สวัสดีคะเพื่อน ๆ ทุกคน วันนี้เราจะมารีวิวการผ่าตัดกระพุงแก้มค่ะ
เราก็เป็นหน้ากลมคนนึงเนอะ ที่อยากมีรูปหน้าเรียวสวยย เลยตัดสินใจผ่าตัดกระพุงแก้ม
เห็นว่ามีกระทู้อื่นแชร์ภาพ before-after กันเยอะละ
เลยว่าวันนี้จะมารีวิวเหตุการณ์ ชอร์ตต่อชอร์ต วันต่อวัน โดยละเอียดเลย หวังว่าจะเป็นข้อมูลที่จะเป็นความรู้
และเป็นข้อมูลช่วยตัดสินใจสำหรับเพื่อนๆ หลายๆ คนที่กำลังสนใจผ่าตัดกระพุงแก้ม
อันนี้เป็นประสบการณ์ส่วนตัวของเราที่เราทำกับคลินิคแห่งหนึ่ง ราคา 2หมื่น สถานที่แนวรถไฟฟ้า ในปี 2559ค่ะ
ทุกๆที่ ทุกๆคุณหมออาจจะมีขันตอนแตกต่างกันไป
ภาคที่ 1 อยากสวย
เริ่มต้นวันนัดปรึกษา
เพื่อนๆ สามารถเข้าไปปรึกษาฟรีได้นะคะ คุณหมอจะประเมินให้เราว่าเอาออกได้เยอะไหม
แต่แน่ๆ ก็คือสามารถทำได้ทุกคนคะ เพราะทุกคนมีไขมันส่วนนี้กันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะอ้วนหรือผอม
เราจะแนะนำวิธีการวัดไขมันที่จะเอาออกคราวๆ นะ (ถ้าอยากรู้จริงต้องถามหมอเลย)
1 ลองหยิกแก้มตัวเองเลยคะ แก้มส่วนล่าง ใต้จมูก ซ้าย- ขวา ดึงมันขึ้นมาไอ้ตรงนั้นนะ ไขมัน !!
2 ลองเอาลิ้นเรานี่แหละ ดุนๆ ตรงกระพุ้งแก้มเราจากในปาก ส่วนที่มันเป็นก้อนๆ ก็คือไขมันที่เรากำลังคิดจะกำจัดนั้นเอง
หากตัดสินใจแล้วววว ว่าไขมันมีเยอะดีนะ อืมม.....ควรจะเอาออกนะ+ มีเงินจ่ายนะ +ไม่กล้วเจ็บนะ ก็ลุยอ่านวิธีการเตรียมตัวต่อเลยค่ะ
ขั้นตอนการเตรียมตัวนั้นง่ายค่ะ
1เตรียมตัง
2เตรียมใจ
3เตรียม cool pack ประคบเย็นคะ
4 หนึ่งอาทิตย์ก่อนผ่าตัด งดบุหรี่-แอลกดฮอล์- ยาaspirin วิตามิน อาหารเสริม
5 เตรียมอาหารไม่เผ็ด ไม่ร้อน ไม่แข็งสำหรับหลังผ่าคะ เราเตรียมโยเกิร์ตและนมเลย อย่างอื่นคิดไม่ออก
หมดละะ
ภาคที่ 2 อดทนเพื่อความสวย
และในที่สุดดดด ก็มาถึงวันผ่าตัดกระพุงแก้ม
วันที่ 1 วันผ่าตัด
ก่อนทำเพื่อนๆ ควรนอนหลับให้เพียงพอ แปรงฟันหน่อยและไม่ต้องแต่งหน้ามานะคะ
มาถึงคลินิคตรงเวลา ขั้นตอนแรกเลยย คือกรอกประวัติและเซ็นเอกสารยินยอมรับความเสี่ยงคะ
การศัลยกรรมทุกชนิดมีความเสี่ยง คนอยากสวยควรตัดสินใจและยอมรับความเสี่ยงเองนะคะ
