เมื่อวานนี้ มีกระแสฮือฮา เรื่องทีมชาติไทยขออุ่นเครื่องกับโครเอเชีย ในรายการคิงส์คัพ ซึ่งสร้างความตื่นเต้นให้แฟนๆบอลช้างศึกได้มากจริงๆ
การจะได้เห็นนักเตะ อย่างลูก้า โมดริช , มาริโอ มานด์ซูคิช หรือ เดยัน ลอฟเรน แค่คิดก็ขนลุกแล้ว ถ้าพวกเขามาเตะที่ราชมังคลากีฬาสถาน คงเป็น เกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของไทย พอๆกับ ตอนบราซิลชุดใหญ่ ที่มีริวัลโด้ และ โรแบร์โต้ คาร์ลอส มาเยือนในปี 1999 เลยทีเดียว
แต่ท่ามกลางความตื่นเต้น เมื่อพิจารณาจากเหตุผล เราสามารถฟันธงได้แต่แรกทันที ว่านี่คือแมตช์ที่ไม่มีทางเกิดขึ้นจริง
จดหมายจากสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ที่ส่งให้ สหพันธ์ฟุตบอลโครเอเชีย มีใจความหลักๆว่า "ขอเชิญทีมชาติโครเอเชีย แข่งขันรายการคิงส์คัพ ในช่วงฟีฟ่าเดย์ที่กรุงเทพ ระหว่างวันที่ 3-5 มิถุนายนนี้"
ลองมาดูเหตุผล ของผมนะครับ ว่าทำไมเกมนี้ถึงไม่มีวันเกิดขึ้นได้ ผมมั่นใจครับว่าสุดท้ายมันจะเป็นได้แค่ข่าวฮือฮาในโลกอินเตอร์เน็ตเพียงเท่านั้น
1. โครเอเชีย ประกาศเกมอุ่นเครื่องไปแล้วทั้ง 2 เกม ก่อนศึกยูโร 2016 ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา โดยมีโปรแกรมพบกับทีมชาติอิหร่าน ที่เมืองโคปริฟนิก้า ทางตอนเหนือของประเทศ จากนั้นเตะเกมส่งท้ายกับซาน มาริโน่ ยังไม่กำหนดวัน แต่คาดว่าจะเตะในวันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน ที่เมืองริเยก้า
หลังจากลีกยุโรปจบลงช่วงกลางเดือนพฤษภาคม ทีมชาติจะให้นักเตะพักเล็กน้อยก่อนรวมตัวกันในช่วงปลายเดือน และสำหรับ เกมอุ่นเครื่องที่พวกเขาเลือกนั้น จัดขึ้นในบ้านตัวเองทั้งสองนัด
2. หลังจากแข่งขันกับซาน มาริโน่เสร็จ ทางโครเอเชีย ได้จองที่พักในฝรั่งเศสเอาไว้เรียบร้อยแล้ว Base Camp ของพวกเขา คือโรงแรม l’hotel du Golf Barrire ตั้งอยู่ที่เมือง Deauville แน่นอน นักเตะและสตาฟฟ์ ต้องเดินทางถึงเบสแคมป์อย่างเร็วที่สุด เพื่อปรับสภาพร่างกายให้เข้ากับ ภูมิอากาศในฝรั่งเศส
โปรแกรมแข่งขันกับตุรกี นัดแรกในยูโร คือวันที่ 12 มิถุนายน ดังนั้น ยิ่งไปเตรียมพร้อมในฝรั่งเศสเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดี ทุกคนน่าจะยังจำกันได้นะครับ ว่าโครเอเชีย เป็นทีมที่ลงสนาม นัดเปิดเวิลด์คัพ 2014 ที่บราซิล พวกเขาแข่งบอลโลกนัดแรก วันที่ 12 มิ.ย. แต่เดินทางไปถึงบราซิลตั้งแต่วันที่ 3 มิ.ย. เลยด้วยซ้ำ ซึ่งในยูโรครั้งนี้ ก็คงเดินทางไปถึงเร็ว ไม่ต่างกัน
3. โปรแกรมคิงส์คัพ ที่ไทยเชิญไป คือให้แข่งสองนัดวันที่ 3-5 มิถุนายน คือแน่นอนล่ะ ว่าโปรแกรมมันชนกับเกมอุ่นเครื่องที่เขาวางไว้แล้ว เขามาไม่ได้แน่ๆ แต่ถึงแม้ไม่ชนก็เถอะ เขาจะมาทำไม มีความจำเป็นอะไรที่เขาต้องเดินทางข้ามทวีป ให้นักเตะอ่อนล้า ก่อนถึงเกมสำคัญที่รออยู่อีกไม่กี่วัน แถมโปรแกรมคิงส์คัพแข่งสองนัด ซึ่งนักเตะก็อาจเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บอีก
