สวัสดีครับพี่น้องชาวพันทิพย์
วันนี้ผมจะมารีวิวเกี่ยวกับจอมอนิเตอร์ของคอมพิวเตอร์ครับ โดยจอที่ว่านี้คือจอยี่ห้อ Dell รุ่น UP2516D
ซึ่งเป็นจอที่สามารถแสดงสีสันได้ถึง 1 พันล้านสีครับ (1.07 billion colors) หรือเรียกสั้น ๆ ว่าจอ Wide Gamut ครับ
แต่ถ้าเป็นจอทั่วไปจะได้แค่ 16.7 ล้านสีครับ
โดยรายละเอียดที่ผมจะนำเสนอจะเกี่ยวกับการเปรียบเทียบความแตกต่างของสีเป็นส่วนใหญ่นะครับ เป็นสไตล์ plug&play ครับ
สำหรับ Spec ของจอ Dell รุ่น UP2516D ตัวนี้ที่เด่น ๆ ดังนี้ครับ
Panel type : IPS
Viewable size : 25 นิ้ว
A
spect ratio : 16:9
Resolution : 2560*1440 @ 60 Hz
Color support : 1.07 billion colors
Panel coating : Semi-Glossy (ในเว็บบอกแค่เป็น Anti-Glare with 3H hardness)
Color accuracy : มีการ calibrate มาให้จากโรงงานโดยที่ delta E < 2 ครับ (เฉพาะโหมด sRGB และ Adobe RGB ครับ)
โดยค่า Delta-E < 1 จะเป็นค่าที่ตาของมนุษย์จะแยกแยะความแตกต่างของสีได้น้อยที่สุดครับ
อิงจาก ColorWiki
ความแตกต่างของจอ Wide Gamut กับจอทั่วไปจะแตกต่างกันที่ขอบเขตของการแสดงสีเป็นหลักครับ โดยที่ช่วง Color space ของจอ Wide gamut จะกว้างกว่าจอทั่วไปค่อนข้างมากครับ ดูได้จากรูปด้านล่างครับ
ซึ่งในจอ Wide gamut จะมีโหมดย่อย ๆ ให้เลือกเพิ่มเติมอีกครับ โดยต้องทำการเลือกที่ Color space ตรงหน้าต่างเมนูของจอครับ
สำหรับจอรุ่นนี้จะมี color space ตามนี้ครับ
Adobe RGB : เป็นโหมดที่เหมาะสำหรับการแต่งภาพ
sRGB : เหมาะสำหรับใช้งานทั่วไป
REC709 : จะคล้าย ๆ กับ sRGB ครับแต่มีความเข้มของสีที่มากกว่านิดนึง ดูมีมิติกว่า sRGB มากขึ้นครับ
DCI-P3 : เหมาะสำหรับการดูหนัง (DCI = Digital Camera Initiatives)
นอกจากนี้ถ้าอยากปรับสีเพิ่มเติมเองก็สามารถไปปรับได้เองที่ Custom colors ได้เลยครับ
จะมีให้เลือกปรับทั้ง Gain, Offset, Hue และ Saturation ครับ
ถัดมาเป็นในส่วนของ Package ครับ
ลักษณะของกล่อง Dell รุ่น UP2516D ดูดีกว่ากว่ารุ่นเก๋า ๆ อย่าง U2414h rev แรก ๆ เยอะครับ (rev แรก ๆ เป็นกระดาษลัง) แต่ตัวนี้เป็นกล่องสีขาว
ที่ผมชอบก็คือรูปแบบการจัดวางอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในกล่องทำมาได้ง่ายแก่การเอาออกมาใช้ดีครับ
หน้าตากล่องภายนอกครับ
ด้านหน้าจะมีชื่อรุ่นเขียนไว้พร้อม
ด้านหลังจะเขียนบอก spec ครับ
