สวัสดีค่ะ
จากกการเก็บข้อมูลในห้องบลูมานาน สุดท้ายก็ออกมาเป็นทริปนี้ค่ะ ทริปนี้พาคุณพ่อคุณแม่และน้าอีก รวมเป็น 4 ชิวิต ไปบุกตะลุยแดนมังกรกัน จะให้เดินโหดมาก แน่นมากก็ไม่ได้ เดี๋ยวบรรดาท่าน ส.ว. ที่พามาด้วยจะไปไม่ไหว ตารางก็เลยอาจจะชิวๆ นิดหน่อยนะคะ
มาดูตารางคร่าวๆ กันก่อนค่ะ ทริปนี้ใช้ระยะเวลาทั้งสิ้น 6 วัน ตั้งแต่ วันที่ 30 มีนาคม – 4 เมษายน 2016
Day 1: เดินทางจากดอนเมืองไปลงสนามบินฉงชิ่ง นั่งรถไฟต่อไปเฉิงตู + ดู Sichuan Opera (งิ้วเสฉวน)
Day 2: One day trip ไป 青城山 (Qingcheng Mountain) + 宽窄巷子 (Kuan-Zhai Alley)
Day 3: 青羊宫 (Qingyang palace) + เดินทางกลับฉงชิ่ง + 洪崖洞 (Hongya dong)
Day 4: One day trip ไป 天生山桥 (หลุมฟ้ามังกรสวรรค์) เมือง 武隆 (Wulong)
Day 5: One day trip ไป 宝顶山 (Baoding Shan หรือ Dazu Rock Carving) เมือง 大足 (Dazu)
Day 6: 瓷器口 (Ciqikou) + เดินทางกลับไทย
มาเริ่มกันเลยค่ะ
Day 1
หลังจากที่ลงจากเครื่องบินที่สนามบินเจียงเป่ย (江北机场 – Chongqing Jiangbei International Airport) ที่สนามบินเจียงเป่ย จะแบ่งออกเป็น 2 Terminal คือ T1 International และ T2 Domestic ซึ่งจะอยู่แยกกันคนละอาคารและไม่มีทางเชื่อมถึงกัน ดังนั้นเราจะต้องเดินออกมาจาก Terminal 1 และต่อรถไฟใต้ดินไปที่สถานีรถไฟ (重庆北站 – Chongqing North Railway Station) ซึ่งทางรถไฟใต้ดินจะอยู่หน้า Terminal 2 ค่ะ เดินออกจาก Terminal เลี้ยวซ้ายแล้วเดิมตามป้าย Light Rail ไปค่ะ ประมาณ 400 m.
เมืองฉงชิ่งจะมีสถานีรถไฟหลายแห่งค่ะ แต่สถานีที่มีรถไปเฉิงตูมากที่สุด ก็คือ 重庆北站 (Chongqingbei - Chongqing North Railway Station) ซึ่งจะมีรถไฟความเร็วสูงไปเฉิงตูประมาณทุกๆ ครึ่งชั่วโมงค่ะ นอกจากนี้ที่ 重庆北站 จะแบ่งออกเป็น 2 Terminal ย่อย ก็คือ 北广场 (North Terminal) และ 南广场 (South Terminal) ซึ่งสองที่นี่จะห่างกันมาก ไม่สามารถเดินถึงกันได้
การจะนั่งรถไฟความเร็วสูงไปเฉิงตูเราจะต้องไปลงที่北广场ค่ะ โดยจะต้องลงรถไฟฟ้าที่สถานี 龙头寺 (Longtousi) ซึ่งจะถึงก่อนสถานี重庆北站1 ป้ายค่ะ และทางออกมันจะโผล่หน้า北广场พอดีค่ะ แต่ถ้าไปลงที่สถานี 重庆北站ละก็ มันจะไปโผล่ที่ 南广场ค่ะ จะต้องออกจากอาคารแล้วไปขึ้นรถเมลล์สาย 663 ต่อไปยัง 北广场ได้ค่ะ ราคา 2 RMB นั่งประมาณ 5 นาทีค่ะ รถจะจอดหน้า Terminal เลยค่ะสังเกตได้ชัดเจนมาก
สำหรับรถไฟจากฉงชิ่งไปเฉิงตู จะมีขบวนที่ขึ้นต้นด้วย G และ D ซึ่งระยะเวลาที่ใช้จะต่างกันไม่มาก ค่ะถ้านั่งขบวน G ก็จะใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่ง ส่วนถ้านั่งขบวน D จะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
