.
...* หมายเหตุ เล่าเรื่องเพื่อเป็นแนวทาง แก่ผู้จะไปเป็นทหารเรือ เพื่อเตรียมตัวและเตรียมใจ จะได้ไม่ไปเหมือนคนตาบอดที่ไม่รู้อะไรเลยเช่นผม มีผีด้วยนะ แต่เรื่องมันยาว จะต่อจนจบ อย่าใจร้อนนะแจ๊ะ ......
…..ช่วงนี้ ข่าวเกณฑ์ทหารกำลังมาแรง และก็ต้องมีประเด็นทุกครั้งที่มีการเกณฑ์ทหาร ผมเองในฐานะผู้เคยผ่านการเป็นทหารมา อ่านคอมเมนต์ตามเพจต่างๆเกี่ยวกับการเกณฑ์ทหารแล้ว ก็เห็นด้วยในหลายๆประเด็น และ ไม่เห็นด้วยในหลายๆประเด็น บวกกับการที่ผมมีคนรู้จักที่เป็นรุ่นน้องๆหลากหลาย ทั้งคนรู้จักฝ่ายแฟน พอรู้ว่าผมเนี่ยเคยเป็นทหารเกณฑ์มาก่อน แล้วตัวเองต้องไปเป็น หรือ คนรัก หรือคนใกล้ตัวต้องไปเป็น ก็จะมาสอบถามผมตลอดว่า เข้าไปเป็นทหาร ต้องเจออะไรบ้าง ต้องทำตัวยังไง เตรียมอะไรไปบ้าง ผมก็ต้องตอบประโยคซ้ำๆในแต่ละปี เพื่อเป็นแนวทาง หรือให้เขาพอรู้ อ่ะตั้งกระทู้เล่าเลยแล้วกัน เผื่อมาถามอีกจะได้เอาไปแปะให้อ่าน จริงๆมันอาจจะไม่เหมือนกันหรอก แต่อย่างน้อยๆ การได้รู้ไว้ก่อนพอเป็นแนวมันก็ดีกว่าการเข้าไปแล้วไม่รู้อะไรเลย อันนั้นเราอาจจะรู้สึกอึดอัด
......ผมจึงขอเอาชีวประวัติการเป็นพลทหารของผม มาเล่าสู่ให้ใครก็ตาม ที่อาจจะได้ไปนอนเตียงเดียวกับที่ผมเคยนอนมาก่อน หรือเตียงที่มีเพื่อนทหารเคยนอนตายคาเตียงมาก่อน 555 (อันนี้ล้อเล่นนะ) ว่าเมื่อคุณเข้าไปแล้วจะต้องพบเจอกับอะไรบ้าง มันอาจจะไม่เป๊ะๆ เพราะเขาอาจเปลี่ยนวิธีการไปแล้ว เพราะมันก็หลายปีอยู่ ในชั้นนี้จะเป็นเรื่องของ ทหารเรือนะครับ เผื่อใครต้องเป็นทหารเรือ ก็อ่านเพื่อเป็นแนวไปแล้วกัน ในชั้นนี้จะเป็นเรื่องราวของทหารจากภาคใต้ ร่วมเครือศูนย์ฝึกทหารใหม่นาวี จักยลการตัดหญ้าในปฐพีไพศาล แฮ.......
........ผมเข้ารับการคัดเลือกทหารในปี 2551 ที่ภาคใต้นี่แหละ ตอนนั้นผมเป็นคนผอมแห้ง คือแห้งจนหน้าตอบ ตัวเหลือง หน้าอกแฟ่บ ผมสูง167 น้ำหนักไม่ได้ชั่ง ผมไม่ได้ติดยาหรือกินเหล้านะ แต่ผมเป็นคนไม่ค่อยชอบกินข้าว เป็นคนชอบกินมาม่าเป็นอาหารหลัก (อย่าหาว่าโฆษณาแฝงน่ะ) มันเลยผอมเหลือง เพราะตอนนั้นผู้ชายที่ดูเท่ห์มีเสน่ห์สำหรับผมคือ ต้องผอม ขี้ก้าง ทำตัวจิ๊กโก๋ ไปจีบจิ๊กกี๋ พอถึงวันคัด ผมไปที่จุดคัดของอำเภอ คนเยอะมาก คงนึกภาพกันออก
.....ผมไปคนเดียว เพราะพึ่งเลิกกับแฟนเก่าไป พ่อแม่ไม่มา เพราะแกบอกผมจะไปตายห่าที่ไหนก็ไป เพราะต้องบอกตรงๆว่าตอนนั้นผมเป็นคนไม่เอาอ่าว เรียนต่อไม่เรียน พากเพียรเรื่องงานแล้วแต่อารมณ์ ใช้ชีวิตเที่ยวเล่นไปวันๆ ขอให้ยกมือขึ้น (เพลงยกมือขึ้นพี่โจอี้บอยมาเลย) ก็ไปแบบเหงาๆเนาะ เห็นคนอื่นมาคัด บางครอบครัว เหมือนขนกันมาเป็นคันรถ มีแฟนคลับมานั่งให้กำลังใจ เฮ้ย!!! เราเดียวดายเหลือเกิน ด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจแบบเด็กๆ เลยอ่ะ สมัครไปเลยดีกว่ามั้งกู เผื่อได้ไปรบ3จังหวัด ตายไปแม่กูจะได้สบายใจ ตอนแรกไม่กล้าสมัคร เพราะกลัวหน้าอกไม่ถึง ก็ผอมแบบนั้น แถมตัวไม่สูงใหญ่อะไร เลยรอเขาวัดหน้าอกก่อน
