้ว จึงตกลงลองเล่นที่ระดับล่างกันเพื่อไม่ให้เสียที ที่มาเยือนสวนน้ำแห่งนี้ เริ่มจากเพื่อนเต้ยกับแฟนมัน ซึงแฟนมันตัวใหญ่มากชื่อน้องสตางค์ เจ้าหน้าที่ปล่อยให้ลงไปพร้อมกัน ในจังหวะที่สตางค์พุ่งลงสระ เกิดคลื่นกระแทกน้ำกระจายประหนึ่งสึนามิถล่ม เรียกเสียงฮาให้คณะชาวต่างชาติปรบมือกันสนุกสนาน เพื่อนๆผมทุกคนมีแฟนกันหมดแล้ว จึงลงไปเป็นคู่ๆ เหลือผมหนึ่งหน่อไร้คนข้างกาย จึงได้ไถลลงมาพร้อมกับอาตี๋น้อยจ่ำม่ำแก้มป่อง แค่เพียงไม่กี่วินาทีผมกับเพื่อนตัวน้อยชาวจีนก็พุ่งลงสระน้ำด้านล่าง ในจังหวะที่พุ่งลงสระผมกางขาออก ทำให้ท่านชายปะทะกับผิวน้ำอย่างจังและยังไถลไปเกือบครึ่งสระ วินาทีนั้นปวดร้าวมากแทบทรุดทันทีที่ยืนขึ้น ผมฝืนเก็บอาการเอาไว้ส่งยิ้มให้เพื่อนๆ แต่มันยังไม่จบแค่นั้นเมื่อผมขึ้นจากสระ กางเกงว่ายน้ำเจ้ากรรมตัวน้อยที่เช่ามาถลกขึ้นไปข้างหนึ่ง เผยแก้มก้นขาวอมชมพูให้ประจักษ์แก่สายตาชาวโลก ณ จุดๆนั้นทั้งปวดทั้งอาย ผมรีบดึงกางเกงลงเดินตัวงอด้วยความปวดร้าว หลบเข้าในกลุ่มเพื่อนและพากันไปลงสระน้ำวนต่อจนสวนน้ำปิดในเลา 18.00น.
ออกจากสวนน้ำเราก็พากันหาอะไรลงท้องเล็กน้อย ก่อนจะตลุยกับเครื่องเล่นแบบเบาๆทั้งหลายอย่างสนุกสนาน เมื่อวอร์มอัพกับเครื่องเล่นเบาๆจนได้ที่ เราจึงตกลงปลงใจกันไปเล่นรถไฟเหาะ Vortex กัน มาถึงทางเข้าคิวยาวมากน่าจะเกือบ 200 คนได้ แถวยาวจนล้นออกมาถึงทางเดินเข้าเครื่องเล่นเลยทีเดียว ในขณะที่ยืนเข้าแถวรอคิว บรรดาเพื่อนๆผมก็พากันเมาท์มอยกันไปตามประสา ผมซึ่งโดดเดี่ยวเปลี่ยวใจเห็นเพื่อนยืนกันเป็นคู่ๆคุยกันสนุกสนาน ก็เลยมองกวาดสายตาไปเรื่อยเปื่อย จนสายตาของผมไปสะดุดเข้ากับบางสิ่งซึ่งห่างจากผมไม่กี่ก้าว ตรึงให้ผมจ้องมองอย่างไม่อาจละสายตา
ร่างเพรียวบางเล็กๆ ผิวขาวซีด สูงประมาณ 160 ซม. ผมหยักศกยาวประบ่า ผมส่วนหนึ่งถูกรวบไว้ สวมเสื้อคอกลมแขนยาวสีขาวลายแถบเล็กๆสีเทา กางเกงยีนส์ที่เข้ากับขาเล็กๆ ใบหน้าเล็กๆหมดจดไร้ซึ่งการตกแต่งใดๆ ริมฝีปากสีน้ำตาลอ่อนๆอมชมพู คางเรียวแหลม ตาโต จมูกเล็กๆเป็นสันขนาดพอเหมาะกับใบหน้า เธอสะกดสายตาผมได้อยู่หมัด แวบแรกที่เห็นผมคิดว่าเธอเป็นชาวต่างชาติ ด้วยใบหน้าที่เหมือนกับแหม่มน้อย
