ทริปนี้เกิดจากความตั้งใจในการชวนเพื่อนๆ ทั้ง 16 ชีวิต ในการเดินทาง จุดหมายปลายทางของเราคือ " เกาะกูด จังหวัดตราด"
บ้างก็ลาพักร้อนบ้าง บ้างก็แอบหนีเจ้านายมาบ้าง บ้างก็แอบหนีแฟนมาบ้าง แต่สุดท้ายแล้วก็มารวมตัวกันจบปิ้ง

รีวิวครั้งแรกขาดตกบกพร่องประการใด ขออภัยมา ณ โอกาสนี้ด้วยนะคะ

1. เริ่มต้นจากการเดินทางค่ะ  กรุงเทพฯ - ท่าเรือแหลมศอก
เราเลือกใช้บริการกับเรือบุญศิริเฟอร์รี่ (จองทั้งรถจากกรุงเทพฯ และเรือข้ามเกาะกูดค่ะ)
จุดที่ขึ้นรถจะอยู่ที่ Street Hotel ที่ถนนข้าวสาร เรานัดรวมพลกัน เวลา 05.00 น. ค่ะ (เช้ามากแทบจะไม่ได้นอน..ตื่นเต้นกลัวตกรถค่ะ)
เนื่องจากจำนวนคณะเราคนเยอะทางเรือบุญศิริเฟอร์รี่  จึงจัดรถบัสไว้ให้ค่ะ (เห็นว่าถ้าคนน้อยก็มีบริการรถตู้แบบ VIP นะคะ)

ตามเวลานัดหมายการออกรถ เวลา 05.30 น. ล้อหมุนค่ะ ทุกคนไม่พูดไม่จา นอนหลับกันต่อ ... ฝันดีนะทุกๆ คน
ตื่นมาอีกทีประมาณ 8 โมง รถบัสจอดให้เราได้เข้า 7-11 ค่ะ ให้เวลา 10 นาที (โอยๆๆ 10 นาที สำหรับ 7-11 ไม่พอนะจ๊ะ)

เวลา 11.00 น. โดยประมาณ ก็ถึงท่าเรือแหลมศอก ในใจก็กะว่าถึงท่าเรือจะถ่ายรูปชิลล์ ๆ สักหน่อย ที่ไหนได้ โอ้ว ๆๆ รีบขน
สัมภาระขึ้นเรือกันต่อเลยจ้า และก็รีบไปจับจองที่นั่งบนเรือ แต่ว่าเอิ่มๆๆ คนเต็มไปหมดเลย
(แอบได้ยินว่าเค้าให้คนขึ้นเรือตั้งแต่ 10.45 น. คือว่าพวกตรูมาสายใช่ไหม แต่ไม่เป็นไรยังไงก็มาทัน)



2. สภาพบรรยากาศในเรือบุญศิริเฟอร์รี่ (รูปประกอบจากขากลับค่ะ รีบมาถึงก่อนใครเพื่อนเลย เลยขอเค้าเข้าไปถ่ายรูปมา)

เรือบุญศิริเฟอร์รี มี 2 ชั้น นะคะ เป็นห้องแอร์ค่ะ บรรจุผู้โดยสารได้ 200 ท่าน ค่ะ (มีป้ายเขียนไว้ที่ด้านข้างตัวเรือค่ะ)
และมีเสื้อชูชีพพร้อมค่ะ  ขาไปเราไม่ได้นั่งเลยค่ะ ไปยืนเป็นเพื่อน เพื่อนในกลุ่มที่เมาเรือ เนื่องจากขาไปคลื่นค่อนข้างเยอะค่ะ
เลยไปยืนรับลมสวยๆ  ยืนไปนานค่ะ ประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที (โดยประมาณ) ปกติเค้าว่า 1 ชั่วโมงจะถึงอ่าวสลัดค่ะ สงสัยวันนี้คลื่นลมแรงเลยถึงช้าหน่อยค่ะ

เพื่อนๆ คนไหน อยากดูรายละเอียดเพิ่มเติม ลองเข้าไปดูนะคะ http://www.boonsiriferry.com/th/