ซึ่งจะมีการบอกว่าจอตัวนี้มีการ calibrate มาอย่างแม่นยำครับ (precious calibration with delta-E <2)
ภายในกล่องจะมีการจัดระเบียบอุปกรณ์ต่าง ๆ ไว้เป็นอย่างดีครับทำให้ง่ายต่อการหยิบใช้เป็นอย่างยิ่ง
ของภายในกล่องก็จะประกอบด้วย
- จอและขาทั้ง 2 ส่วนประกอบเองง่ายมากครับ
- สายไฟ (ต้องมีนะครับ)
- สาย mini Display port to Display port
- สาย USB 3 main stream เอาไว้ต่อกับคอมเพื่อให้จอเป็น USB hub ได้ครับ (คือสามารถเสียบ usb กับจอคอมได้เลย จะมี port อยู่ด้านซ้ายของจอครับ)
- แผ่น driver (ไม่ต้องลงก็ได้)
- ใบ Calibrate เอาไว้ดูว่าจอที่เราได้มาคาลิเบรตมาดีแค่ไหน
ในส่วนของจอที่ผมได้มาทาง Dell คาลิเบรตมาให้เป็นอย่างดีเลยครับ
จะเห็นว่าค่า delta E แทบจะเกือบใกล้ 0 เลยทีเดียว
เมื่อเทียบกับรุ่นเก๋าอย่าง U2414H (ยืมรูปมาจากกระทู้รีวิวของ PrimeTime ครับ)
ถัดมาเป็นจุดเด่นของจอตัวนี้เลยแหละครับ
จอตัวนี้ลักษณะของจอเป็นแบบ Semi-glossy ซึ่งเป็นการเคลือบแบบนี้คือจะเอาลักษณะเด่นของ 2 อย่างมารวมกันก็คือ
ความใสของกระจกและการไม่สะท้อนแสงของจอด้านครับ
ทำให้สิ่งที่ท่านจะได้รับคือ เมื่อมองภาพผ่านจอนี้จะรู้สึกว่าภาพมีความคมกว่าจอด้าน แต่ไม่มีการสะท้อนแสงให้เห็นครับ
แต่จากที่ผมดูมันก็สะท้อนอยู่นิดนึงประมาณ 10-20% แต่น้อยกว่าจอกระจกเยอะมากครับ
(ถ้านึกไม่ออกว่าจอกระจกสะท้อนยังไงก็ลองเอาหน้าจอมือถือที่ติดฟิล์มมามองดูก็ได้ครับ จะเห็นการสะท้อนแบบ 100% เลยทีเดียว แต่จอแบบนี้ไม่ครับ)
หน้าตาของ Semi-glossy ครับ
จะเห็นว่ามองปุ้บก็รู้แล้วว่ามันแตกต่างจากจอทั่วไปจริง ๆ คือมันจะดำแบบดำสนิทจริง ๆ ดูแล้วสวยดีจริง ๆ ครับ
ถัดมาจะเป็นในส่วนของการเปรียบเทียบสีสันของภาพนะครับ
ผมจะทำการเปรียบเทียบ 2 mode นะครับคือ Adobe RGB กับ sRGB
สาเหตุที่ทำการเปรียบเทียบแค่ 2 mode นี้เท่านั้นเนื่องจากเป็น mode ที่มีการ calibrate มาให้จากโรงงานเรียบร้อยแล้วครับ
โดยทำการเปรียบเทียบระหว่างจอ
Dell UP2516D กับ
Dell U2414H ครับ
Preset mode
Dell U2516D : Adobe RGB (จอฝั่งซ้ายมือของผู้อ่านครับ)
Dell U2414H : sRGB (จอฝั่งขวามือของผู้อ่านครับ)
** ในการถ่ายใช้กล้อง Nikon Coolpix ถ่ายครับ **
** โดยรูปของจอ Dell U2516D ของจริงสีสันจะดูดีกว่านี้ครับ เพราะพอผมลองมาเช็คดูอีกทีสีมันก็เพี้ยน ๆ ไปบางส่วนเหมือนกัน **
จะเห็นว่า Adobe RGB จะแสดงสีได้แตกต่างจาก sRGB ได้ค่อนข้างมากครับ โดยจะมีความสดและอิ่มตัวของสีมากขึ้น