จนกระทั่งเธอพูดคุยกับเพื่อนๆเป็นภาษาไทยชัดเจน น้ำเสียงนุ่มๆ รอยยิ้มอันอ่อนหวานงดงามดั่งดวงดารา วินาทีนั้นเหมือนผมหลุดลอยจากสภาพแวดล้อม ซึ่งคราคร่ำไปด้วยผู้คนที่ส่งเสียงสนทนากันวุ่นวาย เธอยืนอยู่ตรงนั้น ไม่ไกลจากฉันเท่าไร แต่ใจกลับไกลเหมือนเราไม่เคยใกล้กัน (ถรุยยยย มาเป็นเพลงเลยทีเดียว) ผมเฝ้ามองเธอตลอดเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงกว่าที่เข้าแถวรอคิว จนกระทั่งเธอขึ้นเครื่องเล่น ซึ่งผมรอเล่นในรอบต่อไป เธอมัดผมรวบทั้งหมดก่อนขึ้นเครื่องเล่น เมื่อเธอขึ้นบนเครื่องเล่นเธอดูกระวนกระวายหวั่นๆ เธอหันมาคุยกับเพื่อนเธอซึ่งเป็นผู้หญิงเหมือนกัน แล้วยิ้มหัวเราะเจื่อนๆ ไม่ว่ามองมุมไหนเธอก็น่ารักมากๆสำหรับผม ที่นั่งทั้ง 20 ที่ถูกดึงขึ้นไปตามรางจนถึงจุดที่สูงที่สุดแล้วดิ่งลงมาตามรางอันคดเคี้ยวเลี้ยววน ผมไม่สามารถมองเห็นเธอได้ชัดเจน เนื่องจากเวลา 20.20น.ซึ่งก็มืดแล้ว ทั้งความเร็วของเครื่องเล่นที่หมุนวนไปตามรางอีก จนกระทั่งครบรอบเครื่องเล่นวนกลับมายังจุดเริ่มต้น สีหน้าเธอซีดเผือกดูเหนื่อยล้าแต่ก็ยังหันมายิ้มกับเพื่อนอย่างน่ารัก ถ้าทำได้ผมอยากเข้าไปช่วยปลดเครืองเล่นและอุ้มเธอลงมา แต่ก็ได้แค่คิด เธอลงจากเครื่องเล่นเดินจากไปกับเพื่อนๆของเธอที่ส่งเสียงคุยกันอย่างสนุกสนาน ช่วงเวลาที่ผมนึกกลับมายังตัวเอง ผมถึงกับสะดุ้งเฮือกอุทานในใจ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ไอสัส !!! ตากูแล้วนี่หว่า!!!
มือเริ่มชา ใจเต้นตุบๆ เจ้าหน้าที่เปิดประตูเข้าเครื่องเล่น ผมได้นั่งกับไอ้มิว ซึ่งแฟนมันนั่งกับเพื่อนผู้หญิงอีกคนที่มากับลูกสาวที่น่ารักทั้ง 2 คน ตัวไอ้มิวเองก็มีลูกสาวหนึ่งคน เครื่องเล่นนี้เด็กๆเล่นไม่ได้ จึงต้องนั่งมองบรรดาพ่อ แม่ และ ลุง ป้า อยู่ด้านนอก ก่อนเล่นสีหน้ามิวดูนิ่งมาก พูดคุยกันปกติ พอเครื่องเล่นดึงที่นั่งขึ้นไปยังจุดสูงสุดของราง เริ่มมีเสียงกรีดร้องเบาๆจากสาวๆด้านหน้า หลังจากนั้นเครื่องเล่นก็ดิ่งพุ่งลงมาตามรางอย่างรวดเร็ว วินาทีที่ดิ่งลงมาผมนี่นึกถึงหน้าพ่อแม่ขึ้นมาเลย เกือบเอาชีวิตไม่รอด แหกปากร้องลั่นระงมกับเสียงบรรดาผู้ร่วมทัวร์ในครั้งนี้ พอเริ่มชินกับความเร็วผมเริ่มสนุก ส่งเสียงโหวกเหวกไปตามจังหวะเลี้ยวหมุน ทั้งเสียวทั้งสนุก มันส์สุดเหวี่ยง (ขอแนะนำให้ลองเล่นถ้ามีโอกาสมาเที่ยวสวนสยาม ไม่รู้ที่อื่นมันส์เหมือนกันมั้ยไม่เคยเล่นอะไรเสียวๆเลย ตอนเด็กเล่นแต่ม้าหมุน แหะๆๆ) ในขณะที่ผมแหกปากอย่างเมามันส์ เกิดสงสัยในชะตาเพื่อนมิวที่นั่งข้าง มิวแมร่งเงียบกริบไม่ร้องซักแอะ ครั้นจะถามเราก็กำลังมันส์กับการแหกปากโหวกเหวกอยู่ พอเครื่องเล่นวนกลับมาครบรอบเจ้าหน้าที่ปลดที่นั่งให้ ผมใส่ร้องเท้าแล้วเดินลงมา เห็นสภาพเพื่อนๆแต่ละคนแล้วฮาลั่น ผมเพร่ากระเซิง ผู้หญิงประคองผู้ชาย ไอมิวหนักสุดพอเดินพ้นออกมาจากเครื่องเล่น ลูกสาววิ่งเอาถุงมาให้ คุณพ่อถึงกับทรุดลงไปอ้วกแตกเลยที่เดียว 555