** รูปนี้เรือไปส่งผู้โดยสารต่อไปเกาะหมากค่ะ **


มายืนสวยๆ กันที่ชั้น 2 ของเรือ ถามว่าร้อนไหม ตอบเลยร้อนมาก แต่ก็ลมเย็นดีนะ


ฝรั่งบนเรือค่ะ หล่อเนอะ เค้ายืนให้อาหารปลาอยู่ท้ายเรือ 555 สรุปคืออ๊วกค่ะ เมาเรือ



3. เมื่อเดินทางอ่าวสลัด ทุกคนก็ต้องรับผืดชอบกระเป๋าตัวเองนะคะ แล้วก็เดินไปขึ้นรถรีสอร์ทค่ะ

หน้าตาแบบนี้ คือ รถสองแถวค่ะ นั่งได้ประมาณ 8-10 คน ค่ะ กระป๋งกระเป๋าก็จัดเรียงกันให้ดีค่ะ
ใช้เวลาเดินทางไปรีสอร์ที่เราพักประมาณ 30 นาที ค่ะ นั่งกันแบบเมาๆ ค่ะ เนื่องจากยังโคลงเคลงกับคลื่นทะเลอยู่ค่ะ



4. ที่พักของเราในทริปนี้ Jungle Kohkood Resort  (จังเกิล เกาะกูด รีสอร์ท)
รายละเอียดเพิ่มเติมค่ะ ลองดูนะคะ http://junglekohkoodresort.com/

เป็นรีสอร์ตไม่ติดทะเลนะคะ แต่ก็โอเคอยู่ค่ะ เหมือนว่าเรามาพักท่ามกลางป่าค่ะ พนักงานรีสอร์ตบอกว่าตอนกลางคืนอากาศจะเย็นสบายค่ะ
ตอนกลางวันก็อาจจะร้อนบ้างค่ะ  เราพักห้องแบบไหน ไปดูกันเลยค่ะ

เราพักห้องแบบ Small Room (กระทัดรัดมากจริงๆ ) ขนาดประมาณ 11 ตรม. นะคะ (เหมือนห้องที่ญี่ปุ่นเลย อิอิ)
ในห้องพักมีแอร์ และพัดลมให้นะคะ

** รูปหน้าห้องค่ะ **


** แบบเตียงเดียวค่ะ **


** แบบเตียงเดียวค่ะ **


** แบบสองเตียงค่ะ **


** ห้องน้ำค่ะ - มีเครื่องทำน้ำอุ่นค่ะ **




** จะสังเกตุได้ว่าปลายเตียงกับห้องน้ำไม่ไกลกันมากค่ะ (ห้องพักแบบกระทัดรัด อิอิ)


** อ่างล้างหน้าในห้องน้ำค่ะ จะเป็นไม้ค่ะ แต่ว่าในห้องน้ำไม่กระจกให้นะคะ **


5. ภาพบรรยากาศโดยรอบของ Jungle Kohkood Resort  (จังเกิล เกาะกูด รีสอร์ท)
ในความรู้สึกส่วนตัวของเรา เราคิดว่าเป็นรีสอร์ตที่มีการสร้างสรรค์ได้ลงตัว ตั้งแต่ชื่อของรีสอร์ตและบรรยากาศโดยรวมของรีสอร์ตค่ะ
รวมถึงบ้านพักแต่ละหลัง และอุปกรณ์เครื่องใช้ต่าง ๆ (ซึ่งบางอย่างอาจจะไม่สมบูรณ์เหมือนรีสอร์ตอื่นๆ แต่ก็ดูแล้วโอเคค่ะ)
เหมาะกับการพักผ่อน นอนผึ่งพุง กินนอน กินนอน อิอิ