G = 154 RMB/person – Hard seat
D = 96.5 RMB/person – Hard seat
เวลาซื้อตั๋วต้องใช้ passport ของทุกคนในทริปค่ะ เพราะในตั๋วจะมีระบุเลข Passport ไว้หน้าตั๋วด้วยค่ะ และเราสามารถซื้อตั๋วขากลับได้เลยที่เคาน์เตอร์เดียวกันค่ะ แต่จะเสียค่าจองเพิ่มที่ละ 5 RMB ค่ะ
เมื่อได้ตั๋วแล้วก็ต้องไปหา Gate ที่จะออกไปยังชานชลาค่ะ โดยจะมีบอร์ดประกาศว่าขบวนรถไหนให้ไป check in ที่ Gate ไหนได้บ้างค่ะ
มาดูสถานีรถไฟทางฝั่งเฉิงตูกันบ้างค่ะ
รถไฟจากฉงชิ่งจะมีไปลงที่เฉิงตู 2 สถานีค่ะ คือ 成都东站 (Chengdudong – Chengdu East Railway Station) และ 成都站 (Chengdu – Chengdu Railway Station) ซึ่งสามารถดูได้จากหน้าตั๋วนะคะ แต่ของ จขกท ไปลงที่ 成都东站ค่ะ เมื่อมาถึงสถานีแล้วจะมีรถไฟใต้ดินอยู่ในบริเวณ Arrival เลยค่ะชื่อสถานีรถไฟใต้ดินก็เหมือนกับสถานีรถไฟค่ะคือ 成都东站 เหมือนกันค่ะ
ข้ามมา Sichuan Opera (川剧) กันเลยค่ะ
ที่ขึ้นชื่อที่สุดของการดู Sichuan Opera หรืองิ้วเสฉวน ก็คือ 蜀风雅韵 (Shufengyayun) เป็นทั้งร้านอาหารแล้วก็โรงละครด้วย ราคาบัตรก็มีหลากหลายค่ะ
160 RMB – VIP ผู้เข้าชมสามารถจะไปแต่งหน้า/แต่งตัวแบบงิ้วแล้วถ่ายรูปได้ค่ะ จะนั่งอยู่ตรงโซนหน้าสุดค่ะ
120 RMB – First class อันนี้เค้าบอกว่ามีขนมให้กินค่ะ ไม่ทราบเหมือนกันว่าเป็นขนมอะไร ที่นั่งจะอยู่ตรงปีก 2 ข้างของที่นั่ง VIP และที่นั่งหลัง VIP ค่ะ
100 RMB และ 80 RMB - ที่นั่งจะอยู่หลัง First class ค่ะ แต่จะเป็นยกพื้นอยู่สูงกว่า First class ค่ะ จขกท โชคดีได้แถวหน้าสุดของราคา 100 RMB ทำเลดีมากค่ะ ถ้าได้แถวหลังอาจจะต้องชะเง้อกันสักหน่อยค่ะ
ทุกๆ ที่นั่งจะมีถั่วกับน้ำชาเสริฟให้ฟรีค่ะ สำหรับการแสดง ที่เป็นไฮไลท์ ก็จะมี งิ้วค่ะ (ตอนที่ไปดูเป็นเปาบุ้นจิ้น) เป็นงิ้วตอนสั้นๆ มีเชิดหุ่นค่ะ (คล้ายๆ หุ่นละครเล็กบ้านเรา) โชว์เล่นเงา, โชว์เปลี่ยนหน้ากากค่ะ (ยังมีอีกแต่จำไม่ได้ละค่ะ) ไม่ได้ถ่ายรูปกลับมาเลยค่ะ นั่งไกลไปหน่อย ส่องไม่ถึง
สำหรับการซื้อตั๋ว แนะนำว่าให้ทางที่พักจองให้ดีกว่าค่ะ เพราะไปซื้อที่นั่นเลยอาจจะเต็มได้ค่ะ ส่วนที่นั่งเราไม่สามารถล็อคที่ได้นะคะ ระบุได้แค่ว่าจะซื้อตั๋วประเภทไหนเท่านั้นค่ะ ที่เหลือไปลุ้นกันหน้างาน
