ใครๆก็รู้ว่าวันนี้เป็นวันสงกรานต์ ซึ่งแน่นอนต้องมีความสุขและความสนุกสนานกัน
ซึ่งวันนี้ฉันมีนัดคุยกับแม่สามี ซึ่งแม่ของฉันเป็นคนพาไป พร้อมลูกอีก 2 คน
พอไปถึง ฉันก็พาลูกฉันทั้งสองไปซื้อขนม แล้วค่อยเดินเข้าไปที่บ้านของแม่สามี
พอฉันเข้าไปถึง ประโยคสนทนาจึงเกิดขึ้น
แม่ฉัน : เอามานี้มะ เอาหลาน (คนเล็ก) มาให้เขาดูหน้าหน่อย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้คนเล็กอายุ 5 เดือน 11 วัน
ฉัน : ไม่จำเป็น ไม่จำเป็น
แม่สามี : ในเมื่อไม่จำเป็นก็กลับไปซะ
ฉัน : นี้คุณจะไม่รับผิดชอบเลยหรอ
แม่สามี : ก็ถ้าเธอเลี้ยงไม่ไหว ก็เอามาให้ฉันเลี้ยง เดี๋ยวฉันเลี้ยงให้เอง
ฉัน : ไม่เอา คุณต้องส่งเงินมาให้ฉัน ไม่จำเป็นที่คุณจะต้องเอาหลาน 2 คนนี้ไปเลี้ยงอีกแล้ว
แม่สามี : ฉันคงไม่ส่งเงินให้หรอก เพราะเธอเอาเด็กไปเปลี่ยนชื่อกับนามสกุลหมดแล้ว แล้วเธอจะเปลี่ยนนามสกุลเด็กไปทำไม เธอเอาไป
เปลี่ยนก็ไม่มาบอกฉัน
ฉัน : ที่เอาเด็ก 2 คน ไปเปลี่ยนชื่อและนามสกุลเพราะว่า คุณมาพูดจาดูถูกฉัน หาว่าฉันไปมีคนอื่น คุณรู้หรอว่าตอนที่ฉันกับลูกของคุณเอากัน
คุณไปนั่งดูด้วยหรอ แล้วทีลูกชายของคุณไปทำงานที่กรุงเทพฯ คุณเคยโทรบอกฉันไหม แม้แต่เขาก็ไม่โทรบอกฉันว่าได้งานที่กรุงเทพฯ
แม่สามี : ก็ที่เขาเคยบอกเธอไว้แล้วไงว่า...เขาจะไปแบบไม่ให้เธอหาเจอเลย ก็อย่างที่เธอเคยบอกกับเขาว่า พี่ไม่ต้องไปหรอกเดี๋ยวน้องไปเอง
ฉัน : เหตุผลที่ฉันพูดแบบนั้นเพราะว่า ตัวคุณ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้แม่สามี กับลูกชายของคุณ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้สามี ทะเลาะกันตอนที่ฉันบอกว่าท้อง
แม่สามี : ก็เธอคลอดตอนอายุครรภ์ 39 สัปดาห์ เพราะว่าตอนที่คลอดคนโต ฉันฟันเห็นว่ามีเด็กจะมาอยู่ด้วย แต่กับคนเล็กของเธอฉันฝันไม่
เห็นอะไรเลย
ฉัน : งั้นคุณไปคุยกับคุณหมอไหม เพราะคุณหมอเป็นคนบอกเรื่องกำหนดคลอด อีกอย่างตัวคุณก็นั่งกรรมฐาน แล้วทำไมตัวคุณถึงไม่รู้ว่า เด็ก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ลูก
คนเล็ก คนนี้จะใช่หรือไม่ใช่ลูกหลานของคุณ ในเมื่อคุณนั่งกรรมฐานได้คุณต้องรู้สิว่าเด็กคนนี้เป็นลูกของใคร ทีตอนที่ลูกชายของคุณ
ไปเรียนมหาลัยที่จ.พิษณุโลก ทำไมคุณถึงไม่รู้เรื่องราวที่เกี่ยวกับลูกของคุณ หรือเป็นเหตุเพราะว่า ลูกของคุณไม่ได้อยู่ภายในจ.อุตรดิตถ์ คุณ
ถึงไม่สามารมองเห็นได้ แถมยังพูดอีกว่า ตอนนี้ลูกชายของฉันไปเรียนที่โน้น ฉันจะไม่ยุ่งเรื่องของพวกเธอ ขนาดฉันไม่ได้นั่งกรรมฐานฉันยังรู้