บรรดาเพื่อนๆผมหมดสภาพขอพักกันก่อน ผมเลยเดินหาดูเครื่องเล่นที่น่าสนใจ ในใจก็คิดถึงแหม่มน้อยคนงาม สุดแสนน่ารัก ที่เจอตอนเล่น Vortex แล้วผมก็ได้เจอเธออีกครั้ง เธอเดินมากับกลุ่มเพื่อนมากันหกคน ชายสามหญิงสาม ผมคิดในใจมาพอดีคู่เลย สงสัยมากับแฟน เธอกับเพื่อนๆเดินไปเรื่อยๆน่าจะหาเครื่องเล่นอยู่ ผมก็เลยมองดูอยู่ห่างๆ เธอจะเดินกันสามคนกับเพื่อนผู้หญิงคุยหยอกล้อกันไป ส่วนหนุ่มๆหน้าตาหล่อเหลาหุ่นลำบึกทั้งสามเดินนำหน้า ผมแอบคิดเข้าข้างตัวเองในใจสงสัยเป็นกลุ่มเพื่อน 555 ในใจผมคิดอยากจะลองเข้าไปคุยกับเธอดู อยากขอเฟสบุ๊คไว้ ถึงไม่ได้จีบก็ขอติดตามเฝ้าดูเธอห่างๆคอยกดไลค์ให้เธอก็ยังดี แต่จนสุดท้ายผมก็ไม่ได้พูดคุยกับเธอ มัวแต่ลังเลจนเธอเดินลับตาไป ยืนเศร้าได้ซักพักเพื่อนๆที่พักเหนื่อยแล้วก็ชวนเล่นเครื่องเล่นเบาๆต่อก่อนสวนปิด ผมจึงทำใจแล้วไปสนุกกับเพื่อนๆต่อ ช่วง 10 นาทีสุดท้ายผมกับเพื่อนได้เล่นเครื่องเล่นที่ชื่อ Break Dance ตอนแรกตั้งใจจะเล่นรถบัมพ์กัน จึงขึ้นหอชมวิวมองหา เห็นไกลๆนึกว่าเป็นรถบัมพ์พากันวิ่งมา มาถึงไม่ใช่นี่หว่าแต่ทำไงได้จะหมดเวลาแล้วต้องเล่นแล้ว พอขึ้นไปเล่น เฮ้ย สนุกดีเว้ยหมุนไปหมุนมา เหวี่ยงๆดี ส่งเสียงเฮฮากับเพื่อนๆส่งท้าย พอเวลา 22.00น. เจ้าหน้าที่หยุดเครื่องเล่น ปิดเพลง ไฟประดับถูกปิดทั้งหมด เหลือเพียงไฟส่องตามทางเดิน จากสวนสนุกครึกครื้นดูเงียบเหงาขึ้นทันตา บรรดานักท่องเที่ยวกลุ่มสุดท้ายรวมพวกผมด้วยไม่กี่สิบคน พากันเดินออกจากสวนสนุกไปยังประตูทางออก ระหว่างเดินทางด้วยความเงียบงันผมก็คิดถึงเธออีกแล้ว...
ตัวผมอายุ 26 ปีแล้ว เป็นคนอัธยาศัยดีคุยได้กับทุกๆคน เฮฮา สนุกสนาน แต่เป็นคนที่จะชอบใครจะรักใครยากมาก ที่ผ่านมาผมจะคุยกันแบบค่อยๆสร้างความสัมพันธ์ขึ้นมา ไม่เคยชอบตั้งแต่แรกเจอ มีอยู่คนหนึ่งเราคุยกันไปไหนมาไหนกันซักระยะ พอเริ่มที่จะเป็นความรัก เราก็ได้เห็นถึงความแตกต่างในหลายๆอย่าง ความต่างทำให้เราไปกันได้ลำบาก ไม่ใช่ไปกันไม่ได้เลย แต่ถ้าคบกันขึ้นมาจริงๆอะไรๆมันก็ไม่ราบรื่น ทุกวันนี้เลยเป็นได้แค่เพื่อนกัน
แต่เธอคนนี้แหม่มน้อยที่ทำให้ผม ผู้ชายที่ไม่เคยมีรักแรกพบ ได้ตกหลุมรักเธอแค่เพียงเฝ้ามองชั่วครู่ เวลานึกถึงใบหน้าเธอ รอยยิ้มของเธอ กริยาต่างๆของเธอ ผมอดยิ้มไม่ได้ ผมรู้สึกมีความสุขที่ได้คิดถึงเธอ
