มันตามกลับมา

สวัดดีค่ะเพื่อนๆชาวพันทิปทุกคน วันนี้เรามีเรื่องสยองขวัญที่พบเจอด้วยกันกับน้องสาวมาบอกเล่าให้เพื่อนๆได้อ่านกัน
กระทู้นี้เป็นกระทู้แรก เราไม่เคยตั้งกระทู้มาก่อน หากผิดผลาดประการใดต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ก่อนเลยนะค่ะ
ก่อนอื่นเลยต้องขอบอกก่อนว่า ก่อนที่เราจะตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเรากำรังคุยกับน้องเรื่องการ์ตูนค่ะ กับเรื่องเกมส์ มันทำให้นึกถึงเหตุการณ์ที่เราสองคนเจอมา.
เรื่องมีอยู่ว่า เราและน้องสาวของเราสนิดกันมากทั้งกลุ่มเพื่อนเรากลุ่มเพื่อนน้องจะสนิดกันหมดไปเที่ยวด้วยกันกินด้วยกันตลอด
จนมีอยู่วันหนึ่ง วันนั้นเป้นวันเกิดของน้องในกลุ่ม ซึ่ง วันนั้นตรงกับวัน ศุกร์ที่13 ปกติเด็กวัยรุ่นจะไม่ค่อยสนใจเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ ตัวเราและน้องสาวก็เช่นกัน
ก่อนออกจากบ้านเราจะบอกคุณแม่คุณพ่อเสมอว่าเราจะออกไปไหนกัน ก่อนออกจากบ้านเราก็ทำตามปกติคือบอกกับคุณแม่ว่าเราออกจากบ้านแล้วนะ
คุณแม่เดินมาหาเราแล้วพูดกับเราว่า "ระวังตัวกันด้วยนะลูกวันนี้เป็นวัน ศุกร์ที่13 ทำอะไรระวังๆกันหน่อยนะลูก" เราก็ตอบรับตามปกติ
ไม่ได้คิดอะไรเพราะเรารีบมากๆ ต้องไปรับเพื่อนที่อยู่ใกล้ๆกันไปพร้อมกันอีก3คน หลังจากออกจากบ้านขับรถไปรับเพื่อนทุกคนแล้ว
เราก็มุงหน้าตรงไปงานวันเกิดน้องในกลุ่มทันทีเพราะเราสายกันมากแล้ว เราขับรถไปตามเส้นทางที่เจ้าภาพบอก (ขอเรียกเจ้าจองวันเกิดว่าเจ้าภาพนะค่ะจะได้ไม่งง) พอมาถึงหน้าปากซอยที่เป็นถนนใหญ่พอจะให้รถวิ่งเข้าออกได้2เลน เราและทุกคนในรถหันมามองหน้ากันโดยอัตโนมัต
ที่หน้าปากซอยทางเข้าบ้านของเจ้าภาพ มีต้นไม้ขนาดใหญ่มากกกก ใหญ่มากๆจริงๆค่ะ ใหญ่ชนิดที่ว่า กิ่งไม้กับรากไม้ ยาวติดพื้นดินเลย
สองข้างทางเป็นต้นไม้เล็กๆพวกไม้ประดับ แต่กลับดูน่ากลัว แสงไฟจากถนนไม่ได้สว่างมากมาย เหมือนกับเป็นเสาไฟเก่าที่ผ่านกานใช่งานมานาน
การขับรถผ่านเข้าไปตอนเวลา19.00-20.00 น. มันวังเวงมาก ไม่มีรถขับผ่านบ้านคนก็ยังไม่เห็น เราขับเข้าไปเลื่อยๆจนมาถึงหลังวัดที่ร้างผู้คน
มีแต่รถจอด มีต้นไม้และแสงไฟเพียงน้อยนิด บรรยากาศน่าขนลุกจนไม่มีใครพูดอะไรและยังไม่มีใครกล้าลงจากรถ จนน้องสาวเรา ที่เป็นคนห้าวๆหน่อย
