พบกันอีกครั้งกับบันทึกนักเดินทาง แบบฉบับของนักเดินทางตัวน้อย
แจ๊คเป็นหนึ่งคนที่หลงรักการเดินทางและชอบบอกเล่าประสบการณ์ผ่านเลนด์ เพื่อนข้างกายคือ canon 600D บางทีก็หนักนะ สะพายกล้องตัวใหญ่เดินทางในสถานที่ที่เดินทางลำบากๆ ถ้าไม่เอากล้องไป ก็ไม่ได้เนอะ กล้องมือถือก็คุณภาพเทียบกันไม่ได้
จะดีแค่ไหนถ้าขนาดและน้ำหนักลดลง แต่ความฝันยังไปต่อได้อีกไกล
***รูปของแจ๊คลายน้ำจะใหญ่หน่อยนะคะ เพราะช้ำใจจากการโดนก๊อปรูป โดนบ่อยเริ่มกลัวค่ะ
เหนื่อยๆเบื่อๆ มีเวลาอยู่ว่าง1วัน แน่นอนว่า One day trip ต้องมาอีกแล้ว ว่าแต่ไปไหนดีล่ะ ตอนแรกตั้งใจจะไปถ่ายรูปงานสะพานข้ามแม่น้ำแคว
แต่ดันไปเห็นรูปทุ่งทานตะวันที่เขาใหญ่ในกลุ่มแบกเป้เที่ยว คือมันสวยมาก งานเข้าเลย
ดึกดื่นเที่ยงคืนไม่หลับไม่นอนจ้าาา กลุ้มใจ เลือกไม่ได้ คือมันยากกว่าข้อสอบO-NETซะอีก
แล้วก็ตัดสินใจได้ตอนตี1 งานสะพานข้ามแม่น้ำแควเราเคยไปแล้ว ครั้งนี้คงต้องพ่ายแพ้ให้กับความสวยงามอลังการของทุ่งทานตะวันไร่มณีศร เขาใหญ่ และอีกเหตุผลของการออกเดินทางครั้งนี้ เพราะเจ้าตัวนี้แหระ
อยากเทสกล้องค่ะ เลยเลือก เจ้า Mirror Less Canon EOS M3และเลนส์18-55 ในการทำศึก ออกแนวบ้าเห่อนิดๆ
ตัวนี้ฐานการผลิตอยู่ที่ญี่ปุ่น มั่นใจในคุณภาพได้แน่นอนค่ะ อยากรู้ว่ากล้องเล็กๆ แบบนี้ เราจะวางใจให้เป็นเพื่อนร่วมทางของเราได้มั้ย
คุณภาพและภาพถ่ายที่ได้จะสู้กับ600Dที่เราใช้อยู่ได้หรือป่าว
ก่อนจะเดินทาง มาทำความรู้จักกับเพื่อนร่วมทางของแจ๊คกันก่อนค่ะ
ถ้ามีเลนส์อยู่แล้วเอามาใช้กับตัวนี้ได้มั้ย ได้ค่ะ สามารถรองรับอุปกรณ์เสริมได้หลากหลาย สามารถใช้เลนส์ EF,EFS ที่คุณมีอยู่แล้ว
โดยต่อผ่าน EF mount adapter ค่ะ สามารถใช้รีโมทคอลโทรลRC-6ได้ มีแฟรชในตัวค่ะ หรือจะต่อแฟรชนอกก็ได้
ที่ผ่านมามีเพื่อนๆถามมาหลายคน จะเลือกตัวไหนดี มีตัวไหนแนะนำมั้ย เดี๋ยวตามมาอ่านกันในการเดินทางครั้งนี้ละกันค่ะ
ชาวlifesterอย่างเรา เดินทางและถ่ายภาพต้องทำคู่กันอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นรีวิวกล้องและรีวิวที่เที่ยวมันซะพร้อมๆกันไปเลย
(หรือเทสกล้องจะเป็นข้ออ้าง จะหาเรื่องเที่ยวก็บอกมาตรงๆ อิอิ ) มาดูก่อนดีกว่า เจ้ากล้องตัวเล็กเปลี่ยนเลนส์ได้ตัวนี้ มีดีอะไร
จากหน้าตาธรรมดาๆ พอเสริมสวยด้วย jacket และสายหนัง อื้มมมมมเธอดูดีมากอ่ะ
เราใช้DSLR อยู่แล้ว จับมาตอนแรกใช้งานได้เลยค่ะ ระบบการควบคุมการทำงานมันแทบไม่ต่างกันเลย ทั้งการวางปุ่มกด หรือโหมดต่างๆ คล้ายกันค่ะ
มีปุ่มชดเชยแสง ทำให้ปรับได้สะดวก แถมตัวนี้มีGripที่หนาขึ้นมาทำให้จับถนัดมือกระชับ ใช้งานเวลาซูมก็ถนัดขึ้น
