เรื่องเล่าจากไดอารี่เล่มเก่า...

ช่วงนี้เป็นช่วงที่เราปิดสงกรานต์ ก็ได้กลับมาอยู่บ้านสัปดาห์นึงซึ่งถือว่านานมากสำหรับเราเพราะการเรียนในวิทยาลัยของเรา เเทบจะไม่มีวันหยุดยาวแบบนี้เลยนอกจากปิดเทอมซึ่งปิดเทอมก็หยุดเเค่หนึ่งสัปดาห์เท่านั้น เฮ้อออออออ ถอนหายใจยาวๆ สงกรานต์ปีนี้เลยถือว่าสวรรค์โปรดสุดๆ อมยิ้ม17
        เรื่องนี้ย้อนอดีตไปตอนม.หกหลังอกหักเราได้รู้จักรุ่นพี่คนนึงเค้าชื่อพี่ซี (นามสมมติ)เรารู้จักกันเพราะพี่เค้าเป็นลูกของเพื่อนโกว(น้า)เรา แม่เราเป็นคนขอให้พี่ซีมาสอนพิเศษเราที่บ้านเพราะเราไม่อยากไปเรียนพิเศษข้างนอก ตอนเเรกเราไม่คิดจริงๆว่าพี่เขาจะสอนให้เพราะพี่เขาก็เรียนมหาลัยก็น่าจะเรียนหนักอยู่แล้วแถมยังต้องมีกิจกรรมอะไรอีกเยอะแยะไม่น่าจะมีเวลาว่างพอ แต่พอแม่เราขอพี่เขาก็ตอบรับแบบไม่มีอิดออดเลย เรานี่แบบอึ้งแป๊ป! คือเรามั่นใจว่าพี่เขาต้องปฏิเสธเเน่ๆแต่ที่ไหนได้ไม่ปฏิเสธแถมตอบรับอย่างดิบดี พี่ซีเป็นคนนิ่งๆและไม่ค่อยพูดนะในสายตาเรา แต่เวลาพูดจะออกแนวกวนๆอ่ะ พี่เขาเรียนวิศวะมหาลัยชื่อดังที่มีรถไฟวิ่งผ่ากลางมหาลัย อมยิ้ม19 จะกลับบ้านทุกอาทิตย์(คนดีอีกละ)แล้วก็จะมาสอนพิเศษเราเช้าวันเสาร์กะวันอาทิตย์ สอนพวกฟิสิกส์กับคณิต ซึ่งสองวิชานี้เราโง่มาก 555 ก็มันยากอ่าาา ด้วยความที่เราและพี่ซีเป็นคนที่เงียบพอกันเราก็เลยไม่ได้คุยอะไรกันมาก จะคุยก็แต่เรื่องเรียนนี่แหละ เเล้วเราก็เป็นประเภทหวั่นไหวง่ายอ่ะ ไม่ค่อยมีเพื่อนผู้ชายไงเราก็เลยเขินผู้ชายเกือบทุกคนอ่ะ เขินไว้ก่อนเเล้วอีกอย่างพี่ซีก็ไม่ได้ขี้เหร่อะไรเลย ออกจะดูดีด้วยซ้ำในสายตาเรา เราก็เลยเป็นใบ้ไปเลยตอนอยู่ใกล้ๆพี่เขา เอาจริงๆช่วงเเรกเราไม่ได้รู้สึกอะไรเพราะช่วงนั้นเป็นช่วงที่เราอกหักใหม่ๆทำให้เราเหมือนปิดกั้นตัวเองจากทุกอย่าง พอเวลาผ่านไป เราก็เริ่มดีขึ้นส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะเราคิดถึงพี่ซี ไม่รู้ว่าทำไม คิดอยู่ตลอดว่าเราไม่มีทางชอบพี่เขาแน่ๆเพราะมันไม่เหมือนความรู้สึกที่เราเคยมี คนรอบๆข้างมีแต่คนเชียร์ให้เราชอบพี่เขา ถึงจะคิดอย่างนั้นมันก็เป็นไปไม่ได้อยู่ดี ตั้งแต่เราโดนทิ้ง เราไม่เคยมั่นใจในตัวเองอีกเลย มีเหตุการณ์หลายอย่างนะที่พี่ซีทำแล้วทำให้เราคิดลึกเเละเพ้อคนเดียวอยู่บ่อยๆ แต่สุดท้ายก็ต้องดึงความรู้สึกตัวเองกลับมาเพราะเราก็ยังระเเวงและไม่คิดว่าพี่เขาจะมาสนใจคนอย่างเรา เรากับพี่เขาเจอกันเกือบทุกอาทิตย์เป็นเวลาเกือบหกเดือน เราก็มีชวนพี่ซีไปเที่ยวบ้างแต่ว่าไปกับครอบครัวเรานะ ช่วงปิดเทอมม.6เราได้นัดกับเพื่อนอีกสี่คนว่าเราจะไปเที่ยวดรีมเวิลด์กันและเราก็ชวนพี่ซีไปด้วยพี่เขาก็ตอบตกลง (ดีใจ อมยิ้ม01) และเรื่องราวก็ได้เริ่มขึ้น...
