***หมายเหตุ ข้อมูลที่นำเสนอต่อไปนี้ มีการใช้ทรรศนะส่วนตัวของผู้เขียนจึงอาจมีอคติ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
หลังจากได้เห็นโฉมหน้าของ Let Me In Thailand กันไปแล้วทั้ง 12 คน
ตอนนี้มีประกาศออกมาอย่างเป็นทางการแล้วนะคะว่าจะมีซีซั่น 2 ต่อแน่ๆ สำหรับคนที่มีความจำเป็นต้องศัลยกรรม ในเมื่อโอกาสในการพลิกชีวิตลอยมาถึงแล้ว! จะปล่อยให้หลุดมือไปก็น่าเสียดายแย่...
ส่วนสำหรับคนที่ชอบดูรายการ (เหมือนเรา) หลายคนอาจจะมีข้อสงสัยว่า เอ๊ะ...คนนี้ได้ศัลฯ เพราะอะไรหว่า???
เพราะฉะนั้น วันนี้ จขกท เลยขอเชิญคุณมาดูกันเล่นๆ ว่า
11 นางและ 1 หนุ่มนั้น...เขาต้องมีประวัติอะไรยังไง จึงจะได้เป็น Let Me In Thailand
และเพื่อให้การวิเคราะห์ดูมีความเป็นสถิติ ดูมีความเป็นตัวเลข ดูมีความน่าเชื่อถือพอกรุบกริบ เราจึงขอตั้งเกณฑ์ในการประเมินไว้ 7 หัวข้อ โดยแต่ละหัวข้อจะมีระดับความรุนแรงจากน้อยไปมาก (1-5) ดังนี้
1. ปัญหาความผิดปกติทางร่างกาย (ระดับความรุนแรง น้อยไปมาก 1-5)
2. ปมชีวิตทางสังคม (ระดับความรุนแรง น้อยไปมาก 1-5)
3. ระดับความยากจน (ระดับยากจนน้อยไปถึงมาก 1-5)
4. อนาคตและเป้าหมายชีวิต (ระดับน้อยถึงมาก 1-5)
5. โครงหน้าเก่า / ทุนหน้าเดิม (ระดับความดูดีจากน้อยไปมาก 1-5)
6. ความดีงาม / นิสัยส่วนตัว (ระดับความดีจากน้อยไปมาก 1-5)
7. ความโสด (โสด = 1 มีคู่แล้ว = 0)
ซึ่งถ้าใครอยากอ่านเหตุผลว่าทำไมเราถึงใช้เกณฑ์แบบนี้ หรือเกณฑ์ข้อนี้หมายความว่าอะไรยังไง สามารถอ่านได้ในสปอยล์นะจ๊ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้1. ปัญหาความผิดปกติทางร่างกาย
อาทิเช่น กรามเบี้ยวไปจากแนวแกน Y ถึง 30 องศา ปากห้อยลงมาเป็นพาราโบลาทรงระฆังหงาย ความลาดชันของจมูกมีน้อยเพียง m = -1 หน้าแก่ ตาตก ฟันยื่น ฟันล่างครอบฟันบน บลา บลา บลา... ทั้งหมดนี้เราขอจัดอยู่ในข้อที่ 1 ซึ่งเป็นความผิดปกติที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า และเป็นส่วนที่ต้องทำศัลยกรรมนั่นเอง ซึ่งเราบอกไปแล้วข้างต้น ว่าจะไล่ระดับจากความรุนแรงน้อยไปมาก
เช่น สมมติ นางสาว B มีปัญหาฟันหน้าเหยินออกมาเพียง 2 มม. กินข้าวได้ปกติ แต่ใบหน้าที่เหลือคือจัดว่าได้รูป ดีงามมะขามเปียกมาก เราก็จะจัดระดับความรุนแรงไว้เพียง 1 ส่วนอีกคนมีปัญหา กรามโย้ หน้าก้อ คอสั้น ฟันหัก เราก็จะจัดลำดับไว้ระดับ 5 ...อันนี้โอเคโนะ?