หรือใครที่ไม่เคยใช้นะคะ ถ้ายังงงๆกับปุ่มต่างๆก็ไม่ได้เป็นปัญหาเลย เพราะจอ LCD Touchscreen มันถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่าย
ให้คุณคิดว่ามันเป็นสมาทโฟนอ่ะคะ จะตั้งค่าต่างๆก็จิ้มหน้าจอได้เลย หรือแม้แต่คุณจะกดถ่ายภาพ เจ้าตัวนี้มีฟังชั่นทัชชัตเตอร์
คุณสามารถแตะที่หน้าจอเก็บภาพประทับใจได้เลย
หน้าจอปรับได้ถึง 180 องศา ถ่ายมุมไหน ได้หมด สูง ต่ำ เซลฟี่ ก็เอาที่ชอบเลยค่ะ
กล้องที่เปิดหน้าจอตลอดเวลา แน่นนอนว่า มันต้องสูบแบตแน่ๆ เดี๋ยวมาดูกันว่าแบต1ก้อนจะอยู่ได้นานมั้ย
อ่อ เจ้าตัวนี้สามารถต่อช่องมองภาพได้นะสามารถปรับองศาได้ด้วย แต่ต้องซื้อเพิ่ม 5555 เราก็ใช้แบบนี้ละกัน
ระบบการซูมตัวนี้ใช้ได้ทั้ง auto และ manual ค่ะ
เห็นเล็กๆแบบนี้
ความละเอียด 24.2 megapixel
sensor CMOS ขนาด APS-C
ระบบโฟกัส Hybrid CMOS AF lll จับโฟกัสได้เร็วและแม่นยำ
เชื่อมต่อกับสมาทโฟนได้ด้วย NFC และWIFI และใช้งานง่ายมากๆไม่ยุ่งยาก ถ่ายปุ๊ปแชร์อวดเพื่อนๆได้เลย
เดี๋ยวนะ!!!!!! สเป็คนี้ DSLR 600D ของแจ๊คอายเลย5555 ชิส์ๆๆๆ
ถามว่าถ่ายVDOได้มั้ย ได้ค่ะ มีทั้ง VGA, HDหรือFULL HDก็ได้ แถมมีระบบโฟกัสตามวัตถุด้วย ไม่ว่าคุณจะขยับตัวไปจุดไหนกล้องก็จะโฟกัสหน้าคุณตลอด โดยปกติแล้ว การถ่ายVDO ที่แจ๊คเคยถ่าย ถ้าวัตถุเคลื่อนไหวก็จะหลุดโฟกัสไปเลยนอกซะจากว่าใช้ manual focus ฟังชั่นนี้ติดตามใบหน้า จัดว่าแจ่ม
และมีช่องต่อไมโครโฟนด้วยล่ะ คุณสมบัติก็เหมือนDSLRเลยค่ะ ปรับค่าต่างๆได้ ไม่ว่าจะเป็นถ่ายภาพนิ่ง(หมายถึงจับภาพนิ่งตอนถ่ายVDOค่ะ)จะปรับโฟกัสเองหรืออัตโนมัติก็ได้ และยังทัชสกรีนเพื่อโฟกัสได้อีกด้วย ปรับWB เลือกโทนสี ปรับแสง ได้หมดค่ะ มีโหมด Low Light Focus จับภาพในที่มีแสงน้อยได้ดี แต่ในรีวิวนี้แจ๊คมีแต่ภาพนิ่งนะ เน้นภาพนิ่งละกันเนอะ
เอาล่ะเราว่าเราคิดไม่ผิดนะที่เลือกน้องเล็กไปบันทึกการเดินทางของเราครั้งนี้ เธอเบาหวิว น่ารัก และเธอเก่ง 55555
เราจะผิดหวังมั้ยที่เลือกเธอ เดี๋ยวมาดูกันค่ะ
อ้อมโลกไปไกล เดินทางกันต่อค่ะ
หลังจากตัดสินใจตอนตี1 เอาล่ะ นอนได้ซะที จะไปดูทุ่งทานตะวัน ควรไปเช้าๆ พอบ่ายๆดอกมันจะคว่ำหน้าค่ะ เลยตั้งใจจะออกเช้ามาก
จะได้มีเวลาเที่ยวที่อื่นด้วย
จากการหาข้อมูล ตามเส้นทางที่เราต้องผ่าน มีที่เที่ยวเยอะค่ะเดี๋ยวค่อยว่ากัน ขอดูความประทับใจทุ่งทานตะวันก่อน
ถ้าได้ภาพสวยๆจากที่นี่แล้ว สถานที่อื่นก็เป็นที่ไหนก็ได้
นอนดิ่ รออะไร!!! สิ่งที่แจ๊คคิดตื่นตี4 ออกตี5 ไปถึงเช้าๆ ชิลล์อ่ะ ชีวิตดี๊ดี / แต่ความเป็นจริง 6.30เด้งออกมาจากที่นอน ทุกอย่างเร่งรีบ 55555 โถชีวิต!!!!!