การเดินทางไป Shufengyayun ก็ไม่ยากค่ะ ลง MRT ที่สถานี 通惠门 (Tonghuimen) ออก Exit E ขึ้นมาจะเห็นซุ้มประตูใหญ่ๆ อยู่ถนนฝั่งตรงข้ามค่ะ ข้ามถนนเข้าซุ้มประตูไป (ชื่อถนน 琴台路 - Qingtailu) จากซุ้มประตูเดินตรงเข้าไปเรื่อยๆ ค่ะ ไม่ไกลมากแต่อยู่เกือบสุดซอย จะมี Ticket office อยู่ทางฝั่งซ้ายค่ะ เมื่อเราไปเอาตั๋วแล้วข้ามไปอีกฝั่งหนึ่งจะมีประตูทางเข้าอยู่ฝั่งตรงข้ามค่ะ หาไม่ยากสังเกตได้จากมีรถทัวร์จอดอยู่เยอะๆ ค่ะ โรงแรมบางแห่งจะมีบริการรถมาส่งถึงที่เลยค่ะ ยังไงก็ลองสอบถามตอนที่จองตั๋วกับโรงแรมดูนะคะ
Day 2: One Day Trip ไป Mountain Qingcheng (青城山- ชิงเฉิงซาน)
สถานีที่มีรถบัสไปยัง Qingchengshan จะมี 2 สถานีคือ 新南们汽车站 (Xinnanmen Station) และ 茶店子汽车站 (Chadianzi Long Distance Bus Station) จขกท เลือกไปจาก Chadianzi เพราะว่าใกล้ที่พักมากกว่า
การจะไปสถานี Chadianzi ก็ไม่ยากค่ะ นั่ง MRT ไปลงสถานี Chadianzi เดินขึ้นมาก็จะเจอสถานีรถบัสเลยค่ะ หลังจากแสกนกระเป๋าเข้ามาในสถานีแล้ว
ช่องขายตั๋วจะอยู่ทางด้านขวา แยกต่างหากออกมาจากจุดหมายปลายทางอื่นๆ คือ เดินเข้าไปบอกคนขายตัวเลยค่ะว่า ชิงเฉิงซาน เวลาซื้อตั๋วต้องใช้ Passport ด้วยค่ะ แต่ถึงเราจะซื้อตั๋วหลายใบก็ใช้แค่เล่มเดียวค่ะ ค่าตั๋วไป ชิงเฉินซาน คือ 28 RMB ค่ะ รถมีตั้งแต่ประมาณ 8 โมงเช้าค่ะ แต่ จขกท มาไม่ทัน เลยได้รอบ 9.30 ได้ตั๋วแล้วไปรอรถที่ชานชลาหมายเลข 28 ค่ะ ซึ่งจะอยู่นอกอาคาร เดินออกมาจากที่ตรวจตั๋วแล้วเลี้ยวขวาเดินตรงมาเรื่อยจะเห็นเลข 28 และจะมีป้ายสีน้ำเงินเขียนว่า 青城山 หลังจากนั้นก็คอยสังเกตหน้ารถเอาค่ะ รถออกค่อนข้างจะตรงเวลามากค่ะ ขึ้นไปบนรถแล้วจะมีการตรวจตั๋วอีกทีค่ะ สำหรับที่นั่งก็มั่วเอาค่ะ ว่างตรงไหนนั่งตรงนั้นได้เลย หลังจากนั้นก็นั่งยาวๆ เลยค่ะ ใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่งก็มาถึงจุดหมายปลายทางแล้วค่ะ สถานีชิงเฉิงซาน
รถบัสคันสีเหลืองคือคันที่เรานั่งมาจากเฉิงตูค่ะ มาถึงจะมาจอดที่ป้ายหมายเลข 5 ซึ่งขากลับเราก็จะต้องมาขึ้นรถตรงป้ายนี้เหมือนกันค่ะ
หลังจากลงรถแล้วเราสามารถเลือกได้ค่ะว่าจะไปเที่ยวหน้าเขาหรือหลังเขา ถ้าไปหน้าเขาก็ไปขึ้นรถที่ป้ายหมายเลข 1 จะเห็นที่ป้ายเขียนเลข 101 เราจะต้องขึ้นรถสายนี้ไปชิงเฉินซานค่ะ ค่าโดยสาร 2 RMB รถจะมาทุกๆ 12 นาทีค่ะ (ในป้ายเขียนบอกว่างั้น) แต่ที่ป้ายหมายเลข 2 ซึ่งอยู่ถัดไปจะมีรถตู้เล็กๆ เป็นของเอกชนจอดรออยู่ค่ะ ค่าโดยสารคนละ 5 RMB ค่ะ ข้อดีคือไม่ต้องเสียเวลารอ สัก 3-4 คนก็ออกเลย ไปส่งที่หน้าเขาเหมือนกันค่ะ
ส่วนคนที่จไปลงหลังเขาก็มีรถแยกไปค่ะ รอที่ป้ายที่ 3 ค่ะ ในรูปจะเห็นป้ายสีน้ำเงินเขียนว่าไปหลังเขาค่ะ แต่ จขกท นั่งสาย 101 ไปลงหน้าเขาค่ะ