ซึ่งนั่นหมายความว่า การจัดระดับทั้งหมดนี้ มาจากความคิดส่วนของ จขกท ที่เห็นจากการนำเสนอผ่านทางรายการทั้งหมด แน่นอนว่ามันมี bias แน่ๆ แหละ อันนี้ก็ขอเตือนไว้อีกรอบหนึ่งเพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกัน หากมีข้อผิดพลาดใดๆ ก็ขออภัย ณ ตรงนี้นะคะ ทำขำๆ เนอะ
ต่อจ้ะ...
2. ปมชีวิตทางสังคม (ระดับความรุนแรง น้อยไปมาก 1-5)
อันนี้ก็ได้แก่ การถูกเพื่อนๆ ล้อ หน้ามะม่วง หน้าพระจันทร์เสี้ยว หน้าโมอาย ฯลฯ การถูกเพื่อนร่วมงานรังเกียจ ลูกเต้าหลบหน้าหลบตาเพราะอายเพื่อน จนไปถึงหางานไม่ได้เพราะหน้าตาไม่ดี ก็จะจัดอยู่ในพวกนี้
3. ระดับความยากจน (ระดับยากจนน้อยไปถึงมาก 1-5)
ข้อนี้เราก็พิจารณาจากที่เห็นในรายการนะคะ เล็กๆ น้อยๆ เราก็เก็บเอามาประกอบการตัดสินใจด้วย เช่น ที่บ้านมีเครื่องใช้ไฟฟ้าเยอะแค่ไหน ลักษณะบ้านเป็นยังไง โซฟาที่นั่งหรูมั้ย มีแอร์อยู่ในบ้านหรือเปล่า ห้องนอนส่วนตัวล่ะเป็นไง หรือต้องนอนรวมกันทั้งบ้าน ถ้วยชามรามไห เราดูหมดนะจ๊ะ ระดับ 1 คือจนนิดหน่อย ระดับ 5 คือยากจนมากจ้ะ
4. อนาคตและเป้าหมายชีวิต (ระดับน้อยถึงมาก 1-5)
หัวข้อนี้เป็นการดูที่ตัวผู้เข้าแข่งขันว่ามีเป้าหมายชีวิตมากแค่ไหน เช่น บางคนกำลังเรียนทนายอยู่ อ่ะโอเค อันนี้ต้องใช้หน้าตา คนนี้อยากเป็นนางแบบ หุ่นมาแล้วแต่หน้าตาต้องไปให้สุดอีกนิด ก็เอาไประดับ 3-4-5 ก็ว่าไป
แต่เอ...คนนั้นอยู่บ้านเฉยๆ นี่นา ไม่ค่อยได้ออกไปพบปะผู้คนอยู่แล้ว ระดับก็น้อยลงมาหน่อย 1-2 เป็นต้น
5. โครงหน้าเก่า / ทุนหน้าเดิม (ระดับความดูดีจากน้อยไปมาก 1-5)
ก็ต้องพูดกันไปตามเนื้อผ้าอ่ะเนอะ แบบบางคนมองผ่านๆ ก็ดูไม่ได้สวยอะไร แต่โครงหน้าจริงคือดี พอศัลยกรรมออกมาก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจน เราว่ารายการก็คงอยากได้คนที่ทำออกมาว้าว ถ้าศัลแล้วก็ไม่ได้ดูแตกต่างจากคนทั่วไป มันก็ไม่เรียกพลิกชีวิตถูกมั้ย อย่างน้องหลินคนแรก เราว่าโครงหน้านางสวยอยู่แล้ว หน้ารูปไข่เชียว ตาก็โต หวาน ติดแค่ฟันยื่น กรามยื่น พอได้ศัลเท่านั้นแหละ สวยมากๆ เลย
6. ความดีงาม / นิสัยส่วนตัว (ระดับความดีจากน้อยไปมาก 1-5)
ถามว่า จขกท รู้จักผู้เข้าแข่งขันไหม? เปล่าค่ะ ก็ดูๆ จากรายการนั่นแหละ คนไหนมีความกตัญญู รักพ่อแม่ อยากให้พ่อแม่สบาย มีทัศนคติที่ดี หรือมีภาระต้องดูแล อันนี้ก็น่าช่วยเหลืออยู่จริงไหมคะ
7. ความโสด
อันนี้ขอแบ่งหยาบๆ ไปเลย ถ้าโสด เราจะเทให้ 1 คะแนน แต่ถ้ามีคู่แล้วจะให้ 0 นะคะ
เพราะอะไร? เพราะจากที่เราดู คนที่มีครอบครัวแล้ว มีลูกมีเต้าแล้ว มักจะเสียเปรียบคนที่ยังไม่ได้แต่งงาน เราเดาเอาเองว่าเพราะคนที่ยังไม่ได้แต่งงานน่าจะมีโอกาสเอา “หน้าตาใหม่” ไปสร้างชีวิตใหม่ๆ ได้มากกว่าหรือโลดโผนมากกว่า (มั้งนะ?)
