สืบเนื่องจากกระทู้ที่แล้ว 'Diary of Dekcambridge Part1' ใครยังไม่ได้อ่าน ก็ไปอ่านได้ที่ลิงก์นี้นะจ้ะ (
http://ppantip.com/topic/35002664)
เผื่อใครที่ยังไม่รู้ว่ากระทู้นี้เกี่ยวกับใครหรือมาเล่าประสบการณ์อะไร จะได้ไม่งงกันเนอะ ^^
จากการสอบถามผู้อ่านหลายๆคนแล้ว พบว่า กระทู้เที่ยวแบบ non stop ควรแบ่งเป็นเหมือนหนัง Harry Potter หรือ Hunger games เพราะมีความยาวมากๆ จากจุดประสงค์ที่ว่ากระทู้นี้และกระทู้ที่แล้วนั้น เหมือนเป็นDiaryชีวิตตอนที่อยู่อังกฤษ กลัวว่าจะยาวเกินไป ถ้าจะลงครบทั้งหมดและเพื่ออรรถรสในการรับชม ทั้งเนื้อหาและรูปภาพซึ่งจัดเต็มมากๆๆๆ จึงขออนุญาตแบ่งตอนเป็น2ภาคย่อยนะคะ หวังว่าคงจะไม่ว่ากันน๊าาา
....Let's begin กันโล้ด....
จากการที่เราไปเรียนซัมเมอร์เป็นเวลา10อาทิตย์ พอนับๆคำนวณๆ เรามีเวลาเที่ยวในช่วงสุดสัปดาห์ได้ 8อาทิตย์ ตัดหัวท้าย วันมาวันกลับ สรุป8อาทิตย์นี้ ทำไรดี เอาให้คุ้ม ไม่รู้ลืมกันเลย วางแผนไว้ว่า อาทิตย์นี้ไปไหน จากเป็นอาทิตย์ก็มองยาวไปจนถึงอาทิตย์ที่8 ลองดูกันเลย
เสาร์สัปดาห์ที่1
เราไปพระราชวังWindsor เป็นพระราชฐานหลักสามแห่งของพระราชวงศ์อังกฤษ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 มักทรงใช้เวลาวันสุดสัปดาห์หลายวันที่พระราชวังวินด์เซอร์เป็นทั้งที่จัดงานเลี้ยงอย่างเป็นทางการและเป็นการส่วนพระองค์ ค่าเข้าวังนี้คือ15ปอนด์จ้า โดยใช้บริการทัวร์ของโรงเรียน เพราะทางโรงเรียนจะมีกิจกรรมให้ในทุกๆวัน ทุกๆอาทิตย์ โดยจะมีตารางให้ เราไปกับเพื่อนสนิทเรา เพื่อนคนอินโด สเปน และเปรู วังนี้ขอบอกว่า สวยมากๆๆจริงๆๆเน้นๆๆย้ำๆๆ วังนี้อยู่ห่างLondonไม่นานมาก ส่วนของด้านในวัง จะไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป และจะมีเครื่องบรรยายพร้อมหูฟังสำหรับอธิบายห้องต่างๆภายในวังซึ่งเหมือนกับที่ท่องเที่ยวทั่วๆไป มีสินค้าขายรอบๆบริเวณนั้น พวกโปสการ์ด ของที่ระลึกต่างๆ ร้านค้าทั่วๆไป ร้านมีแบรนด์ที่เรารู้จักก็มี หลังจากเดินชมภายในเรียบร้อยแล้ว ทุกคนก็หิวโซมากๆ เพราะเดินซะเมื่อย วังมันใหญ่มากจริงๆอ่ะ เราเลยภูมิใจมากกับการแนะนำอาหารไทยให้เพื่อนรับประทานกัน พอดีมีร้านอาหารไทยอยู่พอดี ชื่อร้านThai Square ซึ่งเพื่อนเปรูและสเปนชอบมากๆทุกอย่าง โดยเฉพาะผัดไทกับชาไทย หลังจากอิ่มกันแล้ว เราก็เดินกันไปเรื่อยๆที่Eton เป็นวิทยาลัยแถบๆนั้น แต่โชคร้ายที่ไม่ได้เข้าด้านใน มันปิดพอดี ข้างนอกก็โอเคอยู่นะ สวยๆ วันแรกของการเที่ยว เมื่อยมากๆอ่ะ แต่มีความสุขมากเพราะครั้งที่มากับครอบครัว เราไม่ได้เข้าในวังWindsorแล้วก็ไม่ได้มาเดินแถวEtonด้วยเลยรู้สึกว่าครั้งนี้เป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆเลยล่ะ
ปล.อาทิตย์แรกมีการบ้านเขียน เที่ยวสุขแล้วก็ทำการบ้านบนรถไปเลย TT พยายามๆเข้าไว้
ลงจากรถก็จะเห็นป้ายบอกทางเลย
หัวรถจักรรุ่นเก๋าที่จัดโชว์ไว้ที่สถานีวินเซอร์
นี่เป็นประตูทางออก ใหญ่ใช่ไหมล่ะ?