มีอะไรบ้าง เช่นไม่เห็นผล แก้มไม่เท่ากัน อักเสบและอื่นๆคะ
เรียบร้อยแล้วก็จ่ายเงินเลยค่าา กระเป๋าตังเบาาาทันที เพราะเรากดเป็นเงินสดมาค่ะ บัตรเครดิตชาร์ต 3%
แล้วก็ต่อด้วยวัดความดัน + กินยาคะ ประมาณ6เม็ดแล้วก็รอยาออกฤทธิ์
พบคุณหมอเพื่อซักถามอีกครั้ง และมาร์กจุดบนแก้มส่วนที่จะทำการผ่าตัด
ผ่านไปสัก 15 นาที ก็มีพี่พนักงานคนสวยมาเรียกไปใส่เสื้อคลุมและหมวกเตรียมออกรบค่ะ
บวนน้ำยาป้วนปากอีกครั้ง เพื่อความสบายจมูกของคุณหมอ และขึ้นเตียงเลยย
โอยยตื่นเต้นมากคะ หัวใจเต้นเร็วมากๆๆ ตุบๆ ตุบๆ ตุบๆ ตุบๆ ตุบๆ ตุบๆ
วัดความดันอีกรอบ และมีคลิปหนีบนิ้ววัดชีพจรตลอดการศัลยกรรม
เอาละ จะเริ่มเรื่องความเจ็บปวดละคะ เจ็บที่สุดก็ตอนนี้ละค่ะ ฉีดชายาจ้าา
ฉีดยาชา เจ็บจริงๆนะ ฉีดข้างละ 3 จึกได้ ด้านขวา หนึ่งโอย สองโอย สามโอยย
ด้านซ้าย หนึ่งโอย สองโอย สามโอยย T_T แล้วคุณหมอก็เอามือไปนวดๆคะให้ยามันกระจายๆ
ความรู้สึกในช่องปาก...... โอยย ลิ้นชา ริมฝีมากชา แก้มบวมตุ่ยๆเหมือนอมมะนาว
กลืนน้ำลายไม่ค่อยลง แต่ก็ต้องพยายามกลืนไปตลอดการผ่าตัดนะคะ
น้ำลายเต็มปากหมอก็ผ่าไม่ได้นะคะ อิอิ
รอ รอ รออีกคะ สัก 5-10 นาที รอยาชาออกฤทธิ์
คุณหมอก็น่ารักคะ พยายามคุยให้หายตืนเต้น แต่เปล่าเลยคะ ตืนเต้นกว่าเดิมม โอ้ พระเจ้า หัวใจจะหลุดออกมาแย้วว
เวลาผ่านไป ยาชาออกฤทธิ์ หมอก็เริ่มลงมือเลยคะ
สิ่งที่เราควรทำก็คือ ทำตามหมอบอกคะ อย่าไปดื้อไปเถียงนะคะ โดยหลักๆที่หมอให้เราทำก็คือ
อ้าปากกว้างๆ หมอก็ตัดๆดึงๆในปากเรา แล้วก็หุบปากค่ะ กลืนน้ำลาย
อ้าปากกว้างๆ หมอก็ตัดๆดึงๆในปากเรา แล้วก็หุบปากค่ะ กลืนน้ำลาย
อ้าปากกว้างๆ หมอก็ตัดๆดึงๆในปากเรา แล้วก็หุบปากค่ะ กลืนน้ำลาย
วนๆๆ อยุ่จนเสร็จ ถามว่าเจ็บไหม ยังเจ็บสิคะ แต่มันเป็นความเจ็บแบบทนได้ๆ
ผ่านไปกี่นาทีไม่รู้ จนเสร็จจ เย้ๆๆ หมอก็ขอโชว์ผลงานงาน ไขมันของเราที่เอาออกคะ
ของเรานะ ขนาด 3/4 ของนิ้วโป้งมือเรานะ 2 ก้อน หมอบอกว่าก็เอาออกปานกลางถึงมากคะ เพราะว่าเราหน้ากลมม อิอิ
พอเสร็จก็ประคบน้ำเเข็งค่ะ ประมาณ 15 นาที /รับยา และฟังข้อควรปฎิบัติในการดูแลรักษาแผลดังนี้
