สวัสดีครับ ผมอยากแชร์ประสบการณ์ให้ผู้ปกครองที่จะช่วยลูกสอบเข้ามหาวิทยาลัย สำหรับท่านที่ลูกไม่ค่อยมีเพื่อน หรือยังหลงทาง ตามผมมาเรื่อยๆนะครับ
1. ตอน ม.3 พยายามสังเกตุว่า ลูกชอบสายวิทย์ หรือสายศิลป์ แล้วให้เขาเลือกให้ได้ ถ้าสายวิทย์ พยายามผลักดันให้เขาไปสอบเข้าโรงเรียนดีๆ ที่มีอัตราการสอบติดมหาวิทยาลัยสูง เดิมผมคิดว่า อยู่ที่ตัวเด็ก แต่ไม่ใช่เลย โรงเรียนแต่ละที่ มีการจัดติว มีการจัดการเรียนการสอนที่เอื้อกับเด็กในการแข่งขันมากๆ
2. ตอน ม.4-5 พาลูกไปรู้จักคณะต่างๆ ผ่าน ค่าย และแคมป์ สารพัดจะเปิด มีการเขียนข้อเขียน เพราะคนสมัครเยอะ เราก็ต้องช่วยกันกับลูกในการกรอก ในการหาข้อมูล เมื่อได้เข้าค่าย เข้าแคมป์ เขาจะรู้ตัวตน ว่า ชอบจริงหรือเปล่า ขั้นตอนนี้สำคัญมาก ถ้าคณะที่เขาเลือก คะแนนสูง เขาจะได้ตั้งใจเรียนให้มากๆ
3. ตอน ม.4-5-6 ถ้าอยู่ในจังหวัดใหญ่ๆ หาติวเตอร์เก่งๆ มีเทคนิคช่วยจำ ถ้าอยู่ในจังหวัดเล็กๆ ทางออนไลน์ เรียนกับคอมก็มีมาก ลองค้นหาดู แต่ละวิชา จะเก่งได้ ก็ต้องคนละที่ ที่สำคัญ เรียนแล้ว ติวแล้ว ต้องกลับมาทบทวนตลอด สม่ำเสมอ พ่อแม่ต้องตั้งกฏให้ลูกบ้าง (ไม่ใช่บังคับ)
4. ตอน ม.6 ตั้งแต่เปิดเทอม 2 ควรจะช่วยลูกดู ทั้งรับตรง ทั้งโครงการ ทั้งโควต้าต่างๆ ทั้ง admission ควรช่วยดู ช่วยคิด เพราะลำพังเรียนและจำ ก็เบลอแล้ว บางทีการเลือกอันดับต่างๆ ก็มีผล อย่างน้อย เขาก็มั่นใจว่า มีคนใส่ใจเขา อย่าละทิ้งให้เขาคิดเองหรือตามเพื่อน เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อจริงๆ
5. การทดสอบพรี ทั้งหลาย มีเยอะมากในเน็ต ให้เขาได้ทดสอบ ทดลอง ก่อนการสอบจริง ซึ่ง ต้องคอยหมั่นเช็คความรู้ เพราะผลส่วนมากใกล้เคียงความจริงมาก +- ไม่เกิน 10%
6. ถ้าทดสอบแล้ว คะแนน ห่างไกล มีตัวให้เลือกคือ ลดคณะ หรือ พยายามให้มากกว่าเดิม
7. ข้อสุดท้าย การสอบ ให้สอบให้มากที่สุด ทั้ง รับโควต้า, รับตรง, กสพท., 9 วิชาสามัญ, gat pat รวมทั้งอย่าให้ทิ้งเกรดที่โรงเรียน เพราะมีผลต่อการเลือก admission มากๆ
สิ่งหนึ่งที่ได้เรียนรู้จากลูก และเพื่อนๆคือ หลายบ้านปล่อยปละละเลย ให้แต่เงินไปติว ให้แต่เงินตามเพื่อน ลืมใส่ใจเรื่องของลูก ที่บางครั้งเป็นโอกาสครั้งเดียวของเขาเท่านั้น