---------------------------------------จบสปอยล์
อาวววววล่ะ! ทราบเกณฑ์กันไปคร่าวๆ แล้ว
มาดูกันดีกว่า ผู้เข้าแข่งขันแต่ละ EP. เค้าแพ้ชนะกันตรงไหนบ้าง
EP. 1
หลิน – แพท
หลิน : เป็นเด็กสาวจากหาดใหญ่ที่มีปัญหาคางยื่น ฟันเหยิน จะโดนเพื่อนล้อตลอดจนเธอไม่มีความมั่นใจในตัวเอง ในที่สุดก็ดร็อปเรียนไปขณะเรียนอยู่ปี 3 หลินไม่มีงานทำ ไม่มีใครจ้างเธอแม้กระทั่งสมัครเป็นแม่บ้าน สถานะทางครอบครัวยากจน มีคุณแม่คนเดียวที่ขายข้าวมันไก่จุนเจือครอบครัว
แพท : สาวร่างอวบที่มีปัญหาใหญ่คือหน้าอกที่มากเกินไปจนเธอปวดหลัง (ส่วนไอ้คนไม่มีก็คือไม่มีเล้ยยย T^T ฮรือออออ) อีกทั้งยังมีปัญหาตาไม่เท่ากัน และเครื่องหน้าที่ไม่ได้สัดส่วน จนเธอไม่กล้าออกไปหางานทำ
ผู้ชนะอีพีนี้ คือ น้องหลิน ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
และกราฟเปรียบเทียบของทั้ง 2 คน ใน 7 ด้าน เป็นดังนี้ค่ะ
เส้นสีฟ้าเป็นของคนชนะค่ะ ส่วนเส้นสีส้มเป็นของคนที่แพ้ จะเห็นว่าน้องหลินโดดเด่นกว่าน้องแพทถึง 3 ด้าน ทั้งปัญหาทางด้านร่างกายที่มากกว่า ปมชีวิตที่รุนแรงกว่า ความยากจนที่ต้องลำบากมากกว่า แถมที่สำคัญเธอยังแสดงออกอย่างชัดเจนในรายการว่าต้องการทำหน้าเพื่อไปหางานและเลี้ยงดูครอบครัวจ้า
EP.2
แพรว – หนึ่ง
แพรว : สาวหุ่นดี ดีกรีมหาวิทยาลัยรัฐ เธอมีปัญหาคางเบี้ยว และยังมีรอยแผลเป็นจำนวนมากที่หลังซึ่งเกิดมาจากการแพ้น้ำนั่นเอง ส่วนฐานะทางครอบครัว เห็นว่าคุณพ่อเป็นคนเดียวที่หาเลี้ยงครอบครัว แถมยังมีความเศร้าในชีวิตที่ลูกชายคนโตเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุอีกด้วย
หนึ่ง : หญิงสาวที่มีความฝันอยากจะเป็นแอร์โฮสเตส แต่ปัญหาที่เธอคางยื่น ฟันไม่สบกัน โชคดีที่เธอมีทัศคติที่งดงาม เธอเคยอ่านเจอ ใจความประมาณว่า “ถ้าเธอหน้าตาไม่สวย อย่างน้อยหุ่นเธอดี อะไรก็ดี” หนึ่งจึงออกกำลังกายและกายบริหารจนรูปร่างดี ฐานะทางครอบครัวก็ค่อนข้างยากจน (กว่าแพรว)
และผู้ชนะอีพีได้แก่ น้องแพรว จ้า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
มาๆ มาดูกราฟกัน
เอาจริงๆ อีพีนี้ เราว่าผู้เข้าแข่งขันมันก็แอบสูสีกันนะ จะเลือกใครก็โอเคทั้งนั้น เพราะโครงหน้าเก่าก็ดีทั้งคู่ แค่มีปัญหาคางนิดหน่อย แต่น้องแพรวจะมากินขาดก็ตรงเธอมีปัญหารอยแพ้น้ำที่หลังด้วยน่ะสิ เธอก็เลยได้ไป
