ตามดูทั้งสองเรื่อง DOTS ถึงกลางๆเรื่อง เจ้าเวหาดูทุกตอนวันไหนกลับไม่ทันก็ดูย้อนเอา ใจจริงชอบทั้งสองเรื่องมากๆ อลังการงานสร้างปูเรื่องน่าติดตาม แต่พอดูของเกาหลีแล้วอดไม่ได้ที่จะเอาใจช่วยให้ละครไทยเราพัฒนาขึ้นในหลายๆแง่ ขอชมก่อนว่า production การถ่ายทำสูสีกันและชมเชยเจ้าเวหาที่กล้าลงทุนขนาดนี้สำหรับละครช่องดิจิตอล (แม้จะมีบางฉากแอบเหมือนหนังฝรั่งเช่น Acts of Valor แบบเป๊ะๆ) ขอยกตัวอย่างคร่าวๆ
1.
การดำเนินเรื่อง Descendants of the Sun ดำเนินเรื่องได้กระชับรวดเร็วน่าติดตามตั้งแต่ตอน 1 ปูเรื่องราวความส้มพันธิ์พระนางได้น่าติดตามและลุ้นไปกับความรักของทั้งคู่ ส่วนเจ้าเวหาปูเรื่องมาดีตอนต้น นางเอกเป็นหมอสาวแสนสวยที่มีปมชีวิตเรื่องพ่อและแม่ ได้ช่วยพระเอกไว้จากที่ลอยน้ำหมดสติมาจากการปะทะกับกลุ่มมาเฟียค้ายา แต่ไปๆมาๆเริ่มเข้าสูตรละครไทยน้ำเน่า เยิ้นเย้อ มีตัวอิจฉาเข้ามาเกี่ยวข้องในนี้คือหมอเจษจนพอจะเดาทางถูกโดยไม่ต้องอ่านเรื่องย่อเลยว่าบทจะเป็นยังไงต่อ ส่วน DOTS ยากที่จะเดาว่าความรักของนายทหารหนุ่มกับคุณหมอที่ต่างปฎิบัติหน้าที่แบบเสียสละในแดนกันดารและภัยสงครามนั้นจะเป็นยังไงต่อไป
2.
ความ realistic ของตัวละคร ด้านสายอาชีพทางฝั่งเกาหลีจะเก็บรายละเอียดทุกอย่างเกี่ยวกับทหารมาแบบเป๊ะมาก เสื้อผ้าหน้าผมและ acting ของตัวหลักตัวรอง แม้แต่อาชีพหมอที่ต้องเสียสละเพื่อส่วนรวมก็จะได้เห็นกันหลายฉากหลายตอน ดูถึงตอนแผ่นดินไหว ที่นางเอกต้องตัดสินใจด้วยจรรยาแพทย์ที่จะช่วยคนให้รอดชีวิต คำศัพย์แพทย์ที่ใช้เวลารักษาคือเป๊ะมาก (ไม่ใช่หมอแต่ก็ฟังรู้ว่ามีการค้นคว้าข้อมูลอย่างดี) ทางฝั่งละครไทยเราแม้จะเก็บรายละเอียดเรื่องทหารมาค่อนข้างแม่นเหมือนกัน ได้คุยกับผู้รู้ในวงการทหารมาก็ชมว่าเสื้อผ้าเครื่องแบบไม่ผิดเลย แต่ขอติเรื่องตัวแสดงบางตัวที่ยังติดตลกไปนิดบุคคลิกยากที่จะเชื่อว่าเป็นทหารจริงๆ ส่วนอาชีพฝั่งนางเอกอันนี้ค่อนข้างผิดหวัง เพราะเน้นบท romance มากไป พระเอกตามจีบเจอกันที่โรงพยาบาลก็มีตัวร้ายมาขัด ไม่ค่อยเห็นคุณหมอช่อฟ้าแสดงอะไรที่บ่งบอกความเป็นคุณหมอผ่าตัดผู้มากฝีมือเท่าไหร่ จะรอดูตอนต่อๆไปว่าจะเป็นยังไง
3.