ถึงแม้เธอจะไม่ได้เหลียวมองมา ถึงแม้เธอจะมองข้ามไป ถึงแม้เราจะเป็นแค่คนแปลกหน้า ผมไม่เสียใจเลยที่ได้พบเธอ เธอทำให้ผมได้รู้จักการคิดถึงใครซักคนอย่างมีความสุข โดยไม่ต้องตั้งความหวัง ไม่ต้องเฝ้ารอ แค่เพียงนึกถึงหน้าเธอก็ทำให้ผมมีความสุข สบายใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ผมตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาส่วนหนึ่งเพื่อบอกเล่าถึงประสบการณ์อันแสนสุขใจแม้เป็นช่วงเวลาสั้นๆที่พบเธอ ผมอยากที่จะแบ่งปันเรื่องราวนี้ให้กับเพื่อนๆทุกท่านได้รับรู้ถึงความสุขเล็กๆ อีกส่วนหนึ่งถ้าเผื่อเธอได้มาอ่านบทความนี้ ผมอยากขอเฟสบุ๊คเธอ ถึงเธอจะมีแฟนแล้วหรือไม่มี ผมก็อยากติดตามเฝ้าดูเธอ อยากรู้เธอเป็นอย่างไร อยากรู้ความเป็นไป หากท่านใด คิดว่ารู้จักเธอ เธอที่ไปเที่ยวสวนสยามในวันที่ 14 เมษายน 2559 เธอได้เล่น Vortex เวลาประมาณ
สองทุ่มกว่าๆ สวมเสื้อคอกลมแขนยาวสีขาว มีลายแนวขวางสีเทาแถบเล็กๆ รูปพรรณสัณฐานตามที่กล่าวไปในบทความ ได้โปรดบอกให้เธอทราบถึงบทความนี้ ให้เธอได้รับรู้ว่ามีหนึ่งคนเฝ้ารอที่จะได้ทำความรู้จักกับเธอ แม้เพียงได้เป็นเพื่อนกันก็ยินดีสุดหัวใจแล้ว
_/\_ ขอบคุณที่อ่านจนจบนะครับ อาจจะยืดเยื้อ เพ้อเจ้อไปบ้างต้องขอโทษที่ทำให้ท่านเสียเวลา ขอให้มีความสุข สุขภาพแข็งแรงทั้งกายและใจนะครับ ^__^
ปล.แถมให้หน่อยนึง ผมได้ต่อแถวเล่นเครื่องเล่นบอลลูนเหินฟ้า ระหว่างที่รอเห็นอาหมวยวัยรุ่นคนนึงพาอาม่าขึ้นเครื่องเล่น ตอนแรกอาม่าดมยาดมไม่วาง พอเครื่องเล่นเริ่มเร็วขึ้น อาหมวยหลับตาเกาะราวแน่น อาม่าเลยเอายาดมที่ตัวเองดมให้หลานดม ระหว่างที่เครื่องหมุนด้วยความเร็ว สองมืออาหมวยจับราวแน่นแม้จะมีเข็มขัดนิรภัย แต่อาม่าใช้มือข้างหนึ่งจับราวอีกข้างยื่นยาดมมาที่จมูกหลานอย่างเป็นห่วง พอเครื่องเล่นหยุดลง อาม่าลงมาก่อนแล้วประคองหลานที่ลงมายืนแล้วแทบทรุด คอยๆพากันเดินไปนั่งพัก อาหมวยซบลงบนอกอาม่า มือข้างหนึ่งอาม่าคอยพัดเบาๆให้อาหมวย อีกข้างถือยาดมให้ ภาพที่เห็นทำให้หลายๆคนหัวเราะ ผมเองในตอนแรกก็นึกตลกเหมือนกัน แต่พอลองมองดูดีๆ ได้เห็นถึงความรัก ความห่วงใย ความผูกพันธ์ ของคนในครอบครัวแม้จะต่างวัยกันก็ยังไปด้วยกันได้ ดูแลช่วยเหลือกัน เป็นอีกหนึ่งความสุขที่ได้พบเจอในวันนั้นครับ ^__^
บอกเล่าประสบการณ์เที่ยวสวนสยามในวันสงกรานต์ และพบรักอยากตามหาเธอคนนั้นหากมีโอกาส ♥♥♥
