กำลังเป็นกระแสที่ผู้คนให้ความสนใจอยู่ตอนนี้ ถึงกรณีการตรวจเลือกกองเกินเข้าประจำการ ที่มีทั้งสีสันกองเชียร์ อารมณ์เศร้าและดีใจ ในการจับใบดำ-ใบแดง ซึ่งเป้าที่แฟนๆ สนใจอยู่ที่กลุ่มดารา นักแสดงที่ส่วนใหญ่ขอใช้สิทธิ์ผ่อนผัน ขณะที่หลายคนต้องเข้าเป็นทหารอย่าง ชิน ชินวุฒ ในปีนี้ ล่าสุด "ป้าแจ๋ว-ยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์" ขอร่วมกระแสสนุกๆ ด้วยการโพสต์รำลึกความหลัง ครั้งเคยไปจับใบแดง และเข้าเป็นทหารเกณฑ์ พร้อมโชว์หลักฐาน เป็นสมุดประจำตัวทหารกองหนุน ดังนี้
"เคยเป็นทหารกับเขาเหมือนกัน เมื่อถึงวันเกณฑ์ เดินไปคนเดียวไปจับใบดำใบแดง เพราะผ่อนผันจนเรียนจบมหาวิทยาลัยแล้ว จับเป็นคนสุดท้าย ฉลากใบสุดท้าย เป็น #ใบแดง #ทร.2 555 ได้เป็นทหารเกณฑ์ผลัดสอง ยื่นวุฒิการศึกษาปริญญาตรี จาก 2 ปี เหลือ เป็นทหารแค่ 1 ปี ชีวิตแจ๋วแหววเปลี่ยนไปในทันที"
หลายคนคิดว่าเป็นทหารคงจะลำบาก จากประสบการณ์ที่ได้เป็นทหารมาหนึ่งปี ขอบอกว่าไม่ลำบากอย่างที่คิด จากวันแรกที่นั่งรถบัสทหารเรือไปยังโรงเรียนพลทหารที่ เกร็ดแก้ว สัตหีบ เมื่อถึงที่อย่างแรกก็คือตัดผมอย่างทรงที่เห็นในรูป คือไถเตียนหมดหัว แล้วเหลือข้างบนไว้นิดเดียว ไปถ่ายรูปติดบัตร จากนั้นก็ไปรับชุดกะลาสีสีกากี กับเสื้อขาวคอกลมสองชุดและชุดกีฬาอีกสองชุดและรองเท้าไอ้โอ๊บหนึ่งคู่ แล้วไปแบ่งแยกคัดเลือกให้ไปอยู่ตามกองร้อยต่างๆฉันได้ไปอยู่กองร้อยที่เก้า ความที่เรียนจบปริญญาตรีมาก็เลยถูกเลือกให้เป็นหัวหน้าหมวดมีลูกน้องในหมวด 40 คน พลทหารใหม่นั้นมาจากจังหวัดต่างๆทั้งภาคกลางภาคใต้และภาคอิสานนิดหน่อย ทั้งหมดจะถูกฝึกร่วมกันเป็นเวลาสองเดือนที่โรงเรียนพลทหาร แต่จะได้พักกลับบ้านเจ็ดวันหลังจากฝึกได้หนึ่งเดือนแรก การฝึกนั้นในเดือนแรกครึ่งวันเช้าถึงเที่ยงก็จะฝึกเดินให้พร้อมเพรียงกันวิ่งให้พร้อมเพรียงกันหันซ้ายขวาให้พร้อมเพรียงกัน ง่ายง่ายแค่นี้แหละ แต่ยากสำหรับบางคนเพราะการเดินให้พร้อมเพรียงกันหันทางซ้ายหันทางขวาให้พร้อมเพรียงกันนั้นมันยากสำหรับเขา ผู้ไม่เคยมีระเบียบวินัยมาก่อน ส่วนตอนบ่ายก็ไปเรียนหนังสือวิชาทหารเบื้องต้นในอาคารเรียน