บทละคร อันนี้ชมฝั่งเกาหลีอีกเช่นกัน บทพูดบางอย่างไม่ต้องเน้นจนเฝือ แสดงออกนิดหน่อยแต่ได้เยอะ เช่นเรื่องของความรักชาติ อันนี้สังเกตมาหลายเรื่องทั้งละครพีเรียดอิงประวัติศาสตร์และละครปัจจุบัน เช่นใน DOTS ฉากที่พระเอกกำลังคุยกับนางเอกและหันไปมองพร้อมวันทยหัตถ์ ไปทางเสาธง แสงอาทิตย์ส่องมาจางๆกล้องแพนไปเป็นธงชาติและเพลงชาติ นางเอกค่อยๆหันไปเห็นธงชาติมองขึ้นไปสักครู่ก้มตัวคำนับเบาๆ โห powerful มากจริงๆ ไม่ต้องอาศัยคำพูดสวยหรูอะไร ขนาดไม่ใช่คนเกาหลีดูแล้วยังขนลุกน้ำตาจะคลอตาม มาฝั่งไทยไม่ว่าละครพีเรียดหรือปัจจุบันกี่เรื่องๆ ต้องเน้นบทพูดทำนองว่า "ข้ายอมตายเพื่อชาติ" "รักชาติเยี่ยงชีพ" บลาๆๆ เน้นและย้ำแทบทุกสองประโยคจนฟังแล้วแทนที่จะอินตามกลับเอืยนเลยเหมือนโดนยัดเยียด ความรักชาติ ยังไงไม่รู้ ของแบบนี้ไม่ต้องพูดกันมากแค่การแสดงออกนิดๆหน่อยๆก็ทำให้คนดูขนลุกได้
ชอบละครเกาหลีที่บท dialogue แบบตรงๆ นางเอกพระเอกรู้สึกยังไงก็บอกอย่างนั้นไม่ต้องมานั่งแอ๊บรักษาฟอรม์เหมือนละครไทย จนฟังแล้ว fake มาก เกินจะเชื่อได้ว่าคนจริงๆเขาจะพูดกันอย่างนี้เหรอ
ทั้งนี้ขอติเพื่อก่อค่ะ ยังไงก็ตั้งใจจะตามดูเรื่องเจ้าเวหาทั้งสามตอนจนจบและยังรักละครไทยเสมอ ขอเป็นกำลังใจให้ผู้จัดทีมงานและนักแสดง จะรอดูละครไทยพัฒนาขึ้นเผื่อสักวันเราจะทำเป็นสินค้า export ได้ทั่วโลกเหมือนประเทศอื่นๆ
เจ้าเวหา vs Descendants of the Sun ทำไมละครไทยถึงยังห่างไกลมาตรฐานสากล
1. การดำเนินเรื่อง Descendants of the Sun ดำเนินเรื่องได้กระชับรวดเร็วน่าติดตามตั้งแต่ตอน 1 ปูเรื่องราวความส้มพันธิ์พระนางได้น่าติดตามและลุ้นไปกับความรักของทั้งคู่ ส่วนเจ้าเวหาปูเรื่องมาดีตอนต้น นางเอกเป็นหมอสาวแสนสวยที่มีปมชีวิตเรื่องพ่อและแม่ ได้ช่วยพระเอกไว้จากที่ลอยน้ำหมดสติมาจากการปะทะกับกลุ่มมาเฟียค้ายา แต่ไปๆมาๆเริ่มเข้าสูตรละครไทยน้ำเน่า เยิ้นเย้อ มีตัวอิจฉาเข้ามาเกี่ยวข้องในนี้คือหมอเจษจนพอจะเดาทางถูกโดยไม่ต้องอ่านเรื่องย่อเลยว่าบทจะเป็นยังไงต่อ ส่วน DOTS ยากที่จะเดาว่าความรักของนายทหารหนุ่มกับคุณหมอที่ต่างปฎิบัติหน้าที่แบบเสียสละในแดนกันดารและภัยสงครามนั้นจะเป็นยังไงต่อไป