สายการบินที่บินตรงจากโครเอเชียมาไทย ก็ไม่มี ต้องเปลี่ยนไฟลท์พักเครื่อง ที่ตะวันออกกลาง หมดเวลาไปอีกเป็นวันๆ กว่าจะเดินทางมาถึง กว่าจะเดินทางกลับ ก็ไม่เหลือเวลาทำอะไรแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ค่าสัมประสิทธิ์ฟีฟ่า เมื่อต้องมาแข่งกับทีมอันดับต่ำกว่า 100 เขาแทบไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย
คือแน่นอนครับ ผมเข้าใจ ว่าใครๆก็อยากเห็นทีมชาติไทย ได้ลงอุ่นเครื่องกับทีมใหญ่ขนาดนั้น แต่ในเคสนี้ เมื่อพิจารณาจากเหตุผล เราต้องยอมรับแต่แรกว่า มันเกิดขึ้นไม่ได้อยู่แล้วสำหรับความพยายาม และความทะเยอทะยาน ที่จะขออุ่นเครื่องกับทีมใหญ่ มันเป็นเรื่องที่ดี และถูกต้องแล้ว แต่คนออกไอเดีย และคนที่คิดจะส่งจดหมายเชิญ ก็ต้องมองรอบด้านด้วย ว่ามันเป็นไปได้แค่ไหน การเชิญเพื่อสร้างความฮือฮาเฉยๆ มันจะมีประโยชน์อะไร และที่สำคัญที่สุด โครเอเชีย เขาวางโปรแกรมไว้หมดแล้ว ก่อนที่เราจะส่งจดหมายอย่างเป็นทางการไปเสียอีก มันทำให้เห็นว่า เราไม่ได้ทำการบ้านอะไรเลย
ในระหว่างที่เรา มัวแต่คิดถึงโครเอเชีย ซึ่งไม่มีทางเป็นไปได้ ชาติใหญ่ในเอเชีย เขาก็ติดต่อขออุ่นเครื่องกันเองเกือบจะหมดแล้ว ชอยส์ที่เราจะได้ซ้อมทีมในเดือนมิถุนายน น้อยลง น้อยลงทุกทีกลัวก็แต่ว่า เราดำเนินการผิดทาง จนทุกอย่างช้าเกินไป แล้วท้ายที่สุด จะไม่ได้อุ่นกับใครเลย หรือได้เตะ แต่ก็เป็นทีมระดับรองๆลงไปแล้ว
จากโครเอเชีย ได้แต่ภาวนา อย่าให้กลายเป็นมาเลเซียแทนก็แล้วกันนะครับ
-วิศรุต-
http://www.siamsport.co.th/Column/160404_198.html
ไทย - โครเอเชีย แมตช์ที่เป็นไปไม่ได้
เมื่อวานนี้ มีกระแสฮือฮา เรื่องทีมชาติไทยขออุ่นเครื่องกับโครเอเชีย ในรายการคิงส์คัพ ซึ่งสร้างความตื่นเต้นให้แฟนๆบอลช้างศึกได้มากจริงๆ
การจะได้เห็นนักเตะ อย่างลูก้า โมดริช , มาริโอ มานด์ซูคิช หรือ เดยัน ลอฟเรน แค่คิดก็ขนลุกแล้ว ถ้าพวกเขามาเตะที่ราชมังคลากีฬาสถาน คงเป็น เกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของไทย พอๆกับ ตอนบราซิลชุดใหญ่ ที่มีริวัลโด้ และ โรแบร์โต้ คาร์ลอส มาเยือนในปี 1999 เลยทีเดียว
แต่ท่ามกลางความตื่นเต้น เมื่อพิจารณาจากเหตุผล เราสามารถฟันธงได้แต่แรกทันที ว่านี่คือแมตช์ที่ไม่มีทางเกิดขึ้นจริง
จดหมายจากสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ที่ส่งให้ สหพันธ์ฟุตบอลโครเอเชีย มีใจความหลักๆว่า "ขอเชิญทีมชาติโครเอเชีย แข่งขันรายการคิงส์คัพ ในช่วงฟีฟ่าเดย์ที่กรุงเทพ ระหว่างวันที่ 3-5 มิถุนายนนี้"
ลองมาดูเหตุผล ของผมนะครับ ว่าทำไมเกมนี้ถึงไม่มีวันเกิดขึ้นได้ ผมมั่นใจครับว่าสุดท้ายมันจะเป็นได้แค่ข่าวฮือฮาในโลกอินเตอร์เน็ตเพียงเท่านั้น
1. โครเอเชีย ประกาศเกมอุ่นเครื่องไปแล้วทั้ง 2 เกม ก่อนศึกยูโร 2016 ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา โดยมีโปรแกรมพบกับทีมชาติอิหร่าน ที่เมืองโคปริฟนิก้า ทางตอนเหนือของประเทศ จากนั้นเตะเกมส่งท้ายกับซาน มาริโน่ ยังไม่กำหนดวัน แต่คาดว่าจะเตะในวันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน ที่เมืองริเยก้า