เยื้องๆตรงข้ามกับประตูทางออก จะมีที่ขายบัตร เข้าคิวยาวมากๆ
ถึงทางเข้าแล้ว ตื่นเต้นๆ
อลังการ Round Tower
สวนหย่อม น่ารักดี
ชัตเตอร์ให้เพื่อนหน่อย ชุดทหารยามที่นี่เจ๋งจริง
เห็นEtonแว๊บๆแย้ว
กว้างมากๆ ถ่ายรูปตรงนี้ สวยมากๆ
St. George's Chapel
Thai food is the best
Eton college
กลับกันเถอะ เหนื่อยแล้ว
อาทิตย์สัปดาห์ที่1
เราไปเที่ยวLondonกับเพื่อนในห้องอีกเช่นเคยแต่จะเยอะกว่าเดิม มีทั้งคนจีน ฝรั่งเศส ซาอุ เปรูเจ้าเดิม รัสเซีย ไทย2คนเจ้าเก่า ตะลุยแบบเดินnon stop เราไปซื้อตั๋วรถไฟจากCambridge-King’s cross ล่วงหน้าก่อน2วัน ซื้อแบบกลุ่ม2คนขึ้นไป ราคาลดเยอะมากๆ จาก22.50เหลือ14.85 พอถึงลอนดอน
เราเริ่มต้นจากการนั่งtube(subway)ไปที่bigbenเดินไปWestminster จากนั้นไป London eye และต่อรถบัสซึ่งใช้ตั๋วรถไฟได้ ไปที่Tower bridge หรือหลายๆคนจะเรียกว่า London bridge แต่จริงๆเข้าใจผิดกันนะ ต้องเรียกแบบแรก เพราะมันคนละที่กัน เราก็เดินถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ไปทานข้าวกันแถวๆ London bridge ซึ่งอาหารจะเป็นร้านค้าติดๆกัน โต๊ะรวมกัน เรากินข้าวสตูมีไส้กรอก รสชาติออกเปรี้ยวๆ ตอนนั้นกินไม่ลงเพราะข้าวมันไม่หร่อยมากนัก ฝาดๆ บอกไม่ถูก พอเสร็จก็เดินๆๆๆไปเรื่อยๆ จนถึง St. Paul cathedralซึ่งเป็นมหาวิหารของคริสตจักรแห่งอังกฤษ และเป็นโบสถ์ประจำตำแหน่งบิชอปแห่งลอนดอน พวกเรามาแวะถ่ายรูป จากนั้นรถบัสเก่าแก่ไปที่ Trafalgar Square จากหนังnight at the museum ภาค2 ถ่ายรูปกันแปบๆ เพราะตรงกลางของจัตุรัสมีการแสดงโชว์จากแถบเอเชีย เราจึงไม่สามารถเข้าไปถ่ายรูปได้ตรงสิงโตที่เป็นอนุสาวรีย์ได้ น่าเสียดายนิดๆ ระหว่างกำลังคิดว่าจะไปที่ไหนต่อ เราก็บ่นๆว่าอยากไปซื้อรองเท้าไนกี้ เราก็บอกเพื่อนในกลุ่มไปว่า “อยากไปดูรองเท้าไนกี้จัง” แต่มันสตั๊นท์มากตรงที่เพื่อนทุกคนไม่เข้าใจที่เราพูด เราเลยพูดไป3รอบ ก็ยังงงกันอีก หันไปหาเพื่อนคนไทย เราพูดไรผิดฟ่ะ?? สรุปใช้การชี้ไปที่รองเท้าของตัวเอง ซึ่งใส่Nike jordanมาพอดี ทุกคนเลยอ๋อๆๆ นั่นมันเรียกว่า ไน-เคอะ นะ โอ้โฮ้!! เรากับเพื่อนร้อง “ห่ะ!!”