รถเมลล์จะมาปล่อยเราลงตรงทางเข้าค่ะ เดินเข้ามาเราจะเห็นป้อมที่ขายตั๋วรถกอล์ฟ จากตรงนี้เราต้องไปซื้อตั๋วเพื่อนั่งรถกอล์ฟขึ้นเขาไปค่ะ ค่าโดยสาร 10 RMB/เที่ยว (ขาลงก็ต้องซื้อตั๋วอีกรอบค่ะ)
รถกอล์ฟจะขึ้นไปไม่ถึงจุดที่ขายตั๋วนะคะ ต้องเดินต่อขึ้นไปตามทางอีกนิดนึงค่ะ เก็บบรรยากาศข้างทางมาฝากกันค่ะ
เห็นที่ขายตั๋วแล้วค่ะ ค่าเข้าคนละ 90 RMB ค่ะ ชิงเฉิงซานจะแบ่งออกเป็นส่วนหน้าเขากับหลังเขาค่ะ ค่าเข้าก็จะแบ่งเป็นส่วนๆ ไปค่ะ อย่างที่ซื้อตั๋วตรงนี้จะขายแต่ตั๋วสำหรับขึ้นหน้าเขา 90 RMB ถ้าเป็นส่วนหลังเขาตามที่หาข้อมูลมาค่าตั๋ว 20 RMB และอาจจะเสียเพิ่มอีกเพราะบนเขามีสถานที่ให้เข้าชมอีกหลายที่ค่ะ
เอาแผนที่มาฝากกันด้วยค่ะ
เดินไปสักพักจะถึงทะเลสาบ ตรงนี้เราสามารถนั่งเรือไปฝั่งตรงข้ามได้ ค่าโดยสาร 5 RMB ส่วนใครที่อยากเดินก็จะเป็นสะพานยาวๆ อ้อมทะเลสาบไป เดินไปไม่ไกล เดินไปถ่ายรูปไปแป๊บเดียวก็ถึงค่ะ
หลังจากเดินอ้อมทะเลสาบมาจนถึงอีกฝั่งแล้ว จะมีเคเบิ้ลคาร์ให้นั่งขึ้นไปข้างบน (แนะนำว่านั่งเถอะค่ะ ทางขึ้นโหดมาก ชันมากและสูงมาก) ค่าเคเบิลคาร์ 35 RMB/Single trip และ 60 RMB/Round trip
หลังจากลงเคเบิลคาร์แล้วเดินขึ้นไปอีกนิดจะเจอวัดของลัทธิเต๋า ต้องเดินทะลุวัดนี้ไปจะมีทางให้ขึ้นไปอีกค่ะ ที่ยอดเขายังมีเจดีย์ให้เข้าไปดูได้ แต่เนื่องจากท่าน สว. ที่พามาด้วยเริ่มเดินกันไม่ไหวแล้วค่ะ เลยตัดสินใจไม่ไปต่อ
สำหรับขากลับก็เหมือนขามาค่ะ ซื้อตั๋วรถกอล์ฟ ลงมาถึงที่จอดรถด้านล่าง จากนั้นเดินออกมาจะเห็นที่รอรถเมลล์ตามในรูปเลยค่ะ ก็เดินหาสาย 101 แล้วก็ขึ้นสายนี้เพื่อกลับไปยังสถานีเดิมค่ะ
จริงๆ แล้วการมาที่ชิงเฉินซานสามารถนั่งรถไฟมาลงได้ด้วย จขกท มารู้ตอนที่มาถึงสถานีชิงเฉิงซานแล้วไปหาห้องน้ำ เดินไปเดินมาเจอสถานีรถไฟอยู่ด้านหลัง แต่ว่าขบวนรถค่อนข้างน้อย แต่ถ้าใครกลับเย็นหน่อยจะมีรถไฟจากชิงเฉิงซานกลับไปยังเฉิงตู เที่ยวประมาณ 5 โมงเย็นค่ะ แต่ จขกท ก็เลือกกลับรถบัสเหมือนเดิม เพราะขี้เกียจรอรถไฟค่ะ
มาต่อกันที่ Kuan-Zhai Alley (宽窄巷子)
การเดินทางก็นั่ง MRT มาลงที่สถานี People’s park (人民公园) ออก Exit D แล้วเดินเลียบถนนไปเรื่อยๆ จนเจอสะพานลอย ทางเข้าจะอยู่ฝั่งตรงข้ามค่ะ ต้องข้ามสะพานลอยไป
ในซอยก็จะมีลักษณะเป็นบ้านโบราณ ส่วนมากจะตกแต่งเป็นร้านน้ำชา ร้านขายอาหารท้องถิ่น ร้านขายของที่ระลึกค่ะ ใครที่ชอบพวกสถาปัตยกรรม บ้านเรือนสวยๆ ก็ไปที่นี่เลยค่ะ เดินกันเพลินๆ ค่ะ ว่าแล้วก็ไปดูรูปกันดีกว่าค่ะ
