'You are what you eat' แค่เลือกกินชีวิตก็เปลี่ยนค่ะ

สวัสดีค่ะเพื่อนๆวันนี้เราอยากจะแชร์ประสบการณ์การมีชีวิตอยู่ของเราที่คนที่รู้จักเราหลายๆคนเค้าสงสัยว่าเรามีชีวิตอยู่มาได้ยังไง55555 ก็ความจริงค่ะเราได้แต่ขำๆไป แต่ก่อนที่จะมาขำก็ผ่านอะไรมาเยอะแยะค่ะ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของเราถ้าเกิดความผิดพลาดอะไร ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ

สาเหตุของคนที่รู้จักเราเค้าสงสัยการใช้ชีวิตของเราสืบเนื่องมาจากเรามีโรคประจำตัวหลายอย่างค่ะ
1.โรคภูมิแพ้
2.โรคตาบอดกลางคืน
3.โรคไต (เนฟโฟรติค ซินโดรม)
พออ่านมาแล้วรู้สึกว่าแค่นี้เองใช่มั้ยคะ ใช่ค่ะแค่สามข้อ แต่ผลข้างเคียงของการดำเนินชีวิตประจำวันนั้นมีมากมายมหาศาลทีเดียวค่ะ

เริ่มจากข้อ 1.โรคภูมิแพ้นะคะ
เราเป็นคนแพ้เยอะมาก แพ้ถั่ว แพ้กุ้ง แพ้สารเคมีทุกชนิด แพ้อากาศหนาวเกินไป อากาศร้อนเกินไปค่ะ เคยไปอยู่ที่อากาศหนาวมากๆมาระยะหนึ่ง ได้ผื่นกลับมาเต็มค่ะ อยู่ไม่ได้ อยากเดินต่อไปก็ไปไม่ถึงฝันค่ะ(อ่ะไม่เกี่ยว555) หรือแม้แต่เวลาทำงานบ้านก็ต้องใส่ถุงมือ แค่ล้างจานใบสองใบก็โดนน้ำยาล้างจานไม่ได้ค่ะเพราะเคยสัมผัสถูกเพราะก็ขี้เกียจใส่ถุงมือบางครั้ง ปรากฎว่านิ้วลอกเป็นแผ่นๆค่ะ เพราะฉะนั้นขี้เกียจไม่ได้ค่ะ บางครั้งเจออากาศร้อนนิดหน่อยแก้มทั้งสองข้างก็ขึ้นผื่นเป็นรอยปื้นๆแดงๆ หรือเจอเสื้อผ้าที่มีใยๆหรือเป็นไหมพรมไม่ต้องสืบค่ะ คันเป็นลิง😂😂 นี่แค่ข้อหนึ่งค่ะ

ข้อ 2 โรคตาบอดกลางคืน
อันนี้เราเป็นกรรมพันธุ์ค่ะ เพราะญาติทางฝั่งคุณพ่อเป็นเราก็รับมาเต็ม โรคนี้คือตาจะมองไม่เห็นในที่มืดค่ะ(พูดแบบนี้คนส่วนมากได้ยินจะคิดว่าใช่ชั้นก็ไม่เห็นเวลามืด555😂😅)แต่อันที่จริงในที่นี้คือ เวลาเข้าโรงภาพยนตร์คุณก็จะเดินไปที่นั่งได้ใช่มั้ยคะ ส่วนเรา เราต้องเปิดไฟฉายจากสมารท์โฟนค่ะ เพราะมองไม่เห็นอะไรเลย เราขับรถเป็นนะคะ แต่พอพระอาทิตย์ตกเราก็ขับไม่ได้ค่ะ ทำไงหล่ะ? เพื่อความปลอดถัยของส่วนรวมเราขับรถไปไหนไม่เกินสิบกิโล หรือจะกะเวลากลับบ้านไม่เกินสี่โมงเย็นค่ะ55555 ชีวิตเป็นนางซินค่ะแต่เลวร้ายกว่า เพราะนางซินนางอยู่ได้ถึงเที่ยงคืน แต่เราเราอยู่ได้แค่เย็นๆ(ถ้าเอารถมานะคะ) บางคนถามว่าอ่าวแล้วเวลาเที่ยวกลางคืนหล่ะ? เราก็ไปค่ะแต่เวลาเราไปเที่ยวเราจะกลับไม่ดึกมาก เราจะมีคนสนิทเพื่อนที่รู้ใจเราไปด้วย เค้าก็จะจูงเรา(ฟิวเหมือนคนแก่อ่ะค่ะ5555 เพราะว่า ต้องบอกตลอดอ่ะขึ้นบันไดลงบันได)ร้านที่ไปส่วนมากเป็นร้านนั่งชิวๆฟังเพลงค่ะ แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ไปเพราะเพื่อนสนิทๆไม่ว่างเราไม่มีคนจูงค่ะ555