ตาค้างกันหลายวิอยู่ คืองงว่า ทำไมเรียกแบบนั้นวะ? สรุปคือแถบยุโรปเรียกกันแบบนี้ แต่พวกชาติอื่นๆ เรียกไนกี้ปกติ คือรู้สึกตอนนั้นเสียเซลฟ์มากอ่ะ TT จากนั้นเราก็มุ่งสู่วังBuckingham ตามเส้นทางของถนนที่ทอดยาวมากไปยังวัง ซึ่งวันนั้นมีการประทับธงชาติอังกฤษเยอะมากๆ เพราะเหมือนมีงานไรไปนี่แหล่ะ รีบเดินแบบถ่ายรูปกันยกใหญ่ คือมันสวยมากๆอ่ะ พอถึงหน้าวังแล้วหากเราไปที่นั่นแล้วมองเห็นธงชาติอังกฤษ (union jack) จะบ่งบอกว่า Queen จะประทับอยู่ ซึ่งเราก็ไม่พลาด ธงอยู่จริงๆ เย่ๆ หากไปในช่วงที่มีการเปลี่ยนเวรของทหารชุดแดง เราก็สามารถชมการเดินขบวนได้ ซึ่งก่อนหน้านั้นเราเคยไปมาแล้วเห็นพอดี เจ๋งมาก มีทหารขี่ม้ามาด้วย สวยงามมาก สรุปเราจบวันนั้นที่นี่ ก่อนนั่งกลับไปCambridge เมื่อยมากๆๆอ่ะ แต่สนุกสุดๆเช่นกัน
ถึงแล้ว King's cross London
ถึงเวลาดีซะด้วย เที่ยวได้อีกเยอะ
เล่นเกมส์บันไดงูเป็น นั่งtubeก็ไม่ยาก สนุกมากๆ
Hello!!! Big Ben
รวมแก๊งซ์ (เพื่อนฝรั่งเศสอายไรเนี่ย?) แอบซะ
London eye & River theme
Tower bridge มีชั้นบนเป็นพื้นกระจก ส่องเห็นพื้นถนนได้ แต่ๆๆ 20ปอนด์เอง TT
อาหารเช้า+กลางวัน สตูไส้กรอก
ร้านอาหารข้างสะพานLondon
St. Paul cathedral
ทางเดินสู่Buckingham
อลังการเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือQueenประทับ แต่รูปนี้ไม่เห็นธงชัดๆ
เสาร์สัปดาห์ที่2
เด็กเคมบริดจ์ทั้ง3คน มีภารกิจของเรา คือ ตามล่าหาแฮรี่กับไนกี้ที่หายไป คือเราทั้ง3คนอยากได้nikeคู่ใหม่กันมาก อยากรู้ชานชาลา 9เศษ3/4 ว่าอยู่ตรงไหนของking's cross เราจึงมาตะลุยช๊อปปิ้งที่oxford street ที่Londonกัน อยากรู้ว่าที่นี่มีไรน่าซื้อและเราซื้อได้บ้าง555 