เรื่องบาปบุญคุณโทษเลย แล้วตัวคุณเองนั่งกรรมฐานก็เป็นก็หน้าจะรู้บาปบุญคุณโทษดีกว่าคนอื่นๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ปล.การนั่งกรรมฐาน เป็นการนั่งผ่านทางกาย โดยเป็นการถอดจิต ไปดูสิ่งต่างๆ ใน ณ ที่นี้ ฉันหมายความว่า ในเมื่อคุณ[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้แม่
สามีสามารถถอด
จิตได้ ทำไมคุณถึงไม่ถอดจิตไปดูลูกของคุณที่อยู่ต่างจังหวัดบ้าง เพราะว่าตอนที่ลูกคุณอยู่ที่อุตรดิตถ์คุณรู้ทุกเรื่องเลยหนิ หรือว่าคุณมี spy
อุตรดิตถ์แต่ไม่มี spy ที่พิษณุโลก [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้spy ในที่นี้ ฉันหมายถึง เหมือนพวกสายลับ แต่จริงๆแล้ว คือคนที่รู้จักกัน ที่จะคอยส่งข่าวว่าลูกหลาน
ตัวเองทำอะไรที่ไหนอย่างไร เพราะว่าปกติ แม่สามีก็เป็นคนหน้าใหญ่อยู่แล้ว เพราะว่าเปิดร้านขายยาง (ในความของฉันคือแบบนี้คะ)
แม่สามี : นั้นซิ ขนาดเธอไม่ได้นั่งกรรมฐานยังรู้เรื่องบาปบุญคุณโทษ
ฉัน : แล้วคุณจะเอาอย่างไร จะไม่รับผิดชอบเลยหรือ
แม่สามี : ก็ในเมื่อเธอไม่เห็นหัวฉัน ไม่เห็นว่าฉันเป็นผู้หลักผู้ใหญ่เอาลูกไปเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนนามสกุลหมดแล้วยังไม่บอกฉันด้วย แล้วเธอจะให้
ฉันทำอย่างไร ฉันไม่ให้หรอกเงินหนะ แต่ถ้าให้เลี้ยงได้ เอามา 2 คนเลย เดี๋ยวเลี้ยงให้
ฉัน : สรุปว่าจะไม่รับผิดชอบส่งเงินมาให้ใช่มั้ย
แม่สามี : ก็เธอไปอาละวาดที่โลตัสก่อนทำไมละ
ฉัน : ฉันไม่ได้อาละวาดนะ ฉันแค่ถามว่า...ไหนๆเขาก็มาแล้ว ตรวจ DNA เลยไหม ฉันอาละวาดตรงไหน ฉันไม่ได้เดินไปตบหน้าลูกของคุณ
ซะด้วยซ้ำ ฉันก็แค่ถาม เพราะว่าลูกชายของคุณหาตัวเจอยากมาก โทรไปก็ไม่รับสาย ปิดเครื่องหนีตลอด งั้นคุณเอาเบอร์ของพี่สาวของคุณ
มา ฉันจะได้โทรติดต่อให้พี่สาวของคุณช่วยพูดเรื่องค่าเลี้ยงดูเด็ก
แม่สามี : เธอจะเอาเบอร์ของเขาไปทำไม เธอไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขาหนิ
ฉัน : ใช่ ฉันไม่ได้เกี่ยวข้อง แต่ฉันก็เป็นลูกสะใภ้เก่า แล้วก็มีเลือดเนื้อเชื้อไขตั้ง 2 คน ฉันก็จะโทรไปติดต่อเรื่องส่งเสียค่าเลี้ยงดูเด็ก
แม่สามี : เธอจะไปเอาเขามายุ่งทำไม
ฉันจึงตัดบท ซึ่งรู้แน่ๆว่าเขาไม่ได้แน่นอน
ฉัน : แล้วไม่ทราบว่าคุณจะตรวจ DNA เมื่อไหร่ ตอนที่ลูกชายของคุณมาก็ไม่รู้จักเก็บเส้นผมหรือเล็บเอาไว้ เพราะว่าฉันบริสุทธิ์ใจที่จะตรวจ
รอตรวจตลอด และพร้อมตรวจเสมอ