เราออกเดินทางจากที่พักในจังหวัดปทุมธานี มาถึงสวนสยามเวลาประมาณ 15.30น. หลังจากจัดการเรื่องบัตรผ่านเรียบร้อย เราจึงพากันมุ่งหน้าไปยังสวนน้ำตามที่วางแผนไว้ เพื่อเล่นน้ำดับร้อนให้ชุ่มปอด เริ่มต้นด้วยสไลเดอร์ซูเปอร์สไปรัล อันนี้สนุกดีกินน้ำทางจมูกไปหลายเลย หลังจากนั้นต่อด้วย
สไลเดอร์สีรุ้งไฮไลท์ของสวนน้ำแห่งนี้ อันนี้ผมกับเพื่อนไม่กล้าเล่นที่ระดับสูง เนื่องจากก่อนจะเล่นได้สังเกตุการณ์ เห็นอาตี๋สองท่านพุ่งลงมาด้วยความเร็วสูง ท่านหนึ่งแฉลบกับผิวน้ำจนเกือบถึงขอบสระ อีกท่านพยายามจะยืนทันทีที่พุ่งลงสระ ด้วยความเร็วที่พุ่งลงมาส่งผลให้อาเฮียแกตีลังกาควงสองตลบขาชี้ฟ้าอย่างงดงาม ดุจระบำใต้น้ำ พาให้คณะญาติ อาม่า อากง ทั้งหลายส่งเสียงร้องหวาดเสียวกันยกใหญ่ เมื่อพวกผมเห็นเช่นนั้นแล้ว จึงตกลงลองเล่นที่ระดับล่างกันเพื่อไม่ให้เสียที ที่มาเยือนสวนน้ำแห่งนี้ เริ่มจากเพื่อนเต้ยกับแฟนมัน ซึงแฟนมันตัวใหญ่มากชื่อน้องสตางค์ เจ้าหน้าที่ปล่อยให้ลงไปพร้อมกัน ในจังหวะที่สตางค์พุ่งลงสระ เกิดคลื่นกระแทกน้ำกระจายประหนึ่งสึนามิถล่ม เรียกเสียงฮาให้คณะชาวต่างชาติปรบมือกันสนุกสนาน เพื่อนๆผมทุกคนมีแฟนกันหมดแล้ว จึงลงไปเป็นคู่ๆ เหลือผมหนึ่งหน่อไร้คนข้างกาย จึงได้ไถลลงมาพร้อมกับอาตี๋น้อยจ่ำม่ำแก้มป่อง แค่เพียงไม่กี่วินาทีผมกับเพื่อนตัวน้อยชาวจีนก็พุ่งลงสระน้ำด้านล่าง ในจังหวะที่พุ่งลงสระผมกางขาออก ทำให้ท่านชายปะทะกับผิวน้ำอย่างจังและยังไถลไปเกือบครึ่งสระ วินาทีนั้นปวดร้าวมากแทบทรุดทันทีที่ยืนขึ้น ผมฝืนเก็บอาการเอาไว้ส่งยิ้มให้เพื่อนๆ แต่มันยังไม่จบแค่นั้นเมื่อผมขึ้นจากสระ กางเกงว่ายน้ำเจ้ากรรมตัวน้อยที่เช่ามาถลกขึ้นไปข้างหนึ่ง เผยแก้มก้นขาวอมชมพูให้ประจักษ์แก่สายตาชาวโลก ณ จุดๆนั้นทั้งปวดทั้งอาย ผมรีบดึงกางเกงลงเดินตัวงอด้วยความปวดร้าว หลบเข้าในกลุ่มเพื่อนและพากันไปลงสระน้ำวนต่อจนสวนน้ำปิดในเลา 18.00น.
ออกจากสวนน้ำเราก็พากันหาอะไรลงท้องเล็กน้อย ก่อนจะตลุยกับเครื่องเล่นแบบเบาๆทั้งหลายอย่างสนุกสนาน เมื่อวอร์มอัพกับเครื่องเล่นเบาๆจนได้ที่ เราจึงตกลงปลงใจกันไปเล่นรถไฟเหาะ Vortex กัน มาถึงทางเข้าคิวยาวมากน่าจะเกือบ 200 คนได้ แถวยาวจนล้นออกมาถึงทางเดินเข้าเครื่องเล่นเลยทีเดียว ในขณะที่ยืนเข้าแถวรอคิว บรรดาเพื่อนๆผมก็พากันเมาท์มอยกันไปตามประสา ผมซึ่งโดดเดี่ยวเปลี่ยวใจเห็นเพื่อนยืนกันเป็นคู่ๆคุยกันสนุกสนาน ก็เลยมองกวาดสายตาไปเรื่อยเปื่อย จนสายตาของผมไปสะดุดเข้ากับบางสิ่งซึ่งห่างจากผมไม่กี่ก้าว ตรึงให้ผมจ้องมองอย่างไม่อาจละสายตา