เราเลยตัดสินใจซื้อตั๋วแบบกลุ่มจากCambridgeมาLondon มาถึงก็หิวกันมาก หาร้านอาหารกันไม่ได้สักที กว่าจะได้ไส้แทบกริ่ว เพราะบางร้านแพงมากๆๆ เราจะเดินไปส่องๆเมนูหน้าร้านก่อนจะตัดสินใจ นี่แหล่ะวิถี ยาจกเคมบริดจ์ ฉายาใหม่พวกเรา 555 สรุปมาลงตัวที่ร้านแห่งนึง แถบOxford street เราสั่งลาซานญ่า กับโกโก้ร้อน อร่อยมากหรือว่าหิวไม่รุนะ กินหมดอ่ะ อิ่มแล้วก็ลุยกันต่อ....เอาอีกแล้วสินะ หลงอีกแล้วสินะ ที่อังกฤษตามเมืองใหญ่ๆ จะมีคล้ายๆตำรวจแต่เค้าคือคนบอกทาง เค้าเห็นหน้าพวกเรางงๆ เลยเข้ามาถาม สรุปเค้าคนนั้นบอกทางเราไปอีกที่ สงสัยสับสน พวกเราเลยหลงกันอีกครั้ง สนุกจริงๆ สรุปสักพักใหญ่ๆก็เดินสู่จุดหมาย Oxford streetจ้า แต่ในระหว่างเดินตัดถนนเส้นหนึ่ง รุ่นพี่กับเพื่อนเราสังเกตว่า คนที่เดินผ่านพวกเราเดินถือถุงสีเหลืองกันเยอะมาก รุ่นพี่เราเลยบอกว่า สงสัยร้านนี้ต้องsalesอยู่แน่ๆเลย เพราะนี่สังเกตมาตลอดทางเลย พวกเรา3คนจึงเดินตามคนถือถุงเหลือง ย้อนไปเรื่อยๆ สรุปไปยืนจอดกันตรงหน้าห้างSelfridges ตอนนั้นยังไม่รู้กันว่า ที่นี่คือห้าง เลยเดินเข้าไปข้างใน พอเดินเข้าไป มันคือโซนพวกเครื่องสำอาง กำลังคิดว่าจะเดินเข้าไปหาพนักงานสักคนถามว่า ถุงเหลืองนี้คือร้านไหน? สรุป เอะใจกันก่อนว่า ป้ายที่ติดอกพนักงานมันสีเหลืองนี่หว่า แล้วก็ยืนขำกัน อ่าวสรุปมันคือ ถุงของห้างนี้นี่หว่า โอ๊ยจะฮ่าไปไหน ยาจกเคมบริดจ์ พอเดินๆดูราคาก็เลยเดินออกจากห้าง ไปเดินช๊อปที่Primart ดีฟ่า สาขาLondonร้านโคดจะใหญ่ คนอย่างกะหนอน ไม่พลาดๆ ได้ของมาอย่างนึง นอกนั้นก็ไม่ได้ไรเลย -.- nikeยังไม่ถูกใจ งือๆ ไม่ได้ซื้อ สรุปวันนี้ ภารกิจล้มเหลวที่ตามล่าไนกี้คู่ใหม่ไม่ได้ แต่เพื่อนกับพี่ได้กัน2คนเลย กลับบ้านแบบเจ็บใจนิสนุง
hi London!!
ฟินเว่อร์ บ่องตง ราคาดีด้วย
หาทางไป bond street
H&M ใหญ่มากๆ ร้านอื่นๆด้วย
สุดท้ายหลงทาง เธอจึงมาช่วยเหลือ (รึป่าว?)