1 ประคบเย็น 2 วันแรก + วันที่ 3 ประคบอุ่นคะ
2 นอนหมอนสูงคะ
3 งดอาหาร เผ็ด ร้อน แข็งค่ะ เพราะมันจะไปรบกวนแผล
4 งดออกกำลังกาย และการกระทำที่ทำให้เลือดสูบฉีดเร็วคะ เดวเลือดจะออกตามแผล
5 ที่สำคัญคะ ทานยาตาามที่สั่งคะ ยาแก้ปวด แก้บวม กินเถอะชิวิตจะไม่ลำบาก ฮ่าๆ
หน้าเราก่อนออกจากคลินิค อืมมม ดูหน้าไม่บวมขึ้นจากก่อนเริ่มผ่าตัดเลยนะ
โอเคเลย คือเราคาดว่าหน้าเราคงเรียวลงแล้วละ แต่ด้วยความที่มันอักเสบก็เลยจะดูตุ่ยๆ รอมันยุบค่ะ
จบภาค 2 แต่เดี๋ยวก่อนนน.......... บาดเเผลและความเจ็บปวดจะเข็มข้นขึ้นภาค 3 แน่นอนค่ะ
ภาค 3 ลุ้นรอสวย
เอาละ ๆๆๆ ใครที่คิดว่ารอดแล้ว อย่าเพิ่งดีใจไป เพราะจุดพีคของเรื่องนี้กำลังจะเริ่มภายใน 3-4 ชั่วโมงหลังผ่าตัดค่ะ
มันคือ... แต่น ๆ เเต่น ๆ แต่นๆ ยาชาหมดฤทธิ์เจ้าค่าา
ทางที่ดีที่สุด ของที่สุด ของที่สุด ของที่สุด คือรีบกลับบ้าน -อาบน้ำ- เปิดแอร์ -นอนน
แต่ปัญหาคือเรานอนไม่หลับนะสิ ก็มันยังไม่ถึงเวลานอนนิ เศร้าจัง
มันเริ่มเจ็บละค่ะ จากข้างที่เราผ่าก่อน ระดับความเจ็บ: มาก มาก มาก
ใครว่าไม่เจ็บ ไม่จริงงง กระดาษบาดยังเจ็บ ประตูหนีบยังเจ็บ ครั้งนี้ผ่า -ดึง -เย็บ จะไม่เจ็บได้ไงง
สรุปสภาพช่องปาก at the end of day 1 โหเขียนมาตั้งเยอะเพิ่มจบ day 1
อ้าได้ 1/5
ยิ้มได้ 1/5
แก้มตึง 5/5
บรรเทาความเจ็บโดยประคบเย็นคะ และรีบนอนให้เร็วที่สุด ราตรีสวัสดิ์
วันที่ 2
กูดมอร์นิ่ง !! ขอบคุณนะคะที่ตามอ่านกันมา มาเริ่มกันต่อเลยดีกว่านะ
ตื่นมา**** เจ็บคะ
อ้าได้ 2/5
ยิ้มได้ 2/5
แก้มตึง 5/5
หน้ายุบเรียวหรือยัง ยังจ้าาาาา
บรรเทาความเจ็บโดยประคบเย็นคะ
อาหารที่เราจะทาน โยเกิร์ต โยเกิร์ต **เราจัดไดเดตคอร์สเลยคะ
เผื่อจะหุ่นเพรยวหน้าสวยไปพร้อมๆกัน
แล้วอย่าลืมกินยานะคะ
วันที่ 3
เจ็บ 3/5 คะ
แค่รู้สึกตึงๆ ที่แผล หลังกินหรือพูดมากๆ เพราะใช้กล้ามเนื้อเยอะไป
วันที่ 4 วันนี้เริ่มประคบร้อนคะ และเป็นวันที่หน้าเริ่มบวมขึ้นมาคะ บวมตุ่ยๆ ออกไปทำงานมีคนทักเยอะเลย
วันที่ 5-8 ยังบวมอยู่คะ บวมกว่าหน้าปกติก่อนเริ่มทำอีก