[CR] พาเที่ยว เฉิงตู-ฉงชิ่ง (ชิงเฉิงซาน-อู่หลง-ต้าจู๋) ฉบับนักเดินทาง
จากกการเก็บข้อมูลในห้องบลูมานาน สุดท้ายก็ออกมาเป็นทริปนี้ค่ะ ทริปนี้พาคุณพ่อคุณแม่และน้าอีก รวมเป็น 4 ชิวิต ไปบุกตะลุยแดนมังกรกัน จะให้เดินโหดมาก แน่นมากก็ไม่ได้ เดี๋ยวบรรดาท่าน ส.ว. ที่พามาด้วยจะไปไม่ไหว ตารางก็เลยอาจจะชิวๆ นิดหน่อยนะคะ
มาดูตารางคร่าวๆ กันก่อนค่ะ ทริปนี้ใช้ระยะเวลาทั้งสิ้น 6 วัน ตั้งแต่ วันที่ 30 มีนาคม – 4 เมษายน 2016
Day 1: เดินทางจากดอนเมืองไปลงสนามบินฉงชิ่ง นั่งรถไฟต่อไปเฉิงตู + ดู Sichuan Opera (งิ้วเสฉวน)
Day 2: One day trip ไป 青城山 (Qingcheng Mountain) + 宽窄巷子 (Kuan-Zhai Alley)
Day 3: 青羊宫 (Qingyang palace) + เดินทางกลับฉงชิ่ง + 洪崖洞 (Hongya dong)
Day 4: One day trip ไป 天生山桥 (หลุมฟ้ามังกรสวรรค์) เมือง 武隆 (Wulong)
Day 5: One day trip ไป 宝顶山 (Baoding Shan หรือ Dazu Rock Carving) เมือง 大足 (Dazu)
Day 6: 瓷器口 (Ciqikou) + เดินทางกลับไทย
มาเริ่มกันเลยค่ะ
Day 1
หลังจากที่ลงจากเครื่องบินที่สนามบินเจียงเป่ย (江北机场 – Chongqing Jiangbei International Airport) ที่สนามบินเจียงเป่ย จะแบ่งออกเป็น 2 Terminal คือ T1 International และ T2 Domestic ซึ่งจะอยู่แยกกันคนละอาคารและไม่มีทางเชื่อมถึงกัน ดังนั้นเราจะต้องเดินออกมาจาก Terminal 1 และต่อรถไฟใต้ดินไปที่สถานีรถไฟ (重庆北站 – Chongqing North Railway Station) ซึ่งทางรถไฟใต้ดินจะอยู่หน้า Terminal 2 ค่ะ เดินออกจาก Terminal เลี้ยวซ้ายแล้วเดิมตามป้าย Light Rail ไปค่ะ ประมาณ 400 m.
เมืองฉงชิ่งจะมีสถานีรถไฟหลายแห่งค่ะ แต่สถานีที่มีรถไปเฉิงตูมากที่สุด ก็คือ 重庆北站 (Chongqingbei - Chongqing North Railway Station) ซึ่งจะมีรถไฟความเร็วสูงไปเฉิงตูประมาณทุกๆ ครึ่งชั่วโมงค่ะ นอกจากนี้ที่ 重庆北站 จะแบ่งออกเป็น 2 Terminal ย่อย ก็คือ 北广场 (North Terminal) และ 南广场 (South Terminal) ซึ่งสองที่นี่จะห่างกันมาก ไม่สามารถเดินถึงกันได้
การจะนั่งรถไฟความเร็วสูงไปเฉิงตูเราจะต้องไปลงที่北广场ค่ะ โดยจะต้องลงรถไฟฟ้าที่สถานี 龙头寺 (Longtousi) ซึ่งจะถึงก่อนสถานี重庆北站1 ป้ายค่ะ และทางออกมันจะโผล่หน้า北广场พอดีค่ะ แต่ถ้าไปลงที่สถานี 重庆北站ละก็ มันจะไปโผล่ที่ 南广场ค่ะ จะต้องออกจากอาคารแล้วไปขึ้นรถเมลล์สาย 663 ต่อไปยัง 北广场ได้ค่ะ ราคา 2 RMB นั่งประมาณ 5 นาทีค่ะ รถจะจอดหน้า Terminal เลยค่ะสังเกตได้ชัดเจนมาก
สำหรับรถไฟจากฉงชิ่งไปเฉิงตู จะมีขบวนที่ขึ้นต้นด้วย G และ D ซึ่งระยะเวลาที่ใช้จะต่างกันไม่มาก ค่ะถ้านั่งขบวน G ก็จะใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่ง ส่วนถ้านั่งขบวน D จะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