พูดขึ้นว่าให้ทุกคนลงจากรถได้แล้ว จะนั่งเงียบกันอีกนานไหมเดี๋ยวก็ดึกกว่านี้หรอก ทุกคนเลยลงจากรถ ทันทีที่ปิดประตูรถ ซึ่งเราคิดว่าเราไม่ได้ปิดดังมาก
แต่เสียงดัง ปัง!! มันดังมากจนทุกคนสะดุ้ง พร้อมกับลมลูกใหญ่พัดวูบไป เรารีบวิ่งไปเกาะแขนน้องสาวเอาไว้ เพื่อนอีกสามกันก็เช่นกัน
พวกเราวิ่งมาจับกลุ่มกันตรงเกรซน้องสาวเรา(ขอใช้นามสมมุตินะค่ะ)จนเกรซรู้สึกลำคาญและคงอยากออกไปจากหลังวัดนี้ไวๆ จึงพูดขึ้นมาว่า
"ไปกันเถอะ ไปกันให้หมดนี้แหละเดี๋ยวดึก" พวกเราเลยตัดสินใจรีบเดินออกมาจากหลังวัด เข้าซอยมาน่าแปลกที่ในซอยมีผู้คนเยอะแยะมีบ้านเรือน
ต่างจากหน้าปากซอยทางเข้า และหลังวัดอย่างมาก ซึ้งตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะมีคนอาศัยอยู่เยอะแยะขนานนั้น เพราะดูเหมือนมันร้างๆผู้คน
ทำให้พวกเราเบาใจและหายใจหายคอสะดวกมากขึ้น แต่ก็เบาใจได้ไม่นานเรามาถึงทางสามแยก และเราต้องเดินตรงเข้าไปสุดซอย เพราะบ้านเจ้าภาพ
อยู่หลังสุดท้ายของซอย(ซอยไม่ใหญ่มากค่ะแค่มอไซขับผ่านได้เท่านั้น) แสงไฟข้างทางก็ไม่สว่างเลยสักนิดมีบ้านคนไปตลอดทางแต่บ้านคนปิดเงียบสนิด
เหมือนไม่มีใครอยู่ในบ้าน เกรซคงรู้สึกลำคาญจริงๆกับอาการหวาดผวาของพวกเรา จนมันรีบเดินๆเข้าไปในซอย พวกเราทุกคนเลยรีบเดินตามมันไป
แต่มันกลับหยุดชะงัก ทำให้พวกเราต้องหยุดด้วย และสิ่งที่อยู่ตรงหน้าทำให้พวกเราขนลุกอย่างบอกไม่ถูก มันคือต้นไม้ค่ะต้นใหญ่พอๆกับต้นที่อยู่หน้าปากซอยถนนไม่มีผิด ผิดกันตรงขนาด ที่ต้นนี้จะดูเล็กว่าเท่านึงแต่ก็ยังถือว่าใหญ่มากๆ เหมือนกันอยู่มาไม่ต่ำกว่า100ปี แน่ๆ และสิ่งที่ต่างกันออกไปอีก
ก็คือที่หน้าปากซอยต้นไม้ใหญ่นั้น มีศาลเจ้าที่มีของกราบไหว้บูชา แต่ต้นในซอยกลับมีเพียงผ้าสีและเครื่องเซ่นที่ว่างไว้กับพื้นเท่านั้น บริเวนต้นไม้
ไม่มีแสงไฟ จะมีก็แต่แสงไฟจากบ้านหลังสุดท้ายที่เปิดสว่างนั้นก็คือแสงไฟจากบ้านของเจ้าภาพ เรามองดูรอบๆเห้นว่ามีหลอดไฟแต่เหมือนไม่ได้เปิด
เงามืดๆของต้นไม้ใหญ่ตอนกลางคืนทำให้รู้สึกเสียวหัวอย่างบอกไม่ถูก เคยเป็นมั๊ยค่ะ เวลาเดินผ่านต้นไม้ใหญ่ๆตอนกลางคืนจะรู้สึกไม่กล้าเงยหน้า