ร่างเพรียวบางเล็กๆ ผิวขาวซีด สูงประมาณ 160 ซม. ผมหยักศกยาวประบ่า ผมส่วนหนึ่งถูกรวบไว้ สวมเสื้อคอกลมแขนยาวสีขาวลายแถบเล็กๆสีเทา กางเกงยีนส์ที่เข้ากับขาเล็กๆ ใบหน้าเล็กๆหมดจดไร้ซึ่งการตกแต่งใดๆ ริมฝีปากสีน้ำตาลอ่อนๆอมชมพู คางเรียวแหลม ตาโต จมูกเล็กๆเป็นสันขนาดพอเหมาะกับใบหน้า เธอสะกดสายตาผมได้อยู่หมัด แวบแรกที่เห็นผมคิดว่าเธอเป็นชาวต่างชาติ ด้วยใบหน้าที่เหมือนกับแหม่มน้อย
จนกระทั่งเธอพูดคุยกับเพื่อนๆเป็นภาษาไทยชัดเจน น้ำเสียงนุ่มๆ รอยยิ้มอันอ่อนหวานงดงามดั่งดวงดารา วินาทีนั้นเหมือนผมหลุดลอยจากสภาพแวดล้อม ซึ่งคราคร่ำไปด้วยผู้คนที่ส่งเสียงสนทนากันวุ่นวาย เธอยืนอยู่ตรงนั้น ไม่ไกลจากฉันเท่าไร แต่ใจกลับไกลเหมือนเราไม่เคยใกล้กัน (ถรุยยยย มาเป็นเพลงเลยทีเดียว) ผมเฝ้ามองเธอตลอดเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงกว่าที่เข้าแถวรอคิว จนกระทั่งเธอขึ้นเครื่องเล่น ซึ่งผมรอเล่นในรอบต่อไป เธอมัดผมรวบทั้งหมดก่อนขึ้นเครื่องเล่น เมื่อเธอขึ้นบนเครื่องเล่นเธอดูกระวนกระวายหวั่นๆ เธอหันมาคุยกับเพื่อนเธอซึ่งเป็นผู้หญิงเหมือนกัน แล้วยิ้มหัวเราะเจื่อนๆ ไม่ว่ามองมุมไหนเธอก็น่ารักมากๆสำหรับผม ที่นั่งทั้ง 20 ที่ถูกดึงขึ้นไปตามรางจนถึงจุดที่สูงที่สุดแล้วดิ่งลงมาตามรางอันคดเคี้ยวเลี้ยววน ผมไม่สามารถมองเห็นเธอได้ชัดเจน เนื่องจากเวลา 20.20น.ซึ่งก็มืดแล้ว ทั้งความเร็วของเครื่องเล่นที่หมุนวนไปตามรางอีก จนกระทั่งครบรอบเครื่องเล่นวนกลับมายังจุดเริ่มต้น สีหน้าเธอซีดเผือกดูเหนื่อยล้าแต่ก็ยังหันมายิ้มกับเพื่อนอย่างน่ารัก ถ้าทำได้ผมอยากเข้าไปช่วยปลดเครืองเล่นและอุ้มเธอลงมา แต่ก็ได้แค่คิด เธอลงจากเครื่องเล่นเดินจากไปกับเพื่อนๆของเธอที่ส่งเสียงคุยกันอย่างสนุกสนาน ช่วงเวลาที่ผมนึกกลับมายังตัวเอง ผมถึงกับสะดุ้งเฮือกอุทานในใจ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
มือเริ่มชา ใจเต้นตุบๆ เจ้าหน้าที่เปิดประตูเข้าเครื่องเล่น ผมได้นั่งกับไอ้มิว ซึ่งแฟนมันนั่งกับเพื่อนผู้หญิงอีกคนที่มากับลูกสาวที่น่ารักทั้ง 2 คน ตัวไอ้มิวเองก็มีลูกสาวหนึ่งคน เครื่องเล่นนี้เด็กๆเล่นไม่ได้ จึงต้องนั่งมองบรรดาพ่อ แม่ และ ลุง ป้า อยู่ด้านนอก ก่อนเล่นสีหน้ามิวดูนิ่งมาก พูดคุยกันปกติ พอเครื่องเล่นดึงที่นั่งขึ้นไปยังจุดสูงสุดของราง เริ่มมีเสียงกรีดร้องเบาๆจากสาวๆด้านหน้า หลังจากนั้นเครื่องเล่นก็ดิ่งพุ่งลงมาตามรางอย่างรวดเร็ว วินาทีที่ดิ่งลงมาผมนี่นึกถึงหน้าพ่อแม่ขึ้นมาเลย