ยิ่งถ้าเอาไปดูหนังที่วิวสวย ๆ อีกเป็นอะไรที่เพลินดีครับ
ถัดมาจะเป็นการทดสอบความแตกต่างของสีสันเมื่อนำจอนี้ไปเล่นเกมครับ
จอที่ใช้ในการทดลองคือ Dell UP2516D ครับ
Resolution : 2560*1440
Brightness และ Contrast ที่ตั้งไว้สำหรับภาพชุดด้านล่างคือ 24% กับ 50% ครับ
** ที่ไม่ได้ถ่ายพร้อมกับ U2414H เนื่องจากเอาไปเก็บเข้ากรุไปละครับ ขี้เกียจเอาออกมาใหม่ **
** รูป
ด้านบนจะเป็น sRGB และรูป
ด้านล่างจะเป็น Adobe RGB ครับ **
เกม Guild wars 2
เกม Child of Light
Wall paper : Game of Throne ของจริงสีสันดูเนียนและสวยกว่านี้ครับ
ในส่วนนี้จะเป็นการเปรียบเทียบความละเอียดของภาพกันนะครับ
เอาไว้เป็นตัวเลือกสำหรับคนที่อยากเอาจอแบบนี้ไปเล่นเกมด้วยครับ
โดยจะทำการเทียบระหว่าง Resolution : 1920x1080 กับ 2560x1440 ครับเพื่อให้เห็นความแตกต่างคือ
-- ความละเอียดของภาพที่ 1080p กับ 1440p
-- ค่า Frame Per Second หรือ FPS ที่ลดลงเมื่อท่านเล่นที่จอ 1440p
** Spec ของเครื่องผม **
CPU : i5-4590
Ram : ddr3 bus 1600 4x2 gb
VGA : Zotac gtx 960 vram 2 gb
โดยภาพรวมแล้ว FPS จะหายไปประมาณ 30-50% ได้เลยแหละครับ
** ภาพผมทำการถ่ายที่ Resolution 1080p และ 1440p โดยใช้โปรแกรม Frap **
** ทำการย่อรูปให้เหลือ 1920*1080 ครับเพื่อให้เห็นความแตกต่างได้ชัดเจนครับ **
รูปบน : 1920*1080
รูปล่าง : 2560*1440
Battlefield 3
Guild wars 2
Tomb Raider 2013
Dota 2
Tom Clancy : The Division
ความแตกต่างหลัก ๆ ถ้าดูจากรูปเพียงอย่างเดียวลองดูที่พวกต้นไม้ ใบหญ้าอ่ะครับจะเห็นว่าที่ 1440p จะมีความเนียนมากกว่าที่ 1080p ครับ
ถัดมาก็เอาใจสำหรับคนชอบ overclock จอกันครับ
ในส่วนนี้เป็นการทดลองเล่น ๆ ของผมดูครับ
นั่นคือการ Overclock จอ เพราะเดิมทีจอนี้เป็นจอ 60 Hz ก็เลยขอทดลองทำการ overclock ดูหน่อยว่าจะไปได้ไกลแค่ไหน
โดยผมตั้งให้มันเป็นแค่ auto แค่นั้นครับ ไม่ได้ไปปรับ timing ใด ๆ ทั้งสิ้น
ผลลัพธ์ที่ได้นั้นน่าตกใจเป็นอย่างมากเพราะสามารถไปได้ไกลถึง 81 Hz @ auto กันได้แบบสบาย ๆ เลยทีเดียว
การ Overclock ผม customize ผ่าน Nvidia Control Panel นะครับ เชื่อมต่อด้วย Display port (สายที่ dell แถมมาให้)
อ่านต่อได้ในความคิดเห็นที่ 2 ครับ