EP.3
เหวิน – เอฟ
บอกก่อนเลย! อีพีนี้ น้องเหวิน ที่เป็นปานเลือดที่แก้มได้ไปค่ะ แต่พอส่งตัวไปที่เกาหลีแล้วตรวจอย่างละเอียด ปรากฏว่าเส้นเลือดมันฝังอยู่ในกระดูก ถ้าผ่าตัดไปโอกาสเสียชีวิตมีสูง ก็เลยส่งตัวกลับค่ะ สงสารมากกกก T_T เศร้าแทน เข้าใจฟีลนะ แบบเหยยยยย ฉันจะสวยแล้วนะเหวยยยย ได้ไปเกาหลีแล้วนะเหวยยยย –แล้วส่งตัวกลับ!? คืออัลลัยยยย
ส่วนคุณเอฟ เธอเป็นโรคปากแหว่งเพดานโหว่ค่ะ ทำให้พูดไม่ชัด เวลาขับรถขายน้ำดื่มตามบ้าน คนก็จะฟังไม่ค่อยรู้เรื่องว่าเธอจะขายอะไรกันแน่ แต่ก็โชคดีเหลือแสน ที่คุณเอฟได้สามีที่เข้าอกเข้าใจเธอ และอยู่กินกับเธอเพราะเห็นว่าเธอเป็นคนกตัญญูต่อพ่อแม่ค่ะ
สรุปคือ คุณเอฟ ได้ไปศัลยกรรมค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ส่วนกราฟเป็นแบบนี้ค่ะ
อีพีนี้เราขอตัดสินตามคำประกาศครั้งแรกนะคะว่า น้องเหวิน ได้ไป
จากกราฟก็จะเห็นว่า ปัญหาร่างกายของเหวินก็ร้ายแรงอยู่เหมือนกัน เธอเป็นคนที่มีอนาคตยาวไกล (ตอนนี้ทำอาชีพเกี่ยวกับเทคนิคการแพทย์ ที่คอยทำเฝือกอะไรประมาณนั้นค่ะ) และที่สำคัญที่สุดคือ จิตใจที่งดงามที่ฝันอยากให้คนพิการกลับมาใช้ชีวิตได้เหมือนปกติอีกครั้ง
EP.4
เจน – แหม่ม
เจน : น้องสาวคนนี้มีปัญหาคางยาวและยื่นจนเป็นปมปัญหาในชีวิต ตามที่เธอเล่า...เหตุการณ์การถูกล้อเลียนที่ร้ายแรงก็คงจะเป็นตอนที่อาจารย์เปิดรูป “ตุ๊กตาหินโมอาย” ในชั้นเรียน แล้วก็บอกนักศึกษาในชั้นว่าน้องเจนหน้าเหมือนโมอายเลยนะ เพื่อนๆ ก็พากันหัวเราะยกใหญ่ แต่อะไรก็ไม่น่าเสียใจเท่าการที่คุณป้าของเธอก็เป็นหนึ่งในทีมล้อเลียนปมด้อยเหมือนกัน (คุณป้าของน้องให้สัมภาษณ์ว่า ที่ล้อก็เพราะไม่อยากให้หลานคิดมากเรื่องคาง)
แต่!!! สำหรับน้องเจน เราขอหักคะแนนเรื่องที่น้องไปว่าคุณแม่ว่า ที่เธอหน้าเป็นแบบนี้ก็เพราะคุณแม่ของเธอให้มาค่ะ
แหม่ม : คุณแหม่มมีลูกแล้วค่ะ แล้วลูกของเธอก็อายที่แม่มีหน้าตาที่แปลกประหลาด เนื่องจากเธอมีขากรรไกรที่โตผิดรูปร่าง ไม่มีฟัน ทำให้น้ำลายไหลตลอดเวลา
และอีพีนี้ ผู้ชนะได้แก่... น้องเจน จ้ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
และกราฟของเธอ 2 คน เป็นดังนี้...