ลุยเดี่ยวเหมือนเดิมจ้า ดูจากการวางแผนแล้วคงหาคนไปด้วยยาก(นี่คือแกวางแผนแล้วใช่มั้ย)
เส้นทางแจ๊คขับเส้นวิภาวดี พหลโยธิน รังสิต ให้ไปทางสระบุรี จะผ่าน วังน้อย หนองแค หินกอง สระบุรี เลี้ยวขวาเข้าถนนมิตรภาพ จะผ่านทับกวาง แก่งคอย มวกเหล็ก กลางดง แวะปั้มปตท กลางดง ออกจากห้องไม่ได้กินอะไรเลย หิวมาก จัดต้มเลือดหมู ข้าวเปล่า ร้อนๆ
เพื่อความสตรองต้องกาแฟ 1กระป๋อง 5555
แล้วก็ศึกษาเส้นทางเพิ่มเติม ไกล้ถึงแล้วเดี๋ยวหลง สุดท้ายขับเรื่อยๆ
ออกนอกเส้นทางนิดหน่อยอย่าเรียกว่าหลง มันสะเทือนใจ และแล้วก็เข้าถนนธนะรัชต์ มุ่งหน้าไปเข้าใหญ่ เส้นนี้เคยผ่านค่ะ ไปวังน้ำเขียว
วิวสวยมีที่ให้แวะหลายที่ ทางเข้าไร่มณีศรอยู่ก่อนถึงปาลิโอนะคะ
ให้มองซ้ายมือ หาป้าย แพนเธอร์ ครีค รีสอร์ท ทุ่งทานตะวันไรมณีศรอยู่ติดรีสอร์ทเลยค่ะ ป้ายของไร่ก้มีนะ แต่เป็นฟิวเจอร์บอร์ดเขียนด้วยเมจิก
ตามป้ายรีสอร์ทโอเคกว่า 5555 เข้าไปลึกเหมือนกันค่ะ
และแล้ว11โมงกว่าๆก็ถึงแพนเธอร์ ครีค ก็จะเห็นไรมณีศรค่ะ ติดกันเลย ต้องร้องโห ไม่ใช่อะไรนะ รถเยอะจัง
แล้วจะจอดตรงไหน เที่ยวจะสนุกมั้ย ภาพถ่ายสวยๆจะได้มั้ย แออัดแน่นอน ขับไปอีกนิด
อ๋อๆๆๆๆๆ ขับรถเข้าไปในไร่ได้เลยค่ะ ค่าเข้า20บาท มีที่จอดข้างใน
หรือจะขับวนๆไปตามทางในไร่ แล้วหาไหล่ทาง จอดเดินถ่ายรูปก็สะดวกดีค่ะ แจ๊คเข้าไป ที่จอดข้างบนเต็ม เลยต้องเลือกวิธีที่2 แจ๊คว่าขับรถวนดีกว่านะ
ไร่ใหญ่มากค่ะ พื้นที่ 500 กว่าไร่เดินอย่างเดียวเหนื่อยแย่เลยค่ะ
พื้นที่เป็นเนินเขาเล็กๆมองไปนี่เป็นภูเขาสีเหลืองทองเลยค่ะ ทำให้ได้ภาพที่ดูไม่ธรรมดา ฉากหลังเป็นภูเขา ฟ้าก็เป็นใจมากๆ แอร๊ยยยยยย สวยยยยยยยย
ภาพนี้ถ้ามีบันไดยืนถ่ายคงสวยกว่านี้ นี่ก็ชูสุดมือละ โชคดีกล้องเอียงหน้าจอได้ ถ่ายมุมสูงเราก็มองเห็นจอ เย้ๆๆๆๆ แต่เราตัวเตี้ยไง
ต่อเลยค่ะ กตชัตเตอร์ไม่ยั้ง
บัตรเข้าค่ะ
ขับมาก็หาที่จอดตามไหล่ทางเก็บภาพกันได้เลย
งดงามค่ะไม่ผิดหวังเลยที่มาที่นี่ ปกติเราเห็นแต่ทุ่งทานตะวันแบบพื้นที่ราบ มาเห็นที่ไรมณีศรนี่ชอบมากๆค่ะ ตั้งใจว่าจะเก็บภาพไม่มาก
ทุ่งทานตะวันจะมีซักกี่มุมกัน แต่ สุดท้ายมุมไหนก็สวยเลยได้มาหลายรูปค่ะ5555 กลับมานี่เลือกรูปเหนื่อยเลยค่ะ
กล้องตัวนี้เค้าก็มีระบบ sleep modeเหมือนกันนะ ช่วยประหยัดแบต เวลาที่เปิดกล้องทิ้งไว้ สามารถตั้งเวลาได้เร็วสุด 10วินาที ถ่ายเสร็จเดินหามุม