.....พอถึงตาผมวัดหน้าอก อ่ะผ่าน ได้ขนาด เลยกำหนดไป3เซ็น (ไม่รู้กำหนดรอบอกเท่าไหร่) ผมเลยบอกทหารที่วัดอกอยู่2คนนั้นว่า
“ผมขอสมัครเลยได้ไม๊ครับ”
“ห๊า..สมัครเลยหรอ”
ทหารสองคน เหมือนจะยศจ่า กับ พันจ่ามั้ง จำไม่ได้ นานแล้ว หันไปคุยกัน อีกคนบอก
“ไม่ไหวมั้งพี่ ตัวเล็กมากเลยนะ”
“เฮ้ย!!แต่รอบ-อกผ่านนะ”
แล้วคนที่บอกรอบ-อก.ผมผ่านนะ ก็ดึงผมไปหาคณะทหารอีกกลุ่มบอกว่า คนนี้ขอสมัคร เขาก็ลุกมาตะเบ๊ะ จับมือผมพร้อมกับคำพูดว่า “ยินดีต้อนรับเข้าสู่กองทัพ” ผมก็ไม่ต้องจับใบดำใบแดงเหมือนคนอื่นๆ รอเดินทางเลย เพราะคนสมัคร สามารถเลือกได้ว่า อยากเป็นทหารอะไร ผมก็อ่ะ ทหารเรือแล้วกัน ไกลบ้านดี เพราะ คนที่ไปทหารบก -รุ่นผมจะต้องไปอยู่ที่นครศรีธรรมราช ความรู้สึกน้อยใจในคนเคยรักและครอบครัวไง คำว่าจะไปตายห่าไหนก็ไปดังอยู่ในหัว เลยขอไปไกลๆแล้วกัน
……ผมไปถามสัสดีว่า วันไป ผมต้องเอาอะไรไปบ้าง ต้องเตรียมเงินเตรียมของอะไรบ้าง
สัสดีบอก ไปแต่ตัว ทุกอย่างเขาเตรียมไว้รอหมดแล้ว เงินก็ไม่ต้องเอาไป เงินก็ไม่ต้องเอาไป (เหรออออออ)
ต้องบอกเลยว่า ถ้าคุณเป็นทหารเรือแล้วมีใครบอกอย่าเอาเงินไป คุณอย่าไปเชื่อ ผมเจ็บปวดมากกับเรื่องนี้
สิ่งที่ไม่ควรเอาไปจริงๆคือ ข้าวของส่วนตัว กับโทรศัพท์มือถือ และทองคำ ผมจะเล่าให้ฟังว่าทำไม
.....ผมขึ้นรถไฟขบวนพิเศษ ก็เป็นขบวนขนหนุ่มใต้ไปเป็นทหารทั้งขบวน จอดสถานีใหญ่ไปตามทุกจังหวัดที่รถไฟสายใต้วิ่งผ่าน พวกที่อยู่จังหวัดฝั่งอันดามัน เขาก็จะขนมารอที่สถานีจังหวัดฝั่งอ่าวไทย จอดสถานีไหน พวกที่อยู่มาก่อนบนรถก็จะพากันชะโงกหน้าออกไปโฮ่ฮา ใส่พวกที่มารอขึ้นรถไฟด้านล่าง แบบมีแฟนมาส่งก็กอดกันกลม ผู้หญิงก็ร้องไห้ตาเปียก
แต่ผมเองไม่ชอบที่จะทำแบบนั้น เพราะผมเป็นพระเอกของเรื่องเล่านี้ ฮ้าฮ่าๆๆๆๆๆ ผมต้องนิ่ง
......เพราะไปเชื่อสัสดีไง ผมจึงขึ้นรถไฟมาตัวเพียวๆ ไม่เอาตังมาแม้แต่บาทเดียว ข้าวมีเลี้ยงนะ มื้อละกล่อง แต่น้ำต้องซื้อแดรกเอง ห๊า....เล่นงานกูแล้วไง กินข้าวไม่มีตังซื้อน้ำ คนขายน้ำจะมีอยู่คนนึงบนรถไฟ หิ้วกระถาง น้ำ กาแฟ โอวัลติน ไม๊คร้าบบบบ แล้วเดินตลอด กลางดึกก็เดิน แต่ผมไม่มีเงิน ทำไงทีนี้ (น้ำในส้วมรถไฟก็อร่อยดีนะเวลาข้าวติดคอ) ฮ่าๆๆๆ
.......โชคดีที่นั่งกันอยู่4คนตรงนั้น มีคนนึง เด็กสงขลา มันพกเงินมา แล้วคนใต้นี่นิสัยดี รักพวกพ้อง ก็เลยได้อาศัยดื่มน้ำกับมันบ้าง หลังจากฟาดน้ำก๊อกในส้วมไปหลายอึก ตอนแรกยังนั่งเก๊ก ก็ไม่รู้จักกันไง ทีนี้ไอ่คนนึงมันก็เริ่มถามและ