แม่สามี : ก็เขายังไม่พร้อมตรวจ ก็ตอนปีใหม่ที่เจอกันในโลตัส เขาแค่กลับมาซื้อของมาฉลองกินกับฉัน เขายังไม่ได้พักเลย เดินทางมา
จากกรุงเทพฯ ก็ไปซื้อของที่โลตัสเลย
ฉัน : เอางี้ๆ สรุปจะไม่ส่งเสียค่าเลี้ยงดูใช่มั้ย ถ้าไม่ ไว้ให้ศาลเรียกตัวมาละกัน เพราะตัวฉันอยากตรวจจะแย่แล้ว เพราะว่าฉันไม่ได้มีอะไรปิด
บัง แต่เอาจริงๆ ฉันก็ไม่อยากตรวจหรอกนะ เพราะว่ามันเสียเวลา
แม่สามี : ก็เอาอย่างนั้นก็ได้
ฉัน : งั้นรอยื่นฟ้องละกันเนอะ ให้ศาลเรียกตัวมาตรวจ DNA ให้มันรู้แล้วรู้รอดไป เพราะว่าฉันไม่อยากถูกตราหน้าว่าเป็นนางวันทอง ผู้หญิง 2
ผัวแล้วแม่ของฉันก็บอกว่ากลับเถอะ เดี๋ยวต้องไปทำธุระต่ออีก ฉันก็เลยทิ้งท้ายด้วยประโยคที่ว่า
ฉัน : ก็ดี จะได้รู้ว่าเป็นคนอย่างไง เวลาคนอื่นมาถาม จะได้บอกได้เล่าคนอื่นเขาได้เต็มที่ซะที
แล้วฉันก็เดินขึ้นรถโดยที่ไม่ให้แม่สามีเห็นหน้าของเด็กตัวเล็กเลย ฉันไม่ให้ดูหรอกเพราะอะไรหนะหรือ เพราะว่าแม่สามีมาพูดจาดูถูกฉัน หาว่า
ฉันไปมีคนอื่น หาว่าฉันไปมีชู้ ไม่ยอมรับเด็กที่เกิดมาใหม่เป็นลูกเป็นหลาน เหตุผลแค่เพราะว่า เด็กเกิดมาไม่เหมือนฝั่งสามี แล้วคลอดตอนอายุ
ครรภ์แค่ 39 สัปดาห์
ถามจริงๆเถอะคะ คุณผู้อ่านทุกท่าน เด็กจะคลอด จะไปอั๋นไว้ทำไม ณ ตอนนี้ แค่รอให้ผ่านสงกรานต์ไป แล้วให้น้องน้อยอาการของการท้องผูก
ดีขึ้นก่อน ฉันก็จะไปปรึกษาทนายความ เราขอบอกเลยว่า ตอนนี้ ทั้งแค้นทั้งเกลียดมากๆ ฉันบอกเลย ว่าฉันไม่ได้ยกมือไหว้เลย มาพูดจาดูถูก
เราต้องหน้าลูกคนโตของเรา นับประสาอะไรที่จะไม่ใส่ร้ายป้ายสีเราให้ลูกคนโตของเราฟัง ขอระบายไว้แค่นี้ก่อนนะคะ หรือใครมีเรื่องราวที่เกี่ยว
กับแม่สามีก็สามารถเล่ามาได้เลยคะ พร้อมอ่าน
ขอบคุณนะคะที่อ่านจนจบ
เมื่อฉันกับแม่สามีฉะหน้ากัน
ซึ่งวันนี้ฉันมีนัดคุยกับแม่สามี ซึ่งแม่ของฉันเป็นคนพาไป พร้อมลูกอีก 2 คน
พอไปถึง ฉันก็พาลูกฉันทั้งสองไปซื้อขนม แล้วค่อยเดินเข้าไปที่บ้านของแม่สามี
พอฉันเข้าไปถึง ประโยคสนทนาจึงเกิดขึ้น
แม่ฉัน : เอามานี้มะ เอาหลาน (คนเล็ก) มาให้เขาดูหน้าหน่อย [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ฉัน : ไม่จำเป็น ไม่จำเป็น
แม่สามี : ในเมื่อไม่จำเป็นก็กลับไปซะ
ฉัน : นี้คุณจะไม่รับผิดชอบเลยหรอ
แม่สามี : ก็ถ้าเธอเลี้ยงไม่ไหว ก็เอามาให้ฉันเลี้ยง เดี๋ยวฉันเลี้ยงให้เอง
ฉัน : ไม่เอา คุณต้องส่งเงินมาให้ฉัน ไม่จำเป็นที่คุณจะต้องเอาหลาน 2 คนนี้ไปเลี้ยงอีกแล้ว
แม่สามี : ฉันคงไม่ส่งเงินให้หรอก เพราะเธอเอาเด็กไปเปลี่ยนชื่อกับนามสกุลหมดแล้ว แล้วเธอจะเปลี่ยนนามสกุลเด็กไปทำไม เธอเอาไป