หมาหงอย ณ ลอนดอน น่ารัก><
ห้างselfridges ถุงเหลืองของยาจกเคมบริดจ์ นั่นเอง
อยากเจอเนื้อคู่ ต้องมาที่นี่ Piccadilly Circus
ตู้แดง
Diary of Dekcambridge ประสบการณ์เที่ยวแบบnon stop ณ ประเทศอังกฤษ Part2.1
เผื่อใครที่ยังไม่รู้ว่ากระทู้นี้เกี่ยวกับใครหรือมาเล่าประสบการณ์อะไร จะได้ไม่งงกันเนอะ ^^
จากการสอบถามผู้อ่านหลายๆคนแล้ว พบว่า กระทู้เที่ยวแบบ non stop ควรแบ่งเป็นเหมือนหนัง Harry Potter หรือ Hunger games เพราะมีความยาวมากๆ จากจุดประสงค์ที่ว่ากระทู้นี้และกระทู้ที่แล้วนั้น เหมือนเป็นDiaryชีวิตตอนที่อยู่อังกฤษ กลัวว่าจะยาวเกินไป ถ้าจะลงครบทั้งหมดและเพื่ออรรถรสในการรับชม ทั้งเนื้อหาและรูปภาพซึ่งจัดเต็มมากๆๆๆ จึงขออนุญาตแบ่งตอนเป็น2ภาคย่อยนะคะ หวังว่าคงจะไม่ว่ากันน๊าาา
....Let's begin กันโล้ด....
จากการที่เราไปเรียนซัมเมอร์เป็นเวลา10อาทิตย์ พอนับๆคำนวณๆ เรามีเวลาเที่ยวในช่วงสุดสัปดาห์ได้ 8อาทิตย์ ตัดหัวท้าย วันมาวันกลับ สรุป8อาทิตย์นี้ ทำไรดี เอาให้คุ้ม ไม่รู้ลืมกันเลย วางแผนไว้ว่า อาทิตย์นี้ไปไหน จากเป็นอาทิตย์ก็มองยาวไปจนถึงอาทิตย์ที่8 ลองดูกันเลย
เสาร์สัปดาห์ที่1
เราไปพระราชวังWindsor เป็นพระราชฐานหลักสามแห่งของพระราชวงศ์อังกฤษ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 มักทรงใช้เวลาวันสุดสัปดาห์หลายวันที่พระราชวังวินด์เซอร์เป็นทั้งที่จัดงานเลี้ยงอย่างเป็นทางการและเป็นการส่วนพระองค์ ค่าเข้าวังนี้คือ15ปอนด์จ้า โดยใช้บริการทัวร์ของโรงเรียน เพราะทางโรงเรียนจะมีกิจกรรมให้ในทุกๆวัน ทุกๆอาทิตย์ โดยจะมีตารางให้ เราไปกับเพื่อนสนิทเรา เพื่อนคนอินโด สเปน และเปรู วังนี้ขอบอกว่า สวยมากๆๆจริงๆๆเน้นๆๆย้ำๆๆ วังนี้อยู่ห่างLondonไม่นานมาก ส่วนของด้านในวัง จะไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป และจะมีเครื่องบรรยายพร้อมหูฟังสำหรับอธิบายห้องต่างๆภายในวังซึ่งเหมือนกับที่ท่องเที่ยวทั่วๆไป มีสินค้าขายรอบๆบริเวณนั้น พวกโปสการ์ด ของที่ระลึกต่างๆ ร้านค้าทั่วๆไป ร้านมีแบรนด์ที่เรารู้จักก็มี หลังจากเดินชมภายในเรียบร้อยแล้ว ทุกคนก็หิวโซมากๆ เพราะเดินซะเมื่อย วังมันใหญ่มากจริงๆอ่ะ เราเลยภูมิใจมากกับการแนะนำอาหารไทยให้เพื่อนรับประทานกัน พอดีมีร้านอาหารไทยอยู่พอดี ชื่อร้านThai Square ซึ่งเพื่อนเปรูและสเปนชอบมากๆทุกอย่าง โดยเฉพาะผัดไทกับชาไทย หลังจากอิ่มกันแล้ว เราก็เดินกันไปเรื่อยๆที่Eton เป็นวิทยาลัยแถบๆนั้น แต่โชคร้ายที่ไม่ได้เข้าด้านใน มันปิดพอดี ข้างนอกก็โอเคอยู่นะ สวยๆ วันแรกของการเที่ยว เมื่อยมากๆอ่ะ แต่มีความสุขมากเพราะครั้งที่มากับครอบครัว เราไม่ได้เข้าในวังWindsorแล้วก็ไม่ได้มาเดินแถวEtonด้วยเลยรู้สึกว่าครั้งนี้เป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆเลยล่ะ
ปล.อาทิตย์แรกมีการบ้านเขียน เที่ยวสุขแล้วก็ทำการบ้านบนรถไปเลย TT พยายามๆเข้าไว้
ลงจากรถก็จะเห็นป้ายบอกทางเลย
หัวรถจักรรุ่นเก๋าที่จัดโชว์ไว้ที่สถานีวินเซอร์
นี่เป็นประตูทางออก ใหญ่ใช่ไหมล่ะ?