ไม่กล้ามองไปข้างบนต้นไม้มันเสียวหัวน่ะค่ะ จนครั้งนี้เราต้องเป้นคนปลุกใจทุกคนโดยการวิ่งค่ะ วิ่งตรงไปที่บ้านเจ้าภาพอย่างไว และทุกคนก็ออกตัวค่ะ
ออกตัววิ่งตามเรากันหมดจนมาถึงหน้าเจ้าภาพ พอมาถึงเพื่อนๆทุกคนมาถึงก่อนแล้ว เรารู้สึกหัวเสียและกลัวนิดหน่อย เลยเดินไปหาเจ้าภาพ
แล้วบอกว่า ให้ออกไปร้านเหล้าไหมเดี๋ยวเลี้ยงเอง เจ้าภาพบอกว่าไม่ได้มันตั้งใจทำอาหารและมันเป็นเจ้าของวันเกิดจะมาให้เราเลี้ยงได้ยังไง
กลัวใช่ไหมที่ผ่านเข้ามาบ้านหนู เจ๊ไม่ต้องกลัวคือเราไม่ลบหลู่เค้าก็พอ เรางง และถามไปว่า อะไรคือไม่ลบหลู่วะ มันกำรังจะพูดอะไรสักอย่าง
แต่เพื่อนสาวที่เป็นกระเทยกลับวิ่งมาหาเราแล้วลากเราออกมาคุยเรื่องพี่ชายเรา ว่าทำไมเราไม่เอาพี่ชายมาด้วย เราหงุดหงิดมากที่ไม่ได้คำตอบ
จากเจ้าภาพ แต่กระเทยเพื่อนสาวทำให้เราหัวเราะและลืมเรื่องที่กลัวไปสนิดเลย พวกเราปาร์ตี้กันจนทุกคนเมา ยกเว้นเราที่เป็นคนขับรถ ห้ามเมา
ห้ามดื่ม แต่ก็มีแอบดื่มบ้าง เรามองเวลาแล้วเป็นเวลาประมานตี2แล้วตอนเช้าพี่ชายเราต้องใช้รถ เราจึงเรียกทุกคนที่ต้องกลับพร้อมกันให้กลับบ้านได้แล้ว
โดยมีกระเทยเพื่อนสาวขอติดรถกลับด้วย ส่วนเพื่อนๆที่เหลือนอนบ้านเจ้าภาพกันหมดเพราะเมามากไม่สามารถกลับบ้านได้แล้ว ก่อนออกจากบ้าน
เรานึกขึ้นมาได้ว่า เราต้องเดินผ่านต้นไม้เราต้องเดินไปที่จอดรถหลังวัด เราเลยเดินไปปลุกเจ้าภาพให้มันออกไปส่งหน่อย แต่มันเมาจริงค่ะ
เมาแบบปลุกไม่ตื่นจริงๆ และทุกคนดูเมาได้ที่และคงลืมกันไปหมด เพราะพวกมันคุยกันเสียงดังเฮฮาสนุกสนานเต็มที่ จนเราเดินมาถึงต้นไม้ที่ว่า
กระเทยเพื่อนสาวเธอชั่งเมาแล้วเกรียนมากๆ มันวิ่งไปหยิบผ้าสีที่ตกอยู่ที่พื้นมาทำเป็นสะไบแล้ว หันมาโพสท่าและถามว่า กูสวยไหมพวก
เราตกใจมากรีบวิ่งไปกระชากผ้าสีออกจากตัวมันแล้วด่ามัน จนทุกคนต้องเข้ามาห้ามบอกให้เราใจเย็นๆแค่ขำๆเอง แต่เราไม่ขำด้วย มันไม่ตลกเลยสักนิด
กระเทยเพื่อนสาวบ่นอุบอิบ และหันกลับไปเพื่อที่จะเดินต่อไปที่จอดรถ แต่มันกลับร้องกรี๊ด ประมาณแบบว่า ว๊ายยอีด_ก แล้วหันกลับมาทำหน้าตกใจ
สักพักก็ทำหน้าตกใจอีกแล้วเอามือปิดหน้าเริ่มร้องไห้แล้วพูดว่า หนูขอโทษค่ะๆๆ
... เดี๋ยวมาต่อนะค่ะ คุยธุระแปปนึง ^ ^
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่