สวัสดีชาวพันทิปทุกท่านที่ได้แวะเข้ามาอ่านกันนะครับ...
กระทู้นี้ เป็นรีวิวทริปญี่ปุ่นของพวกเรา 6 คน เพื่อแบ่งปันข้อมูล รวมถึงการเตรียมตัวต่างๆ ให้กับผู้ที่สนใจได้ใช้เป็นแนวทางสำหรับวางแผนเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตนเองกันครับ
ทริปของเราในครั้งนี้ เป็นการเที่ยวญี่ปุ่นช่วงซากุระบาน ระหว่างวันที่ 19-25 มีนาคม 2559 ที่ผ่านมา ครับ (7 วัน 5 คืน)
ต้องขอบอกก่อนเลยว่า ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เราสามารถเที่ยวได้ทุกฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็นฤดูใบไม้ผลิ (ชมซากุระบาน) ฤดูร้อน (ชมทุ่งดอกไม้) ฤดูใบไม้ร่วง (ชมใบไม้เปลี่ยนสี) หรือแม้กระทั่งฤดูหนาว (เที่ยวหิมะ) ซึ่งเสน่ห์ของแต่ละฤดูก็แตกต่างกันออกไป เอาเป็นว่าขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคลเลยละกันครับ
และที่สำคัญ เราสามารถเที่ยวญี่ปุ่นได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า (อยู่ได้ไม่เกิน 15 วัน) ซึ่งทำให้ง่ายขึ้นกว่าเดิมเยอะเลยครับ แต่อาจถูกเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) สอบถามถึงวัตถุประสงค์ในการเข้าประเทศ หรือขอตรวจเอกสารที่จำเป็น เช่น ตั๋วเครื่องบินขากลับ เงินสด ที่พัก หรือกำหนดการเดินทางระหว่างอยู่ญี่ปุ่น ฯลฯ โดยสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ของสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ตามลิงค์นี้เลยครับ
http://www.th.emb-japan.go.jp/th/jis/2013/1321-2.htm
โจทย์ในการไปเที่ยวญี่ปุ่นของพวกเรา ในครั้งนี้ มี 3 อย่างหลักๆ คือ
1. ต้องการเห็นซากุระบาน เราเลยเลือกเที่ยวช่วงฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งจากการดูข้อมูลสถิติย้อนหลังของปีที่ผ่านๆ มา ก็พบว่า โซนที่เราจะไปเที่ยวนั้น (โซน Kansai) ซากุระจะเริ่มบานช่วงประมาณปลายเดือนมีนาคม และบานเต็มที่ช่วงต้นเดือนเมษายน เราเลยเลือกเดินทางช่วงนี้ (ที่จริงอยากไปช่วงปลายเดือนมีนาคม ต่อเมษายน ครับ จะได้เห็น Full bloom ของซากุระ แต่ก็ติดที่ว่า เดือนเมษายน พวกเราลางานได้น้อย เลยจำเป็นต้องเลื่อนขึ้นมาเป็นปลายเดือนมีนาคมแทนครับ)
เว็บไซต์ที่พวกเราใช้ตรวจสอบพยากรณ์ซากุระบานครับ ซึ่งจะมีข้อมูลย้อนหลังให้เราพอที่จะตรวจสอบช่วงเวลาได้คร่าวๆ ดังนี้ครับ
http://weathernews.jp/ip/info/sakura/2016/index.html
http://www.japan-guide.com/sakura
http://www.otenki.jp/sp/art/sakura/kaikayoso_english.html
http://sakura.weathermap.jp
http://www.tenki.jp/sakura/expectation.html
เว็บไซต์ไหนที่ไม่มีเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ ใช้ Google Translate ก็ช่วยได้เยอะเหมือนกันนะครับ
นี้เป็นตัวอย่างหน้าตาเว็บไซต์พยากรณ์ซากุระบานของ
http://sakura.weathermap.jp ซึ่งพยากรณ์เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2559 ที่ผ่านมาครับ
ซากุระที่นี่จะเริ่มบานจากใต้ขึ้นเหนือครับ ทั้งนี้ทั้งนั้น ช่วงเวลาการบานของซากุระในแต่ละปี ก็อาจบวก/ลบ จากสถิติเดิมได้ ต้องดูสภาพอากาศของแต่ละปีประกอบด้วย เพราะเป็นปัจจัยสำคัญในการบานของดอกซากุระครับ
หลังซากุระเริ่มบาน (First bloom) จะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ ก็จะบานเต็มที่ (Full bloom) ซึ่งเป็นช่วงที่เหมาะที่สุดในการดูซากุระครับ และหลังจากนั้นอีก 1 สัปดาห์ ซากุระก็จะเริ่มร่วงโรยไปครับ
2. มีอิสระในการท่องเที่ยว คือ อยากเที่ยวไหนก็ไป อยากกินอะไรก็กิน พวกเราเลยเลือกที่จะไปเที่ยวด้วยตนเองครับ (Backpack)