เยื้องๆตรงข้ามกับประตูทางออก จะมีที่ขายบัตร เข้าคิวยาวมากๆ
ถึงทางเข้าแล้ว ตื่นเต้นๆ
อลังการ Round Tower
สวนหย่อม น่ารักดี
ชัตเตอร์ให้เพื่อนหน่อย ชุดทหารยามที่นี่เจ๋งจริง
เห็นEtonแว๊บๆแย้ว
กว้างมากๆ ถ่ายรูปตรงนี้ สวยมากๆ
St. George's Chapel
Thai food is the best
Eton college
กลับกันเถอะ เหนื่อยแล้ว
อาทิตย์สัปดาห์ที่1
เราไปเที่ยวLondonกับเพื่อนในห้องอีกเช่นเคยแต่จะเยอะกว่าเดิม มีทั้งคนจีน ฝรั่งเศส ซาอุ เปรูเจ้าเดิม รัสเซีย ไทย2คนเจ้าเก่า ตะลุยแบบเดินnon stop เราไปซื้อตั๋วรถไฟจากCambridge-King’s cross ล่วงหน้าก่อน2วัน ซื้อแบบกลุ่ม2คนขึ้นไป ราคาลดเยอะมากๆ จาก22.50เหลือ14.85 พอถึงลอนดอน
เราเริ่มต้นจากการนั่งtube(subway)ไปที่bigbenเดินไปWestminster จากนั้นไป London eye และต่อรถบัสซึ่งใช้ตั๋วรถไฟได้ ไปที่Tower bridge หรือหลายๆคนจะเรียกว่า London bridge แต่จริงๆเข้าใจผิดกันนะ ต้องเรียกแบบแรก เพราะมันคนละที่กัน เราก็เดินถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ไปทานข้าวกันแถวๆ London bridge ซึ่งอาหารจะเป็นร้านค้าติดๆกัน โต๊ะรวมกัน เรากินข้าวสตูมีไส้กรอก รสชาติออกเปรี้ยวๆ ตอนนั้นกินไม่ลงเพราะข้าวมันไม่หร่อยมากนัก ฝาดๆ บอกไม่ถูก พอเสร็จก็เดินๆๆๆไปเรื่อยๆ จนถึง St. Paul cathedralซึ่งเป็นมหาวิหารของคริสตจักรแห่งอังกฤษ และเป็นโบสถ์ประจำตำแหน่งบิชอปแห่งลอนดอน พวกเรามาแวะถ่ายรูป จากนั้นรถบัสเก่าแก่ไปที่ Trafalgar Square จากหนังnight at the museum ภาค2 ถ่ายรูปกันแปบๆ เพราะตรงกลางของจัตุรัสมีการแสดงโชว์จากแถบเอเชีย เราจึงไม่สามารถเข้าไปถ่ายรูปได้ตรงสิงโตที่เป็นอนุสาวรีย์ได้ น่าเสียดายนิดๆ ระหว่างกำลังคิดว่าจะไปที่ไหนต่อ เราก็บ่นๆว่าอยากไปซื้อรองเท้าไนกี้ เราก็บอกเพื่อนในกลุ่มไปว่า “อยากไปดูรองเท้าไนกี้จัง” แต่มันสตั๊นท์มากตรงที่เพื่อนทุกคนไม่เข้าใจที่เราพูด เราเลยพูดไป3รอบ ก็ยังงงกันอีก หันไปหาเพื่อนคนไทย เราพูดไรผิดฟ่ะ?? สรุปใช้การชี้ไปที่รองเท้าของตัวเอง ซึ่งใส่Nike jordanมาพอดี ทุกคนเลยอ๋อๆๆ นั่นมันเรียกว่า ไน-เคอะ นะ โอ้โฮ้!! เรากับเพื่อนร้อง “ห่ะ!!”