เปิดกล้องไว้ ผ่านไป 10วิ ก็จะเข้าสู่ sleep mode ทันที
มาดูรูปกันดีกว่าค่ะ ไม่รู้จะว่าอะไร เล่าด้วยรูปถ่ายละกันค่ะ
ภูเขาทอง5555
มองไปทางไหนก็เหลืองอร่าม
ขับต่อไปตามทางค่ะ
ขับไป จอดไป ถ่ายภาพไป
เที่ยงกว่าๆ ฟ้าเป็นใจ แน่นอนแดดแรงมากค่ะ แต่ได้ภาพที่สวย
ถ้าถามว่าแจ๊คใช้โหมดอะไรถ่าย
งานนี้เราก็โหมด M มันโอเคสำหรับเรา ปรับทุกอย่างตามใจเนอะ speed shutter, ค่ารูรับแสง, หรือจะiso ทุกอย่างตามชอบเลย
จริงๆก็มีโหมดAuto กล้องจะตั้งค่าให้เราอัตโนมัติ เลือกได้ว่าจะถ่ายอะไรเช่น ถ่ายอาหาร ถ่ายกลางคืน ถ่ายคน กีฬา ถ่ายวิว
ถ้าใครไม่ถนัด manual ก็ Auto เลยจ้า
มาดูโหมดอื่นที่น่าสนใจกันค่ะ
Creative Assist โหมดนี้ปรับหน้าชัดหลังเบลอ ความมืด สว่าง ความเข้มของสี และเซฟเก็บไว้ได้ เอามาใช้กับภาพอื่นๆได้
หรือจะแชร์สไตล์ให้กับกล้องรุ่นเดียวกันได้ด้วย
หรืออยากจะแต่งภาพจากในตัวกล้องเลยก็ได้ค่ะ ด้วยCreative Fillter เพิ่มความสนุกให้ภาพถ่ายของคุณ
แต่แจ๊คถนัดmanualแล้วมาแต่งอีกที แต่ภาพเซตนี้สีจากกล้องก็แจ่มแล้วค่ะ
ลืมบอกไป เพื่อนๆสามารถถ่ายเป็นRAW fileได้นะคะ อัตราส่วนของภาพ ก็จะมี 3:2,4:3,1:1,16:9
รูปทุ่งทานตะวันนี้แจ๊คใช้16:9ค่ะ
ในไร่เค้าก็ทำที่ให้ยืนถ่ายรูปนะคะ แต่ช่างภาพบางคนเค้าพกบันไดได้ไปเองมุมสูงกว่าสวยกว่าแน่ๆค่ะ
เรียงหน้ากันมาเชียว
รูปนี้มีพี่ชายคนหนึ่งถ่ายให้ พี่เค้าขับบิ๊กไบค์ มาคนเดียวเหมือนเราเลย ขอบคุณนะคะ
ภายในไร่มีป้ายบอกทางออกตลอดค่ะ
จอพับได้180 องศาก็ขอเซลฟี่ซะหน่อย อิอิ
เดี๋ยวมาต่อค่ะ
[CR] ปล่อยไปตามใจ เขาใหญ่-ปากช่อง กับกล้อง Canon EOS M3
แจ๊คเป็นหนึ่งคนที่หลงรักการเดินทางและชอบบอกเล่าประสบการณ์ผ่านเลนด์ เพื่อนข้างกายคือ canon 600D บางทีก็หนักนะ สะพายกล้องตัวใหญ่เดินทางในสถานที่ที่เดินทางลำบากๆ ถ้าไม่เอากล้องไป ก็ไม่ได้เนอะ กล้องมือถือก็คุณภาพเทียบกันไม่ได้
จะดีแค่ไหนถ้าขนาดและน้ำหนักลดลง แต่ความฝันยังไปต่อได้อีกไกล
***รูปของแจ๊คลายน้ำจะใหญ่หน่อยนะคะ เพราะช้ำใจจากการโดนก๊อปรูป โดนบ่อยเริ่มกลัวค่ะ
เหนื่อยๆเบื่อๆ มีเวลาอยู่ว่าง1วัน แน่นอนว่า One day trip ต้องมาอีกแล้ว ว่าแต่ไปไหนดีล่ะ ตอนแรกตั้งใจจะไปถ่ายรูปงานสะพานข้ามแม่น้ำแคว