เปลี่ยนก็ไม่มาบอกฉัน
ฉัน : ที่เอาเด็ก 2 คน ไปเปลี่ยนชื่อและนามสกุลเพราะว่า คุณมาพูดจาดูถูกฉัน หาว่าฉันไปมีคนอื่น คุณรู้หรอว่าตอนที่ฉันกับลูกของคุณเอากัน
คุณไปนั่งดูด้วยหรอ แล้วทีลูกชายของคุณไปทำงานที่กรุงเทพฯ คุณเคยโทรบอกฉันไหม แม้แต่เขาก็ไม่โทรบอกฉันว่าได้งานที่กรุงเทพฯ
แม่สามี : ก็ที่เขาเคยบอกเธอไว้แล้วไงว่า...เขาจะไปแบบไม่ให้เธอหาเจอเลย ก็อย่างที่เธอเคยบอกกับเขาว่า พี่ไม่ต้องไปหรอกเดี๋ยวน้องไปเอง
ฉัน : เหตุผลที่ฉันพูดแบบนั้นเพราะว่า ตัวคุณ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ กับลูกชายของคุณ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ทะเลาะกันตอนที่ฉันบอกว่าท้อง
แม่สามี : ก็เธอคลอดตอนอายุครรภ์ 39 สัปดาห์ เพราะว่าตอนที่คลอดคนโต ฉันฟันเห็นว่ามีเด็กจะมาอยู่ด้วย แต่กับคนเล็กของเธอฉันฝันไม่
เห็นอะไรเลย
ฉัน : งั้นคุณไปคุยกับคุณหมอไหม เพราะคุณหมอเป็นคนบอกเรื่องกำหนดคลอด อีกอย่างตัวคุณก็นั่งกรรมฐาน แล้วทำไมตัวคุณถึงไม่รู้ว่า เด็ก [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ คนนี้จะใช่หรือไม่ใช่ลูกหลานของคุณ ในเมื่อคุณนั่งกรรมฐานได้คุณต้องรู้สิว่าเด็กคนนี้เป็นลูกของใคร ทีตอนที่ลูกชายของคุณ
ไปเรียนมหาลัยที่จ.พิษณุโลก ทำไมคุณถึงไม่รู้เรื่องราวที่เกี่ยวกับลูกของคุณ หรือเป็นเหตุเพราะว่า ลูกของคุณไม่ได้อยู่ภายในจ.อุตรดิตถ์ คุณ
ถึงไม่สามารมองเห็นได้ แถมยังพูดอีกว่า ตอนนี้ลูกชายของฉันไปเรียนที่โน้น ฉันจะไม่ยุ่งเรื่องของพวกเธอ ขนาดฉันไม่ได้นั่งกรรมฐานฉันยังรู้
เรื่องบาปบุญคุณโทษเลย แล้วตัวคุณเองนั่งกรรมฐานก็เป็นก็หน้าจะรู้บาปบุญคุณโทษดีกว่าคนอื่นๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แม่สามี : นั้นซิ ขนาดเธอไม่ได้นั่งกรรมฐานยังรู้เรื่องบาปบุญคุณโทษ
ฉัน : แล้วคุณจะเอาอย่างไร จะไม่รับผิดชอบเลยหรือ
แม่สามี : ก็ในเมื่อเธอไม่เห็นหัวฉัน ไม่เห็นว่าฉันเป็นผู้หลักผู้ใหญ่เอาลูกไปเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนนามสกุลหมดแล้วยังไม่บอกฉันด้วย แล้วเธอจะให้
ฉันทำอย่างไร ฉันไม่ให้หรอกเงินหนะ แต่ถ้าให้เลี้ยงได้ เอามา 2 คนเลย เดี๋ยวเลี้ยงให้
ฉัน : สรุปว่าจะไม่รับผิดชอบส่งเงินมาให้ใช่มั้ย
แม่สามี : ก็เธอไปอาละวาดที่โลตัสก่อนทำไมละ
ฉัน : ฉันไม่ได้อาละวาดนะ ฉันแค่ถามว่า...ไหนๆเขาก็มาแล้ว ตรวจ DNA เลยไหม ฉันอาละวาดตรงไหน ฉันไม่ได้เดินไปตบหน้าลูกของคุณ
ซะด้วยซ้ำ ฉันก็แค่ถาม เพราะว่าลูกชายของคุณหาตัวเจอยากมาก โทรไปก็ไม่รับสาย ปิดเครื่องหนีตลอด งั้นคุณเอาเบอร์ของพี่สาวของคุณ
มา ฉันจะได้โทรติดต่อให้พี่สาวของคุณช่วยพูดเรื่องค่าเลี้ยงดูเด็ก
แม่สามี : เธอจะเอาเบอร์ของเขาไปทำไม เธอไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขาหนิ
ฉัน : ใช่ ฉันไม่ได้เกี่ยวข้อง แต่ฉันก็เป็นลูกสะใภ้เก่า แล้วก็มีเลือดเนื้อเชื้อไขตั้ง 2 คน ฉันก็จะโทรไปติดต่อเรื่องส่งเสียค่าเลี้ยงดูเด็ก
แม่สามี : เธอจะไปเอาเขามายุ่งทำไม
ฉันจึงตัดบท ซึ่งรู้แน่ๆว่าเขาไม่ได้แน่นอน
ฉัน : แล้วไม่ทราบว่าคุณจะตรวจ DNA เมื่อไหร่ ตอนที่ลูกชายของคุณมาก็ไม่รู้จักเก็บเส้นผมหรือเล็บเอาไว้ เพราะว่าฉันบริสุทธิ์ใจที่จะตรวจ
รอตรวจตลอด และพร้อมตรวจเสมอ
แม่สามี : ก็เขายังไม่พร้อมตรวจ ก็ตอนปีใหม่ที่เจอกันในโลตัส เขาแค่กลับมาซื้อของมาฉลองกินกับฉัน เขายังไม่ได้พักเลย เดินทางมา
จากกรุงเทพฯ ก็ไปซื้อของที่โลตัสเลย
ฉัน : เอางี้ๆ สรุปจะไม่ส่งเสียค่าเลี้ยงดูใช่มั้ย ถ้าไม่ ไว้ให้ศาลเรียกตัวมาละกัน เพราะตัวฉันอยากตรวจจะแย่แล้ว เพราะว่าฉันไม่ได้มีอะไรปิด
บัง แต่เอาจริงๆ ฉันก็ไม่อยากตรวจหรอกนะ เพราะว่ามันเสียเวลา
แม่สามี : ก็เอาอย่างนั้นก็ได้
ฉัน : งั้นรอยื่นฟ้องละกันเนอะ ให้ศาลเรียกตัวมาตรวจ DNA ให้มันรู้แล้วรู้รอดไป เพราะว่าฉันไม่อยากถูกตราหน้าว่าเป็นนางวันทอง ผู้หญิง 2
ผัวแล้วแม่ของฉันก็บอกว่ากลับเถอะ เดี๋ยวต้องไปทำธุระต่ออีก ฉันก็เลยทิ้งท้ายด้วยประโยคที่ว่า
ฉัน : ก็ดี จะได้รู้ว่าเป็นคนอย่างไง เวลาคนอื่นมาถาม จะได้บอกได้เล่าคนอื่นเขาได้เต็มที่ซะที
แล้วฉันก็เดินขึ้นรถโดยที่ไม่ให้แม่สามีเห็นหน้าของเด็กตัวเล็กเลย ฉันไม่ให้ดูหรอกเพราะอะไรหนะหรือ เพราะว่าแม่สามีมาพูดจาดูถูกฉัน หาว่า
ฉันไปมีคนอื่น หาว่าฉันไปมีชู้ ไม่ยอมรับเด็กที่เกิดมาใหม่เป็นลูกเป็นหลาน เหตุผลแค่เพราะว่า เด็กเกิดมาไม่เหมือนฝั่งสามี แล้วคลอดตอนอายุ
ครรภ์แค่ 39 สัปดาห์
ถามจริงๆเถอะคะ คุณผู้อ่านทุกท่าน เด็กจะคลอด จะไปอั๋นไว้ทำไม ณ ตอนนี้ แค่รอให้ผ่านสงกรานต์ไป แล้วให้น้องน้อยอาการของการท้องผูก
ดีขึ้นก่อน ฉันก็จะไปปรึกษาทนายความ เราขอบอกเลยว่า ตอนนี้ ทั้งแค้นทั้งเกลียดมากๆ ฉันบอกเลย ว่าฉันไม่ได้ยกมือไหว้เลย มาพูดจาดูถูก
เราต้องหน้าลูกคนโตของเรา นับประสาอะไรที่จะไม่ใส่ร้ายป้ายสีเราให้ลูกคนโตของเราฟัง ขอระบายไว้แค่นี้ก่อนนะคะ หรือใครมีเรื่องราวที่เกี่ยว
กับแม่สามีก็สามารถเล่ามาได้เลยคะ พร้อมอ่าน