เนื่องด้วยงานหนังสือ วันสุดท้าย 10 เมย 59
งานหนังสือ มันดีอย่างนึง ตรงที่ หนังสือ ที่เคยเห็นๆมา เขามักจะเอามาลดในงานนี้ โดยเฉพาะที่เห็นชัด คือ พวกหนังสือ คอมพิวเตอร์ บางเล่มราคาปก 259 บาท (สมมตินะ) เขาก็เอามาลดเหลือ 50 บาท เป็๋นต้น ซึ่งบางทีหากเผลอซื้อไปก่อน ด้วยความใจร้อน อยากได้ หรือ อะไรก็ตามแต่ จะเกิดความรู้สึกเสียดาย และ ทุกข์ใจที่ดันไปรีบร้อนซื้อ แต่ทั้งนี้ จะต้องหมั่นสังเกตด้วยว่า หนังสือ แบบไหนที่เขาเอามาลด เพราะใช่ว่า ทุกเล่ม จะลดเยอะแบบนี้ แล้วก็ด้วยเหตุนี้หล่ะมั้ง ที่สำนักพิมพ์ต่างๆ มาลดเยอะ เกินคร่ง เลยเป็นผลให้ร้านหนังสือมือสอง คนไม่ค่อยซื้อ เพราะมันจะดูแพงไปทันที รองานหนัง ดีกว่า แล้วก็มี บางสำนักพิมพ์เหมือนกัน หนังสือก็เก่ามาก แถมลดแค่ 15 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นหนังสือใหม่
ส่วนโซนร้านหนังสือเก่า อันนี้ต้องทำใจนิดนึง หนังสือ มันจะเลอะ หน่อย แต่ก็อาจจะเจอบางเล่ม ที่หามานาน ซึ่งมันก็มีร้านครึ่งราคา กับร้าน 20 บาท หรือ 50 บาท แต่ทั้งนี้ จะต้องเดินดูๆให้ดี เพราะบางเล่ม ปกเดี่ยวกันเล ร้านนึง 20 อีกร้าน 100 ส่วนพวกหนังสือ เล่มเล็กๆ เชิงให้ข้อคิดกำลังใจหน่อย เช่น หากไม่อยากเสียใจก็อย่ารักใครมากกว่าตัวเอง ,เป็นอะไรไปความรัก,ยังมีแสงสว่างเสมอ (อันนี้จำชื่อผิดไปนิด) เหลือแค่เล่มละ 10 บาท เท่านั้น แต่ก็มีบางร้าน ขอลดหน่อยเขาก็ไม่ให้ทั้งที่หนังสือก็เก่า เลอะ มีบอกให้ดูปกอีก ลดเยอะแล้วนะ คือ จริงๆ เขารับซื้อมาเล่มละไม่กี่สิบบาทเท่านั้น สมมติ เล่มละ 10 บาท แต่มาขาย 50 บาท ก็ดูแล้วกันกำไรเท่าไหร่ ไม่งั้นจะเอาจากไหนจ่ายค่าแพงหล่ะ ส่วนร้านครึ่งราคา ขายไม่ค่อยออกหรอก สังเกตได้ชัดมากเลย
ทีนี้ก็ช่วงท้ายก่อนจะออกมา ก็ลองเข้าไปคุย กับ บก หนังสือคอม (เอาว่ารู้แระกันคนนี้ บก 555)ตอนแรกนึกว่าเขาจะไม่คุย หรือ ยัดเยียดให้ซื้อ สุดท้ายด้วยความรุ้สึก ว่าจะคาใจ และ วันนีมันก็วันสุดท้าย ก็เลย อืม ลองเข้าไปคุยดู เขากินข้าวกล่องเดินไปมาอยู่ ก็พูดด้วยความมาดมั่น พี่ครับ ผมขอคุยแปปนึงได้ไหม หน้าตาเขาก็น่ากลัวนิดๆเหมือนกัน เขาบอกได้ครับ จากนั้นก็ถามไปว่า ทำไม มันไม่เห็นมีหนังสือ พวกซ่อมคอม ไบออส อะไรพวกนี้เลย เขาบอกอว่า ตอนแรกๆหลายๆคนก็ทำเหมือนกัน แต่มันขายไม่ได้ เขาก็เลยเลิกๆทำไป