แต่ดันไปเห็นรูปทุ่งทานตะวันที่เขาใหญ่ในกลุ่มแบกเป้เที่ยว คือมันสวยมาก งานเข้าเลย
ดึกดื่นเที่ยงคืนไม่หลับไม่นอนจ้าาา กลุ้มใจ เลือกไม่ได้ คือมันยากกว่าข้อสอบO-NETซะอีก
แล้วก็ตัดสินใจได้ตอนตี1 งานสะพานข้ามแม่น้ำแควเราเคยไปแล้ว ครั้งนี้คงต้องพ่ายแพ้ให้กับความสวยงามอลังการของทุ่งทานตะวันไร่มณีศร เขาใหญ่ และอีกเหตุผลของการออกเดินทางครั้งนี้ เพราะเจ้าตัวนี้แหระ
อยากเทสกล้องค่ะ เลยเลือก เจ้า Mirror Less Canon EOS M3และเลนส์18-55 ในการทำศึก ออกแนวบ้าเห่อนิดๆ
ตัวนี้ฐานการผลิตอยู่ที่ญี่ปุ่น มั่นใจในคุณภาพได้แน่นอนค่ะ อยากรู้ว่ากล้องเล็กๆ แบบนี้ เราจะวางใจให้เป็นเพื่อนร่วมทางของเราได้มั้ย
คุณภาพและภาพถ่ายที่ได้จะสู้กับ600Dที่เราใช้อยู่ได้หรือป่าว
ก่อนจะเดินทาง มาทำความรู้จักกับเพื่อนร่วมทางของแจ๊คกันก่อนค่ะ
ถ้ามีเลนส์อยู่แล้วเอามาใช้กับตัวนี้ได้มั้ย ได้ค่ะ สามารถรองรับอุปกรณ์เสริมได้หลากหลาย สามารถใช้เลนส์ EF,EFS ที่คุณมีอยู่แล้ว
โดยต่อผ่าน EF mount adapter ค่ะ สามารถใช้รีโมทคอลโทรลRC-6ได้ มีแฟรชในตัวค่ะ หรือจะต่อแฟรชนอกก็ได้
ที่ผ่านมามีเพื่อนๆถามมาหลายคน จะเลือกตัวไหนดี มีตัวไหนแนะนำมั้ย เดี๋ยวตามมาอ่านกันในการเดินทางครั้งนี้ละกันค่ะ
ชาวlifesterอย่างเรา เดินทางและถ่ายภาพต้องทำคู่กันอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นรีวิวกล้องและรีวิวที่เที่ยวมันซะพร้อมๆกันไปเลย
(หรือเทสกล้องจะเป็นข้ออ้าง จะหาเรื่องเที่ยวก็บอกมาตรงๆ อิอิ ) มาดูก่อนดีกว่า เจ้ากล้องตัวเล็กเปลี่ยนเลนส์ได้ตัวนี้ มีดีอะไร
จากหน้าตาธรรมดาๆ พอเสริมสวยด้วย jacket และสายหนัง อื้มมมมมเธอดูดีมากอ่ะ
เราใช้DSLR อยู่แล้ว จับมาตอนแรกใช้งานได้เลยค่ะ ระบบการควบคุมการทำงานมันแทบไม่ต่างกันเลย ทั้งการวางปุ่มกด หรือโหมดต่างๆ คล้ายกันค่ะ
มีปุ่มชดเชยแสง ทำให้ปรับได้สะดวก แถมตัวนี้มีGripที่หนาขึ้นมาทำให้จับถนัดมือกระชับ ใช้งานเวลาซูมก็ถนัดขึ้น
หรือใครที่ไม่เคยใช้นะคะ ถ้ายังงงๆกับปุ่มต่างๆก็ไม่ได้เป็นปัญหาเลย เพราะจอ LCD Touchscreen มันถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่าย
ให้คุณคิดว่ามันเป็นสมาทโฟนอ่ะคะ จะตั้งค่าต่างๆก็จิ้มหน้าจอได้เลย หรือแม้แต่คุณจะกดถ่ายภาพ เจ้าตัวนี้มีฟังชั่นทัชชัตเตอร์