G = 154 RMB/person – Hard seat
D = 96.5 RMB/person – Hard seat
เวลาซื้อตั๋วต้องใช้ passport ของทุกคนในทริปค่ะ เพราะในตั๋วจะมีระบุเลข Passport ไว้หน้าตั๋วด้วยค่ะ และเราสามารถซื้อตั๋วขากลับได้เลยที่เคาน์เตอร์เดียวกันค่ะ แต่จะเสียค่าจองเพิ่มที่ละ 5 RMB ค่ะ
เมื่อได้ตั๋วแล้วก็ต้องไปหา Gate ที่จะออกไปยังชานชลาค่ะ โดยจะมีบอร์ดประกาศว่าขบวนรถไหนให้ไป check in ที่ Gate ไหนได้บ้างค่ะ
มาดูสถานีรถไฟทางฝั่งเฉิงตูกันบ้างค่ะ
รถไฟจากฉงชิ่งจะมีไปลงที่เฉิงตู 2 สถานีค่ะ คือ 成都东站 (Chengdudong – Chengdu East Railway Station) และ 成都站 (Chengdu – Chengdu Railway Station) ซึ่งสามารถดูได้จากหน้าตั๋วนะคะ แต่ของ จขกท ไปลงที่ 成都东站ค่ะ เมื่อมาถึงสถานีแล้วจะมีรถไฟใต้ดินอยู่ในบริเวณ Arrival เลยค่ะชื่อสถานีรถไฟใต้ดินก็เหมือนกับสถานีรถไฟค่ะคือ 成都东站 เหมือนกันค่ะ
ข้ามมา Sichuan Opera (川剧) กันเลยค่ะ
ที่ขึ้นชื่อที่สุดของการดู Sichuan Opera หรืองิ้วเสฉวน ก็คือ 蜀风雅韵 (Shufengyayun) เป็นทั้งร้านอาหารแล้วก็โรงละครด้วย ราคาบัตรก็มีหลากหลายค่ะ
160 RMB – VIP ผู้เข้าชมสามารถจะไปแต่งหน้า/แต่งตัวแบบงิ้วแล้วถ่ายรูปได้ค่ะ จะนั่งอยู่ตรงโซนหน้าสุดค่ะ
120 RMB – First class อันนี้เค้าบอกว่ามีขนมให้กินค่ะ ไม่ทราบเหมือนกันว่าเป็นขนมอะไร ที่นั่งจะอยู่ตรงปีก 2 ข้างของที่นั่ง VIP และที่นั่งหลัง VIP ค่ะ
100 RMB และ 80 RMB - ที่นั่งจะอยู่หลัง First class ค่ะ แต่จะเป็นยกพื้นอยู่สูงกว่า First class ค่ะ จขกท โชคดีได้แถวหน้าสุดของราคา 100 RMB ทำเลดีมากค่ะ ถ้าได้แถวหลังอาจจะต้องชะเง้อกันสักหน่อยค่ะ
ทุกๆ ที่นั่งจะมีถั่วกับน้ำชาเสริฟให้ฟรีค่ะ สำหรับการแสดง ที่เป็นไฮไลท์ ก็จะมี งิ้วค่ะ (ตอนที่ไปดูเป็นเปาบุ้นจิ้น) เป็นงิ้วตอนสั้นๆ มีเชิดหุ่นค่ะ (คล้ายๆ หุ่นละครเล็กบ้านเรา) โชว์เล่นเงา, โชว์เปลี่ยนหน้ากากค่ะ (ยังมีอีกแต่จำไม่ได้ละค่ะ) ไม่ได้ถ่ายรูปกลับมาเลยค่ะ นั่งไกลไปหน่อย ส่องไม่ถึง
สำหรับการซื้อตั๋ว แนะนำว่าให้ทางที่พักจองให้ดีกว่าค่ะ เพราะไปซื้อที่นั่นเลยอาจจะเต็มได้ค่ะ ส่วนที่นั่งเราไม่สามารถล็อคที่ได้นะคะ ระบุได้แค่ว่าจะซื้อตั๋วประเภทไหนเท่านั้นค่ะ ที่เหลือไปลุ้นกันหน้างาน