ส่วนมากจะเป็นเกี่ยวกับ เว้ปไซต์ หรือ อินเตอร์เน็ตมากกว่า แล้วอีกอย่างคนไทยอ่านหนังสือน้อย ส่วนมากจะไปอ่านบนเน็ต หนังสือ พิมพ์มาเลยขายไม่ค่อยออก ที่เห็นๆอยู่ตอนนี้เหลืออยู่ไม่กี่เจ้าเท่านั้น แล้วพวกตัวแทนจำหน่าย (หมายถึง ซีเอ็ด นายอินทร์ บีทูเอส)จะทำตัวเหมือนเซเว่น คือ หนังสือจะอยู่บนชั้น ประมาณแค่ 1-2 เดือน แล้วเขาจะเอาออก (หรือพูดอีกอย่าง ไม่ได้ขายดี แต่โดนตัวแทนจำหน่าย ส่งหนังสือกลับ)
จากการที่คุยกับพี่ บก คนนึง เห็นได้ชัดว่าอยู่อย่าง คือ ทุกวันนี้ อยู่ยาก แย่งกันกินใช้ ขนาดธุรกิจต่างๆ ยังแข่งขันกันเลย ด้วยเหตุนี้หล่ะมั้ง น้ำจิตน้ำใจ มนุษย์มันเลยมีน้อยลงไปเยอะ ทำไรก็ผลประโยชน์ ถ้าไม่มีก็ไม่สนใจ ยิ่งคนเป็นพนักงานก็ต้องทนทำแลกค่าแรงน้อยนิด เออถ้าบ้านรวยก็ว่าไปอย่าง ไม่สิ คนบ้านรวยก็มีปัญหาเหมือนกันนั่นแหล่ะ ถ้าไม่มีของให้ ญาติๆก็ไม่มาหา หรือ ไม่ก็ถ้าไม่สปอยด์ อีกฝ่ายก็จะไม่สนใจประมาณนี้
ส่วนประโยชน์ของการอ่านหนังสือ มันก็ทำให้ดูแลสุขภาพทั้งกายใจ เช่น ต้องหมั่นออกกำลังกาย แคลเซียมจะได้เกาะกระดูกมากขึ้น นอกจากนี้หนังสือ ยังช่วยให้ ต่อสู้กับปัญหาต่างๆได้ดีมากขึ้น คือ ปกติ ปรึกษาอะไรใครไม่ได้หรอก เพราะส่วนมากมักจะนึกถึงแต่ตัวเอง ไม่ใช่ปัญหาตนเองก็ไม่สนใจ (แต่คนดีๆเเข้าใจชีวิตเขาจะฟังนะ)แล้วบางเล่มนี้ อ่านแล้ว ทำให้ยอมรับความจริงและมีกำลังใจมากขึ้นด้วย เช่น ฉลาดทำใจ แต่ทั้งนี้ก็จะต้องเลือกหนังสือ ให้ดีๆ
สุดท้ายเราก็ต้องหมั่นเลือกหนังสือให้เป็นด้วย อย่าซื้อเพราะอยากได้ หรือ เห็นว่า คำพูดถูกใจ แล้วก็ไม่จำเป็นจะต้องฟังคนขายมากไป เพราะ ไอที่เขารบเร้า ก็ใช่ว่าเนื้อหาจะดี เห็นมาหลายเล่มแล้ว ราคาหนังสือ แพงมากนะ เพราะแบบนี้คนเลยไม่ค่อยจะอ่านกัน ส่วนที่เหลือก็จะเป็นหนังสือขายฝัน อยากรวย อยากสบายทั้งหลายนั้นแหล่ะ แต่ความจริง เขาแค่อาศัยความละโมภคน มาแสวงหาผลประโยชน์เท่านั้น โดยเอาคนรวยต่างๆมาอ้าง แล้วก็ทำ page maker , indesign แล้วก็ทำรุปเล่มสันกาวออกมา
แล้วก็ต้องทำใจไว้ด้วยว่า เราอาจจะไม่ได้ ดูหนังสือ หรือ ซื้อได้ทุกเล่มที่ต้องการ เพราะนี่คือ เหตุการณ์ที่จะเจอเสมอทุกครั้ง ในงานหนังสือ
cr. ตามลิ้งค์ด้านล่างนี้ (มีภาพประกอบ)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=825559150881252&id=804479232989244&substory_index=0