“เพื่อน มาแต่นั๊ยอ่ะ” (เพื่อนมาจากไหนกัน)
“สะเดา, สตูล,พัดลุงนิ เติ้ลอ่ะ” (คุณล่ะ)
“ผ๊มเบตง”
....ก็เป็นเพื่อนคุยกันตลอดทางแหละ บนขบวนก็จะแยกเป็น2พวกคือ วัยรุ่นใต้ที่พูดไทย กับ พูดยาวีของ3จังหวัด คือตลอดเวลาบนรถไฟเนี่ย จะแยกเป็น2พวกค่อนข้างชัด เพราะพวก3จังหวัดก็จะซัดยาวี ซึ่งพวกผมก็ฟังไม่รู้เรื่อง ได้ยินมันโล้งเล้งๆๆ มีคำที่พอจะคุ้นอยู่บ้าง ก็คำว่า . “ ด “ ก็ไม่รู้ว่าแปลว่าอะไร แต่คำนี้รู้สึกจะมาบ่อยในประโยค ในภาษาไทยนี่ก็อย่างที่คุณเข้าใจแหละ
......บนรถไฟนี่มันจะมีคน2จำพวกคือ พวกสายเงียบ คือนั่งนิ่งๆ คุยบ้างเล็กน้อย แล้วก็นั่งมองข้างทาง กับพวกเฮฮา พวกนี้คุยได้ตลอด เสียงดัง ไม่มีหมด พอรถจอดรับว่าที่พลทหารตามจังหวัดก็จะโผล่หน้าออกไปโฮ่ฮากรี๊ดกร๊าด หรือ ช่วงถึงกรุงเทพ จะมีบางช่วงที่รถไปจอดใกล้ๆบ้านคนคล้ายๆสลัม มีเด็กสาวกรุงเทพนอนอยู่ในเปลข้างทางรถไฟที่ผ่านข้างบ้าน ก็รับไปเต็มๆคำแซวจากชายกลัดมันปักษ์ใต้ 1โบกี้รถไฟ
....สถานีสุดท้าย ที่เราไปจอดของรถไฟขบวนนี้คือ สถานีรถไฟพลูตาหลวง ชลบุรี ก็จะมีรถทหารมารออยู่หลายคัน
แล้วจ่าๆที่มาก็จะต้อนพวกเราขึ้นรถ หน้ายิ้มแย้ม เป็นกันเองมาก ดูผ่อนคลายไม่เครียดเลย ผมจำไมได้ว่ารุ่นผมใช้รถมาขนกี่คัน จำได้แค่ว่า คนบนรถแต่ละคัน จะมันส์มาก กับการเห็นพลขับประจำรถ เหยียบแซงรถขนคนอีกคัน พอแซง เราก็จะเยาะเย้ยข้ามรถว่า เห้ย !!!พวกเรานั่นมันขี่เต่าหรือรถวะ 5555 ก็เป็นการแซวขำๆข้ามไปมาพอรถแซงกัน บรรยากาศสนุกสนานมากนะ ไม่ใช่จะรู้สึกเครียดอะไร พวกวัยรุ่น3จังหวัดทีแรกคิดว่ามันจะเข้าถึงยาก ก็เปล่าเลย พออยู่รถคันเดียวกัน ก็เฮฮา ล้อเลียนชื่อมัน ล้อเลียนสำเนียงมัน ไม่มีโกรธขึงอะไร อย่างมันพูดไทยไม่ชัด เราก็จะทำเป็นพูดเลียนสำเนียงมันบ้าง หรือ แซวบ้างว่า ทา-มาย-พู้-ม่าย-ช้าด-เลย -นี่-โค-ทาย-หรือ-พาม่า
.....ก็เป็นการแซวขำๆน่ะครับเป็นการเริ่มมิตรภาพ ส่วนใครที่คิดว่า จะเกาะกลุ่มกับเพื่อนสนิท หรือเพื่อนจังหวัดเดียวกันตอนไปเป็นทหาร บอกเลยว่า อยากให้ทิ้งและกองมันไว้ตรงนั้น เพราะเมื่อคุณเข้าไปในนั้น ศูนย์ฝึกทหารใหม่ทหารเรือบางเสร่
.......ส่วนใหญ่แล้วคนจังหวัดเดียวกัน จะโดนจับแยกจากกัน ด้วยระบบ ให้นั่งเรียงแถวยาว แล้วนับ 1,2,3,4 ไอ่เลข1-4เนี่ย มันมีนัยยะคือการคัดคนเข้าแต่ละกองพัน แหม่ ไฮเทคฝุดๆ (ไม่รู้เปลี่ยนวิธีหรือยังนะ) พอนับเสร็จ ผู้ที่นับแต่ละเลขจะถูกแยกไปอยู่รวมกัน เป็น 1-4
ผมก็ได้สังกัดกองพันที่3 เพราะนับเลข3 แล้วพอรวมแถวแต่ละเลขแล้ว ยังต้องนับเลขเพื่อแบ่งเข้าสังกัดกองร้อยอีก
แล้วผมมันเป็นคนใจกล้าหน้าด้านไง เลยไปยืนคนแรกของแถว เลยได้สังกัด ร้อย1 พัน 3 (ใครอยากอยู่กับเพื่อนสนิท ก็ลองเอาไปคำนวณตอนนั่งแถวเอาเองนะครับ ถ้าเขายังไม่เปลี่ยนวิธีนะ)