** Lobby ของรีสอร์ตค่ะ **


** ห้องอาหาร Open Air นะคะ มื้อเช้า กลางวัน เย็น เลยค่ะ **


** ห้องอาหารจะอยู่ติดตรงสระว่ายน้ำค่ะ คือ สระว่ายน้ำจะอยู่ตรงกลางรีสอร์ตเลยค่ะ **


** ห้องน้ำส่วนกลางค่ะ  แบ่งเป็นหญิง - ชาย ค่ะ จะอยู่ใกล้ ๆ ที่ทานอาหาร Open Air ค่ะ **


** ทางเดินไปห้องพักแบบ Small Room ค่ะ เป็นสะพานไม้ยาว ๆ ดูเข้ากับต้นไม้ และบรรยากาศรอบ ๆ รีสอร์ทค่ะ **




** สระว่ายน้ำ น่าเล่นมาก 1 2 3 ลุย **





6.  มาถึงกิจกรรมกันบ้างค่ะ ไปดูกันเลยว่าพวกเราไปทำอะไรกันได้บ้าง ถ้ามาเกาะกูด

** มาทะเลแล้วไม่ดำน้ำ...ถือว่าผิดค่ะ ... มาทะเลก็ต้องไปดำน้ำซิครับ **
ปล. แต่วันที่เราไปดำน้ำไม่ค่อยเห็นปลาเท่าไหร่ค่ะ สงสัยปลาลาพักร้อนมั้งคะ แต่แค่ได้ลงทะเลก็ฟินแล้ว



** เราได้เดินทางโดยเรือของจังเกิล เกาะกูด รีสอร์ต ซึ่งเป็นเรือไม้ต่อเองค่ะ (เห็นพี่คนขับเรือเค้าบอกมา)
เรือนั่งได้ประมาณ 40 ท่านค่ะ แต่เราไปแค่ 16 คน ก็เลยนั่งกันแบบชิลล์ ๆ ค่ะ  โดยไม่มีลูกค้าคนอื่นค่ะ
(เพราะลูกค้าคนอื่นกลับหมดแล้วค่ะ ลืมบอกไปเราเที่ยว วันเสาร์-จันทร์ค่ะ เราเลือกไปดำน้ำวันอาทิตย์ค่ะ)
ซึ่งเราใช้เวลาในการเดินทางไปดำน้ำประมาณ 3 ชั่วโมงค่ะ ออกเวลา 09.00 น. กลับรีสอร์ต 12.00 น. เพื่อทานข้าวเที่ยงค่ะ



** เย็นย่ำ เราก็ไปพายเรือคายัคเล่นกันค่ะ ในแม่น้ำเย็น สองข้างทางเป็นป่าโกงกาง บรรยากาศสุดโรแมนติก
เราเช่าเรือคายัคมา 2 ลำ ในราคาชั่วโมงละ 150 บาท ซึ่งทางรีสอร์ตก็จัดแจงเอาเรือขึ้นรถ เอารถลงเรือ เอ้ยๆๆๆ
เอาเรือใส่รถของรีสอร์ทแล้วก็ยังคลอง (คลองอะไรจำไม่ได้ค่ะ) ซึ่งคลองนี้จะเชื่อมกับทะเลด้วย  นั่งรถกันไปประมาณ 10 นาที ค่ะ





** รีสอร์ตมีบริการเช่ารถมอเตอร์ไซต์ด้วยค่ะ คันละ 400 บาท แถมน้ำมันฟรี 1 ลิตร (ราคานี้เช่าได้ 24 ชั่วโมงเลยค่ะ )
จักรยานก็มีให้เช่านะคะ แต่เราไม่ได้ถามราคาค่ะ





7. กองทัพต้องเดินด้วยท้อง พูดแล้วก็หิว มา มา มาดูกันว่าเราหม่ำๆ อะไรกันบ้าง
ลงรูปไปก็หิวไป กลืนน้ำลายแป๊ป

** Buffet อาหารเช้าค่ะ **

















** มื้อกลางวัน แบบเป็นชุดค่ะ **





** ชอบจานนี้ที่สุดค่ะ น้ำพริก ผักต้ม ผักหวาน กรอบมาก ค่ะ อ้อลืมบอกไปค่ะ ทางรีสอร์ตเค้าปลูกผักสวนครัวเองค่ะ
และนำผักมาปรุงอาหารให้กับลูกค้าได้ทานค่ะ .... ปลื้มมากค่ะ