สวัสดีค่ะ ฝนกับกานนะคะ การแต่งหน้าเนี่ยะแน่นอนว่า อายแชโดว์พาเลตก็เป็นไอเท็มที่ must have สุดๆเลยใช่ม้าา แต่ว่ามันมีมากมายซะเหลืออออเกิน เพื่อนๆอาจจะกำลังสับสน วุ่นวายใจว่าจะซื้ออันไหนดี อันไหนคุ้มกัน วันนี้พวกเราก็เลยจะมารีวิว 5 อายแชโดว์พาเลตที่ตอบโจทย์ทุกๆ ความต้องการของเพื่อนๆกันค่ะ
โดยพวกเราจะแบ่งเป็น 5 หมวดหมู่ซึ่งก็คือ
1. Perfect for Traveling - พาเลตที่พกพาไปเที่ยวได้สวยๆ กะทัดรัด แข็งแรงทนทาน
2. Perfect Packaging - พาเลตที่มีแพกเกจยอดเยี่ยม สวยหรู ดูดีมีระดับ
3. Perfect for Day to Night - พาเลตที่สามารถใช้ได้ทั้งลุคเปรี้ยวแซ่บตอนกลางคืน และลุคธรรมชาติในตอนกลางวัน
4. Perfect Color Payoff - พาเลตที่มีเม็ดสี แน่นชัด เกลี่ยง่าย และติดทน
5. Perfect Priced - พาเลตสุดคุ้ม คุ้มค่า คุ้มราคา คุ้มปริมาณ คุ้มคุณภาพ
เอาล่ะหลังจากทราบกันแล้วว่ามีหมวดหมู่อะไรบ้าง เราก็มาดูกันดีกว่าว่า พาเลตไหนตอบโจทย์กับหมวดหมู่ไหน พร้อมกับสวอทสีให้ดูแบบละเอียดยิบ ทั้งบนผิวสีขาวเหลืองและผิวสองสีค่า ว่าแล้วก็มาเริ่มกันเลยดีกว่า
เอาล่ะหลังจากทราบกันแล้วว่ามีหมวดหมู่อะไรบ้าง เราก็มาดูกันดีกว่าว่า พาเลตไหนตอบโจทย์กับหมวดหมู่ไหน พร้อมกับสวอทสีให้ดูแบบละเอียดยิบ ทั้งบนผิวสีขาวเหลืองและผิวสองสีค่า ว่าแล้วก็มาเริ่มกันเลยดีกว่า
1. Naked Basic Palette : Urban Decay — Perfect for Traveling
(ราคา $29 : ประมาณ 1,044 บาท)
สำหรับหมวดหมู่แรกนั้นต้องยกให้ Naked Basic ของ Urban Decay พาเลตนี้เลย เพราะเป็นอะไรที่ตอบโจทย์มาก เนื่องจากว่าไซส์ของพาเลตนี้นั้น เล็ก กะทัดรัด พกพาสะดวก อีกทั้งยังแข็งแรงทนทาน เวลาพกไปไหนด้วยจึงมั่นใจได้ว่า อายเชโดว์จะไม่แตก ไม่พังอย่างแน่นอนค่ะ
หากพูดถึงสีของพาเลตนี้ จะมีอยู่ด้วยกัน 6 สีค่ะ และด้วยความที่เป็นเบสิค มันจึงใช้ได้กับทุกวัน ยิ่งไปกว่านั้นพาเลตนี้ยังสามารถครีทได้ทั้งลุคเบาๆและลุคแบบหนักๆ ถือว่าสามารถครอบคลุมได้ในระดับนึงกันเลยทีเดียวค่ะ ยังไงก็ไปดูสวอทสีกันเลยดีกว่าค่า
2. Tartelette Palette in Bloom : Tarte — Perfect Packaging
(ราคา $45 : ประมาณ 1620 บาท)