……เสร็จแล้วจะมีการเข้าแถวฉีดวัคซีนอะไรบางอย่าง ผมก็ไม่รู้ว่าคือวัคซีนอะไร ลือกันไปขำๆว่าเป็นยาทำให้ไข่ไม่แข็ง 555 ตอนออกจากศูนย์ฝึกทหารใหม่ เขาจะฉีดอีกเข็มเพื่อให้ไข่กลับมาแข็ง จริงป่าวไม่รู้ แต่ตอนอยู่ที่นั่น2เดือน บอกเลยผมไม่เคยเล่นกีฬาบนฟ้าในห้องน้ำสักครั้งเดียว แต่คงไม่ใช่เรื่องจริง เพราะไม่งั้นตอนมีโคโยตี้มาเต้นตอนจบการฝึก2เดือนในคืนสุดท้าย ผมคงไม่ได้เห็นพลทหารแอบดูโคโยตี้ แล้วสโตรกไข่ตัวเองในห้องกระจกทึบที่อยู่ตรงข้ามกับเวที ในอาคารที่มีเวทีสำหรับทำกิจกรรมนั่นหรอก
.....พอแยกกองร้อยเสร็จ ก็จะเดินเรียงแถว ตามจ่าของแต่ละกองร้อย ที่มารับ ของผม ร้อย1 พัน3 เดินไกลสุดขอบชายแดน ใกล้โรงเรียนฟื้นฟูผู้ใช้ยาเสพติด ก็วิวัฒน์พลเมืองละมั้ง อาคารร้อย1 พัน3 ด้านบนเป็นไม้ ด้านล่างเป็นปูน เห็นว่าตอนนั้นเหลืออยู่ไม่กี่อาคารแล้ว ไม่รู้ว่าปัจจุบันกลายเป็นปูนหมดหรือยัง ไปถึงก็ยืนแถว แล้วก็มีการแจกจ่ายผ้าขาวม้าลายๆ พร้อมขัน สบู่ แชมพู แปรง ยาสีฟัน อย่าคิดว่าฟรี ต้องจ่ายเงิน ณ ตรงนั้น50บาท อ้าว ซวยสิครัช
ชายผู้ปฏิบัติตามคำพูดของสัสดี ที่บอกว่าไม่ต้องเอาอะไรมาแม้แต่เงินอย่างผม จะทำไง เล่นเก็บกันตรงหน้าอาคารเดี๋ยวนั้นเลย ก็หันไปเจอ ไอ่คนข้างๆ ก็หน้าด้านเลย ไม่รู้จักมันด้วย บอก เห้ย !! เพื่อน ยืมตังค์ก่อน50ดิ (มันคงจะงงแน่ๆว่าเมิงเป็นครายยยย 555) แต่มันก็ให้ยืมนะ มารู้ทีหลังว่ามันเป็นอิสลาม บ้านอยู่ สิงหนคร จ.สงขลา ผมจำชื่อมันไม่ได้แล้ว
……หลังจากจ่ายเงินรับของแล้ว ก็ได้เวลา รับทรงผมแฟชั่นบาดใจ จากทหารรุ่นพี่ ใครที่ตัดผมเป็นก็ถูกเรียกไปใช้งานตัดให้เพื่อนก่อนเลย ผมยาว ผมสั้น รากไทร เหลือทรงเกรียนหมด ใครจะชิงตัดไปก่อนก็ได้นะ ถ้าคิดว่าถูกระเบียบพอ
ตัดเสร็จ นั่งเรียงแถว นับอีกแล้ว แบ่งเป็น4หมู่ แยกหมู่เสร็จ มีเลือกหัวหน้าหมู่ ใครที่ดูทึ่มๆตัวใหญ่ๆ มักจะโดนเพื่อนดันไปเป็นหัวหมู่ กับรองหัวหมู่ ไอ่คนฉลาดๆ ตัวแสบๆ มันไม่เอาหรอก เอาแต่ยุเพื่อน
.....แล้วเราก็จะได้รับ เครื่องแบบที่เรียกว่า “ชุดจับหมู” เสื้อขาวๆขอบน้ำเงิน ตัวบางๆ กางเกงกากีขาสั้นคล้ายกางเกงนักเรียน รองเท้าหนังหนัง ถุงเท้า ส่วนชุดกะลาสีจะได้รับในวันหลังๆ กัยชุดกีฬา เป็นเสื้อยืด ทั้งแขนยาว แขนสั้น กางเกงสั้นสีน้ำเงิน สีเสื้อจะแยกไปแต่ละกองพัน อย่างผมพัน3 เสื้อสีเหลือง ส่วนกองพันอื่นจะเป็นสี น้ำเงิน แดง เขียว เรื่องสีนี้มันมีผล ในตอนหลังๆที่มีกิจกรรม พวกแข่งกีฬาภายใน และการสวนสนามแข่งกัน
…..ต่อที่ความเห็น 11 และ 17 และ.36และ44ครับ...จบ
เล่าเรื่อง ชีวิตทหารเกณฑ์ในศูนย์ฝึกทหารใหม่ กองทัพเรือ เอ้า!!ใครต้องไปทหารเรือ อ่านซะ จะได้เตรียมใจถูก ฮ้าฮ่าฮ่า!!