เกือบเอาชีวิตไม่รอด แหกปากร้องลั่นระงมกับเสียงบรรดาผู้ร่วมทัวร์ในครั้งนี้ พอเริ่มชินกับความเร็วผมเริ่มสนุก ส่งเสียงโหวกเหวกไปตามจังหวะเลี้ยวหมุน ทั้งเสียวทั้งสนุก มันส์สุดเหวี่ยง (ขอแนะนำให้ลองเล่นถ้ามีโอกาสมาเที่ยวสวนสยาม ไม่รู้ที่อื่นมันส์เหมือนกันมั้ยไม่เคยเล่นอะไรเสียวๆเลย ตอนเด็กเล่นแต่ม้าหมุน แหะๆๆ) ในขณะที่ผมแหกปากอย่างเมามันส์ เกิดสงสัยในชะตาเพื่อนมิวที่นั่งข้าง มิวแมร่งเงียบกริบไม่ร้องซักแอะ ครั้นจะถามเราก็กำลังมันส์กับการแหกปากโหวกเหวกอยู่ พอเครื่องเล่นวนกลับมาครบรอบเจ้าหน้าที่ปลดที่นั่งให้ ผมใส่ร้องเท้าแล้วเดินลงมา เห็นสภาพเพื่อนๆแต่ละคนแล้วฮาลั่น ผมเพร่ากระเซิง ผู้หญิงประคองผู้ชาย ไอมิวหนักสุดพอเดินพ้นออกมาจากเครื่องเล่น ลูกสาววิ่งเอาถุงมาให้ คุณพ่อถึงกับทรุดลงไปอ้วกแตกเลยที่เดียว 555
บรรดาเพื่อนๆผมหมดสภาพขอพักกันก่อน ผมเลยเดินหาดูเครื่องเล่นที่น่าสนใจ ในใจก็คิดถึงแหม่มน้อยคนงาม สุดแสนน่ารัก ที่เจอตอนเล่น Vortex แล้วผมก็ได้เจอเธออีกครั้ง เธอเดินมากับกลุ่มเพื่อนมากันหกคน ชายสามหญิงสาม ผมคิดในใจมาพอดีคู่เลย สงสัยมากับแฟน เธอกับเพื่อนๆเดินไปเรื่อยๆน่าจะหาเครื่องเล่นอยู่ ผมก็เลยมองดูอยู่ห่างๆ เธอจะเดินกันสามคนกับเพื่อนผู้หญิงคุยหยอกล้อกันไป ส่วนหนุ่มๆหน้าตาหล่อเหลาหุ่นลำบึกทั้งสามเดินนำหน้า ผมแอบคิดเข้าข้างตัวเองในใจสงสัยเป็นกลุ่มเพื่อน 555 ในใจผมคิดอยากจะลองเข้าไปคุยกับเธอดู อยากขอเฟสบุ๊คไว้ ถึงไม่ได้จีบก็ขอติดตามเฝ้าดูเธอห่างๆคอยกดไลค์ให้เธอก็ยังดี แต่จนสุดท้ายผมก็ไม่ได้พูดคุยกับเธอ มัวแต่ลังเลจนเธอเดินลับตาไป ยืนเศร้าได้ซักพักเพื่อนๆที่พักเหนื่อยแล้วก็ชวนเล่นเครื่องเล่นเบาๆต่อก่อนสวนปิด ผมจึงทำใจแล้วไปสนุกกับเพื่อนๆต่อ ช่วง 10 นาทีสุดท้ายผมกับเพื่อนได้เล่นเครื่องเล่นที่ชื่อ Break Dance ตอนแรกตั้งใจจะเล่นรถบัมพ์กัน จึงขึ้นหอชมวิวมองหา เห็นไกลๆนึกว่าเป็นรถบัมพ์พากันวิ่งมา มาถึงไม่ใช่นี่หว่าแต่ทำไงได้จะหมดเวลาแล้วต้องเล่นแล้ว พอขึ้นไปเล่น เฮ้ย สนุกดีเว้ยหมุนไปหมุนมา เหวี่ยงๆดี ส่งเสียงเฮฮากับเพื่อนๆส่งท้าย พอเวลา 22.00น. เจ้าหน้าที่หยุดเครื่องเล่น ปิดเพลง ไฟประดับถูกปิดทั้งหมด เหลือเพียงไฟส่องตามทางเดิน จากสวนสนุกครึกครื้นดูเงียบเหงาขึ้นทันตา บรรดานักท่องเที่ยวกลุ่มสุดท้ายรวมพวกผมด้วยไม่กี่สิบคน พากันเดินออกจากสวนสนุกไปยังประตูทางออก ระหว่างเดินทางด้วยความเงียบงันผมก็คิดถึงเธออีกแล้ว...
