นายรณฤทธิ์ ซื่อวาจา หรือ เสี่ยเป้ ผู้จัดการสโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ต้นสังกัด
เผยว่าต้องให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย โดยจะเรียกตัวอาทิตย์มาพูดคุยและฟังคำชี้แจงหากผิดจริงก็จะต้องลงโทษอย่าง แน่นอน ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
นายสุชาติ อินทรรักษ์ ผู้ประสานงานสโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ในฐานะผู้ดูแลนายอาทิตย์ ดาวสว่าง หรือ เจ้าแบ็ค นักฟุตบอลทีมชาติไทย สังกัดสโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางสโมสรต้นสังกัดของนายอาทิตย์ ได้เรียกนายอาทิตย์เข้าไปตำหนิตักเตือนแล้ว รวมถึงตนก็ได้ว่ากล่าวตักเตือนไปด้วย เพราะตนเป็นผู้ดูแลนายอาทิตย์
ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นคิดว่าเป็นความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของนายอาทิตย์ นอกจากนี้ทางเรายังได้ประสานไปทางครอบครัวของน.ส.ก้อยแล้ว เพื่อต้องการพานายอาทิตย์เข้าไปขอขมาต่อพ่อแม่ของน.ส.ก้อย เบื้องต้นพ่อแม่น.ส.ก้อยได้ขอเวลาหารือกับทางครอบครัวก่อน ซึ่งคาดว่าจะได้รับคำตอบหลังเทศกาลสงกรานต์นี้ ส่วนจะเป็นวัน เวลา และสถานที่ใด ต้องขอรอคำตอบจากทางครอบครัวของน.ส.ก้อยก่อน
"ผมเข้าใจ หัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่ เพราะผมก็มีลูกสาวเหมือนกัน หากใครมาทำกับลูกสาวของผมแบบนี้ก็คงจะไม่ยอมแน่ เพราะเรื่องแบบนี้ทำให้เสียชื่อเสียงวงศ์ตระกูลได้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางพ่อแม่ของน.ส.ก้อยยังไม่ได้เรียกร้องอะไรมาทางเรา ส่วนนายอาทิตย์นั้นหลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นก็ได้มาปรึกษาตน อีกทั้งยังมีความกังวลและรู้สึกเครียด โดยนายอาทิตย์เล่าให้ผมฟังด้วยว่า รู้จักกับน.ส.ก้อยมาไม่ถึง 1 ปีและหลังเกิดเรื่องขึ้นก็ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับน.ส.ก้อยเลย ทั้งนี้นายอาทิตย์ยินยอมทำทุกอย่างตามที่ทางครอบครัวต้องการ เพื่อให้เรื่องทุกอย่างจบลงด้วยดี เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากความใจร้อนของนายอาทิตย์ ในส่วนของคดีความที่มีการฟ้องร้องคาดว่าเมื่อได้พูดคุยกับทางพ่อแม่ของ น.ส.ก้อยแล้วก็คงจะไม่มีปัญหาอะไร
คิดว่าทุกอย่างจะจบลงด้วยดี" นายสุชาติกล่าว
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1460683690
ผู้ประสานงานสโมสรSCGเมืองทอง บอกว่า อาทิตย์ ดาวสว่าง รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ... ส่วนเรื่องคดีน่าจะจบลงด้วยดี ..
นายสุชาติ อินทรรักษ์ ผู้ประสานงานสโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ในฐานะผู้ดูแลนายอาทิตย์ ดาวสว่าง หรือ เจ้าแบ็ค นักฟุตบอลทีมชาติไทย สังกัดสโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางสโมสรต้นสังกัดของนายอาทิตย์ ได้เรียกนายอาทิตย์เข้าไปตำหนิตักเตือนแล้ว รวมถึงตนก็ได้ว่ากล่าวตักเตือนไปด้วย เพราะตนเป็นผู้ดูแลนายอาทิตย์ ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นคิดว่าเป็นความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของนายอาทิตย์ นอกจากนี้ทางเรายังได้ประสานไปทางครอบครัวของน.ส.ก้อยแล้ว เพื่อต้องการพานายอาทิตย์เข้าไปขอขมาต่อพ่อแม่ของน.ส.ก้อย เบื้องต้นพ่อแม่น.ส.ก้อยได้ขอเวลาหารือกับทางครอบครัวก่อน ซึ่งคาดว่าจะได้รับคำตอบหลังเทศกาลสงกรานต์นี้ ส่วนจะเป็นวัน เวลา และสถานที่ใด ต้องขอรอคำตอบจากทางครอบครัวของน.ส.ก้อยก่อน
"ผมเข้าใจ หัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่ เพราะผมก็มีลูกสาวเหมือนกัน หากใครมาทำกับลูกสาวของผมแบบนี้ก็คงจะไม่ยอมแน่ เพราะเรื่องแบบนี้ทำให้เสียชื่อเสียงวงศ์ตระกูลได้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางพ่อแม่ของน.ส.ก้อยยังไม่ได้เรียกร้องอะไรมาทางเรา ส่วนนายอาทิตย์นั้นหลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นก็ได้มาปรึกษาตน อีกทั้งยังมีความกังวลและรู้สึกเครียด โดยนายอาทิตย์เล่าให้ผมฟังด้วยว่า รู้จักกับน.ส.ก้อยมาไม่ถึง 1 ปีและหลังเกิดเรื่องขึ้นก็ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับน.ส.ก้อยเลย ทั้งนี้นายอาทิตย์ยินยอมทำทุกอย่างตามที่ทางครอบครัวต้องการ เพื่อให้เรื่องทุกอย่างจบลงด้วยดี เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากความใจร้อนของนายอาทิตย์ ในส่วนของคดีความที่มีการฟ้องร้องคาดว่าเมื่อได้พูดคุยกับทางพ่อแม่ของ น.ส.ก้อยแล้วก็คงจะไม่มีปัญหาอะไร คิดว่าทุกอย่างจะจบลงด้วยดี" นายสุชาติกล่าว
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1460683690