3. ประหยัดงบ อันนี้อาจเป็นแค่อุดมคติครับ เพราะเอาเข้าจริงๆ แล้ว ก็ทำยากเหมือนกัน แต่ก็ถือว่าคุ้มครับ ถ้าเทียบกับสถานที่ท่องเที่ยวที่เราไป และเมนูอาหารที่เรากิน เดี๋ยวตอนท้าย ผมจะสรุปรายละเอียดค่าใช้จ่ายให้ดูอีกครั้งครับ ว่าทั้งทริป ค่าใช้จ่ายแต่ละอย่าง เราหมดไปคนละเท่าไหร่กัน เช่น ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าที่พัก ค่าเดินทาง ค่าอาหาร ช้อปปิ้ง ฯลฯ
ซึ่งจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ติดตามต่อกันได้เลยครับ
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ขั้นตอนการเตรียมตัว
http://www.ppantip.com/topic/35007335/comment1
ทริปวันแรก (Sakon Nakhon Airport - Donmuang International Airport - Kansai International Airport)
http://www.ppantip.com/topic/35007335/comment2
ทริปวันที่ 2 (Todai-ji Temple, Himuro Shrine, Nara National Museum, Nara Park and Garden, Kasuga Taisha, Temma, Shinsaibashi, Dotonbori, Namba, Shinsekai)
http://www.ppantip.com/topic/35007335/comment3
ทริปวันที่ 3 (Himeji Castle, Kobe Steakland, Arima Onsen, Rokko Garden Terrace)
http://www.ppantip.com/topic/35007335/comment4
ทริปวันที่ 4 (Arashiyama [Togetsu-kyo Bridge + Bamboo Groves + Tenryu-ji Temple], Kinkaku-ji Temple, Nishiki Market)
http://www.ppantip.com/topic/35007335/comment5
ทริปวันที่ 5 (Fushimi Inari Taisha, Kiyomizu-Dera Temple, Heian Jingu Shrine, Keage Incline, Nanzen-ji Temple, Philosopher's Path, Ginkaku-ji Temple)
http://www.ppantip.com/topic/35007335/comment6
ทริปวันที่ 6 และวันเดินทางกลับ (Osaka Castle, Nishinomaru Garden, Kuromon Market, Kansai International Airport, Donmuang International Airport, Sakon Nakhon Airport)
http://www.ppantip.com/topic/35007335/comment7
[CR] ((( J A P A N ))) ไ ป ค รั้ ง แ ร ก . . ก็ ห ล ง รั ก เ ล ย (7 วัน ที่คันไซ ฉบับไปเอง)
สวัสดีชาวพันทิปทุกท่านที่ได้แวะเข้ามาอ่านกันนะครับ...
กระทู้นี้ เป็นรีวิวทริปญี่ปุ่นของพวกเรา 6 คน เพื่อแบ่งปันข้อมูล รวมถึงการเตรียมตัวต่างๆ ให้กับผู้ที่สนใจได้ใช้เป็นแนวทางสำหรับวางแผนเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตนเองกันครับ
ทริปของเราในครั้งนี้ เป็นการเที่ยวญี่ปุ่นช่วงซากุระบาน ระหว่างวันที่ 19-25 มีนาคม 2559 ที่ผ่านมา ครับ (7 วัน 5 คืน)
ต้องขอบอกก่อนเลยว่า ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เราสามารถเที่ยวได้ทุกฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็นฤดูใบไม้ผลิ (ชมซากุระบาน) ฤดูร้อน (ชมทุ่งดอกไม้) ฤดูใบไม้ร่วง (ชมใบไม้เปลี่ยนสี) หรือแม้กระทั่งฤดูหนาว (เที่ยวหิมะ) ซึ่งเสน่ห์ของแต่ละฤดูก็แตกต่างกันออกไป เอาเป็นว่าขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคลเลยละกันครับ
และที่สำคัญ เราสามารถเที่ยวญี่ปุ่นได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า (อยู่ได้ไม่เกิน 15 วัน) ซึ่งทำให้ง่ายขึ้นกว่าเดิมเยอะเลยครับ แต่อาจถูกเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) สอบถามถึงวัตถุประสงค์ในการเข้าประเทศ หรือขอตรวจเอกสารที่จำเป็น เช่น ตั๋วเครื่องบินขากลับ เงินสด ที่พัก หรือกำหนดการเดินทางระหว่างอยู่ญี่ปุ่น ฯลฯ โดยสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ของสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ตามลิงค์นี้เลยครับ
http://www.th.emb-japan.go.jp/th/jis/2013/1321-2.htm
โจทย์ในการไปเที่ยวญี่ปุ่นของพวกเรา ในครั้งนี้ มี 3 อย่างหลักๆ คือ
