การเลี้ยงดูลูกสุนัขบางแก้ว

หลายคนคงได้ลูกสุนัขคู่ใจกันหมดแล้วทีนี้เรามาดูวิธีการดูแลให้เค้ามีชีวิตรอดหลังจากเราได้ซื้อมาเริ่มแรกเลย
สุนัขที่รับมาจากฟาร์ม หรือซื้อมาจากไหนก้อตาม ให้พยายามถามผู้ขายเรื่อง
1.    วัคซีนฉีดหรือยัง? ฉีดวัคซีนตัวไหนให้? โดยสังเกตุจะมีสติกเกอร์ติดที่สมุดวัคซีนให้เอาสมุดนั้นกลับมาพร้อมน้องหมาด้วย เพื่อเอาไปต่อยอดให้หมอทำวัคซีนชุดถัดไป

2.    ทางฟาร์มหรือคนขายให้ลูกสุนัขกินอาหารยี้ห้อไหน? ถ้าเป็นไปได้ให้ขอมาสักครึ่งกิโล เพื่อนำมาผสมแล้วเปลี่ยนเป็นยี้ห้อที่เราสะดวกซื้อแถวบ้าน เรา โดยวิธีการเปลี่ยน ให้ผสมอาหารที่รับมาจากฟาร์ม 80 > 60> 40>20> จนให้อาหารของเราทั้งหมด
3.    ประวัติของพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์แพ้อาหารประเภทไหน? ประวัติการแพ้อาหารเหล่านี้จะถ่ายทอดสู่ลูกสุนัขได้ เช่น แพ้นมแพะ แพ้ไข่ เป็นต้น ถ้ารู้ก่อนเราก็ลดความเสี่ยงลงได้
4.    ลูกสุนัขนิสัยเป็นยังไงบ้าง? เพราะผู้ขายจะรู้ดีถามเพื่อเราจะต่อยอดถูกว่าจะเลี้ยงแบบไหน
ถ้าคำถามทั้งหมดผู้ขายตอบไม่ได้แสดงว่าคนขายไม่ได้เลี้ยงจริง เป็นไปได้ว่าอาจจะรับคนอื่นมาขายต่อ ดังนั้นแล้วแต่ท่านจะตัดสินใจแล้วครับ ถ้ารักลูกสุนัขตัวนั้นจริงอยากเลี้ยงผมมีเคร็ดลับการเลี้ยงบอกตอนท้ายแต่เรามาเรียนรู้แบบพื้นๆ กันก่อน

วัคซีนเข็มแรก
         อายุลูกสุนัขที่เราสามารถหย่านมและไปรับได้จะอยู่ที่ 45 วันขึ้นไป ถ้ารับลูกสุนัขในวันที่ 45 แน่นอนทางฟาร์มยังไม่สามารถทำวัคซีนได้ดังนั้นคุณต้องนำไปฉีดวัคซีนเองภายใน 1 สัปดาห์หรือน้อยกว่านั้นยิ่งดี  แต่ต้องดูการปรับตัวกับที่อยู่ใหม่ของลูกสุนัขเมื่อย้ายจากฟาร์มมาอยู่ที่บ้านเราเล้ว ถ้าปรับตัวได้แล้วควรไปทำวัคซีนทันที เพราะภูมิคุมกันที่ได้รับจากนมแม่จะใช้ได้ประมาณ 7 วันหลังหย่านม
         เมื่อนำลูกสุนัขฉีดวัคซีนที่คลินิก คุณหมอจำมีโปแกรมการฉีดของแต่ละที่ไม่เหมือนกัน  ดังนั้นให้ไปตามหมอนัด เมื่อสิ้นสุดโปรแกรม ตามรูปจะเป็นการทำวัคซีนครบทุกโรค และจะทำอีกที ปีถัดไป