การเดินทางไป Shufengyayun ก็ไม่ยากค่ะ ลง MRT ที่สถานี 通惠门 (Tonghuimen) ออก Exit E ขึ้นมาจะเห็นซุ้มประตูใหญ่ๆ อยู่ถนนฝั่งตรงข้ามค่ะ ข้ามถนนเข้าซุ้มประตูไป (ชื่อถนน 琴台路 - Qingtailu) จากซุ้มประตูเดินตรงเข้าไปเรื่อยๆ ค่ะ ไม่ไกลมากแต่อยู่เกือบสุดซอย จะมี Ticket office อยู่ทางฝั่งซ้ายค่ะ เมื่อเราไปเอาตั๋วแล้วข้ามไปอีกฝั่งหนึ่งจะมีประตูทางเข้าอยู่ฝั่งตรงข้ามค่ะ หาไม่ยากสังเกตได้จากมีรถทัวร์จอดอยู่เยอะๆ ค่ะ โรงแรมบางแห่งจะมีบริการรถมาส่งถึงที่เลยค่ะ ยังไงก็ลองสอบถามตอนที่จองตั๋วกับโรงแรมดูนะคะ
Day 2: One Day Trip ไป Mountain Qingcheng (青城山- ชิงเฉิงซาน)
สถานีที่มีรถบัสไปยัง Qingchengshan จะมี 2 สถานีคือ 新南们汽车站 (Xinnanmen Station) และ 茶店子汽车站 (Chadianzi Long Distance Bus Station) จขกท เลือกไปจาก Chadianzi เพราะว่าใกล้ที่พักมากกว่า
การจะไปสถานี Chadianzi ก็ไม่ยากค่ะ นั่ง MRT ไปลงสถานี Chadianzi เดินขึ้นมาก็จะเจอสถานีรถบัสเลยค่ะ หลังจากแสกนกระเป๋าเข้ามาในสถานีแล้ว
ช่องขายตั๋วจะอยู่ทางด้านขวา แยกต่างหากออกมาจากจุดหมายปลายทางอื่นๆ คือ เดินเข้าไปบอกคนขายตัวเลยค่ะว่า ชิงเฉิงซาน เวลาซื้อตั๋วต้องใช้ Passport ด้วยค่ะ แต่ถึงเราจะซื้อตั๋วหลายใบก็ใช้แค่เล่มเดียวค่ะ ค่าตั๋วไป ชิงเฉินซาน คือ 28 RMB ค่ะ รถมีตั้งแต่ประมาณ 8 โมงเช้าค่ะ แต่ จขกท มาไม่ทัน เลยได้รอบ 9.30 ได้ตั๋วแล้วไปรอรถที่ชานชลาหมายเลข 28 ค่ะ ซึ่งจะอยู่นอกอาคาร เดินออกมาจากที่ตรวจตั๋วแล้วเลี้ยวขวาเดินตรงมาเรื่อยจะเห็นเลข 28 และจะมีป้ายสีน้ำเงินเขียนว่า 青城山 หลังจากนั้นก็คอยสังเกตหน้ารถเอาค่ะ รถออกค่อนข้างจะตรงเวลามากค่ะ ขึ้นไปบนรถแล้วจะมีการตรวจตั๋วอีกทีค่ะ สำหรับที่นั่งก็มั่วเอาค่ะ ว่างตรงไหนนั่งตรงนั้นได้เลย หลังจากนั้นก็นั่งยาวๆ เลยค่ะ ใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่งก็มาถึงจุดหมายปลายทางแล้วค่ะ สถานีชิงเฉิงซาน
รถบัสคันสีเหลืองคือคันที่เรานั่งมาจากเฉิงตูค่ะ มาถึงจะมาจอดที่ป้ายหมายเลข 5 ซึ่งขากลับเราก็จะต้องมาขึ้นรถตรงป้ายนี้เหมือนกันค่ะ
หลังจากลงรถแล้วเราสามารถเลือกได้ค่ะว่าจะไปเที่ยวหน้าเขาหรือหลังเขา ถ้าไปหน้าเขาก็ไปขึ้นรถที่ป้ายหมายเลข 1 จะเห็นที่ป้ายเขียนเลข 101 เราจะต้องขึ้นรถสายนี้ไปชิงเฉินซานค่ะ ค่าโดยสาร 2 RMB รถจะมาทุกๆ 12 นาทีค่ะ (ในป้ายเขียนบอกว่างั้น) แต่ที่ป้ายหมายเลข 2 ซึ่งอยู่ถัดไปจะมีรถตู้เล็กๆ เป็นของเอกชนจอดรออยู่ค่ะ ค่าโดยสารคนละ 5 RMB ค่ะ ข้อดีคือไม่ต้องเสียเวลารอ สัก 3-4 คนก็ออกเลย ไปส่งที่หน้าเขาเหมือนกันค่ะ
ส่วนคนที่จไปลงหลังเขาก็มีรถแยกไปค่ะ รอที่ป้ายที่ 3 ค่ะ ในรูปจะเห็นป้ายสีน้ำเงินเขียนว่าไปหลังเขาค่ะ แต่ จขกท นั่งสาย 101 ไปลงหน้าเขาค่ะ