Tartelette Palette in Bloom ของ Tarte เหมาะมากสำหรับพาเลตที่มีแพกเกจยอมเยี่ยม สวยหรู ดูดีมีระดับ เพราะตัวแพกเกจจิ้งของมันนั้นเป็นลายกลีบดอกไม้ เพิ่มความดูดีมีระดับด้วยตลับสีทอง ดูหรูหรา นอกจากนั้นเวลาเปิดพาเลตนี้ออกมาแล้ว จะมีกลิ่นหอม เป็นกลิ่น chocolate อีกด้วยค่ะ
ในเรื่องของสีนั้นจะมีทั้งหมด 12 สีด้วยกัน สีของพาเลตนี้จะออกแนว warm tone เหมาะมากสำหรับลุคแบบ Glam นิดนึงค่ะ เนื้อสีของตัวนี้ก็ถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียว เพราะค่อนข้างมีเม็ดสีที่แน่น ติดทนและพวกสีกากเพชรเองก็ไม่ได้ fall out ด้วย ไปดูสวอทสีกันเลยค่ะ
3. Naked Smoky Palette : Urban Decay — Perfect for Day to Night
(ราคา $54 : ประมาณ 1,944 บาท)
มาถึงหมวดหมู่ที่สามกันแล้ว พาเลตที่สามารถใช้ได้ทั้งลุคสาวเปรี้ยวแซ่บตอนกลางคืนและลุคธรรมชาติตอนกลางวันแล้วนั้น ต้องนี้เลยค่ะ Naked Smoky พาเลตของ Urban Decay เนื่องจากหมวดสีในพาเลตนี้เนี่ยมีทั้งแบบโทนอ่อนๆ ออกน้ำตาลทองๆ สำหรับลุคธรรมชาติ และ สีโทนเข้ม ไม่ว่าจะเป็นสีดำ สีเงิน หรือแม้แต่เทา ก็ดูเหมาะมากๆสำหรับลุคสาวเปรี้ยวค่ะ ถึงแม้ว่าพาเลตนี้จะเรียกว่า smoky ก็ตาม แต่ถือว่าโทนสีของมันออกมาได้ครบถ้วนมากๆ เพราะจริงๆแล้วคำว่า smoky เอง สามารถเป็นได้ทั้งลุคแบบดูแกลมๆ ธรรมชาติๆ หรือว่าจะออกร็อคๆ แซ่บๆไปเลยก็ได้ ตัวแพกเกจจิ้งของพาเลตนี้เองนั้น ยังแข็งแรงทนทาน สวยดูดีมีระดับอีกด้วยค่ะ
สีของพาเลตนี้มีทั้งหมด 12 สี โทนของสีก็จะเป็นประมาณที่ได้กล่าวไปข้างต้น สำหรับเม็ดสีและเนื้อสีนั้น แน่นอนว่า Urban Decay ต้องทำออกมาไม่ผิดหวังต่อสาวๆอยู่แล้ว เพราะมีความแน่นของเม็ดสีและตัวผลิตภัณฑ์อื่นๆของเขาก็ยังเป็นที่ยอมรับและนิยมอย่างมากในหมู่สาวๆ ลองไปดูสวอทสีกันก่อนดีกว่าเลยค่ะ
4. Lorac Pro Palette : Lorac — Perfect Color Payoff
(ราคา $44 : ประมาณ 1,584 บาท)
หมวดต่อมานั้นต้องเป็นพาเลตนี้เลยค่ะ Lorac Pro พาเลต เพราะเป็นพาเลตที่มีเม็ดสีแน่นชัด เกลี่ยง่ายและติดทน หากเทียบกับแบรนด์อื่นแล้วพาเลตนี้ถือว่ามีเนื้อสีที่นุ่มมาก เวลาทาลงไปที่เปลือกตาแล้วนั้นก็อยู่ทนมากด้วยเช่นกัน โดยส่วนตัวแล้วเคยใช้พาเลตนี้โดยไม่ได้ลงไพรเมอร์ ก็ปรากฎว่าสีไม่หลุดค่ะ อาจจะมีเลือนหายไปบาง แต่น้อยมากจริงๆ อย่างไรก็ตาม สีกากเพชรบางสีอาจจะมี fall out เวลาลงขอแนะนำให้แตะทีละน้อย จะพอช่วยได้ค่ะ
