จริงๆ มาเที่ยวที่ Tokyo Disney Report ค่อนข้างบ่อยนะครับ แต่ทุกทีที่มาจะเข้าไปเที่ยวใน Disneyland และ Disneysea อย่างเดียว ครั้งนี้กะพาแฟนมาเปลี่ยนบรรยากาศ มาเดินเล่น มาจิบกาแฟ/ชา นอกประเทศไทยบ้าง
แต่ถ้ามาเที่ยวแบบไม่เข้า Disneyland และ DisneySea แบบนี้ หลายๆ คนคงสงสัยว่า ถ้าจะไปทำไม

จริงๆ แล้วในเขต Tokyo Disney Resort นอกจาก Disneyland หรือ DisneySea แล้ว ถ้าจะให้ผมแนะนำ ผมจะแนะนำ Ikspiari ที่เป็น Shopping Arcade ครับ

แต่ก่อนที่จะมาเริ่มเรื่องการท่องเที่ยว เรามาเริ่มเรื่องการเตรียมเงินเพื่อไปเที่ยวกันก่อนดีกว่าครับ
หลายๆ ท่านอาจวางแผนการท่องเที่ยวโดยเก็บเงินเข้าธนาคาร หรือหยอดกระปุกกันใช่รึเปล่าครับ ของผมก็ทำคล้ายๆ กัน เพียงแต่ในแต่ละปี ผมจะตั้งเป้าไว้ว่า จะเที่ยวต่างประเทศทุกไตรมาศ (3เดือน) แต่เอาเข้าจริงๆ ก็ไม่ถึงหรอกครับ เพราะมีเหตุทำให้ได้เที่ยวก่อนทุกทีครับ

มาที่การเตรียมเงินไปญี่ปุ่นกันก่อนเลยครับ สำหรับผมถ้าจะท่องเที่ยวทั้งที ผมจะเลี่ยงพวก Low Cost Airline ครับ เพราะหลายครั้งที่ต้องเดินทางโดยสายการบินที่ราคาประหยัดเกินไป มันมักจะมาพร้อมกับความทรงจำที่ไม่ค่อยดีเสมอครับ เพราะฉะนั้นการบินไทยจึงเป็นสายการบินที่ผมมักจะเลือก เพราะถึงแม้ว่าราคาจะสูงกว่า Low Cost Airline แต่ก็จะได้รับบริการที่ประทับใจเสมอครับ ถึงแม้ว่าหลายๆ ท่านจะแย้งว่า การบินไทนแพงและบริการสู้สายการบินต่างชาติไม่ได้ อืมมม ผมอาจจะโชคดีที่ทุกครั้งที่เดินทางโดยสายการบินไทน ผมมักจะได้รับบริการและความประทับใจกลับมาทุกครั้ ในขณะที่สายการบินต่างชาติมีบริการไม่ได้ smooth as silk แบบการบินไทย แต่ก็ไม่มีใครกล้าบ่น เพราะหลายๆ ท่านคงไม่ถนัดบ่นเป็นภาษาอังกฤษ ผลบุญกับการเดินทางด้วยสายการบินไทย และการสะสมคะแนนจากบัตรเครดิตทำให้ผมสามารถบินชั้นธุรกิจหรือชั้นหนึ่งได้หลายเที่ยวบิน แต่ด้วยคราวนี้แฟนผมไปด้วย ผมจึงซื้อบัตรราคาปรกติไปแทนครับ แล้วทริปไหนที่ผมเดินทางคนเดียว ผมค่อยแลกไมล์ไปครับ


มาที่วิธีการเก็บเงินครับ
ง่ายๆ เลย ผมแบ่งเงินเป็นทั้งหมด 4กองได้แก่
1.) ค่าตั๋ว 2ใบ คร่าวๆ -  60,000บาท
2.) ค่าที่พัก สำหรับ 3วัน 2 - ก็ 26,000บาท
3.) ค่าเที่ยว ค่ากิน -  30,000บาท
4.) ค่าซื้อของ - 40,000บาท
รวม 156,000บาท โอ้ววววว มันช่างดูเยอะแยะสิ้นเนื้อประดาตัวจริงๆ
แน่นอนว่าถ้าให้หาเงินจำนวนนี้ภายในเดือนเดียว ผมคงไม่สามารถทำได้แน่นอนครับ เพราะฉะนั้นผมจึงให้เวลากับตัวเอง 12เดือน จึงทำให้ในแต่ละเดือน ผมต้องเตรียมเงินในแต่ละกองดังนี้ครับ
1.) ค่าตั๋ว 2ใบ คร่าวๆ -  5,000บาท
2.) ค่าที่พัก สำหรับ 3วัน 2 - ก็ 2,167บาท
3.) ค่าเที่ยว ค่ากิน -  2,500บาท
4.) ค่าซื้อของ - 3,334บาท

รวมในแต่ละเดือนผมจะต้องเก็บเงินให้ได้อย่างน้อย 13,001บาท เพื่อที่จะให้เที่ยวได้อย่างสะดวกสบาย ไม่อดอยาก และได้ช้อปอย่างพอประมาณครับ การท่องเที่ยวทุกครั้งของผมไม่เน้นประหยัดหรืออดอยากครับ เพราะไม่รู้ว่าจะได้มาเที่ยวอีกเมื่อไหร เพราะฉะนั้นพวกท่องเที่ยงเชิงแสวงบุญ ไม่อยู่ในหัวของผมเลยครับ