การจัดการกับที่อยู่อาศัยเมื่อลูกสุนัขมาถึงบ้านเรา
         1 สัปดาห์ก่อนจะนำสุนัขมาเลี้ยงในพื้นที่ใดควรทำการฆ่าเชื้อโดย ผสมไฮเตอร์ที่ใช้แช่ผ้า 1 ต่อน้ำ 1 ถัง รดให้ทั่วบริเวณด้านนอกบ้านส่วนในบ้านให้เอาผ้าถูพื้นชุบเช็ดให้ทั่ว เพื่อฆ่าเชื้อพาโวไวรัส ที่เป็นสาเหตุโรคลำไส้อักเสบ
เริ่มแรกเมื่อนำลูกสุนัขมาถึงที่บ้านควรกักบริเวณไม่ให้เดินเพ่นพ่าน ไปทั่ว หมายถึงให้อยู่ในพื้นที่ที่เราเตรียมไว้นั้นเอง เรากักบริเวณเพื่ออะไร มาดูกัน
-    เพื่อป้องกันเชื้อโรคเพราะลูกสุนัขชอบดม เลีย กัด แทะ จนติดเชื้อโรคได้ จำไว้น่ะครับ ถึงลูกสุนัขจะฉีดวัคซีนมาก็ตามแต่ถ้าเมื่อใดเชื้อโรคมีปริมาณมากกว่าภูมิคุมกัน ลูกสุนัขอาจป่วยได้  และอาจจะเสียชีวิตในเวลาต่อมาก็เป็นได้
-    เลี้ยงลูกสุนัขกับสุนัขโต ซึ่งสุนัขที่โตแล้วล้วนแล้วมีภูมิต้านทานที่แข็งแรงอยู่แล้วจะนำมาเทียบกันไม่ได้ บางทีเชื้อโรคอาจเกาะอยู่กับสุนัขโตแต่สุนัขโตไม่เป็นไร แต่ลูกสุนัขอาจติดเชื้อโรคนั้นก็เป็นได้ ดังนั้นลูกสุนัขจะต้องได้วัคซีนให้ครบก่อนถึงจะปล่อยให้เล่นได้ และอีกอย่างหนึ่งดูข้อถัดไป
-    อย่าปล่อยให้เล่นกับสุนัขโตจนกว่าลูกสุนัขจะโตครึ่งหนึ่งของสุนัขโต และสังเกตการเล่นถ้าเล่นกระแทกรุนแรงควรให้ห่างกันจนกว่าจะโตเท่ากันเพื่อป้องกันการบาดเจ็บ เช่น กระดูกหัก กล้ามเนื้ออักเสบ เป็นต้น
-    ควรฝึกให้อยู่ในกรงหรือเขตพื้นที่จำกัด เพื่อจะได้เคยชินเมื่อถูกกักขังจะได้ไม่โวยวาย อันนี้ต้องอาศัยความอดทนของเจ้าของเริ่มแรก ต่อไปจะดีเอง

การจัดการเรื่องอาหารสำหรับลูกสุนัข
อาหารสำหรับลูกสุนัข มีหลายแบบหลายยี้ห้อให้สังเกตปริมาณสารอาหารโดยเฉพาะโปรตีน โดยปรกติส่วนใหญ่จะมีโปรตีนประมาณ 26 – 28 % ราคาจะปรกติ แต่ถ้าดีๆ หน่อยจะอยู่ที่ 32 – 40% ราคาจะถีบสูงขึ้น

ตัวอย่างของ Royal Canin โปรตีน 32%


ตัวอย่างของ เพ็ดดีกรี โปรตีน 26%


ตัวอย่างของ สมาร์ทฮาท เพาเวอร์แพ็ค โปรตีน 32%

        สุนัข 2 – 3 เดือนควรให้กินอาหารลูกสุนัขล้วน 3 เดือนขึ้นไปผสมข้าวเนื้อบดให้รับประทานได้ ไม่ควรให้กินกระดูกหาก ฟันแท้ยังไม่ออก ช่วงนี้ไม่ต้องตกใจถ้าเห็นสุนัขฟันหัก ที่หักก็คือฟันน้ำนม แล้วฟันแท้จะขึ้นเอง
อาหารสำหรับสุนัขไม่ว่าลูกสุนัขหรือสุนัขโต
-    ห้ามมีเครื่องปรุงรสเด็ดขาดแม้แต่น้ำปลา เพราะไตสุนัขจะมีปัญหา สุนัขจะอายุสั้น
-    ห้ามให้กระดูกที่แตกแหลม เพราะเศษแหลมๆ จะไปทิ่มแทงกระเพาะอาหาร ทำให้กระเพาะอาหารอักเสบ

รายละเอียดเพิ่มเติมให้ศึกษาได้ทั่วไปน่ะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่