ถ้าอ้างอิงตามเหตุผลของผู้ชนะที่ผ่านๆ มา กราฟในส่วนของ “อนาคต-เป้าหมายชีวิต” ในสองอีพีแรกจะเท่ากันมาตลอด แต่ในกราฟของน้องเหวินมันพุ่งทั้งความผิดปกติทางร่างกายและอนาคต พอดูอีพีนี้ เราก็เลยเริ่มจับสังเกตว่า
หรือว่า...
รายการจะให้โอกาสคนที่มีอนาคตยาวไกลกว่า เพื่อที่จะได้มีโอกาสที่จะ “ได้ใช้หน้าตาที่ได้มาใหม่” ในการดำรงชีวิต????
***หมายเหตุ แต่สันนิษฐานอันนี้ก็เผื่อๆ ใจไว้หน่อยละกัน เพราะเห็นว่าทางแพทย์มองว่า การที่คุณแหม่มฟันหลอ มันไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการศัลยกรรม ควรจะไปทำฟันปลอมหรืออะไรจะตอบโจทย์มากกว่า
ติวเข้มก่อนซีซั่น 2 ! ชวนวิเคราะห์เล่นๆ กับ 12 ผู้ชนะ Let Me In Thailand...พวกเขาได้ศัลเพราะ???
หลังจากได้เห็นโฉมหน้าของ Let Me In Thailand กันไปแล้วทั้ง 12 คน
ตอนนี้มีประกาศออกมาอย่างเป็นทางการแล้วนะคะว่าจะมีซีซั่น 2 ต่อแน่ๆ สำหรับคนที่มีความจำเป็นต้องศัลยกรรม ในเมื่อโอกาสในการพลิกชีวิตลอยมาถึงแล้ว! จะปล่อยให้หลุดมือไปก็น่าเสียดายแย่...
ส่วนสำหรับคนที่ชอบดูรายการ (เหมือนเรา) หลายคนอาจจะมีข้อสงสัยว่า เอ๊ะ...คนนี้ได้ศัลฯ เพราะอะไรหว่า???
เพราะฉะนั้น วันนี้ จขกท เลยขอเชิญคุณมาดูกันเล่นๆ ว่า
11 นางและ 1 หนุ่มนั้น...เขาต้องมีประวัติอะไรยังไง จึงจะได้เป็น Let Me In Thailand
และเพื่อให้การวิเคราะห์ดูมีความเป็นสถิติ ดูมีความเป็นตัวเลข ดูมีความน่าเชื่อถือพอกรุบกริบ เราจึงขอตั้งเกณฑ์ในการประเมินไว้ 7 หัวข้อ โดยแต่ละหัวข้อจะมีระดับความรุนแรงจากน้อยไปมาก (1-5) ดังนี้
1. ปัญหาความผิดปกติทางร่างกาย (ระดับความรุนแรง น้อยไปมาก 1-5)
2. ปมชีวิตทางสังคม (ระดับความรุนแรง น้อยไปมาก 1-5)
3. ระดับความยากจน (ระดับยากจนน้อยไปถึงมาก 1-5)
4. อนาคตและเป้าหมายชีวิต (ระดับน้อยถึงมาก 1-5)
5. โครงหน้าเก่า / ทุนหน้าเดิม (ระดับความดูดีจากน้อยไปมาก 1-5)
6. ความดีงาม / นิสัยส่วนตัว (ระดับความดีจากน้อยไปมาก 1-5)
7. ความโสด (โสด = 1 มีคู่แล้ว = 0)
ซึ่งถ้าใครอยากอ่านเหตุผลว่าทำไมเราถึงใช้เกณฑ์แบบนี้ หรือเกณฑ์ข้อนี้หมายความว่าอะไรยังไง สามารถอ่านได้ในสปอยล์นะจ๊ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
---------------------------------------จบสปอยล์
อาวววววล่ะ! ทราบเกณฑ์กันไปคร่าวๆ แล้ว
มาดูกันดีกว่า ผู้เข้าแข่งขันแต่ละ EP. เค้าแพ้ชนะกันตรงไหนบ้าง
EP. 1
หลิน – แพท