รถเมลล์จะมาปล่อยเราลงตรงทางเข้าค่ะ เดินเข้ามาเราจะเห็นป้อมที่ขายตั๋วรถกอล์ฟ จากตรงนี้เราต้องไปซื้อตั๋วเพื่อนั่งรถกอล์ฟขึ้นเขาไปค่ะ ค่าโดยสาร 10 RMB/เที่ยว (ขาลงก็ต้องซื้อตั๋วอีกรอบค่ะ)
รถกอล์ฟจะขึ้นไปไม่ถึงจุดที่ขายตั๋วนะคะ ต้องเดินต่อขึ้นไปตามทางอีกนิดนึงค่ะ เก็บบรรยากาศข้างทางมาฝากกันค่ะ
เห็นที่ขายตั๋วแล้วค่ะ ค่าเข้าคนละ 90 RMB ค่ะ ชิงเฉิงซานจะแบ่งออกเป็นส่วนหน้าเขากับหลังเขาค่ะ ค่าเข้าก็จะแบ่งเป็นส่วนๆ ไปค่ะ อย่างที่ซื้อตั๋วตรงนี้จะขายแต่ตั๋วสำหรับขึ้นหน้าเขา 90 RMB ถ้าเป็นส่วนหลังเขาตามที่หาข้อมูลมาค่าตั๋ว 20 RMB และอาจจะเสียเพิ่มอีกเพราะบนเขามีสถานที่ให้เข้าชมอีกหลายที่ค่ะ
เอาแผนที่มาฝากกันด้วยค่ะ
เดินไปสักพักจะถึงทะเลสาบ ตรงนี้เราสามารถนั่งเรือไปฝั่งตรงข้ามได้ ค่าโดยสาร 5 RMB ส่วนใครที่อยากเดินก็จะเป็นสะพานยาวๆ อ้อมทะเลสาบไป เดินไปไม่ไกล เดินไปถ่ายรูปไปแป๊บเดียวก็ถึงค่ะ
หลังจากเดินอ้อมทะเลสาบมาจนถึงอีกฝั่งแล้ว จะมีเคเบิ้ลคาร์ให้นั่งขึ้นไปข้างบน (แนะนำว่านั่งเถอะค่ะ ทางขึ้นโหดมาก ชันมากและสูงมาก) ค่าเคเบิลคาร์ 35 RMB/Single trip และ 60 RMB/Round trip
หลังจากลงเคเบิลคาร์แล้วเดินขึ้นไปอีกนิดจะเจอวัดของลัทธิเต๋า ต้องเดินทะลุวัดนี้ไปจะมีทางให้ขึ้นไปอีกค่ะ ที่ยอดเขายังมีเจดีย์ให้เข้าไปดูได้ แต่เนื่องจากท่าน สว. ที่พามาด้วยเริ่มเดินกันไม่ไหวแล้วค่ะ เลยตัดสินใจไม่ไปต่อ
สำหรับขากลับก็เหมือนขามาค่ะ ซื้อตั๋วรถกอล์ฟ ลงมาถึงที่จอดรถด้านล่าง จากนั้นเดินออกมาจะเห็นที่รอรถเมลล์ตามในรูปเลยค่ะ ก็เดินหาสาย 101 แล้วก็ขึ้นสายนี้เพื่อกลับไปยังสถานีเดิมค่ะ
จริงๆ แล้วการมาที่ชิงเฉินซานสามารถนั่งรถไฟมาลงได้ด้วย จขกท มารู้ตอนที่มาถึงสถานีชิงเฉิงซานแล้วไปหาห้องน้ำ เดินไปเดินมาเจอสถานีรถไฟอยู่ด้านหลัง แต่ว่าขบวนรถค่อนข้างน้อย แต่ถ้าใครกลับเย็นหน่อยจะมีรถไฟจากชิงเฉิงซานกลับไปยังเฉิงตู เที่ยวประมาณ 5 โมงเย็นค่ะ แต่ จขกท ก็เลือกกลับรถบัสเหมือนเดิม เพราะขี้เกียจรอรถไฟค่ะ
มาต่อกันที่ Kuan-Zhai Alley (宽窄巷子)
การเดินทางก็นั่ง MRT มาลงที่สถานี People’s park (人民公园) ออก Exit D แล้วเดินเลียบถนนไปเรื่อยๆ จนเจอสะพานลอย ทางเข้าจะอยู่ฝั่งตรงข้ามค่ะ ต้องข้ามสะพานลอยไป
ในซอยก็จะมีลักษณะเป็นบ้านโบราณ ส่วนมากจะตกแต่งเป็นร้านน้ำชา ร้านขายอาหารท้องถิ่น ร้านขายของที่ระลึกค่ะ ใครที่ชอบพวกสถาปัตยกรรม บ้านเรือนสวยๆ ก็ไปที่นี่เลยค่ะ เดินกันเพลินๆ ค่ะ ว่าแล้วก็ไปดูรูปกันดีกว่าค่ะ