[CR] Review : จอคอมแบบพันล้านสี Dell UP2516D
วันนี้ผมจะมารีวิวเกี่ยวกับจอมอนิเตอร์ของคอมพิวเตอร์ครับ โดยจอที่ว่านี้คือจอยี่ห้อ Dell รุ่น UP2516D
ซึ่งเป็นจอที่สามารถแสดงสีสันได้ถึง 1 พันล้านสีครับ (1.07 billion colors) หรือเรียกสั้น ๆ ว่าจอ Wide Gamut ครับ
แต่ถ้าเป็นจอทั่วไปจะได้แค่ 16.7 ล้านสีครับ
โดยรายละเอียดที่ผมจะนำเสนอจะเกี่ยวกับการเปรียบเทียบความแตกต่างของสีเป็นส่วนใหญ่นะครับ เป็นสไตล์ plug&play ครับ
สำหรับ Spec ของจอ Dell รุ่น UP2516D ตัวนี้ที่เด่น ๆ ดังนี้ครับ
Panel type : IPS
Viewable size : 25 นิ้ว
Aspect ratio : 16:9
Resolution : 2560*1440 @ 60 Hz
Color support : 1.07 billion colors
Panel coating : Semi-Glossy (ในเว็บบอกแค่เป็น Anti-Glare with 3H hardness)
Color accuracy : มีการ calibrate มาให้จากโรงงานโดยที่ delta E < 2 ครับ (เฉพาะโหมด sRGB และ Adobe RGB ครับ)
โดยค่า Delta-E < 1 จะเป็นค่าที่ตาของมนุษย์จะแยกแยะความแตกต่างของสีได้น้อยที่สุดครับ อิงจาก ColorWiki
ความแตกต่างของจอ Wide Gamut กับจอทั่วไปจะแตกต่างกันที่ขอบเขตของการแสดงสีเป็นหลักครับ โดยที่ช่วง Color space ของจอ Wide gamut จะกว้างกว่าจอทั่วไปค่อนข้างมากครับ ดูได้จากรูปด้านล่างครับ
ซึ่งในจอ Wide gamut จะมีโหมดย่อย ๆ ให้เลือกเพิ่มเติมอีกครับ โดยต้องทำการเลือกที่ Color space ตรงหน้าต่างเมนูของจอครับ
สำหรับจอรุ่นนี้จะมี color space ตามนี้ครับ
Adobe RGB : เป็นโหมดที่เหมาะสำหรับการแต่งภาพ
sRGB : เหมาะสำหรับใช้งานทั่วไป
REC709 : จะคล้าย ๆ กับ sRGB ครับแต่มีความเข้มของสีที่มากกว่านิดนึง ดูมีมิติกว่า sRGB มากขึ้นครับ
DCI-P3 : เหมาะสำหรับการดูหนัง (DCI = Digital Camera Initiatives)
นอกจากนี้ถ้าอยากปรับสีเพิ่มเติมเองก็สามารถไปปรับได้เองที่ Custom colors ได้เลยครับ
จะมีให้เลือกปรับทั้ง Gain, Offset, Hue และ Saturation ครับ
ถัดมาเป็นในส่วนของ Package ครับ
ลักษณะของกล่อง Dell รุ่น UP2516D ดูดีกว่ากว่ารุ่นเก๋า ๆ อย่าง U2414h rev แรก ๆ เยอะครับ (rev แรก ๆ เป็นกระดาษลัง) แต่ตัวนี้เป็นกล่องสีขาว
ที่ผมชอบก็คือรูปแบบการจัดวางอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในกล่องทำมาได้ง่ายแก่การเอาออกมาใช้ดีครับ
หน้าตากล่องภายนอกครับ
ด้านหน้าจะมีชื่อรุ่นเขียนไว้พร้อม
ด้านหลังจะเขียนบอก spec ครับ