หลิน : เป็นเด็กสาวจากหาดใหญ่ที่มีปัญหาคางยื่น ฟันเหยิน จะโดนเพื่อนล้อตลอดจนเธอไม่มีความมั่นใจในตัวเอง ในที่สุดก็ดร็อปเรียนไปขณะเรียนอยู่ปี 3 หลินไม่มีงานทำ ไม่มีใครจ้างเธอแม้กระทั่งสมัครเป็นแม่บ้าน สถานะทางครอบครัวยากจน มีคุณแม่คนเดียวที่ขายข้าวมันไก่จุนเจือครอบครัว
แพท : สาวร่างอวบที่มีปัญหาใหญ่คือหน้าอกที่มากเกินไปจนเธอปวดหลัง (ส่วนไอ้คนไม่มีก็คือไม่มีเล้ยยย T^T ฮรือออออ) อีกทั้งยังมีปัญหาตาไม่เท่ากัน และเครื่องหน้าที่ไม่ได้สัดส่วน จนเธอไม่กล้าออกไปหางานทำ
ผู้ชนะอีพีนี้ คือ น้องหลิน ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
และกราฟเปรียบเทียบของทั้ง 2 คน ใน 7 ด้าน เป็นดังนี้ค่ะ
เส้นสีฟ้าเป็นของคนชนะค่ะ ส่วนเส้นสีส้มเป็นของคนที่แพ้ จะเห็นว่าน้องหลินโดดเด่นกว่าน้องแพทถึง 3 ด้าน ทั้งปัญหาทางด้านร่างกายที่มากกว่า ปมชีวิตที่รุนแรงกว่า ความยากจนที่ต้องลำบากมากกว่า แถมที่สำคัญเธอยังแสดงออกอย่างชัดเจนในรายการว่าต้องการทำหน้าเพื่อไปหางานและเลี้ยงดูครอบครัวจ้า
EP.2
แพรว – หนึ่ง
แพรว : สาวหุ่นดี ดีกรีมหาวิทยาลัยรัฐ เธอมีปัญหาคางเบี้ยว และยังมีรอยแผลเป็นจำนวนมากที่หลังซึ่งเกิดมาจากการแพ้น้ำนั่นเอง ส่วนฐานะทางครอบครัว เห็นว่าคุณพ่อเป็นคนเดียวที่หาเลี้ยงครอบครัว แถมยังมีความเศร้าในชีวิตที่ลูกชายคนโตเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุอีกด้วย
หนึ่ง : หญิงสาวที่มีความฝันอยากจะเป็นแอร์โฮสเตส แต่ปัญหาที่เธอคางยื่น ฟันไม่สบกัน โชคดีที่เธอมีทัศคติที่งดงาม เธอเคยอ่านเจอ ใจความประมาณว่า “ถ้าเธอหน้าตาไม่สวย อย่างน้อยหุ่นเธอดี อะไรก็ดี” หนึ่งจึงออกกำลังกายและกายบริหารจนรูปร่างดี ฐานะทางครอบครัวก็ค่อนข้างยากจน (กว่าแพรว)
และผู้ชนะอีพีได้แก่ น้องแพรว จ้า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
มาๆ มาดูกราฟกัน
เอาจริงๆ อีพีนี้ เราว่าผู้เข้าแข่งขันมันก็แอบสูสีกันนะ จะเลือกใครก็โอเคทั้งนั้น เพราะโครงหน้าเก่าก็ดีทั้งคู่ แค่มีปัญหาคางนิดหน่อย แต่น้องแพรวจะมากินขาดก็ตรงเธอมีปัญหารอยแพ้น้ำที่หลังด้วยน่ะสิ เธอก็เลยได้ไป
EP.3
เหวิน – เอฟ
บอกก่อนเลย! อีพีนี้ น้องเหวิน ที่เป็นปานเลือดที่แก้มได้ไปค่ะ แต่พอส่งตัวไปที่เกาหลีแล้วตรวจอย่างละเอียด ปรากฏว่าเส้นเลือดมันฝังอยู่ในกระดูก ถ้าผ่าตัดไปโอกาสเสียชีวิตมีสูง ก็เลยส่งตัวกลับค่ะ สงสารมากกกก T_T เศร้าแทน เข้าใจฟีลนะ แบบเหยยยยย ฉันจะสวยแล้วนะเหวยยยย ได้ไปเกาหลีแล้วนะเหวยยยย –แล้วส่งตัวกลับ!? คืออัลลัยยยย