         Diary วันที่ 26 มีนาคม 2557
วันนี้ไปดรีมเวิลด์สนุกสุดยอด ^ ^ ตอนเช้าพวกเราออกจากบ้าน 9 โมง พอรับทุกคนครบ เราก็มุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพทางถนนสายแปดริ้ว เราไปกันทั้งหมด 9 คน มีเรา เเม่กับป๊า เพื่อนเเม่ พี่ซี เพื่อนสี่คน   พี่ซีบอกว่าเพื่อนเราทำไมไปกันเยอะจังแล้วก็ยิ้มแบบเขินๆ ระหว่างทางเราก็บอกให้เพื่อนๆชวนพี่ซีคุยบ้างเพราะกลัวพี่เขาเบื่อ แต่พวกเพื่อนเราที่นั่งด้านหลังก็โม้กันอยู่สี่คน คือเเบบไม่สนใจเรากับพี่ซีเลย (เรากับพี่ซีนั่งเบาะหลังคนขับแล้วก็มีเพื่อนเเม่นั่งข้างเราอีกคน) ส่วนเเม่กับเพื่อนก็คุยกันตามประสาผู้ใหญ่ เราก็คิดว่าเอาแล้วไงบรรยากาศน่าอึดอัดไอ้เราก็ใช่จะคุยเก่งแล้วจะคุยอะไรกับพี่เขาดีล่ะ (ต้องบอกก่อนเลยว่าถึงพี่ซีจะมาสอนพิเศษเราเกือบทุกอาทิตย์แต่เรารู้สึกว่าความสนิทของเรากับพี่ซียังมีน้อยมากกกก) ตอนเเรกเราก็ถามอะไรไปเล่นๆ เรื่องที่พี่เขาไปฝึกงาน(พี่ซีอยู่ปีสี่แล้ว) พี่ซีก็คุยนะพี่เขาบอกว่าจะมาฝึกงานแถวๆแปดริ้ว เราก็ถามว่าพี่เขามาฝึกถึงเมื่อไหร่ พี่ซีก็บอกว่าถึงเดือนพฤษภาคม พอผ่านสถานีรถไฟเราก็ถามว่าพี่มาขึ้นรถไฟตรงนี้ไปมหาลัยหรอ พี่ซีก็บอกว่าใช่ แล้วก็ถามเราว่าเคยขึ้นรึเปล่า เราก็บอกว่าไม่เคยเลย อยากจะพูดต่อว่าพี่จะพามาขึ้นหรอ แต่ก็ไม่กล้า แล้วพี่ซีก็ถามเราว่า
พี่ซี: แล้วไปจองหอแล้วหรอ
เรา: ใช่ (แอบสงสัยว่ารู้ได้ไงแต่ก็ดีใจที่พี่เขาสนใจเรื่องเรา)
พี่ซี: รีบหรอ
เรา: ก็จองไว้ก่อนอ่ะ
พี่ซี: เอาแน่เเล้วหรอ
เรา: ก็เอาไว้ก่อน เผื่อไว้
พี่ซี: แล้วไปสมัครที่ไหนไว้อีกบ้าง
เรา: ก็ พยาบาล อ่ะ
พี่ซี: ที่ชลบุรีอ่ะนะ
เรา: ใช่ค่ะ
พี่ซี: พยาบาลงานหนักนะโว้ย
เรา: หนักก็เรียนได้ แล้วพี่รู้ได้ไง
พี่ซี: เห็นเพื่อนๆบ่นกัน
เรา: อ่อ (แอบคิดว่าดูถูกเราหรอ ถ้าติดจะเรียนให้ดู)
พี่ซี: ได้อยู่แล้วล่ะมั้ง
เรา: ยิ้ม ยิ้ม (ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ไม่กล้าบอกว่าเกรดม.6 เชี่ยมากกกก)