กลับมาที่ตอนจองตั๋วเครื่องบินครับ ราคาตั๋ว ณ วันที่ผมจองจริงๆ รวมภาษีแล้ว สำหรับ2คนก็ 42,000โดยประมาณ สำหรับค่าที่พัก ผมพักที่ Tokyo Bay Maihama Hotel Club Resort สองคืน+ ค่าเข้าห้องก่อนเที่ยง ก็ ประมาณ 22,000บาท ส่วนค่าเดินทางไปและกลับสนามบินกับที่พัก สำหรับ 2คน (2,450x4) 9,800Yen
เรื่องโรงแรมที่พัก ตอนจองผมใช้ Agoda.com ครับ เพราะจะได้สะสมแต้มเพื่อเป็นส่วนลดในอนาคตครับ
ส่วนการเดินทางจากสนามบินไปที่พัก (Tokyo Disney Resort) ผมเข้าไปดูที่เวป https://www.limousinebus.co.jp/en/bus_services/narita/tdr.html ครับ

Tips เล็กๆ น้อยๆ เรื่องการเก็บเงิน บางท่านถ้าเป็นพวกใจไม่แข็ง ถ้าเก็บเงินไว้ในธนาคารแล้วมีแนวโน้มว่าจะเบิกออกมาใช้ก่อน ผมแนะให้ทำแบบผมคือ ทยอยแลกเงินตามจุดแลกเงินต่างๆ ของผมจะผ่าน SuperRich สีเขียว ค่อนข้างบ่อย เพราะไปเดินเล่นพารากอน กับเอมโพเลี่ยมบ่อยๆ หรือไม่ก็ในสถานนีรถไฟฟ้า ถ้าจำไม่ผิดจะมีที่สถานีช่องนนทรีนะครับ สถานทีช่องนนทรี เดินต่อไปที่ Empire Tower จะเสนอสาวๆ สวยๆ แต่โสดเยอะ (แนะนำให้หนุ่มลองไปเดินเล่นแถวนั้นบ้างครับ) ส่วนถ้าให้ไปที่ สนง ใหญ่ ผมไม่สะดวกเพราะต้องขับรถไปครับ ส่วนใหญ่ก่อนกดเงินสดจากตู้ ATM เพื่อแลกผมจะเช็คเรทจาก App ของทาง SuperRich ก่อนครับ วันไหนเรทโอเคแล้วค่อยแวะห้างไปแอบแลกเก็บไว้ สะดวกดี แต่ส่วนตัวผม ไม่ค่อยเน้นเรื่องเรทมากเท่าไหร เน้นสะดวกอย่างเป็นหลักเลยครับ
SuperRich Thailand
Website : http://www.superrichthailand.com/
Facebook : https://www.facebook.com/superrichth
App (iOS) : https://itunes.apple.com/th/app/superrichth/id812291664?mt=8
App (Android) : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.toobaya.mobile.superrichthailand



เรื่องเตรียมเงินเที่ยว ผมถนัดมากครับ แต่ที่มักจะลืมคือ เสื้อผ้านี่แหละครับ คือต้นปีไป Melbourne มาคืออากาศร้อน อยู่ กทม ก็ร้อน ลืมเช็คอากาศก่อนไปเที่ยว สุดท้ายในกระเป๋าของผมมีแต่ เสื้อยืด5ตัว การเกงยืนส์(ใส่ขึ้นเครื่อง) กางเกงใน 4ตัว ชุดนอน1ชุด ปลั้กไฟชาร์ตมือถือ และกล้องถ่ายรูปครับ ไม่มีอุปกรณ์กันหนาวเลย หึหึหึหึ ขาไปช่างน้ำหนักกระเป๋า คือ 6.8กิโลกรัมแต่โควต้ามี 40กิโลกรัมครับ ชีวิตเหมาะกับการรับ pre-order มา แต่ไม่คิดรับเพราะมันเป็นภาระการเที่ยวของผมครับ

Ikspiari เป็น Shopping Arcade ที่มีมุมให้ถ่ายรูปสวยๆ เยอะเลยครับ แต่ในมุมสวยๆ ก็มีร้านขายของที่สาวๆน่าจะสนใจแฝงตัวอยู่เยอะพอสมควรครับ เดินๆ ไปเงินอาจะหมดไม่รู้ตัวได้ครับ








กระทู้นี้ผมจะทยอยเขียนลงนะครับ เพราะเกิน 10,000 ตัวอักษร และรูปเยอะพอสมควรครับ

มีคนสอบถามเพิ่มเติมมาว่า โรงแรมนี้พนักงานพูดภาษาอังกฤษได้รึเปล่า >>> ได้ครับ บางครั้งเจอพนักงานที่เป็นคนไทยด้วยครับ
ครั้งนี้เดินทางเอง ไม่ได้ใช้ทัวร์นะครับ แต่ทุกทีจะให้ Tour Agent จัดการให้เพราะจะได้ไม่ต้องลำบาก (ปรกติใช้ Napira Travel Stylist ครับ)