ส่วนคุณเอฟ เธอเป็นโรคปากแหว่งเพดานโหว่ค่ะ ทำให้พูดไม่ชัด เวลาขับรถขายน้ำดื่มตามบ้าน คนก็จะฟังไม่ค่อยรู้เรื่องว่าเธอจะขายอะไรกันแน่ แต่ก็โชคดีเหลือแสน ที่คุณเอฟได้สามีที่เข้าอกเข้าใจเธอ และอยู่กินกับเธอเพราะเห็นว่าเธอเป็นคนกตัญญูต่อพ่อแม่ค่ะ
สรุปคือ คุณเอฟ ได้ไปศัลยกรรมค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ส่วนกราฟเป็นแบบนี้ค่ะ
อีพีนี้เราขอตัดสินตามคำประกาศครั้งแรกนะคะว่า น้องเหวิน ได้ไป
จากกราฟก็จะเห็นว่า ปัญหาร่างกายของเหวินก็ร้ายแรงอยู่เหมือนกัน เธอเป็นคนที่มีอนาคตยาวไกล (ตอนนี้ทำอาชีพเกี่ยวกับเทคนิคการแพทย์ ที่คอยทำเฝือกอะไรประมาณนั้นค่ะ) และที่สำคัญที่สุดคือ จิตใจที่งดงามที่ฝันอยากให้คนพิการกลับมาใช้ชีวิตได้เหมือนปกติอีกครั้ง
EP.4
เจน – แหม่ม
เจน : น้องสาวคนนี้มีปัญหาคางยาวและยื่นจนเป็นปมปัญหาในชีวิต ตามที่เธอเล่า...เหตุการณ์การถูกล้อเลียนที่ร้ายแรงก็คงจะเป็นตอนที่อาจารย์เปิดรูป “ตุ๊กตาหินโมอาย” ในชั้นเรียน แล้วก็บอกนักศึกษาในชั้นว่าน้องเจนหน้าเหมือนโมอายเลยนะ เพื่อนๆ ก็พากันหัวเราะยกใหญ่ แต่อะไรก็ไม่น่าเสียใจเท่าการที่คุณป้าของเธอก็เป็นหนึ่งในทีมล้อเลียนปมด้อยเหมือนกัน (คุณป้าของน้องให้สัมภาษณ์ว่า ที่ล้อก็เพราะไม่อยากให้หลานคิดมากเรื่องคาง)
แต่!!! สำหรับน้องเจน เราขอหักคะแนนเรื่องที่น้องไปว่าคุณแม่ว่า ที่เธอหน้าเป็นแบบนี้ก็เพราะคุณแม่ของเธอให้มาค่ะ
แหม่ม : คุณแหม่มมีลูกแล้วค่ะ แล้วลูกของเธอก็อายที่แม่มีหน้าตาที่แปลกประหลาด เนื่องจากเธอมีขากรรไกรที่โตผิดรูปร่าง ไม่มีฟัน ทำให้น้ำลายไหลตลอดเวลา
และอีพีนี้ ผู้ชนะได้แก่... น้องเจน จ้ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
และกราฟของเธอ 2 คน เป็นดังนี้...
ถ้าอ้างอิงตามเหตุผลของผู้ชนะที่ผ่านๆ มา กราฟในส่วนของ “อนาคต-เป้าหมายชีวิต” ในสองอีพีแรกจะเท่ากันมาตลอด แต่ในกราฟของน้องเหวินมันพุ่งทั้งความผิดปกติทางร่างกายและอนาคต พอดูอีพีนี้ เราก็เลยเริ่มจับสังเกตว่า
หรือว่า...รายการจะให้โอกาสคนที่มีอนาคตยาวไกลกว่า เพื่อที่จะได้มีโอกาสที่จะ “ได้ใช้หน้าตาที่ได้มาใหม่” ในการดำรงชีวิต????
***หมายเหตุ แต่สันนิษฐานอันนี้ก็เผื่อๆ ใจไว้หน่อยละกัน เพราะเห็นว่าทางแพทย์มองว่า การที่คุณแหม่มฟันหลอ มันไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการศัลยกรรม ควรจะไปทำฟันปลอมหรืออะไรจะตอบโจทย์มากกว่า