ข้อระวังและข้อควรสังเกต
1 ควรสังเกตตัวเองว่าอาการเจ็บและปวดในแต่ละวันเป็นอย่างไร และทุกๆวันควรเจ็บลดลงๆ
หากเจ็บมากขึ้นควรติดต่อแพทย์ด่วน
2 แก้มด้านนอกส่วนที่บวม ควรกดๆๆ ดูแล้วไม่บวมและป่องจนกดไม่ลง
หากมีอาการดังกล่าวควรกลับไปให้คุณหมอดูคะ
สรุป ผลงานคะ
ความพึงพอใจ ในช่วง 6 เดือน -1 ปีแรก : มากๆๆ ถึงมากที่สุด
เนื่องจากเป็นคนที่มีทั้ง แก้มใหญ่ และกรามใหญ่คะ
ตอนที่ทำการผ่ากระพุ้งแก้ม คุณหมอมีแนะนำให้ฉีดโบทอกไปด้วย เป็นของเกาหลีคะ
ผลลัพธิ์ คือ เรียวมากก เรียวงาม มีแต่คนทักว่าผอมลงเลยคะ อิอิ
หลังจาก ในช่วง 6 เดือน -1 ปีแรก
ความพึงพอใจ : ปานกลางคะ
เนื่องจากโบทอกหมดฤทธิ์คะ แล้วไม่ได้ไปฉีดเพิ่ม ทำให้แก้มหายไปแต่ยังไม่กรามอยู่คะ
ทำให้ดูหน้าเรียวลงกว่าตอนทำ นิดนึง (ไม่มากคะ)
แต่ก็ยังมีข้อดีคือ เมื่อไรที่อ้วนขึ้น ก็จะไม่ดูอ้วนมากคะ เนื่องจากไขมันตรงแก้มไม่มีอยู่แล้ว
ขอขอบคุณทุกคนสำหรับการติดตามนะคะ
[CR] รีวิว ผ่าตัดกระพุงแก้ม อย่างละเอียด ทุกขั้นตอนค่าา
เราก็เป็นหน้ากลมคนนึงเนอะ ที่อยากมีรูปหน้าเรียวสวยย เลยตัดสินใจผ่าตัดกระพุงแก้ม
เห็นว่ามีกระทู้อื่นแชร์ภาพ before-after กันเยอะละ
เลยว่าวันนี้จะมารีวิวเหตุการณ์ ชอร์ตต่อชอร์ต วันต่อวัน โดยละเอียดเลย หวังว่าจะเป็นข้อมูลที่จะเป็นความรู้
และเป็นข้อมูลช่วยตัดสินใจสำหรับเพื่อนๆ หลายๆ คนที่กำลังสนใจผ่าตัดกระพุงแก้ม
อันนี้เป็นประสบการณ์ส่วนตัวของเราที่เราทำกับคลินิคแห่งหนึ่ง ราคา 2หมื่น สถานที่แนวรถไฟฟ้า ในปี 2559ค่ะ
ทุกๆที่ ทุกๆคุณหมออาจจะมีขันตอนแตกต่างกันไป
ภาคที่ 1 อยากสวย
เริ่มต้นวันนัดปรึกษา
เพื่อนๆ สามารถเข้าไปปรึกษาฟรีได้นะคะ คุณหมอจะประเมินให้เราว่าเอาออกได้เยอะไหม
แต่แน่ๆ ก็คือสามารถทำได้ทุกคนคะ เพราะทุกคนมีไขมันส่วนนี้กันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะอ้วนหรือผอม
เราจะแนะนำวิธีการวัดไขมันที่จะเอาออกคราวๆ นะ (ถ้าอยากรู้จริงต้องถามหมอเลย)
1 ลองหยิกแก้มตัวเองเลยคะ แก้มส่วนล่าง ใต้จมูก ซ้าย- ขวา ดึงมันขึ้นมาไอ้ตรงนั้นนะ ไขมัน !!