…..ช่วงนี้ ข่าวเกณฑ์ทหารกำลังมาแรง และก็ต้องมีประเด็นทุกครั้งที่มีการเกณฑ์ทหาร ผมเองในฐานะผู้เคยผ่านการเป็นทหารมา อ่านคอมเมนต์ตามเพจต่างๆเกี่ยวกับการเกณฑ์ทหารแล้ว ก็เห็นด้วยในหลายๆประเด็น และ ไม่เห็นด้วยในหลายๆประเด็น บวกกับการที่ผมมีคนรู้จักที่เป็นรุ่นน้องๆหลากหลาย ทั้งคนรู้จักฝ่ายแฟน พอรู้ว่าผมเนี่ยเคยเป็นทหารเกณฑ์มาก่อน แล้วตัวเองต้องไปเป็น หรือ คนรัก หรือคนใกล้ตัวต้องไปเป็น ก็จะมาสอบถามผมตลอดว่า เข้าไปเป็นทหาร ต้องเจออะไรบ้าง ต้องทำตัวยังไง เตรียมอะไรไปบ้าง ผมก็ต้องตอบประโยคซ้ำๆในแต่ละปี เพื่อเป็นแนวทาง หรือให้เขาพอรู้ อ่ะตั้งกระทู้เล่าเลยแล้วกัน เผื่อมาถามอีกจะได้เอาไปแปะให้อ่าน จริงๆมันอาจจะไม่เหมือนกันหรอก แต่อย่างน้อยๆ การได้รู้ไว้ก่อนพอเป็นแนวมันก็ดีกว่าการเข้าไปแล้วไม่รู้อะไรเลย อันนั้นเราอาจจะรู้สึกอึดอัด
......ผมจึงขอเอาชีวประวัติการเป็นพลทหารของผม มาเล่าสู่ให้ใครก็ตาม ที่อาจจะได้ไปนอนเตียงเดียวกับที่ผมเคยนอนมาก่อน หรือเตียงที่มีเพื่อนทหารเคยนอนตายคาเตียงมาก่อน 555 (อันนี้ล้อเล่นนะ) ว่าเมื่อคุณเข้าไปแล้วจะต้องพบเจอกับอะไรบ้าง มันอาจจะไม่เป๊ะๆ เพราะเขาอาจเปลี่ยนวิธีการไปแล้ว เพราะมันก็หลายปีอยู่ ในชั้นนี้จะเป็นเรื่องของ ทหารเรือนะครับ เผื่อใครต้องเป็นทหารเรือ ก็อ่านเพื่อเป็นแนวไปแล้วกัน ในชั้นนี้จะเป็นเรื่องราวของทหารจากภาคใต้ ร่วมเครือศูนย์ฝึกทหารใหม่นาวี จักยลการตัดหญ้าในปฐพีไพศาล แฮ.......
........ผมเข้ารับการคัดเลือกทหารในปี 2551 ที่ภาคใต้นี่แหละ ตอนนั้นผมเป็นคนผอมแห้ง คือแห้งจนหน้าตอบ ตัวเหลือง หน้าอกแฟ่บ ผมสูง167 น้ำหนักไม่ได้ชั่ง ผมไม่ได้ติดยาหรือกินเหล้านะ แต่ผมเป็นคนไม่ค่อยชอบกินข้าว เป็นคนชอบกินมาม่าเป็นอาหารหลัก (อย่าหาว่าโฆษณาแฝงน่ะ) มันเลยผอมเหลือง เพราะตอนนั้นผู้ชายที่ดูเท่ห์มีเสน่ห์สำหรับผมคือ ต้องผอม ขี้ก้าง ทำตัวจิ๊กโก๋ ไปจีบจิ๊กกี๋ พอถึงวันคัด ผมไปที่จุดคัดของอำเภอ คนเยอะมาก คงนึกภาพกันออก
.....ผมไปคนเดียว เพราะพึ่งเลิกกับแฟนเก่าไป พ่อแม่ไม่มา เพราะแกบอกผมจะไปตายห่าที่ไหนก็ไป เพราะต้องบอกตรงๆว่าตอนนั้นผมเป็นคนไม่เอาอ่าว เรียนต่อไม่เรียน พากเพียรเรื่องงานแล้วแต่อารมณ์ ใช้ชีวิตเที่ยวเล่นไปวันๆ ขอให้ยกมือขึ้น (เพลงยกมือขึ้นพี่โจอี้บอยมาเลย) ก็ไปแบบเหงาๆเนาะ เห็นคนอื่นมาคัด บางครอบครัว เหมือนขนกันมาเป็นคันรถ มีแฟนคลับมานั่งให้กำลังใจ เฮ้ย!!! เราเดียวดายเหลือเกิน ด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจแบบเด็กๆ เลยอ่ะ สมัครไปเลยดีกว่ามั้งกู เผื่อได้ไปรบ3จังหวัด ตายไปแม่กูจะได้สบายใจ ตอนแรกไม่กล้าสมัคร เพราะกลัวหน้าอกไม่ถึง ก็ผอมแบบนั้น แถมตัวไม่สูงใหญ่อะไร เลยรอเขาวัดหน้าอกก่อน