1. ต้องการเห็นซากุระบาน เราเลยเลือกเที่ยวช่วงฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งจากการดูข้อมูลสถิติย้อนหลังของปีที่ผ่านๆ มา ก็พบว่า โซนที่เราจะไปเที่ยวนั้น (โซน Kansai) ซากุระจะเริ่มบานช่วงประมาณปลายเดือนมีนาคม และบานเต็มที่ช่วงต้นเดือนเมษายน เราเลยเลือกเดินทางช่วงนี้ (ที่จริงอยากไปช่วงปลายเดือนมีนาคม ต่อเมษายน ครับ จะได้เห็น Full bloom ของซากุระ แต่ก็ติดที่ว่า เดือนเมษายน พวกเราลางานได้น้อย เลยจำเป็นต้องเลื่อนขึ้นมาเป็นปลายเดือนมีนาคมแทนครับ)
เว็บไซต์ที่พวกเราใช้ตรวจสอบพยากรณ์ซากุระบานครับ ซึ่งจะมีข้อมูลย้อนหลังให้เราพอที่จะตรวจสอบช่วงเวลาได้คร่าวๆ ดังนี้ครับ
http://weathernews.jp/ip/info/sakura/2016/index.html
http://www.japan-guide.com/sakura
http://www.otenki.jp/sp/art/sakura/kaikayoso_english.html
http://sakura.weathermap.jp
http://www.tenki.jp/sakura/expectation.html
เว็บไซต์ไหนที่ไม่มีเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ ใช้ Google Translate ก็ช่วยได้เยอะเหมือนกันนะครับ
นี้เป็นตัวอย่างหน้าตาเว็บไซต์พยากรณ์ซากุระบานของ http://sakura.weathermap.jp ซึ่งพยากรณ์เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2559 ที่ผ่านมาครับ
ซากุระที่นี่จะเริ่มบานจากใต้ขึ้นเหนือครับ ทั้งนี้ทั้งนั้น ช่วงเวลาการบานของซากุระในแต่ละปี ก็อาจบวก/ลบ จากสถิติเดิมได้ ต้องดูสภาพอากาศของแต่ละปีประกอบด้วย เพราะเป็นปัจจัยสำคัญในการบานของดอกซากุระครับ
หลังซากุระเริ่มบาน (First bloom) จะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ ก็จะบานเต็มที่ (Full bloom) ซึ่งเป็นช่วงที่เหมาะที่สุดในการดูซากุระครับ และหลังจากนั้นอีก 1 สัปดาห์ ซากุระก็จะเริ่มร่วงโรยไปครับ
2. มีอิสระในการท่องเที่ยว คือ อยากเที่ยวไหนก็ไป อยากกินอะไรก็กิน พวกเราเลยเลือกที่จะไปเที่ยวด้วยตนเองครับ (Backpack)
3. ประหยัดงบ อันนี้อาจเป็นแค่อุดมคติครับ เพราะเอาเข้าจริงๆ แล้ว ก็ทำยากเหมือนกัน แต่ก็ถือว่าคุ้มครับ ถ้าเทียบกับสถานที่ท่องเที่ยวที่เราไป และเมนูอาหารที่เรากิน เดี๋ยวตอนท้าย ผมจะสรุปรายละเอียดค่าใช้จ่ายให้ดูอีกครั้งครับ ว่าทั้งทริป ค่าใช้จ่ายแต่ละอย่าง เราหมดไปคนละเท่าไหร่กัน เช่น ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าที่พัก ค่าเดินทาง ค่าอาหาร ช้อปปิ้ง ฯลฯ
ซึ่งจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ติดตามต่อกันได้เลยครับ
ขั้นตอนการเตรียมตัว
http://www.ppantip.com/topic/35007335/comment1
ทริปวันแรก (Sakon Nakhon Airport - Donmuang International Airport - Kansai International Airport)
http://www.ppantip.com/topic/35007335/comment2
ทริปวันที่ 2 (Todai-ji Temple, Himuro Shrine, Nara National Museum, Nara Park and Garden, Kasuga Taisha, Temma, Shinsaibashi, Dotonbori, Namba, Shinsekai)
http://www.ppantip.com/topic/35007335/comment3
ทริปวันที่ 3 (Himeji Castle, Kobe Steakland, Arima Onsen, Rokko Garden Terrace)
http://www.ppantip.com/topic/35007335/comment4
ทริปวันที่ 4 (Arashiyama [Togetsu-kyo Bridge + Bamboo Groves + Tenryu-ji Temple], Kinkaku-ji Temple, Nishiki Market)
http://www.ppantip.com/topic/35007335/comment5
ทริปวันที่ 5 (Fushimi Inari Taisha, Kiyomizu-Dera Temple, Heian Jingu Shrine, Keage Incline, Nanzen-ji Temple, Philosopher's Path, Ginkaku-ji Temple)
http://www.ppantip.com/topic/35007335/comment6
ทริปวันที่ 6 และวันเดินทางกลับ (Osaka Castle, Nishinomaru Garden, Kuromon Market, Kansai International Airport, Donmuang International Airport, Sakon Nakhon Airport)
http://www.ppantip.com/topic/35007335/comment7
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น