2 ลองเอาลิ้นเรานี่แหละ ดุนๆ ตรงกระพุ้งแก้มเราจากในปาก ส่วนที่มันเป็นก้อนๆ ก็คือไขมันที่เรากำลังคิดจะกำจัดนั้นเอง
หากตัดสินใจแล้วววว ว่าไขมันมีเยอะดีนะ อืมม.....ควรจะเอาออกนะ+ มีเงินจ่ายนะ +ไม่กล้วเจ็บนะ ก็ลุยอ่านวิธีการเตรียมตัวต่อเลยค่ะ
ขั้นตอนการเตรียมตัวนั้นง่ายค่ะ
1เตรียมตัง
2เตรียมใจ
3เตรียม cool pack ประคบเย็นคะ
4 หนึ่งอาทิตย์ก่อนผ่าตัด งดบุหรี่-แอลกดฮอล์- ยาaspirin วิตามิน อาหารเสริม
5 เตรียมอาหารไม่เผ็ด ไม่ร้อน ไม่แข็งสำหรับหลังผ่าคะ เราเตรียมโยเกิร์ตและนมเลย อย่างอื่นคิดไม่ออก
หมดละะ
ภาคที่ 2 อดทนเพื่อความสวย
และในที่สุดดดด ก็มาถึงวันผ่าตัดกระพุงแก้ม
วันที่ 1 วันผ่าตัด
ก่อนทำเพื่อนๆ ควรนอนหลับให้เพียงพอ แปรงฟันหน่อยและไม่ต้องแต่งหน้ามานะคะ
มาถึงคลินิคตรงเวลา ขั้นตอนแรกเลยย คือกรอกประวัติและเซ็นเอกสารยินยอมรับความเสี่ยงคะ
การศัลยกรรมทุกชนิดมีความเสี่ยง คนอยากสวยควรตัดสินใจและยอมรับความเสี่ยงเองนะคะ
มีอะไรบ้าง เช่นไม่เห็นผล แก้มไม่เท่ากัน อักเสบและอื่นๆคะ
เรียบร้อยแล้วก็จ่ายเงินเลยค่าา กระเป๋าตังเบาาาทันที เพราะเรากดเป็นเงินสดมาค่ะ บัตรเครดิตชาร์ต 3%
แล้วก็ต่อด้วยวัดความดัน + กินยาคะ ประมาณ6เม็ดแล้วก็รอยาออกฤทธิ์
พบคุณหมอเพื่อซักถามอีกครั้ง และมาร์กจุดบนแก้มส่วนที่จะทำการผ่าตัด
ผ่านไปสัก 15 นาที ก็มีพี่พนักงานคนสวยมาเรียกไปใส่เสื้อคลุมและหมวกเตรียมออกรบค่ะ
บวนน้ำยาป้วนปากอีกครั้ง เพื่อความสบายจมูกของคุณหมอ และขึ้นเตียงเลยย
โอยยตื่นเต้นมากคะ หัวใจเต้นเร็วมากๆๆ ตุบๆ ตุบๆ ตุบๆ ตุบๆ ตุบๆ ตุบๆ
วัดความดันอีกรอบ และมีคลิปหนีบนิ้ววัดชีพจรตลอดการศัลยกรรม
เอาละ จะเริ่มเรื่องความเจ็บปวดละคะ เจ็บที่สุดก็ตอนนี้ละค่ะ ฉีดชายาจ้าา
ฉีดยาชา เจ็บจริงๆนะ ฉีดข้างละ 3 จึกได้ ด้านขวา หนึ่งโอย สองโอย สามโอยย
ด้านซ้าย หนึ่งโอย สองโอย สามโอยย T_T แล้วคุณหมอก็เอามือไปนวดๆคะให้ยามันกระจายๆ
ความรู้สึกในช่องปาก...... โอยย ลิ้นชา ริมฝีมากชา แก้มบวมตุ่ยๆเหมือนอมมะนาว