แล้วทุกอย่างก็เงียบ หันไปดูอีกทีพี่เขาหลับไปแล้วเรียบร้อย ไอ้เราก็เล่นเกมส์เเล้วก็หันไปคุยกับเพื่อนข้างหลังบ้าง จากนั้นก็เริ่มรู้สึกว่าหัวพี่ซีค่อยๆเอนมาทางเรา เราก็คิดว่าเดี๋ยวก็คงเอียงกลับไปแหละแต่มันไม่ได้เป็นอย่างนั้น พี่เขาเอียงมาเรื่อยๆจนเเบบว่าหัวพี่เขาซบไหล่เราเลย ตอนนั้นคือเเบบว่าเขินมากกกกก ทำอะไรไม่ถูก ในรถก็ไม่มีใครสนใจเราเลย เพื่อนข้างหลังมันก็คุยกัน ข้างหน้าเค้าก็คุยกันแอบคิดว่ามีใครสนใจกูบ้างไหมเนี่ย กูเขินจะตายแล้ว อมยิ้ม02รู้สึกหน้าร้อนมาก แล้วแบบไม่กล้าเรียกหรือสะกิดพี่เขาเลย ไม่รู้ว่ารู้สึกยังไงกันแน่ระหว่างอยากให้พี่เขาอยู่ใกล้ๆ(กระพือจ้า) หรือเกรงใจกลัวปลุกแล้วพี่เขาเขินพุ่งออกหน้าต่างรถไป 555 (หลงตัวเอง)  เราก็เลยตัดสินใจสะกิดเพื่อนซึ่งกำลังเม้ากันอย่างเมามัน พวกเพื่อนมันก็หันมาแล้วก็หัวเราะอะไรกันไม่รู้คิกคัก เพื่อนคนหนึ่งก็พูดขึ้นมาว่า พี่เขาแกล้งหลับเปล่าวะ เท่านั้นแหละรู้สึกว่าพี่ซีจะตื่น เราก็กลัวพี่เขาจะได้ยิน เพื่อนเรามันก็หัวเราะกันใหญ่ แต่จะบอกว่าเขินมากและรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก อมยิ้ม02
        พอมาถึงดรีมเวิลด์ประมาณ 11 โมง ก็ไปซื้อบัตรเข้าและเข้าไปหาที่นั่ง พอกินข้าวกันอิ่มเราก็เริ่มไปหาอะไรเล่น อย่างเเรกที่เราไปคือ รถบั๊ม ชอบมากเพราะ ถือว่าเป็นครั้งแรกเลยที่เราได้เล่นรถบั๊มนอกนั้นเคยแต่ดูอยู่ห่างๆ  ต่อไปเราก็ไปเล่นรถไฟตะลุยอวกาศถือว่าเป็นเครื่องเล่นอีกอันที่เราชอบมากชอบตรงมันมืดนี่แหละ 555 และเราก็ได้นั่งคู่กับพี่ซีด้วยแหละ ^^ เราก็ถามพี่ซีแบบแซวๆว่าพี่กรี๊ดเปล่าเนี่ย พี่เขาตอบว่ากรี๊ด เรานี่แบบ ฮะ! O_O จริงอ่ะ พอขึ้นไปเล่นพี่เขาก็ไม่ได้กรี๊ดเเบบผู้หญิงอ่ะ พี่เขาก็ร้องแบบว่า ฮู้วววว ! อะไรประมาณนั้น พี่เขาบอกว่าถ้าไม่ร้องก็อาจจะอ้วกไปแล้ว 555 หลังจากนั้นเราก็เล่นเครื่องเล่นอีกหลายๆอย่าง แบบแทบไม่ได้พักเหนื่อยสุดๆแต่ก็สนุก เราอยู่กันจนสวนสนุกเกือบปิด ซึ่งก็คือเวลา 18.00 น. เราสังเกตพี่ซีดูพี่เขาจะเหนื่อยๆเราก็กะจะแซวว่าแก่แล้วก็งี้แหละแต่ไม่เอาดีกว่าสงสารพี่เค้าก็เลยได้แต่มองอยู่ห่างๆอย่างห่วงๆ ขากลับในรถดูเงียบกว่าขามามาก เพื่อนเราเหมือนขึ้นรถมาก็พากันหลับหมด เราก็เลยตั้งใจว่าจะหลับบ้างเพราะเพลียมากๆเลยเอนหลังไปกับเบาะรถ ส่วนพี่ซีพี่เขาหลับไปเรียบร้อยเเล้ว(แอบคิดว่าพี่เขาไปอดหลับอดนอนมาจากไหนเนี่ย) พยายามจะหลับแต่ก็รู้ตัวว่าหลับไม่ลงแน่ๆถ้ามีพี่เขาอยู่ใกล้ๆแบบนี้(หวั่นไหวใจเต้นเเรง) เราก็เลยเอาหมวกมาปิดหน้าไว้เผื่อจะช่วยได้บ้างแต่ก็ไม่หลับอยู่ดี พอทุกอย่างในรถเริ่มเงียบเราก็รู้สึกว่าพี่ซีจะเอียงหัวมาทางเราอีกแล้วอ่ะ ถึงจะมองไม่เห็นเพราะหมวกบังอยู่แต่รู้สึกว่าได้ยินเสียงหายใจคือรู้สึกว่ามีคนมาหายใจอยู่บนหัวเลยอ่ะ คือตอนนั้นสารภาพว่าแอบยิ้มอยู่ภายใต้หมวกและเขินมาก(กระพืออีกแล้วจ้า) พอเราเริ่มมีสติก็คิดเล่นๆว่าถ้าเราแกล้งหลับแล้วเอียงไปซบพี่เขาบ้างจะเป็นยังไง คิดได้ดังนั้นจะรออะไรล่ะ จัดเลย 555  เราก็เริ่มเอียงๆไปแบบเนียนๆแต่ก็ยังยั้งๆไว้บ้าง พอรถขึ้นเนินหรือตกหลุมก็เอียงกลับมาอีกทางทำเหมือนหลับไม่รู้สึกตัว แอบคิดว่าทำไมเราเป็นคนแบบนี้ รู้สึกผิดนิดๆ แต่ก็ไม่รู้อ่ะตอนนั้นรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก พอสักพักพี่เขาก็เอียงหัวมาซบเราอีก เราก็เลยแกล้งเอียงหัวไปบ้างและคิดว่าถ้าหัวโขกกันสักทีพี่เขาคงจะตื่นมั้ง (ใจจริงไม่อยากให้ตื่นแต่ปล่อยไว้มันก็เเขินไงเล่า ><) เราก็เลยเอียงหัวไป โป๊ก! โขกครั้งที่ 1 ก็ยังนิ่ง โป๊ก ! โขกครั้งที่ 2 แรงขึ้น เริ่มขยับแหะ โป๊ก!! โขกครั้งที่ 3 พี่ซีรู้สึกตัวและเขาก็เริ่มขยับออกไปเพราะพี่เขาคงรู้สึกว่าอยู่ใกล้กับเรามาก จนได้ยินเสียงหายใจ 555 (แอบเสียดาย และอายไปพร้อมกันพี่เขาอาจจะรู้ทุกการกระทำที่น่าอายของเราเลยก็ได้ แอร๊ยยยยย เขินจุง คิดแล้วก็ละอายนิดๆ) อยากจะบอกว่าไปเที่ยวครั้งนี้ไม่มีอะไรฟินเท่านั่งรถละ >///< .
       ปล.พอได้อ่านไดอารี่ก็คิดถึงพี่ขึ้นมาเลย ตอนนี้พี่ซีก็จบและทำงานแล้ว เราไม่มีโอกาสได้เจอกันเลย ถ้าพี่ซีได้อ่าน ช่วยตอบหนูหน่อยว่าจริงๆแล้วพี่หลับจริงหรือว่าเเกล้งหลับ?

แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่