ข้อ 3 โรคไต (เนฟโฟรติค ซินโดรม) หรือโปรตีนรั่วในปัสสาวะค่ะ
อันนี้น่าจะเป็นโรคที่ร้ายแรงสุดมากๆในสามโรคนี้ค่ะ เราเริ่มรู้ตัวว่าเป็นโรคนี้ตอนอายุประมาณ 15ปีค่ะ จนถึงปัจจุบันนี้เราอยู่กับโรคนี้มา12ปีแล้วค่ะ โรคนี้จะไม่หายขาดแต่บรรเทาให้โรคสงบลงได้คุณหมอบอกเรามาแบบนั้นค่ะ ครั้งแรกที่ทราบก็ตกใจค่ะ เพราะเราเป็นคนผอมสูงมาตลอด อยู่ๆขาบวม ท้องบวม น้ำหนักขึ้นมาเป็นสิบโลค่ะ เลยตัดสินใจไปหาหมอตรวจเจอโปรตีนรั่วในปัสสาวะ +4ค่ะ ตอนนั้นจำได้เลยว่าให้ออกซิเจนด้วยเพราะตัวบวมมากหมอกลัวน้ำท่วมปอดค่ะ แล้วเริ่มรักษาเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันมา12ปี มีหายไปมีมาใหม่เรื่อยๆค่ะ ประมาณว่าตลอด12ปีตัวจะยุบๆพองๆเป็นอึ่งอ่างค่ะ จนปัจจุบันนี้ที่นั่งพิมกระทู้นี้อยู่ก็ทานเพรดนิโซโลนวันละ4เม็ดค่ะ
หลายๆคนคงสงสัยว่าอ่ะแล้วมันเกี่ยวอะไรกับกระทู้ที่เธอตั้ง 😂😁😁😅 จะบอกว่าเกี่ยวมากๆค่ะ เพราะโรคนี้และชีวิตเราเปลี่ยนมาได้มากเพราะเราเปลี่ยนวิธีกินและเข้าใจตัวเองค่ะ ส่วนใครที่มีเรื่องถามเราหรือสงสัยในโรคต่างๆถามเราได้นะคะเราไม่หวง เราอยากแชร์การมีสุขภาพที่ดีค่ะ
แต่กว่าจะมาถึงตอนนี้เราลองผิดลองถูกมาเยอะค่ะ ลองกับตัวเอง (อ่อ ออกตัวก่อนจะโดนยำนะคะ เราไม่ใช่หมอเราไม่ใช่นักโภชนาการอะไร แต่เราแค่ลองทุกอย่างกับตัวเองค่ะ ไม่ต้องเชื่อเราก็ได้ เราแค่อยากให้คนอยู่ในภาวะเดียวกันได้เข้าใจ หรือคนปกติทั่วไปได้เข้าใจผู้ที่ป่วยเหมือนเราค่ะ) เราเป็นคนซ้ายสุดขวาสุดค่ะ ทำอะไรให้ตายกันไปข้าง เราเริ่มดูแลตัวเองจ่กการกินแต่ผลไม้ กินแต่อาหารดิบ ไม่กินอาหารปรุง เหมือนพวก vegan ของฝรั่งค่ะ หรือมังสวิรัติค่ะ แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอดค่ะดูอาหารไทยสิคะทั้งหอมทั้งอร่อย ใครจะอดใจไหว อ่ะมีช่วงนึงกินเค็มมากๆและเครียดเกินไปไตกำเริบค่ะหน้าบวมตัวบานเป็นอึ่งอ่าง ขาไม่ต้องพูดถึงค่ะบวมแล้วบวมอีก สรุปหาหมอค่ะ5555 กลับมากินเนื้อสัตว์เหมือนเดิมกินของทอดปรุงเค็มอีก สรุปก็บวมอีกเหมือนเดิมจบค่ะหน้าบวมตีวบวมกลับไปกินยาค่ะ จนวันนึงเรานั่งจดไดอารี่พิจารณาชิวิตตัวเอง และค่อยๆวางแผนการกินและออกกำลังกายใหม่ทำให้ชีวิตมันดีขึ้นค่ะ อ่อลืมบอกค่ะช่วงที่เรากินมังสวิรัติเราวิ่งวันละ5-10โลค่ะสรุปเหนื่อยไป ไตรับไม่ได้ค่ะ แต่ตอนนี้เจอทางสายกลางแล้ว เลยอยากมาเล่าให้ฟัง แต่ก็อีกค่ะมาเริ่มพิมดึกเกินขออนุญาตไปนอนก่อนค่ะพรุ่งนี้จะมาเริ่มเล่ากระบวน
การทางสายกลางของเราให้ฟังนะคะ วันนี้เราฝากรูปช่วงบวมๆกับก้อนหน้านี้ประมาณ2-3เดือนกับปัจจุบันนี้ไปดูเล่นๆก่อนนะคะ พรุ่งนี้มาเล่าต่อ ฝันดีค่าาาาา😊
อันนี้รูปปลายปีที่แล้วเริ่มจะบวมค่ะ


อันนี้บวมเต็มๆแล้วค่ะเมื่อสามเดือนที่แล้ว


นี่รูปปัจจุบันค่ะ


อีกรูปค่ะ ไปนอนละค่ะ ฝันดีนะคะชาวพันทิป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่