.....พอถึงตาผมวัดหน้าอก อ่ะผ่าน ได้ขนาด เลยกำหนดไป3เซ็น (ไม่รู้กำหนดรอบอกเท่าไหร่) ผมเลยบอกทหารที่วัดอกอยู่2คนนั้นว่า
“ผมขอสมัครเลยได้ไม๊ครับ”
“ห๊า..สมัครเลยหรอ”
ทหารสองคน เหมือนจะยศจ่า กับ พันจ่ามั้ง จำไม่ได้ นานแล้ว หันไปคุยกัน อีกคนบอก
“ไม่ไหวมั้งพี่ ตัวเล็กมากเลยนะ”
“เฮ้ย!!แต่รอบ-อกผ่านนะ”
แล้วคนที่บอกรอบ-อก.ผมผ่านนะ ก็ดึงผมไปหาคณะทหารอีกกลุ่มบอกว่า คนนี้ขอสมัคร เขาก็ลุกมาตะเบ๊ะ จับมือผมพร้อมกับคำพูดว่า “ยินดีต้อนรับเข้าสู่กองทัพ” ผมก็ไม่ต้องจับใบดำใบแดงเหมือนคนอื่นๆ รอเดินทางเลย เพราะคนสมัคร สามารถเลือกได้ว่า อยากเป็นทหารอะไร ผมก็อ่ะ ทหารเรือแล้วกัน ไกลบ้านดี เพราะ คนที่ไปทหารบก -รุ่นผมจะต้องไปอยู่ที่นครศรีธรรมราช ความรู้สึกน้อยใจในคนเคยรักและครอบครัวไง คำว่าจะไปตายห่าไหนก็ไปดังอยู่ในหัว เลยขอไปไกลๆแล้วกัน
……ผมไปถามสัสดีว่า วันไป ผมต้องเอาอะไรไปบ้าง ต้องเตรียมเงินเตรียมของอะไรบ้าง
สัสดีบอก ไปแต่ตัว ทุกอย่างเขาเตรียมไว้รอหมดแล้ว เงินก็ไม่ต้องเอาไป เงินก็ไม่ต้องเอาไป (เหรออออออ)
ต้องบอกเลยว่า ถ้าคุณเป็นทหารเรือแล้วมีใครบอกอย่าเอาเงินไป คุณอย่าไปเชื่อ ผมเจ็บปวดมากกับเรื่องนี้
สิ่งที่ไม่ควรเอาไปจริงๆคือ ข้าวของส่วนตัว กับโทรศัพท์มือถือ และทองคำ ผมจะเล่าให้ฟังว่าทำไม
.....ผมขึ้นรถไฟขบวนพิเศษ ก็เป็นขบวนขนหนุ่มใต้ไปเป็นทหารทั้งขบวน จอดสถานีใหญ่ไปตามทุกจังหวัดที่รถไฟสายใต้วิ่งผ่าน พวกที่อยู่จังหวัดฝั่งอันดามัน เขาก็จะขนมารอที่สถานีจังหวัดฝั่งอ่าวไทย จอดสถานีไหน พวกที่อยู่มาก่อนบนรถก็จะพากันชะโงกหน้าออกไปโฮ่ฮา ใส่พวกที่มารอขึ้นรถไฟด้านล่าง แบบมีแฟนมาส่งก็กอดกันกลม ผู้หญิงก็ร้องไห้ตาเปียก
แต่ผมเองไม่ชอบที่จะทำแบบนั้น เพราะผมเป็นพระเอกของเรื่องเล่านี้ ฮ้าฮ่าๆๆๆๆๆ ผมต้องนิ่ง
......เพราะไปเชื่อสัสดีไง ผมจึงขึ้นรถไฟมาตัวเพียวๆ ไม่เอาตังมาแม้แต่บาทเดียว ข้าวมีเลี้ยงนะ มื้อละกล่อง แต่น้ำต้องซื้อแดรกเอง ห๊า....เล่นงานกูแล้วไง กินข้าวไม่มีตังซื้อน้ำ คนขายน้ำจะมีอยู่คนนึงบนรถไฟ หิ้วกระถาง น้ำ กาแฟ โอวัลติน ไม๊คร้าบบบบ แล้วเดินตลอด กลางดึกก็เดิน แต่ผมไม่มีเงิน ทำไงทีนี้ (น้ำในส้วมรถไฟก็อร่อยดีนะเวลาข้าวติดคอ) ฮ่าๆๆๆ
.......โชคดีที่นั่งกันอยู่4คนตรงนั้น มีคนนึง เด็กสงขลา มันพกเงินมา แล้วคนใต้นี่นิสัยดี รักพวกพ้อง ก็เลยได้อาศัยดื่มน้ำกับมันบ้าง หลังจากฟาดน้ำก๊อกในส้วมไปหลายอึก ตอนแรกยังนั่งเก๊ก ก็ไม่รู้จักกันไง ทีนี้ไอ่คนนึงมันก็เริ่มถามและ
“เพื่อน มาแต่นั๊ยอ่ะ” (เพื่อนมาจากไหนกัน)