2. ความ realistic ของตัวละคร ด้านสายอาชีพทางฝั่งเกาหลีจะเก็บรายละเอียดทุกอย่างเกี่ยวกับทหารมาแบบเป๊ะมาก เสื้อผ้าหน้าผมและ acting ของตัวหลักตัวรอง แม้แต่อาชีพหมอที่ต้องเสียสละเพื่อส่วนรวมก็จะได้เห็นกันหลายฉากหลายตอน ดูถึงตอนแผ่นดินไหว ที่นางเอกต้องตัดสินใจด้วยจรรยาแพทย์ที่จะช่วยคนให้รอดชีวิต คำศัพย์แพทย์ที่ใช้เวลารักษาคือเป๊ะมาก (ไม่ใช่หมอแต่ก็ฟังรู้ว่ามีการค้นคว้าข้อมูลอย่างดี) ทางฝั่งละครไทยเราแม้จะเก็บรายละเอียดเรื่องทหารมาค่อนข้างแม่นเหมือนกัน ได้คุยกับผู้รู้ในวงการทหารมาก็ชมว่าเสื้อผ้าเครื่องแบบไม่ผิดเลย แต่ขอติเรื่องตัวแสดงบางตัวที่ยังติดตลกไปนิดบุคคลิกยากที่จะเชื่อว่าเป็นทหารจริงๆ ส่วนอาชีพฝั่งนางเอกอันนี้ค่อนข้างผิดหวัง เพราะเน้นบท romance มากไป พระเอกตามจีบเจอกันที่โรงพยาบาลก็มีตัวร้ายมาขัด ไม่ค่อยเห็นคุณหมอช่อฟ้าแสดงอะไรที่บ่งบอกความเป็นคุณหมอผ่าตัดผู้มากฝีมือเท่าไหร่ จะรอดูตอนต่อๆไปว่าจะเป็นยังไง
3. บทละคร อันนี้ชมฝั่งเกาหลีอีกเช่นกัน บทพูดบางอย่างไม่ต้องเน้นจนเฝือ แสดงออกนิดหน่อยแต่ได้เยอะ เช่นเรื่องของความรักชาติ อันนี้สังเกตมาหลายเรื่องทั้งละครพีเรียดอิงประวัติศาสตร์และละครปัจจุบัน เช่นใน DOTS ฉากที่พระเอกกำลังคุยกับนางเอกและหันไปมองพร้อมวันทยหัตถ์ ไปทางเสาธง แสงอาทิตย์ส่องมาจางๆกล้องแพนไปเป็นธงชาติและเพลงชาติ นางเอกค่อยๆหันไปเห็นธงชาติมองขึ้นไปสักครู่ก้มตัวคำนับเบาๆ โห powerful มากจริงๆ ไม่ต้องอาศัยคำพูดสวยหรูอะไร ขนาดไม่ใช่คนเกาหลีดูแล้วยังขนลุกน้ำตาจะคลอตาม มาฝั่งไทยไม่ว่าละครพีเรียดหรือปัจจุบันกี่เรื่องๆ ต้องเน้นบทพูดทำนองว่า "ข้ายอมตายเพื่อชาติ" "รักชาติเยี่ยงชีพ" บลาๆๆ เน้นและย้ำแทบทุกสองประโยคจนฟังแล้วแทนที่จะอินตามกลับเอืยนเลยเหมือนโดนยัดเยียด ความรักชาติ ยังไงไม่รู้ ของแบบนี้ไม่ต้องพูดกันมากแค่การแสดงออกนิดๆหน่อยๆก็ทำให้คนดูขนลุกได้
ชอบละครเกาหลีที่บท dialogue แบบตรงๆ นางเอกพระเอกรู้สึกยังไงก็บอกอย่างนั้นไม่ต้องมานั่งแอ๊บรักษาฟอรม์เหมือนละครไทย จนฟังแล้ว fake มาก เกินจะเชื่อได้ว่าคนจริงๆเขาจะพูดกันอย่างนี้เหรอ
ทั้งนี้ขอติเพื่อก่อค่ะ ยังไงก็ตั้งใจจะตามดูเรื่องเจ้าเวหาทั้งสามตอนจนจบและยังรักละครไทยเสมอ ขอเป็นกำลังใจให้ผู้จัดทีมงานและนักแสดง จะรอดูละครไทยพัฒนาขึ้นเผื่อสักวันเราจะทำเป็นสินค้า export ได้ทั่วโลกเหมือนประเทศอื่นๆ