หลังจากลีกยุโรปจบลงช่วงกลางเดือนพฤษภาคม ทีมชาติจะให้นักเตะพักเล็กน้อยก่อนรวมตัวกันในช่วงปลายเดือน และสำหรับ เกมอุ่นเครื่องที่พวกเขาเลือกนั้น จัดขึ้นในบ้านตัวเองทั้งสองนัด
2. หลังจากแข่งขันกับซาน มาริโน่เสร็จ ทางโครเอเชีย ได้จองที่พักในฝรั่งเศสเอาไว้เรียบร้อยแล้ว Base Camp ของพวกเขา คือโรงแรม l’hotel du Golf Barrire ตั้งอยู่ที่เมือง Deauville แน่นอน นักเตะและสตาฟฟ์ ต้องเดินทางถึงเบสแคมป์อย่างเร็วที่สุด เพื่อปรับสภาพร่างกายให้เข้ากับ ภูมิอากาศในฝรั่งเศส
โปรแกรมแข่งขันกับตุรกี นัดแรกในยูโร คือวันที่ 12 มิถุนายน ดังนั้น ยิ่งไปเตรียมพร้อมในฝรั่งเศสเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดี ทุกคนน่าจะยังจำกันได้นะครับ ว่าโครเอเชีย เป็นทีมที่ลงสนาม นัดเปิดเวิลด์คัพ 2014 ที่บราซิล พวกเขาแข่งบอลโลกนัดแรก วันที่ 12 มิ.ย. แต่เดินทางไปถึงบราซิลตั้งแต่วันที่ 3 มิ.ย. เลยด้วยซ้ำ ซึ่งในยูโรครั้งนี้ ก็คงเดินทางไปถึงเร็ว ไม่ต่างกัน
3. โปรแกรมคิงส์คัพ ที่ไทยเชิญไป คือให้แข่งสองนัดวันที่ 3-5 มิถุนายน คือแน่นอนล่ะ ว่าโปรแกรมมันชนกับเกมอุ่นเครื่องที่เขาวางไว้แล้ว เขามาไม่ได้แน่ๆ แต่ถึงแม้ไม่ชนก็เถอะ เขาจะมาทำไม มีความจำเป็นอะไรที่เขาต้องเดินทางข้ามทวีป ให้นักเตะอ่อนล้า ก่อนถึงเกมสำคัญที่รออยู่อีกไม่กี่วัน แถมโปรแกรมคิงส์คัพแข่งสองนัด ซึ่งนักเตะก็อาจเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บอีก
สายการบินที่บินตรงจากโครเอเชียมาไทย ก็ไม่มี ต้องเปลี่ยนไฟลท์พักเครื่อง ที่ตะวันออกกลาง หมดเวลาไปอีกเป็นวันๆ กว่าจะเดินทางมาถึง กว่าจะเดินทางกลับ ก็ไม่เหลือเวลาทำอะไรแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ค่าสัมประสิทธิ์ฟีฟ่า เมื่อต้องมาแข่งกับทีมอันดับต่ำกว่า 100 เขาแทบไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย
คือแน่นอนครับ ผมเข้าใจ ว่าใครๆก็อยากเห็นทีมชาติไทย ได้ลงอุ่นเครื่องกับทีมใหญ่ขนาดนั้น แต่ในเคสนี้ เมื่อพิจารณาจากเหตุผล เราต้องยอมรับแต่แรกว่า มันเกิดขึ้นไม่ได้อยู่แล้วสำหรับความพยายาม และความทะเยอทะยาน ที่จะขออุ่นเครื่องกับทีมใหญ่ มันเป็นเรื่องที่ดี และถูกต้องแล้ว แต่คนออกไอเดีย และคนที่คิดจะส่งจดหมายเชิญ ก็ต้องมองรอบด้านด้วย ว่ามันเป็นไปได้แค่ไหน การเชิญเพื่อสร้างความฮือฮาเฉยๆ มันจะมีประโยชน์อะไร และที่สำคัญที่สุด โครเอเชีย เขาวางโปรแกรมไว้หมดแล้ว ก่อนที่เราจะส่งจดหมายอย่างเป็นทางการไปเสียอีก มันทำให้เห็นว่า เราไม่ได้ทำการบ้านอะไรเลย
ในระหว่างที่เรา มัวแต่คิดถึงโครเอเชีย ซึ่งไม่มีทางเป็นไปได้ ชาติใหญ่ในเอเชีย เขาก็ติดต่อขออุ่นเครื่องกันเองเกือบจะหมดแล้ว ชอยส์ที่เราจะได้ซ้อมทีมในเดือนมิถุนายน น้อยลง น้อยลงทุกทีกลัวก็แต่ว่า เราดำเนินการผิดทาง จนทุกอย่างช้าเกินไป แล้วท้ายที่สุด จะไม่ได้อุ่นกับใครเลย หรือได้เตะ แต่ก็เป็นทีมระดับรองๆลงไปแล้ว
จากโครเอเชีย ได้แต่ภาวนา อย่าให้กลายเป็นมาเลเซียแทนก็แล้วกันนะครับ
-วิศรุต-
http://www.siamsport.co.th/Column/160404_198.html