เนื่องด้วยงานหนังสือ วันสุดท้าย 10 เมย 59 (สำหรับคนรักหนังสือ)
งานหนังสือ มันดีอย่างนึง ตรงที่ หนังสือ ที่เคยเห็นๆมา เขามักจะเอามาลดในงานนี้ โดยเฉพาะที่เห็นชัด คือ พวกหนังสือ คอมพิวเตอร์ บางเล่มราคาปก 259 บาท (สมมตินะ) เขาก็เอามาลดเหลือ 50 บาท เป็๋นต้น ซึ่งบางทีหากเผลอซื้อไปก่อน ด้วยความใจร้อน อยากได้ หรือ อะไรก็ตามแต่ จะเกิดความรู้สึกเสียดาย และ ทุกข์ใจที่ดันไปรีบร้อนซื้อ แต่ทั้งนี้ จะต้องหมั่นสังเกตด้วยว่า หนังสือ แบบไหนที่เขาเอามาลด เพราะใช่ว่า ทุกเล่ม จะลดเยอะแบบนี้ แล้วก็ด้วยเหตุนี้หล่ะมั้ง ที่สำนักพิมพ์ต่างๆ มาลดเยอะ เกินคร่ง เลยเป็นผลให้ร้านหนังสือมือสอง คนไม่ค่อยซื้อ เพราะมันจะดูแพงไปทันที รองานหนัง ดีกว่า แล้วก็มี บางสำนักพิมพ์เหมือนกัน หนังสือก็เก่ามาก แถมลดแค่ 15 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นหนังสือใหม่
ส่วนโซนร้านหนังสือเก่า อันนี้ต้องทำใจนิดนึง หนังสือ มันจะเลอะ หน่อย แต่ก็อาจจะเจอบางเล่ม ที่หามานาน ซึ่งมันก็มีร้านครึ่งราคา กับร้าน 20 บาท หรือ 50 บาท แต่ทั้งนี้ จะต้องเดินดูๆให้ดี เพราะบางเล่ม ปกเดี่ยวกันเล ร้านนึง 20 อีกร้าน 100 ส่วนพวกหนังสือ เล่มเล็กๆ เชิงให้ข้อคิดกำลังใจหน่อย เช่น หากไม่อยากเสียใจก็อย่ารักใครมากกว่าตัวเอง ,เป็นอะไรไปความรัก,ยังมีแสงสว่างเสมอ (อันนี้จำชื่อผิดไปนิด) เหลือแค่เล่มละ 10 บาท เท่านั้น แต่ก็มีบางร้าน ขอลดหน่อยเขาก็ไม่ให้ทั้งที่หนังสือก็เก่า เลอะ มีบอกให้ดูปกอีก ลดเยอะแล้วนะ คือ จริงๆ เขารับซื้อมาเล่มละไม่กี่สิบบาทเท่านั้น สมมติ เล่มละ 10 บาท แต่มาขาย 50 บาท ก็ดูแล้วกันกำไรเท่าไหร่ ไม่งั้นจะเอาจากไหนจ่ายค่าแพงหล่ะ ส่วนร้านครึ่งราคา ขายไม่ค่อยออกหรอก สังเกตได้ชัดมากเลย
ทีนี้ก็ช่วงท้ายก่อนจะออกมา ก็ลองเข้าไปคุย กับ บก หนังสือคอม (เอาว่ารู้แระกันคนนี้ บก 555)ตอนแรกนึกว่าเขาจะไม่คุย หรือ ยัดเยียดให้ซื้อ สุดท้ายด้วยความรุ้สึก ว่าจะคาใจ และ วันนีมันก็วันสุดท้าย ก็เลย อืม ลองเข้าไปคุยดู เขากินข้าวกล่องเดินไปมาอยู่ ก็พูดด้วยความมาดมั่น พี่ครับ ผมขอคุยแปปนึงได้ไหม หน้าตาเขาก็น่ากลัวนิดๆเหมือนกัน เขาบอกได้ครับ จากนั้นก็ถามไปว่า ทำไม มันไม่เห็นมีหนังสือ พวกซ่อมคอม ไบออส อะไรพวกนี้เลย เขาบอกอว่า ตอนแรกๆหลายๆคนก็ทำเหมือนกัน