หวังว่า พอจะมีประโยชน์บ้างนะครับ
แชร์ประสบการณ์สำหรับ ผู้ปกครองเพื่อเตรียมตัวลูกที่จะเข้ามหาวิทยาลัย
1. ตอน ม.3 พยายามสังเกตุว่า ลูกชอบสายวิทย์ หรือสายศิลป์ แล้วให้เขาเลือกให้ได้ ถ้าสายวิทย์ พยายามผลักดันให้เขาไปสอบเข้าโรงเรียนดีๆ ที่มีอัตราการสอบติดมหาวิทยาลัยสูง เดิมผมคิดว่า อยู่ที่ตัวเด็ก แต่ไม่ใช่เลย โรงเรียนแต่ละที่ มีการจัดติว มีการจัดการเรียนการสอนที่เอื้อกับเด็กในการแข่งขันมากๆ
2. ตอน ม.4-5 พาลูกไปรู้จักคณะต่างๆ ผ่าน ค่าย และแคมป์ สารพัดจะเปิด มีการเขียนข้อเขียน เพราะคนสมัครเยอะ เราก็ต้องช่วยกันกับลูกในการกรอก ในการหาข้อมูล เมื่อได้เข้าค่าย เข้าแคมป์ เขาจะรู้ตัวตน ว่า ชอบจริงหรือเปล่า ขั้นตอนนี้สำคัญมาก ถ้าคณะที่เขาเลือก คะแนนสูง เขาจะได้ตั้งใจเรียนให้มากๆ
3. ตอน ม.4-5-6 ถ้าอยู่ในจังหวัดใหญ่ๆ หาติวเตอร์เก่งๆ มีเทคนิคช่วยจำ ถ้าอยู่ในจังหวัดเล็กๆ ทางออนไลน์ เรียนกับคอมก็มีมาก ลองค้นหาดู แต่ละวิชา จะเก่งได้ ก็ต้องคนละที่ ที่สำคัญ เรียนแล้ว ติวแล้ว ต้องกลับมาทบทวนตลอด สม่ำเสมอ พ่อแม่ต้องตั้งกฏให้ลูกบ้าง (ไม่ใช่บังคับ)
4. ตอน ม.6 ตั้งแต่เปิดเทอม 2 ควรจะช่วยลูกดู ทั้งรับตรง ทั้งโครงการ ทั้งโควต้าต่างๆ ทั้ง admission ควรช่วยดู ช่วยคิด เพราะลำพังเรียนและจำ ก็เบลอแล้ว บางทีการเลือกอันดับต่างๆ ก็มีผล อย่างน้อย เขาก็มั่นใจว่า มีคนใส่ใจเขา อย่าละทิ้งให้เขาคิดเองหรือตามเพื่อน เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อจริงๆ
5. การทดสอบพรี ทั้งหลาย มีเยอะมากในเน็ต ให้เขาได้ทดสอบ ทดลอง ก่อนการสอบจริง ซึ่ง ต้องคอยหมั่นเช็คความรู้ เพราะผลส่วนมากใกล้เคียงความจริงมาก +- ไม่เกิน 10%
6. ถ้าทดสอบแล้ว คะแนน ห่างไกล มีตัวให้เลือกคือ ลดคณะ หรือ พยายามให้มากกว่าเดิม
7. ข้อสุดท้าย การสอบ ให้สอบให้มากที่สุด ทั้ง รับโควต้า, รับตรง, กสพท., 9 วิชาสามัญ, gat pat รวมทั้งอย่าให้ทิ้งเกรดที่โรงเรียน เพราะมีผลต่อการเลือก admission มากๆ
สิ่งหนึ่งที่ได้เรียนรู้จากลูก และเพื่อนๆคือ หลายบ้านปล่อยปละละเลย ให้แต่เงินไปติว ให้แต่เงินตามเพื่อน ลืมใส่ใจเรื่องของลูก ที่บางครั้งเป็นโอกาสครั้งเดียวของเขาเท่านั้น
หวังว่า พอจะมีประโยชน์บ้างนะครับ