ตัวผมอายุ 26 ปีแล้ว เป็นคนอัธยาศัยดีคุยได้กับทุกๆคน เฮฮา สนุกสนาน แต่เป็นคนที่จะชอบใครจะรักใครยากมาก ที่ผ่านมาผมจะคุยกันแบบค่อยๆสร้างความสัมพันธ์ขึ้นมา ไม่เคยชอบตั้งแต่แรกเจอ มีอยู่คนหนึ่งเราคุยกันไปไหนมาไหนกันซักระยะ พอเริ่มที่จะเป็นความรัก เราก็ได้เห็นถึงความแตกต่างในหลายๆอย่าง ความต่างทำให้เราไปกันได้ลำบาก ไม่ใช่ไปกันไม่ได้เลย แต่ถ้าคบกันขึ้นมาจริงๆอะไรๆมันก็ไม่ราบรื่น ทุกวันนี้เลยเป็นได้แค่เพื่อนกัน
แต่เธอคนนี้แหม่มน้อยที่ทำให้ผม ผู้ชายที่ไม่เคยมีรักแรกพบ ได้ตกหลุมรักเธอแค่เพียงเฝ้ามองชั่วครู่ เวลานึกถึงใบหน้าเธอ รอยยิ้มของเธอ กริยาต่างๆของเธอ ผมอดยิ้มไม่ได้ ผมรู้สึกมีความสุขที่ได้คิดถึงเธอ
ถึงแม้เธอจะไม่ได้เหลียวมองมา ถึงแม้เธอจะมองข้ามไป ถึงแม้เราจะเป็นแค่คนแปลกหน้า ผมไม่เสียใจเลยที่ได้พบเธอ เธอทำให้ผมได้รู้จักการคิดถึงใครซักคนอย่างมีความสุข โดยไม่ต้องตั้งความหวัง ไม่ต้องเฝ้ารอ แค่เพียงนึกถึงหน้าเธอก็ทำให้ผมมีความสุข สบายใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ผมตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาส่วนหนึ่งเพื่อบอกเล่าถึงประสบการณ์อันแสนสุขใจแม้เป็นช่วงเวลาสั้นๆที่พบเธอ ผมอยากที่จะแบ่งปันเรื่องราวนี้ให้กับเพื่อนๆทุกท่านได้รับรู้ถึงความสุขเล็กๆ อีกส่วนหนึ่งถ้าเผื่อเธอได้มาอ่านบทความนี้ ผมอยากขอเฟสบุ๊คเธอ ถึงเธอจะมีแฟนแล้วหรือไม่มี ผมก็อยากติดตามเฝ้าดูเธอ อยากรู้เธอเป็นอย่างไร อยากรู้ความเป็นไป หากท่านใด คิดว่ารู้จักเธอ เธอที่ไปเที่ยวสวนสยามในวันที่ 14 เมษายน 2559 เธอได้เล่น Vortex เวลาประมาณ
สองทุ่มกว่าๆ สวมเสื้อคอกลมแขนยาวสีขาว มีลายแนวขวางสีเทาแถบเล็กๆ รูปพรรณสัณฐานตามที่กล่าวไปในบทความ ได้โปรดบอกให้เธอทราบถึงบทความนี้ ให้เธอได้รับรู้ว่ามีหนึ่งคนเฝ้ารอที่จะได้ทำความรู้จักกับเธอ แม้เพียงได้เป็นเพื่อนกันก็ยินดีสุดหัวใจแล้ว
_/\_ ขอบคุณที่อ่านจนจบนะครับ อาจจะยืดเยื้อ เพ้อเจ้อไปบ้างต้องขอโทษที่ทำให้ท่านเสียเวลา ขอให้มีความสุข สุขภาพแข็งแรงทั้งกายและใจนะครับ ^__^
ปล.แถมให้หน่อยนึง ผมได้ต่อแถวเล่นเครื่องเล่นบอลลูนเหินฟ้า ระหว่างที่รอเห็นอาหมวยวัยรุ่นคนนึงพาอาม่าขึ้นเครื่องเล่น ตอนแรกอาม่าดมยาดมไม่วาง พอเครื่องเล่นเริ่มเร็วขึ้น อาหมวยหลับตาเกาะราวแน่น อาม่าเลยเอายาดมที่ตัวเองดมให้หลานดม ระหว่างที่เครื่องหมุนด้วยความเร็ว สองมืออาหมวยจับราวแน่นแม้จะมีเข็มขัดนิรภัย แต่อาม่าใช้มือข้างหนึ่งจับราวอีกข้างยื่นยาดมมาที่จมูกหลานอย่างเป็นห่วง พอเครื่องเล่นหยุดลง อาม่าลงมาก่อนแล้วประคองหลานที่ลงมายืนแล้วแทบทรุด คอยๆพากันเดินไปนั่งพัก อาหมวยซบลงบนอกอาม่า มือข้างหนึ่งอาม่าคอยพัดเบาๆให้อาหมวย อีกข้างถือยาดมให้ ภาพที่เห็นทำให้หลายๆคนหัวเราะ ผมเองในตอนแรกก็นึกตลกเหมือนกัน แต่พอลองมองดูดีๆ ได้เห็นถึงความรัก ความห่วงใย ความผูกพันธ์ ของคนในครอบครัวแม้จะต่างวัยกันก็ยังไปด้วยกันได้ ดูแลช่วยเหลือกัน เป็นอีกหนึ่งความสุขที่ได้พบเจอในวันนั้นครับ ^__^