“สะเดา, สตูล,พัดลุงนิ เติ้ลอ่ะ” (คุณล่ะ)
“ผ๊มเบตง”
....ก็เป็นเพื่อนคุยกันตลอดทางแหละ บนขบวนก็จะแยกเป็น2พวกคือ วัยรุ่นใต้ที่พูดไทย กับ พูดยาวีของ3จังหวัด คือตลอดเวลาบนรถไฟเนี่ย จะแยกเป็น2พวกค่อนข้างชัด เพราะพวก3จังหวัดก็จะซัดยาวี ซึ่งพวกผมก็ฟังไม่รู้เรื่อง ได้ยินมันโล้งเล้งๆๆ มีคำที่พอจะคุ้นอยู่บ้าง ก็คำว่า . “ ด “ ก็ไม่รู้ว่าแปลว่าอะไร แต่คำนี้รู้สึกจะมาบ่อยในประโยค ในภาษาไทยนี่ก็อย่างที่คุณเข้าใจแหละ
......บนรถไฟนี่มันจะมีคน2จำพวกคือ พวกสายเงียบ คือนั่งนิ่งๆ คุยบ้างเล็กน้อย แล้วก็นั่งมองข้างทาง กับพวกเฮฮา พวกนี้คุยได้ตลอด เสียงดัง ไม่มีหมด พอรถจอดรับว่าที่พลทหารตามจังหวัดก็จะโผล่หน้าออกไปโฮ่ฮากรี๊ดกร๊าด หรือ ช่วงถึงกรุงเทพ จะมีบางช่วงที่รถไปจอดใกล้ๆบ้านคนคล้ายๆสลัม มีเด็กสาวกรุงเทพนอนอยู่ในเปลข้างทางรถไฟที่ผ่านข้างบ้าน ก็รับไปเต็มๆคำแซวจากชายกลัดมันปักษ์ใต้ 1โบกี้รถไฟ
....สถานีสุดท้าย ที่เราไปจอดของรถไฟขบวนนี้คือ สถานีรถไฟพลูตาหลวง ชลบุรี ก็จะมีรถทหารมารออยู่หลายคัน
แล้วจ่าๆที่มาก็จะต้อนพวกเราขึ้นรถ หน้ายิ้มแย้ม เป็นกันเองมาก ดูผ่อนคลายไม่เครียดเลย ผมจำไมได้ว่ารุ่นผมใช้รถมาขนกี่คัน จำได้แค่ว่า คนบนรถแต่ละคัน จะมันส์มาก กับการเห็นพลขับประจำรถ เหยียบแซงรถขนคนอีกคัน พอแซง เราก็จะเยาะเย้ยข้ามรถว่า เห้ย !!!พวกเรานั่นมันขี่เต่าหรือรถวะ 5555 ก็เป็นการแซวขำๆข้ามไปมาพอรถแซงกัน บรรยากาศสนุกสนานมากนะ ไม่ใช่จะรู้สึกเครียดอะไร พวกวัยรุ่น3จังหวัดทีแรกคิดว่ามันจะเข้าถึงยาก ก็เปล่าเลย พออยู่รถคันเดียวกัน ก็เฮฮา ล้อเลียนชื่อมัน ล้อเลียนสำเนียงมัน ไม่มีโกรธขึงอะไร อย่างมันพูดไทยไม่ชัด เราก็จะทำเป็นพูดเลียนสำเนียงมันบ้าง หรือ แซวบ้างว่า ทา-มาย-พู้-ม่าย-ช้าด-เลย -นี่-โค-ทาย-หรือ-พาม่า
.....ก็เป็นการแซวขำๆน่ะครับเป็นการเริ่มมิตรภาพ ส่วนใครที่คิดว่า จะเกาะกลุ่มกับเพื่อนสนิท หรือเพื่อนจังหวัดเดียวกันตอนไปเป็นทหาร บอกเลยว่า อยากให้ทิ้งและกองมันไว้ตรงนั้น เพราะเมื่อคุณเข้าไปในนั้น ศูนย์ฝึกทหารใหม่ทหารเรือบางเสร่
.......ส่วนใหญ่แล้วคนจังหวัดเดียวกัน จะโดนจับแยกจากกัน ด้วยระบบ ให้นั่งเรียงแถวยาว แล้วนับ 1,2,3,4 ไอ่เลข1-4เนี่ย มันมีนัยยะคือการคัดคนเข้าแต่ละกองพัน แหม่ ไฮเทคฝุดๆ (ไม่รู้เปลี่ยนวิธีหรือยังนะ) พอนับเสร็จ ผู้ที่นับแต่ละเลขจะถูกแยกไปอยู่รวมกัน เป็น 1-4
ผมก็ได้สังกัดกองพันที่3 เพราะนับเลข3 แล้วพอรวมแถวแต่ละเลขแล้ว ยังต้องนับเลขเพื่อแบ่งเข้าสังกัดกองร้อยอีก
แล้วผมมันเป็นคนใจกล้าหน้าด้านไง เลยไปยืนคนแรกของแถว เลยได้สังกัด ร้อย1 พัน 3 (ใครอยากอยู่กับเพื่อนสนิท ก็ลองเอาไปคำนวณตอนนั่งแถวเอาเองนะครับ ถ้าเขายังไม่เปลี่ยนวิธีนะ)