สำหรับโทนสีของพาเลตนี้ ก็ยังคงความเป็น warm tone เหมือนเดิม จะมีทั้งหมด 16 สีด้วยกันค่ะ ไปดูสวอทสีกันได้เลย
5. 35o Palette : Morphe — Perfect Priced
(ราคา $23 ประมาณ 828 บาท)
สำหรับหมวดสุดท้าย พาเลตสุดคุ้ม คุ้มค่า คุ้มราคา คุ้มปริมาณ คุ้มคุณภาพ ต้องยกให้พาแลตนี้เลยค่ะ 35o Palette ของ Morphe ก่อนอื่นเลยต้องบอกก่อนว่า ราคาที่กล่าวมาข้างต้นเป็นราคาสำหรับในประเทศสหรัฐอเมริกา และเนื่องจากว่าเราได้พรีออเดอร์มา เพราะแบรนด์นี้ยังไม่มีในประเทศไทย ราคาที่ได้จึงอยู่ที่ประมาณ 1,600 - 1,700 ค่ะ (ราคาที่อัพขึ้นสูง เป็นไปได้มากว่า 35o palette นี้ ขายดีมาก out of stock ตลอด และเป็นพาเลตที่หายากมากๆด้วยเช่นเดียวกันค่ะ) ในที่นี้จะขออิงกับราคาที่ได้มานะคะ สำหรับความคุ้มค่า คุ้มราคานั้น เนื่องจากพาเลตนี้มีทั้งหมด 35 สี กับราคา 1600 บาท หารออกมาก็จะตกอยู่เพียง หลุมละ 45 บาทเท่านั้นเองค่ะ ถือว่าถูกมากๆหากเทียบกับแบรนด์อื่นๆ นอกจากนี้พาเลตนี้ยังมีทั้งสีแมตและแบบชิมเมอร์ในตัวเดียว พูดได้ว่ามีพาเลตนี้พาเลตเดียวก็แต่งได้ทุคลุคแล้วค่ะ
ในสีของ 35o palette จะเป็นสีน้ำตาล ส้มๆ ทองๆ ออกไปทาง warm tone ค่ะ เนื้อสีของพาเลตนี้ ก็ถือได้ว่าโอเคมาก สีแน่นและชัดอยู่พอสมควร อย่างไรก็ตามเนื้อสีของ morphe มีความต่างกันไปในแต่ละหลุมสี ไม่ค่อยมีความเป็นมาตราฐานเท่าไหร่นัก บางสีเนื้อชัด เกลี่ยง่าย บางสีก็มีความแข็งและเกลี่ยยาก สีกากเพชรบางตัวมีความคมชัด แต่ก็มี fall out บางค่ะ แต่โดยรวมแล้วถือว่าโอเคในระดับนึงเลยค่ะ ยังไงก็ไปดูสวอทสีกันเลยค่ะ
เป็นยังไงกันบ้างค่ะเพื่อนๆ หวังว่ารีวิวในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆไม่มากก็น้อย ถ้าชอบรีวิวนี้ เพื่อนๆสามารถติดตามพวกเราได้ที่ my profile ข้างล่างนี้เลยนะคะ ♡
♡ YOUTUBE :
http://bit.ly/fxxkbeautysubbie
♡ INSTAGRAM :
http://bit.ly/fxxkbeautyIG
♡ FACEBOOK page :
http://bit.ly/fxxkbeautyFB