คุณสามารถแตะที่หน้าจอเก็บภาพประทับใจได้เลย
หน้าจอปรับได้ถึง 180 องศา ถ่ายมุมไหน ได้หมด สูง ต่ำ เซลฟี่ ก็เอาที่ชอบเลยค่ะ
กล้องที่เปิดหน้าจอตลอดเวลา แน่นนอนว่า มันต้องสูบแบตแน่ๆ เดี๋ยวมาดูกันว่าแบต1ก้อนจะอยู่ได้นานมั้ย
อ่อ เจ้าตัวนี้สามารถต่อช่องมองภาพได้นะสามารถปรับองศาได้ด้วย แต่ต้องซื้อเพิ่ม 5555 เราก็ใช้แบบนี้ละกัน
ระบบการซูมตัวนี้ใช้ได้ทั้ง auto และ manual ค่ะ
เห็นเล็กๆแบบนี้
ความละเอียด 24.2 megapixel
sensor CMOS ขนาด APS-C
ระบบโฟกัส Hybrid CMOS AF lll จับโฟกัสได้เร็วและแม่นยำ
เชื่อมต่อกับสมาทโฟนได้ด้วย NFC และWIFI และใช้งานง่ายมากๆไม่ยุ่งยาก ถ่ายปุ๊ปแชร์อวดเพื่อนๆได้เลย
เดี๋ยวนะ!!!!!! สเป็คนี้ DSLR 600D ของแจ๊คอายเลย5555 ชิส์ๆๆๆ
ถามว่าถ่ายVDOได้มั้ย ได้ค่ะ มีทั้ง VGA, HDหรือFULL HDก็ได้ แถมมีระบบโฟกัสตามวัตถุด้วย ไม่ว่าคุณจะขยับตัวไปจุดไหนกล้องก็จะโฟกัสหน้าคุณตลอด โดยปกติแล้ว การถ่ายVDO ที่แจ๊คเคยถ่าย ถ้าวัตถุเคลื่อนไหวก็จะหลุดโฟกัสไปเลยนอกซะจากว่าใช้ manual focus ฟังชั่นนี้ติดตามใบหน้า จัดว่าแจ่ม
และมีช่องต่อไมโครโฟนด้วยล่ะ คุณสมบัติก็เหมือนDSLRเลยค่ะ ปรับค่าต่างๆได้ ไม่ว่าจะเป็นถ่ายภาพนิ่ง(หมายถึงจับภาพนิ่งตอนถ่ายVDOค่ะ)จะปรับโฟกัสเองหรืออัตโนมัติก็ได้ และยังทัชสกรีนเพื่อโฟกัสได้อีกด้วย ปรับWB เลือกโทนสี ปรับแสง ได้หมดค่ะ มีโหมด Low Light Focus จับภาพในที่มีแสงน้อยได้ดี แต่ในรีวิวนี้แจ๊คมีแต่ภาพนิ่งนะ เน้นภาพนิ่งละกันเนอะ
เอาล่ะเราว่าเราคิดไม่ผิดนะที่เลือกน้องเล็กไปบันทึกการเดินทางของเราครั้งนี้ เธอเบาหวิว น่ารัก และเธอเก่ง 55555
เราจะผิดหวังมั้ยที่เลือกเธอ เดี๋ยวมาดูกันค่ะ
อ้อมโลกไปไกล เดินทางกันต่อค่ะ
หลังจากตัดสินใจตอนตี1 เอาล่ะ นอนได้ซะที จะไปดูทุ่งทานตะวัน ควรไปเช้าๆ พอบ่ายๆดอกมันจะคว่ำหน้าค่ะ เลยตั้งใจจะออกเช้ามาก
จะได้มีเวลาเที่ยวที่อื่นด้วย
จากการหาข้อมูล ตามเส้นทางที่เราต้องผ่าน มีที่เที่ยวเยอะค่ะเดี๋ยวค่อยว่ากัน ขอดูความประทับใจทุ่งทานตะวันก่อน
ถ้าได้ภาพสวยๆจากที่นี่แล้ว สถานที่อื่นก็เป็นที่ไหนก็ได้
นอนดิ่ รออะไร!!! สิ่งที่แจ๊คคิดตื่นตี4 ออกตี5 ไปถึงเช้าๆ ชิลล์อ่ะ ชีวิตดี๊ดี / แต่ความเป็นจริง 6.30เด้งออกมาจากที่นอน ทุกอย่างเร่งรีบ 55555 โถชีวิต!!!!!