แต่มันขายไม่ได้ เขาก็เลยเลิกๆทำไป ส่วนมากจะเป็นเกี่ยวกับ เว้ปไซต์ หรือ อินเตอร์เน็ตมากกว่า แล้วอีกอย่างคนไทยอ่านหนังสือน้อย ส่วนมากจะไปอ่านบนเน็ต หนังสือ พิมพ์มาเลยขายไม่ค่อยออก ที่เห็นๆอยู่ตอนนี้เหลืออยู่ไม่กี่เจ้าเท่านั้น แล้วพวกตัวแทนจำหน่าย (หมายถึง ซีเอ็ด นายอินทร์ บีทูเอส)จะทำตัวเหมือนเซเว่น คือ หนังสือจะอยู่บนชั้น ประมาณแค่ 1-2 เดือน แล้วเขาจะเอาออก (หรือพูดอีกอย่าง ไม่ได้ขายดี แต่โดนตัวแทนจำหน่าย ส่งหนังสือกลับ)
จากการที่คุยกับพี่ บก คนนึง เห็นได้ชัดว่าอยู่อย่าง คือ ทุกวันนี้ อยู่ยาก แย่งกันกินใช้ ขนาดธุรกิจต่างๆ ยังแข่งขันกันเลย ด้วยเหตุนี้หล่ะมั้ง น้ำจิตน้ำใจ มนุษย์มันเลยมีน้อยลงไปเยอะ ทำไรก็ผลประโยชน์ ถ้าไม่มีก็ไม่สนใจ ยิ่งคนเป็นพนักงานก็ต้องทนทำแลกค่าแรงน้อยนิด เออถ้าบ้านรวยก็ว่าไปอย่าง ไม่สิ คนบ้านรวยก็มีปัญหาเหมือนกันนั่นแหล่ะ ถ้าไม่มีของให้ ญาติๆก็ไม่มาหา หรือ ไม่ก็ถ้าไม่สปอยด์ อีกฝ่ายก็จะไม่สนใจประมาณนี้
ส่วนประโยชน์ของการอ่านหนังสือ มันก็ทำให้ดูแลสุขภาพทั้งกายใจ เช่น ต้องหมั่นออกกำลังกาย แคลเซียมจะได้เกาะกระดูกมากขึ้น นอกจากนี้หนังสือ ยังช่วยให้ ต่อสู้กับปัญหาต่างๆได้ดีมากขึ้น คือ ปกติ ปรึกษาอะไรใครไม่ได้หรอก เพราะส่วนมากมักจะนึกถึงแต่ตัวเอง ไม่ใช่ปัญหาตนเองก็ไม่สนใจ (แต่คนดีๆเเข้าใจชีวิตเขาจะฟังนะ)แล้วบางเล่มนี้ อ่านแล้ว ทำให้ยอมรับความจริงและมีกำลังใจมากขึ้นด้วย เช่น ฉลาดทำใจ แต่ทั้งนี้ก็จะต้องเลือกหนังสือ ให้ดีๆ
สุดท้ายเราก็ต้องหมั่นเลือกหนังสือให้เป็นด้วย อย่าซื้อเพราะอยากได้ หรือ เห็นว่า คำพูดถูกใจ แล้วก็ไม่จำเป็นจะต้องฟังคนขายมากไป เพราะ ไอที่เขารบเร้า ก็ใช่ว่าเนื้อหาจะดี เห็นมาหลายเล่มแล้ว ราคาหนังสือ แพงมากนะ เพราะแบบนี้คนเลยไม่ค่อยจะอ่านกัน ส่วนที่เหลือก็จะเป็นหนังสือขายฝัน อยากรวย อยากสบายทั้งหลายนั้นแหล่ะ แต่ความจริง เขาแค่อาศัยความละโมภคน มาแสวงหาผลประโยชน์เท่านั้น โดยเอาคนรวยต่างๆมาอ้าง แล้วก็ทำ page maker , indesign แล้วก็ทำรุปเล่มสันกาวออกมา
แล้วก็ต้องทำใจไว้ด้วยว่า เราอาจจะไม่ได้ ดูหนังสือ หรือ ซื้อได้ทุกเล่มที่ต้องการ เพราะนี่คือ เหตุการณ์ที่จะเจอเสมอทุกครั้ง ในงานหนังสือ
cr. ตามลิ้งค์ด้านล่างนี้ (มีภาพประกอบ)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้