กลืนน้ำลายไม่ค่อยลง แต่ก็ต้องพยายามกลืนไปตลอดการผ่าตัดนะคะ
น้ำลายเต็มปากหมอก็ผ่าไม่ได้นะคะ อิอิ
รอ รอ รออีกคะ สัก 5-10 นาที รอยาชาออกฤทธิ์
คุณหมอก็น่ารักคะ พยายามคุยให้หายตืนเต้น แต่เปล่าเลยคะ ตืนเต้นกว่าเดิมม โอ้ พระเจ้า หัวใจจะหลุดออกมาแย้วว
เวลาผ่านไป ยาชาออกฤทธิ์ หมอก็เริ่มลงมือเลยคะ
สิ่งที่เราควรทำก็คือ ทำตามหมอบอกคะ อย่าไปดื้อไปเถียงนะคะ โดยหลักๆที่หมอให้เราทำก็คือ
อ้าปากกว้างๆ หมอก็ตัดๆดึงๆในปากเรา แล้วก็หุบปากค่ะ กลืนน้ำลาย
อ้าปากกว้างๆ หมอก็ตัดๆดึงๆในปากเรา แล้วก็หุบปากค่ะ กลืนน้ำลาย
อ้าปากกว้างๆ หมอก็ตัดๆดึงๆในปากเรา แล้วก็หุบปากค่ะ กลืนน้ำลาย
วนๆๆ อยุ่จนเสร็จ ถามว่าเจ็บไหม ยังเจ็บสิคะ แต่มันเป็นความเจ็บแบบทนได้ๆ
ผ่านไปกี่นาทีไม่รู้ จนเสร็จจ เย้ๆๆ หมอก็ขอโชว์ผลงานงาน ไขมันของเราที่เอาออกคะ
ของเรานะ ขนาด 3/4 ของนิ้วโป้งมือเรานะ 2 ก้อน หมอบอกว่าก็เอาออกปานกลางถึงมากคะ เพราะว่าเราหน้ากลมม อิอิ
พอเสร็จก็ประคบน้ำเเข็งค่ะ ประมาณ 15 นาที /รับยา และฟังข้อควรปฎิบัติในการดูแลรักษาแผลดังนี้
1 ประคบเย็น 2 วันแรก + วันที่ 3 ประคบอุ่นคะ
2 นอนหมอนสูงคะ
3 งดอาหาร เผ็ด ร้อน แข็งค่ะ เพราะมันจะไปรบกวนแผล
4 งดออกกำลังกาย และการกระทำที่ทำให้เลือดสูบฉีดเร็วคะ เดวเลือดจะออกตามแผล
5 ที่สำคัญคะ ทานยาตาามที่สั่งคะ ยาแก้ปวด แก้บวม กินเถอะชิวิตจะไม่ลำบาก ฮ่าๆ
หน้าเราก่อนออกจากคลินิค อืมมม ดูหน้าไม่บวมขึ้นจากก่อนเริ่มผ่าตัดเลยนะ
โอเคเลย คือเราคาดว่าหน้าเราคงเรียวลงแล้วละ แต่ด้วยความที่มันอักเสบก็เลยจะดูตุ่ยๆ รอมันยุบค่ะ
จบภาค 2 แต่เดี๋ยวก่อนนน.......... บาดเเผลและความเจ็บปวดจะเข็มข้นขึ้นภาค 3 แน่นอนค่ะ
ภาค 3 ลุ้นรอสวย
เอาละ ๆๆๆ ใครที่คิดว่ารอดแล้ว อย่าเพิ่งดีใจไป เพราะจุดพีคของเรื่องนี้กำลังจะเริ่มภายใน 3-4 ชั่วโมงหลังผ่าตัดค่ะ
มันคือ... แต่น ๆ เเต่น ๆ แต่นๆ ยาชาหมดฤทธิ์เจ้าค่าา
ทางที่ดีที่สุด ของที่สุด ของที่สุด ของที่สุด คือรีบกลับบ้าน -อาบน้ำ- เปิดแอร์ -นอนน
แต่ปัญหาคือเรานอนไม่หลับนะสิ ก็มันยังไม่ถึงเวลานอนนิ เศร้าจัง