ลุยเดี่ยวเหมือนเดิมจ้า ดูจากการวางแผนแล้วคงหาคนไปด้วยยาก(นี่คือแกวางแผนแล้วใช่มั้ย)
เส้นทางแจ๊คขับเส้นวิภาวดี พหลโยธิน รังสิต ให้ไปทางสระบุรี จะผ่าน วังน้อย หนองแค หินกอง สระบุรี เลี้ยวขวาเข้าถนนมิตรภาพ จะผ่านทับกวาง แก่งคอย มวกเหล็ก กลางดง แวะปั้มปตท กลางดง ออกจากห้องไม่ได้กินอะไรเลย หิวมาก จัดต้มเลือดหมู ข้าวเปล่า ร้อนๆ
เพื่อความสตรองต้องกาแฟ 1กระป๋อง 5555
แล้วก็ศึกษาเส้นทางเพิ่มเติม ไกล้ถึงแล้วเดี๋ยวหลง สุดท้ายขับเรื่อยๆ
ออกนอกเส้นทางนิดหน่อยอย่าเรียกว่าหลง มันสะเทือนใจ และแล้วก็เข้าถนนธนะรัชต์ มุ่งหน้าไปเข้าใหญ่ เส้นนี้เคยผ่านค่ะ ไปวังน้ำเขียว
วิวสวยมีที่ให้แวะหลายที่ ทางเข้าไร่มณีศรอยู่ก่อนถึงปาลิโอนะคะ
ให้มองซ้ายมือ หาป้าย แพนเธอร์ ครีค รีสอร์ท ทุ่งทานตะวันไรมณีศรอยู่ติดรีสอร์ทเลยค่ะ ป้ายของไร่ก้มีนะ แต่เป็นฟิวเจอร์บอร์ดเขียนด้วยเมจิก
ตามป้ายรีสอร์ทโอเคกว่า 5555 เข้าไปลึกเหมือนกันค่ะ
และแล้ว11โมงกว่าๆก็ถึงแพนเธอร์ ครีค ก็จะเห็นไรมณีศรค่ะ ติดกันเลย ต้องร้องโห ไม่ใช่อะไรนะ รถเยอะจัง
แล้วจะจอดตรงไหน เที่ยวจะสนุกมั้ย ภาพถ่ายสวยๆจะได้มั้ย แออัดแน่นอน ขับไปอีกนิด
อ๋อๆๆๆๆๆ ขับรถเข้าไปในไร่ได้เลยค่ะ ค่าเข้า20บาท มีที่จอดข้างใน
หรือจะขับวนๆไปตามทางในไร่ แล้วหาไหล่ทาง จอดเดินถ่ายรูปก็สะดวกดีค่ะ แจ๊คเข้าไป ที่จอดข้างบนเต็ม เลยต้องเลือกวิธีที่2 แจ๊คว่าขับรถวนดีกว่านะ
ไร่ใหญ่มากค่ะ พื้นที่ 500 กว่าไร่เดินอย่างเดียวเหนื่อยแย่เลยค่ะ
พื้นที่เป็นเนินเขาเล็กๆมองไปนี่เป็นภูเขาสีเหลืองทองเลยค่ะ ทำให้ได้ภาพที่ดูไม่ธรรมดา ฉากหลังเป็นภูเขา ฟ้าก็เป็นใจมากๆ แอร๊ยยยยยย สวยยยยยยยย
ภาพนี้ถ้ามีบันไดยืนถ่ายคงสวยกว่านี้ นี่ก็ชูสุดมือละ โชคดีกล้องเอียงหน้าจอได้ ถ่ายมุมสูงเราก็มองเห็นจอ เย้ๆๆๆๆ แต่เราตัวเตี้ยไง
ต่อเลยค่ะ กตชัตเตอร์ไม่ยั้ง
บัตรเข้าค่ะ
ขับมาก็หาที่จอดตามไหล่ทางเก็บภาพกันได้เลย