REVIEW: 5 อายเชโดว์พาเลตสุด Perfect ที่ทุกคนควรมี! | FK♡ (CR)
สวัสดีค่ะ ฝนกับกานนะคะ การแต่งหน้าเนี่ยะแน่นอนว่า อายแชโดว์พาเลตก็เป็นไอเท็มที่ must have สุดๆเลยใช่ม้าา แต่ว่ามันมีมากมายซะเหลืออออเกิน เพื่อนๆอาจจะกำลังสับสน วุ่นวายใจว่าจะซื้ออันไหนดี อันไหนคุ้มกัน วันนี้พวกเราก็เลยจะมารีวิว 5 อายแชโดว์พาเลตที่ตอบโจทย์ทุกๆ ความต้องการของเพื่อนๆกันค่ะ
โดยพวกเราจะแบ่งเป็น 5 หมวดหมู่ซึ่งก็คือ
1. Perfect for Traveling - พาเลตที่พกพาไปเที่ยวได้สวยๆ กะทัดรัด แข็งแรงทนทาน
2. Perfect Packaging - พาเลตที่มีแพกเกจยอดเยี่ยม สวยหรู ดูดีมีระดับ
3. Perfect for Day to Night - พาเลตที่สามารถใช้ได้ทั้งลุคเปรี้ยวแซ่บตอนกลางคืน และลุคธรรมชาติในตอนกลางวัน
4. Perfect Color Payoff - พาเลตที่มีเม็ดสี แน่นชัด เกลี่ยง่าย และติดทน
5. Perfect Priced - พาเลตสุดคุ้ม คุ้มค่า คุ้มราคา คุ้มปริมาณ คุ้มคุณภาพ
เอาล่ะหลังจากทราบกันแล้วว่ามีหมวดหมู่อะไรบ้าง เราก็มาดูกันดีกว่าว่า พาเลตไหนตอบโจทย์กับหมวดหมู่ไหน พร้อมกับสวอทสีให้ดูแบบละเอียดยิบ ทั้งบนผิวสีขาวเหลืองและผิวสองสีค่า ว่าแล้วก็มาเริ่มกันเลยดีกว่า
เอาล่ะหลังจากทราบกันแล้วว่ามีหมวดหมู่อะไรบ้าง เราก็มาดูกันดีกว่าว่า พาเลตไหนตอบโจทย์กับหมวดหมู่ไหน พร้อมกับสวอทสีให้ดูแบบละเอียดยิบ ทั้งบนผิวสีขาวเหลืองและผิวสองสีค่า ว่าแล้วก็มาเริ่มกันเลยดีกว่า
1. Naked Basic Palette : Urban Decay — Perfect for Traveling
(ราคา $29 : ประมาณ 1,044 บาท)
สำหรับหมวดหมู่แรกนั้นต้องยกให้ Naked Basic ของ Urban Decay พาเลตนี้เลย เพราะเป็นอะไรที่ตอบโจทย์มาก เนื่องจากว่าไซส์ของพาเลตนี้นั้น เล็ก กะทัดรัด พกพาสะดวก อีกทั้งยังแข็งแรงทนทาน เวลาพกไปไหนด้วยจึงมั่นใจได้ว่า อายเชโดว์จะไม่แตก ไม่พังอย่างแน่นอนค่ะ
หากพูดถึงสีของพาเลตนี้ จะมีอยู่ด้วยกัน 6 สีค่ะ และด้วยความที่เป็นเบสิค มันจึงใช้ได้กับทุกวัน ยิ่งไปกว่านั้นพาเลตนี้ยังสามารถครีทได้ทั้งลุคเบาๆและลุคแบบหนักๆ ถือว่าสามารถครอบคลุมได้ในระดับนึงกันเลยทีเดียวค่ะ ยังไงก็ไปดูสวอทสีกันเลยดีกว่าค่า
2. Tartelette Palette in Bloom : Tarte — Perfect Packaging
(ราคา $45 : ประมาณ 1620 บาท)