ตาค้างกันหลายวิอยู่ คืองงว่า ทำไมเรียกแบบนั้นวะ? สรุปคือแถบยุโรปเรียกกันแบบนี้ แต่พวกชาติอื่นๆ เรียกไนกี้ปกติ คือรู้สึกตอนนั้นเสียเซลฟ์มากอ่ะ TT จากนั้นเราก็มุ่งสู่วังBuckingham ตามเส้นทางของถนนที่ทอดยาวมากไปยังวัง ซึ่งวันนั้นมีการประทับธงชาติอังกฤษเยอะมากๆ เพราะเหมือนมีงานไรไปนี่แหล่ะ รีบเดินแบบถ่ายรูปกันยกใหญ่ คือมันสวยมากๆอ่ะ พอถึงหน้าวังแล้วหากเราไปที่นั่นแล้วมองเห็นธงชาติอังกฤษ (union jack) จะบ่งบอกว่า Queen จะประทับอยู่ ซึ่งเราก็ไม่พลาด ธงอยู่จริงๆ เย่ๆ หากไปในช่วงที่มีการเปลี่ยนเวรของทหารชุดแดง เราก็สามารถชมการเดินขบวนได้ ซึ่งก่อนหน้านั้นเราเคยไปมาแล้วเห็นพอดี เจ๋งมาก มีทหารขี่ม้ามาด้วย สวยงามมาก สรุปเราจบวันนั้นที่นี่ ก่อนนั่งกลับไปCambridge เมื่อยมากๆๆอ่ะ แต่สนุกสุดๆเช่นกัน
ถึงแล้ว King's cross London
ถึงเวลาดีซะด้วย เที่ยวได้อีกเยอะ
เล่นเกมส์บันไดงูเป็น นั่งtubeก็ไม่ยาก สนุกมากๆ
Hello!!! Big Ben
รวมแก๊งซ์ (เพื่อนฝรั่งเศสอายไรเนี่ย?) แอบซะ
London eye & River theme
Tower bridge มีชั้นบนเป็นพื้นกระจก ส่องเห็นพื้นถนนได้ แต่ๆๆ 20ปอนด์เอง TT
อาหารเช้า+กลางวัน สตูไส้กรอก
ร้านอาหารข้างสะพานLondon
St. Paul cathedral
ทางเดินสู่Buckingham
อลังการเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือQueenประทับ แต่รูปนี้ไม่เห็นธงชัดๆ
เสาร์สัปดาห์ที่2
เด็กเคมบริดจ์ทั้ง3คน มีภารกิจของเรา คือ ตามล่าหาแฮรี่กับไนกี้ที่หายไป คือเราทั้ง3คนอยากได้nikeคู่ใหม่กันมาก อยากรู้ชานชาลา 9เศษ3/4 ว่าอยู่ตรงไหนของking's cross เราจึงมาตะลุยช๊อปปิ้งที่oxford street ที่Londonกัน อยากรู้ว่าที่นี่มีไรน่าซื้อและเราซื้อได้บ้าง555 เราเลยตัดสินใจซื้อตั๋วแบบกลุ่มจากCambridgeมาLondon มาถึงก็หิวกันมาก