ซึ่งจะมีการบอกว่าจอตัวนี้มีการ calibrate มาอย่างแม่นยำครับ (precious calibration with delta-E <2)
ภายในกล่องจะมีการจัดระเบียบอุปกรณ์ต่าง ๆ ไว้เป็นอย่างดีครับทำให้ง่ายต่อการหยิบใช้เป็นอย่างยิ่ง
ของภายในกล่องก็จะประกอบด้วย
- จอและขาทั้ง 2 ส่วนประกอบเองง่ายมากครับ
- สายไฟ (ต้องมีนะครับ)
- สาย mini Display port to Display port
- สาย USB 3 main stream เอาไว้ต่อกับคอมเพื่อให้จอเป็น USB hub ได้ครับ (คือสามารถเสียบ usb กับจอคอมได้เลย จะมี port อยู่ด้านซ้ายของจอครับ)
- แผ่น driver (ไม่ต้องลงก็ได้)
- ใบ Calibrate เอาไว้ดูว่าจอที่เราได้มาคาลิเบรตมาดีแค่ไหน
ในส่วนของจอที่ผมได้มาทาง Dell คาลิเบรตมาให้เป็นอย่างดีเลยครับ
จะเห็นว่าค่า delta E แทบจะเกือบใกล้ 0 เลยทีเดียว
เมื่อเทียบกับรุ่นเก๋าอย่าง U2414H (ยืมรูปมาจากกระทู้รีวิวของ PrimeTime ครับ)
ถัดมาเป็นจุดเด่นของจอตัวนี้เลยแหละครับ
จอตัวนี้ลักษณะของจอเป็นแบบ Semi-glossy ซึ่งเป็นการเคลือบแบบนี้คือจะเอาลักษณะเด่นของ 2 อย่างมารวมกันก็คือ
ความใสของกระจกและการไม่สะท้อนแสงของจอด้านครับ
ทำให้สิ่งที่ท่านจะได้รับคือ เมื่อมองภาพผ่านจอนี้จะรู้สึกว่าภาพมีความคมกว่าจอด้าน แต่ไม่มีการสะท้อนแสงให้เห็นครับ
แต่จากที่ผมดูมันก็สะท้อนอยู่นิดนึงประมาณ 10-20% แต่น้อยกว่าจอกระจกเยอะมากครับ
(ถ้านึกไม่ออกว่าจอกระจกสะท้อนยังไงก็ลองเอาหน้าจอมือถือที่ติดฟิล์มมามองดูก็ได้ครับ จะเห็นการสะท้อนแบบ 100% เลยทีเดียว แต่จอแบบนี้ไม่ครับ)
หน้าตาของ Semi-glossy ครับ
จะเห็นว่ามองปุ้บก็รู้แล้วว่ามันแตกต่างจากจอทั่วไปจริง ๆ คือมันจะดำแบบดำสนิทจริง ๆ ดูแล้วสวยดีจริง ๆ ครับ
ถัดมาจะเป็นในส่วนของการเปรียบเทียบสีสันของภาพนะครับ
ผมจะทำการเปรียบเทียบ 2 mode นะครับคือ Adobe RGB กับ sRGB
สาเหตุที่ทำการเปรียบเทียบแค่ 2 mode นี้เท่านั้นเนื่องจากเป็น mode ที่มีการ calibrate มาให้จากโรงงานเรียบร้อยแล้วครับ
โดยทำการเปรียบเทียบระหว่างจอ Dell UP2516D กับ Dell U2414H ครับ
Preset mode
Dell U2516D : Adobe RGB (จอฝั่งซ้ายมือของผู้อ่านครับ)
Dell U2414H : sRGB (จอฝั่งขวามือของผู้อ่านครับ)
** ในการถ่ายใช้กล้อง Nikon Coolpix ถ่ายครับ **
** โดยรูปของจอ Dell U2516D ของจริงสีสันจะดูดีกว่านี้ครับ เพราะพอผมลองมาเช็คดูอีกทีสีมันก็เพี้ยน ๆ ไปบางส่วนเหมือนกัน **
จะเห็นว่า Adobe RGB จะแสดงสีได้แตกต่างจาก sRGB ได้ค่อนข้างมากครับ โดยจะมีความสดและอิ่มตัวของสีมากขึ้น