Tartelette Palette in Bloom ของ Tarte เหมาะมากสำหรับพาเลตที่มีแพกเกจยอมเยี่ยม สวยหรู ดูดีมีระดับ เพราะตัวแพกเกจจิ้งของมันนั้นเป็นลายกลีบดอกไม้ เพิ่มความดูดีมีระดับด้วยตลับสีทอง ดูหรูหรา นอกจากนั้นเวลาเปิดพาเลตนี้ออกมาแล้ว จะมีกลิ่นหอม เป็นกลิ่น chocolate อีกด้วยค่ะ
ในเรื่องของสีนั้นจะมีทั้งหมด 12 สีด้วยกัน สีของพาเลตนี้จะออกแนว warm tone เหมาะมากสำหรับลุคแบบ Glam นิดนึงค่ะ เนื้อสีของตัวนี้ก็ถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียว เพราะค่อนข้างมีเม็ดสีที่แน่น ติดทนและพวกสีกากเพชรเองก็ไม่ได้ fall out ด้วย ไปดูสวอทสีกันเลยค่ะ
3. Naked Smoky Palette : Urban Decay — Perfect for Day to Night
(ราคา $54 : ประมาณ 1,944 บาท)
มาถึงหมวดหมู่ที่สามกันแล้ว พาเลตที่สามารถใช้ได้ทั้งลุคสาวเปรี้ยวแซ่บตอนกลางคืนและลุคธรรมชาติตอนกลางวันแล้วนั้น ต้องนี้เลยค่ะ Naked Smoky พาเลตของ Urban Decay เนื่องจากหมวดสีในพาเลตนี้เนี่ยมีทั้งแบบโทนอ่อนๆ ออกน้ำตาลทองๆ สำหรับลุคธรรมชาติ และ สีโทนเข้ม ไม่ว่าจะเป็นสีดำ สีเงิน หรือแม้แต่เทา ก็ดูเหมาะมากๆสำหรับลุคสาวเปรี้ยวค่ะ ถึงแม้ว่าพาเลตนี้จะเรียกว่า smoky ก็ตาม แต่ถือว่าโทนสีของมันออกมาได้ครบถ้วนมากๆ เพราะจริงๆแล้วคำว่า smoky เอง สามารถเป็นได้ทั้งลุคแบบดูแกลมๆ ธรรมชาติๆ หรือว่าจะออกร็อคๆ แซ่บๆไปเลยก็ได้ ตัวแพกเกจจิ้งของพาเลตนี้เองนั้น ยังแข็งแรงทนทาน สวยดูดีมีระดับอีกด้วยค่ะ
สีของพาเลตนี้มีทั้งหมด 12 สี โทนของสีก็จะเป็นประมาณที่ได้กล่าวไปข้างต้น สำหรับเม็ดสีและเนื้อสีนั้น แน่นอนว่า Urban Decay ต้องทำออกมาไม่ผิดหวังต่อสาวๆอยู่แล้ว เพราะมีความแน่นของเม็ดสีและตัวผลิตภัณฑ์อื่นๆของเขาก็ยังเป็นที่ยอมรับและนิยมอย่างมากในหมู่สาวๆ ลองไปดูสวอทสีกันก่อนดีกว่าเลยค่ะ
4. Lorac Pro Palette : Lorac — Perfect Color Payoff
(ราคา $44 : ประมาณ 1,584 บาท)
หมวดต่อมานั้นต้องเป็นพาเลตนี้เลยค่ะ Lorac Pro พาเลต เพราะเป็นพาเลตที่มีเม็ดสีแน่นชัด เกลี่ยง่ายและติดทน หากเทียบกับแบรนด์อื่นแล้วพาเลตนี้ถือว่ามีเนื้อสีที่นุ่มมาก เวลาทาลงไปที่เปลือกตาแล้วนั้นก็อยู่ทนมากด้วยเช่นกัน โดยส่วนตัวแล้วเคยใช้พาเลตนี้โดยไม่ได้ลงไพรเมอร์ ก็ปรากฎว่าสีไม่หลุดค่ะ อาจจะมีเลือนหายไปบาง แต่น้อยมากจริงๆ อย่างไรก็ตาม สีกากเพชรบางสีอาจจะมี fall out เวลาลงขอแนะนำให้แตะทีละน้อย จะพอช่วยได้ค่ะ