มันเริ่มเจ็บละค่ะ จากข้างที่เราผ่าก่อน ระดับความเจ็บ: มาก มาก มาก
ใครว่าไม่เจ็บ ไม่จริงงง กระดาษบาดยังเจ็บ ประตูหนีบยังเจ็บ ครั้งนี้ผ่า -ดึง -เย็บ จะไม่เจ็บได้ไงง
สรุปสภาพช่องปาก at the end of day 1 โหเขียนมาตั้งเยอะเพิ่มจบ day 1
อ้าได้ 1/5
ยิ้มได้ 1/5
แก้มตึง 5/5
บรรเทาความเจ็บโดยประคบเย็นคะ และรีบนอนให้เร็วที่สุด ราตรีสวัสดิ์
วันที่ 2
กูดมอร์นิ่ง !! ขอบคุณนะคะที่ตามอ่านกันมา มาเริ่มกันต่อเลยดีกว่านะ
ตื่นมา**** เจ็บคะ
อ้าได้ 2/5
ยิ้มได้ 2/5
แก้มตึง 5/5
หน้ายุบเรียวหรือยัง ยังจ้าาาาา
บรรเทาความเจ็บโดยประคบเย็นคะ
อาหารที่เราจะทาน โยเกิร์ต โยเกิร์ต **เราจัดไดเดตคอร์สเลยคะ
เผื่อจะหุ่นเพรยวหน้าสวยไปพร้อมๆกัน
แล้วอย่าลืมกินยานะคะ
วันที่ 3
เจ็บ 3/5 คะ
แค่รู้สึกตึงๆ ที่แผล หลังกินหรือพูดมากๆ เพราะใช้กล้ามเนื้อเยอะไป
วันที่ 4 วันนี้เริ่มประคบร้อนคะ และเป็นวันที่หน้าเริ่มบวมขึ้นมาคะ บวมตุ่ยๆ ออกไปทำงานมีคนทักเยอะเลย
วันที่ 5-8 ยังบวมอยู่คะ บวมกว่าหน้าปกติก่อนเริ่มทำอีก
ข้อระวังและข้อควรสังเกต
1 ควรสังเกตตัวเองว่าอาการเจ็บและปวดในแต่ละวันเป็นอย่างไร และทุกๆวันควรเจ็บลดลงๆ
หากเจ็บมากขึ้นควรติดต่อแพทย์ด่วน
2 แก้มด้านนอกส่วนที่บวม ควรกดๆๆ ดูแล้วไม่บวมและป่องจนกดไม่ลง
หากมีอาการดังกล่าวควรกลับไปให้คุณหมอดูคะ
สรุป ผลงานคะ
ความพึงพอใจ ในช่วง 6 เดือน -1 ปีแรก : มากๆๆ ถึงมากที่สุด
เนื่องจากเป็นคนที่มีทั้ง แก้มใหญ่ และกรามใหญ่คะ
ตอนที่ทำการผ่ากระพุ้งแก้ม คุณหมอมีแนะนำให้ฉีดโบทอกไปด้วย เป็นของเกาหลีคะ
ผลลัพธิ์ คือ เรียวมากก เรียวงาม มีแต่คนทักว่าผอมลงเลยคะ อิอิ
หลังจาก ในช่วง 6 เดือน -1 ปีแรก
ความพึงพอใจ : ปานกลางคะ
เนื่องจากโบทอกหมดฤทธิ์คะ แล้วไม่ได้ไปฉีดเพิ่ม ทำให้แก้มหายไปแต่ยังไม่กรามอยู่คะ
ทำให้ดูหน้าเรียวลงกว่าตอนทำ นิดนึง (ไม่มากคะ)
แต่ก็ยังมีข้อดีคือ เมื่อไรที่อ้วนขึ้น ก็จะไม่ดูอ้วนมากคะ เนื่องจากไขมันตรงแก้มไม่มีอยู่แล้ว
ขอขอบคุณทุกคนสำหรับการติดตามนะคะ