ยิ่งถ้าเอาไปดูหนังที่วิวสวย ๆ อีกเป็นอะไรที่เพลินดีครับ
ถัดมาจะเป็นการทดสอบความแตกต่างของสีสันเมื่อนำจอนี้ไปเล่นเกมครับ
จอที่ใช้ในการทดลองคือ Dell UP2516D ครับ
Resolution : 2560*1440
Brightness และ Contrast ที่ตั้งไว้สำหรับภาพชุดด้านล่างคือ 24% กับ 50% ครับ
** ที่ไม่ได้ถ่ายพร้อมกับ U2414H เนื่องจากเอาไปเก็บเข้ากรุไปละครับ ขี้เกียจเอาออกมาใหม่ **
** รูปด้านบนจะเป็น sRGB และรูปด้านล่างจะเป็น Adobe RGB ครับ **
เกม Guild wars 2
เกม Child of Light
Wall paper : Game of Throne ของจริงสีสันดูเนียนและสวยกว่านี้ครับ
ในส่วนนี้จะเป็นการเปรียบเทียบความละเอียดของภาพกันนะครับ
เอาไว้เป็นตัวเลือกสำหรับคนที่อยากเอาจอแบบนี้ไปเล่นเกมด้วยครับ
โดยจะทำการเทียบระหว่าง Resolution : 1920x1080 กับ 2560x1440 ครับเพื่อให้เห็นความแตกต่างคือ
-- ความละเอียดของภาพที่ 1080p กับ 1440p
-- ค่า Frame Per Second หรือ FPS ที่ลดลงเมื่อท่านเล่นที่จอ 1440p
** Spec ของเครื่องผม **
CPU : i5-4590
Ram : ddr3 bus 1600 4x2 gb
VGA : Zotac gtx 960 vram 2 gb
โดยภาพรวมแล้ว FPS จะหายไปประมาณ 30-50% ได้เลยแหละครับ
** ภาพผมทำการถ่ายที่ Resolution 1080p และ 1440p โดยใช้โปรแกรม Frap **
** ทำการย่อรูปให้เหลือ 1920*1080 ครับเพื่อให้เห็นความแตกต่างได้ชัดเจนครับ **
รูปบน : 1920*1080
รูปล่าง : 2560*1440
Battlefield 3
Guild wars 2
Tomb Raider 2013
Dota 2
Tom Clancy : The Division
ความแตกต่างหลัก ๆ ถ้าดูจากรูปเพียงอย่างเดียวลองดูที่พวกต้นไม้ ใบหญ้าอ่ะครับจะเห็นว่าที่ 1440p จะมีความเนียนมากกว่าที่ 1080p ครับ
ถัดมาก็เอาใจสำหรับคนชอบ overclock จอกันครับ
ในส่วนนี้เป็นการทดลองเล่น ๆ ของผมดูครับ
นั่นคือการ Overclock จอ เพราะเดิมทีจอนี้เป็นจอ 60 Hz ก็เลยขอทดลองทำการ overclock ดูหน่อยว่าจะไปได้ไกลแค่ไหน
โดยผมตั้งให้มันเป็นแค่ auto แค่นั้นครับ ไม่ได้ไปปรับ timing ใด ๆ ทั้งสิ้น
ผลลัพธ์ที่ได้นั้นน่าตกใจเป็นอย่างมากเพราะสามารถไปได้ไกลถึง 81 Hz @ auto กันได้แบบสบาย ๆ เลยทีเดียว
การ Overclock ผม customize ผ่าน Nvidia Control Panel นะครับ เชื่อมต่อด้วย Display port (สายที่ dell แถมมาให้)
อ่านต่อได้ในความคิดเห็นที่ 2 ครับ