สำหรับโทนสีของพาเลตนี้ ก็ยังคงความเป็น warm tone เหมือนเดิม จะมีทั้งหมด 16 สีด้วยกันค่ะ ไปดูสวอทสีกันได้เลย
5. 35o Palette : Morphe — Perfect Priced
(ราคา $23 ประมาณ 828 บาท)
สำหรับหมวดสุดท้าย พาเลตสุดคุ้ม คุ้มค่า คุ้มราคา คุ้มปริมาณ คุ้มคุณภาพ ต้องยกให้พาแลตนี้เลยค่ะ 35o Palette ของ Morphe ก่อนอื่นเลยต้องบอกก่อนว่า ราคาที่กล่าวมาข้างต้นเป็นราคาสำหรับในประเทศสหรัฐอเมริกา และเนื่องจากว่าเราได้พรีออเดอร์มา เพราะแบรนด์นี้ยังไม่มีในประเทศไทย ราคาที่ได้จึงอยู่ที่ประมาณ 1,600 - 1,700 ค่ะ (ราคาที่อัพขึ้นสูง เป็นไปได้มากว่า 35o palette นี้ ขายดีมาก out of stock ตลอด และเป็นพาเลตที่หายากมากๆด้วยเช่นเดียวกันค่ะ) ในที่นี้จะขออิงกับราคาที่ได้มานะคะ สำหรับความคุ้มค่า คุ้มราคานั้น เนื่องจากพาเลตนี้มีทั้งหมด 35 สี กับราคา 1600 บาท หารออกมาก็จะตกอยู่เพียง หลุมละ 45 บาทเท่านั้นเองค่ะ ถือว่าถูกมากๆหากเทียบกับแบรนด์อื่นๆ นอกจากนี้พาเลตนี้ยังมีทั้งสีแมตและแบบชิมเมอร์ในตัวเดียว พูดได้ว่ามีพาเลตนี้พาเลตเดียวก็แต่งได้ทุคลุคแล้วค่ะ
ในสีของ 35o palette จะเป็นสีน้ำตาล ส้มๆ ทองๆ ออกไปทาง warm tone ค่ะ เนื้อสีของพาเลตนี้ ก็ถือได้ว่าโอเคมาก สีแน่นและชัดอยู่พอสมควร อย่างไรก็ตามเนื้อสีของ morphe มีความต่างกันไปในแต่ละหลุมสี ไม่ค่อยมีความเป็นมาตราฐานเท่าไหร่นัก บางสีเนื้อชัด เกลี่ยง่าย บางสีก็มีความแข็งและเกลี่ยยาก สีกากเพชรบางตัวมีความคมชัด แต่ก็มี fall out บางค่ะ แต่โดยรวมแล้วถือว่าโอเคในระดับนึงเลยค่ะ ยังไงก็ไปดูสวอทสีกันเลยค่ะ
เป็นยังไงกันบ้างค่ะเพื่อนๆ หวังว่ารีวิวในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆไม่มากก็น้อย ถ้าชอบรีวิวนี้ เพื่อนๆสามารถติดตามพวกเราได้ที่ my profile ข้างล่างนี้เลยนะคะ ♡
♡ YOUTUBE : http://bit.ly/fxxkbeautysubbie
♡ INSTAGRAM : http://bit.ly/fxxkbeautyIG
♡ FACEBOOK page : http://bit.ly/fxxkbeautyFB