งดงามค่ะไม่ผิดหวังเลยที่มาที่นี่ ปกติเราเห็นแต่ทุ่งทานตะวันแบบพื้นที่ราบ มาเห็นที่ไรมณีศรนี่ชอบมากๆค่ะ ตั้งใจว่าจะเก็บภาพไม่มาก
ทุ่งทานตะวันจะมีซักกี่มุมกัน แต่ สุดท้ายมุมไหนก็สวยเลยได้มาหลายรูปค่ะ5555 กลับมานี่เลือกรูปเหนื่อยเลยค่ะ
กล้องตัวนี้เค้าก็มีระบบ sleep modeเหมือนกันนะ ช่วยประหยัดแบต เวลาที่เปิดกล้องทิ้งไว้ สามารถตั้งเวลาได้เร็วสุด 10วินาที ถ่ายเสร็จเดินหามุม
เปิดกล้องไว้ ผ่านไป 10วิ ก็จะเข้าสู่ sleep mode ทันที
มาดูรูปกันดีกว่าค่ะ ไม่รู้จะว่าอะไร เล่าด้วยรูปถ่ายละกันค่ะ
ภูเขาทอง5555
มองไปทางไหนก็เหลืองอร่าม
ขับต่อไปตามทางค่ะ
ขับไป จอดไป ถ่ายภาพไป
เที่ยงกว่าๆ ฟ้าเป็นใจ แน่นอนแดดแรงมากค่ะ แต่ได้ภาพที่สวย
ถ้าถามว่าแจ๊คใช้โหมดอะไรถ่าย
งานนี้เราก็โหมด M มันโอเคสำหรับเรา ปรับทุกอย่างตามใจเนอะ speed shutter, ค่ารูรับแสง, หรือจะiso ทุกอย่างตามชอบเลย
จริงๆก็มีโหมดAuto กล้องจะตั้งค่าให้เราอัตโนมัติ เลือกได้ว่าจะถ่ายอะไรเช่น ถ่ายอาหาร ถ่ายกลางคืน ถ่ายคน กีฬา ถ่ายวิว
ถ้าใครไม่ถนัด manual ก็ Auto เลยจ้า
มาดูโหมดอื่นที่น่าสนใจกันค่ะ
Creative Assist โหมดนี้ปรับหน้าชัดหลังเบลอ ความมืด สว่าง ความเข้มของสี และเซฟเก็บไว้ได้ เอามาใช้กับภาพอื่นๆได้
หรือจะแชร์สไตล์ให้กับกล้องรุ่นเดียวกันได้ด้วย
หรืออยากจะแต่งภาพจากในตัวกล้องเลยก็ได้ค่ะ ด้วยCreative Fillter เพิ่มความสนุกให้ภาพถ่ายของคุณ
แต่แจ๊คถนัดmanualแล้วมาแต่งอีกที แต่ภาพเซตนี้สีจากกล้องก็แจ่มแล้วค่ะ
ลืมบอกไป เพื่อนๆสามารถถ่ายเป็นRAW fileได้นะคะ อัตราส่วนของภาพ ก็จะมี 3:2,4:3,1:1,16:9
รูปทุ่งทานตะวันนี้แจ๊คใช้16:9ค่ะ
ในไร่เค้าก็ทำที่ให้ยืนถ่ายรูปนะคะ แต่ช่างภาพบางคนเค้าพกบันไดได้ไปเองมุมสูงกว่าสวยกว่าแน่ๆค่ะ
เรียงหน้ากันมาเชียว
รูปนี้มีพี่ชายคนหนึ่งถ่ายให้ พี่เค้าขับบิ๊กไบค์ มาคนเดียวเหมือนเราเลย ขอบคุณนะคะ
ภายในไร่มีป้ายบอกทางออกตลอดค่ะ
จอพับได้180 องศาก็ขอเซลฟี่ซะหน่อย อิอิ
เดี๋ยวมาต่อค่ะ