หาร้านอาหารกันไม่ได้สักที กว่าจะได้ไส้แทบกริ่ว เพราะบางร้านแพงมากๆๆ เราจะเดินไปส่องๆเมนูหน้าร้านก่อนจะตัดสินใจ นี่แหล่ะวิถี ยาจกเคมบริดจ์ ฉายาใหม่พวกเรา 555 สรุปมาลงตัวที่ร้านแห่งนึง แถบOxford street เราสั่งลาซานญ่า กับโกโก้ร้อน อร่อยมากหรือว่าหิวไม่รุนะ กินหมดอ่ะ อิ่มแล้วก็ลุยกันต่อ....เอาอีกแล้วสินะ หลงอีกแล้วสินะ ที่อังกฤษตามเมืองใหญ่ๆ จะมีคล้ายๆตำรวจแต่เค้าคือคนบอกทาง เค้าเห็นหน้าพวกเรางงๆ เลยเข้ามาถาม สรุปเค้าคนนั้นบอกทางเราไปอีกที่ สงสัยสับสน พวกเราเลยหลงกันอีกครั้ง สนุกจริงๆ สรุปสักพักใหญ่ๆก็เดินสู่จุดหมาย Oxford streetจ้า แต่ในระหว่างเดินตัดถนนเส้นหนึ่ง รุ่นพี่กับเพื่อนเราสังเกตว่า คนที่เดินผ่านพวกเราเดินถือถุงสีเหลืองกันเยอะมาก รุ่นพี่เราเลยบอกว่า สงสัยร้านนี้ต้องsalesอยู่แน่ๆเลย เพราะนี่สังเกตมาตลอดทางเลย พวกเรา3คนจึงเดินตามคนถือถุงเหลือง ย้อนไปเรื่อยๆ สรุปไปยืนจอดกันตรงหน้าห้างSelfridges ตอนนั้นยังไม่รู้กันว่า ที่นี่คือห้าง เลยเดินเข้าไปข้างใน พอเดินเข้าไป มันคือโซนพวกเครื่องสำอาง กำลังคิดว่าจะเดินเข้าไปหาพนักงานสักคนถามว่า ถุงเหลืองนี้คือร้านไหน? สรุป เอะใจกันก่อนว่า ป้ายที่ติดอกพนักงานมันสีเหลืองนี่หว่า แล้วก็ยืนขำกัน อ่าวสรุปมันคือ ถุงของห้างนี้นี่หว่า โอ๊ยจะฮ่าไปไหน ยาจกเคมบริดจ์ พอเดินๆดูราคาก็เลยเดินออกจากห้าง ไปเดินช๊อปที่Primart ดีฟ่า สาขาLondonร้านโคดจะใหญ่ คนอย่างกะหนอน ไม่พลาดๆ ได้ของมาอย่างนึง นอกนั้นก็ไม่ได้ไรเลย -.- nikeยังไม่ถูกใจ งือๆ ไม่ได้ซื้อ สรุปวันนี้ ภารกิจล้มเหลวที่ตามล่าไนกี้คู่ใหม่ไม่ได้ แต่เพื่อนกับพี่ได้กัน2คนเลย กลับบ้านแบบเจ็บใจนิสนุง
hi London!!
ฟินเว่อร์ บ่องตง ราคาดีด้วย
หาทางไป bond street
H&M ใหญ่มากๆ ร้านอื่นๆด้วย
สุดท้ายหลงทาง เธอจึงมาช่วยเหลือ (รึป่าว?)
หมาหงอย ณ ลอนดอน น่ารัก><
ห้างselfridges ถุงเหลืองของยาจกเคมบริดจ์ นั่นเอง
อยากเจอเนื้อคู่ ต้องมาที่นี่ Piccadilly Circus
ตู้แดง