……เสร็จแล้วจะมีการเข้าแถวฉีดวัคซีนอะไรบางอย่าง ผมก็ไม่รู้ว่าคือวัคซีนอะไร ลือกันไปขำๆว่าเป็นยาทำให้ไข่ไม่แข็ง 555 ตอนออกจากศูนย์ฝึกทหารใหม่ เขาจะฉีดอีกเข็มเพื่อให้ไข่กลับมาแข็ง จริงป่าวไม่รู้ แต่ตอนอยู่ที่นั่น2เดือน บอกเลยผมไม่เคยเล่นกีฬาบนฟ้าในห้องน้ำสักครั้งเดียว แต่คงไม่ใช่เรื่องจริง เพราะไม่งั้นตอนมีโคโยตี้มาเต้นตอนจบการฝึก2เดือนในคืนสุดท้าย ผมคงไม่ได้เห็นพลทหารแอบดูโคโยตี้ แล้วสโตรกไข่ตัวเองในห้องกระจกทึบที่อยู่ตรงข้ามกับเวที ในอาคารที่มีเวทีสำหรับทำกิจกรรมนั่นหรอก
.....พอแยกกองร้อยเสร็จ ก็จะเดินเรียงแถว ตามจ่าของแต่ละกองร้อย ที่มารับ ของผม ร้อย1 พัน3 เดินไกลสุดขอบชายแดน ใกล้โรงเรียนฟื้นฟูผู้ใช้ยาเสพติด ก็วิวัฒน์พลเมืองละมั้ง อาคารร้อย1 พัน3 ด้านบนเป็นไม้ ด้านล่างเป็นปูน เห็นว่าตอนนั้นเหลืออยู่ไม่กี่อาคารแล้ว ไม่รู้ว่าปัจจุบันกลายเป็นปูนหมดหรือยัง ไปถึงก็ยืนแถว แล้วก็มีการแจกจ่ายผ้าขาวม้าลายๆ พร้อมขัน สบู่ แชมพู แปรง ยาสีฟัน อย่าคิดว่าฟรี ต้องจ่ายเงิน ณ ตรงนั้น50บาท อ้าว ซวยสิครัช
ชายผู้ปฏิบัติตามคำพูดของสัสดี ที่บอกว่าไม่ต้องเอาอะไรมาแม้แต่เงินอย่างผม จะทำไง เล่นเก็บกันตรงหน้าอาคารเดี๋ยวนั้นเลย ก็หันไปเจอ ไอ่คนข้างๆ ก็หน้าด้านเลย ไม่รู้จักมันด้วย บอก เห้ย !! เพื่อน ยืมตังค์ก่อน50ดิ (มันคงจะงงแน่ๆว่าเมิงเป็นครายยยย 555) แต่มันก็ให้ยืมนะ มารู้ทีหลังว่ามันเป็นอิสลาม บ้านอยู่ สิงหนคร จ.สงขลา ผมจำชื่อมันไม่ได้แล้ว
……หลังจากจ่ายเงินรับของแล้ว ก็ได้เวลา รับทรงผมแฟชั่นบาดใจ จากทหารรุ่นพี่ ใครที่ตัดผมเป็นก็ถูกเรียกไปใช้งานตัดให้เพื่อนก่อนเลย ผมยาว ผมสั้น รากไทร เหลือทรงเกรียนหมด ใครจะชิงตัดไปก่อนก็ได้นะ ถ้าคิดว่าถูกระเบียบพอ
ตัดเสร็จ นั่งเรียงแถว นับอีกแล้ว แบ่งเป็น4หมู่ แยกหมู่เสร็จ มีเลือกหัวหน้าหมู่ ใครที่ดูทึ่มๆตัวใหญ่ๆ มักจะโดนเพื่อนดันไปเป็นหัวหมู่ กับรองหัวหมู่ ไอ่คนฉลาดๆ ตัวแสบๆ มันไม่เอาหรอก เอาแต่ยุเพื่อน
.....แล้วเราก็จะได้รับ เครื่องแบบที่เรียกว่า “ชุดจับหมู” เสื้อขาวๆขอบน้ำเงิน ตัวบางๆ กางเกงกากีขาสั้นคล้ายกางเกงนักเรียน รองเท้าหนังหนัง ถุงเท้า ส่วนชุดกะลาสีจะได้รับในวันหลังๆ กัยชุดกีฬา เป็นเสื้อยืด ทั้งแขนยาว แขนสั้น กางเกงสั้นสีน้ำเงิน สีเสื้อจะแยกไปแต่ละกองพัน อย่างผมพัน3 เสื้อสีเหลือง ส่วนกองพันอื่นจะเป็นสี น้ำเงิน แดง เขียว เรื่องสีนี้มันมีผล ในตอนหลังๆที่มีกิจกรรม พวกแข่งกีฬาภายใน และการสวนสนามแข่งกัน
…..ต่อที่ความเห็น 11 และ 17 และ.36และ44ครับ...จบ