สิ่งที่ฉันคิดได้ในขณะที่ฝึกอยู่นั้นว่าความลำบากสำหรับทหารใหม่ส่วนมากก็คือความมีวินัยและความพร้อมเพรียงกันแบบทหาร การกินอยู่ที่มีระเบียบและตรงเวลา ตั้งแต่ตื่นจนถึงตอนนอน ซึ่งไม่ยากเย็นอะไรเลยถ้าตั้งใจทำ แต่คนมาจากต่างถิ่นต่างทิศ ต่างความคิดกัน ระดับการศึกษาไม่เท่ากัน ร้อยพ่อพันแม่ เลยทำให้เรื่องเดินแถวง่ายๆกลายเป็นเรื่องยากขึ้นมาทันที ใครจะคิดว่าแม้การพูดจาสื่อสารกันก็ลำบาก เพราะทหารใหม่จากภาคใต้บางคนพูดได้แต่ภาษายาวี พูดกลางไม่ได้ หัวหน้าหมวดมือใหม่อย่างฉันก็เริ่มจะท้อแท้บ้างละ เพราะการที่จะให้ลูกน้องที่มาจากที่ต่างกันอยู่รวมกันอย่างมีระเบียบนั้นมันติดขัดตรงการสื่อสารให้เข้าใจกันนี่เอง รวมทั้งการแบ่งพรรคแบ่งพวกตามถิ่นที่อยู่ ไม่ยอมปรองดองกัน ก็มีส่วนทำให้การอยู่รวมกันเป็นหมวดหมู่นั้นยากยิ่งขึ้น...
จากโพสต์ดังกล่าว มีแฟนๆ เข้ามาแสดงความเห็นในเชิงชื่นชมจำนวนมาก ถึงการเป็นตัวอย่างที่ดีของการทำหน้าที่ชายไทย ขณะที่ชายไทยหลายคนพยายามจะหลบหนี ไม่มารายงานตัว ซึ่งบางคนกล่าวว่า ป้าแจ๋วมีความแมนกว่าดาราบางคนด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวยังไม่จบเพียงเท่านี้ ป้าแจ๋วเตรียมอัพเดทเหตุการณ์สนุกๆ ในสมัยเกณฑ์ทหารต่อจากโพสต์นี้อีกครั้ง
**จขกท.ขอนำเสนอเรื่องดาราวงการบันเทิงที่ติดเกณฑ์ทหารที่ในปีนี้ นอกจากบูม และหลุยห์ 2 พระเอกแห่งวิกหมอชิด และนักร้องและนักแสดงค่าย GMM อย่าง ชิน ชินวุฒิ แล้ว ยังมีบุคคลหนึ่งประชาชนที่ยังไม่ทราบ เขาเป็นผู้กำกับละครชื่อดังแห่งวิกพระราม 4 เป็นผู้กำกับคู่บุญของ ณเดชน์ ,ญาญ่า,เจมส์ จิรายุ และค่ายคุณแหม่ม ธิติมา ครั้งหนึ่งในสมัยหนุ่ม เขาได้ถูกเกณฑ์และติดทหารมาแล้ว เขาได้เล่าประสบการณ์ที่เขาได้ซ้อมเป็นทหารว่าไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอย่างที่เขา คิดเอาไว้ เขาคือป้าแจ๋ว ยุทธนา นั้นเอง
จขกท.อยากให้ดาราชายต้นสังกัดช่อง 3 ดูป้าแจ๋ว ยุทธนา เป็นตัวอย่างครับ ว่า การเกณฑ์ทหารมันไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวอย่างที่คุณคิดครับ**
รู้หรือไม่ครับ ว่าผู้กำกับละครมากความสามารถแห่งวิก 3 อย่าง "ป้าแจ๋ว ยุทธนา" เคยถูกเกณฑ์และติดเป็นทหารมาแล้ว !
กำลังเป็นกระแสที่ผู้คนให้ความสนใจอยู่ตอนนี้ ถึงกรณีการตรวจเลือกกองเกินเข้าประจำการ ที่มีทั้งสีสันกองเชียร์ อารมณ์เศร้าและดีใจ ในการจับใบดำ-ใบแดง ซึ่งเป้าที่แฟนๆ สนใจอยู่ที่กลุ่มดารา นักแสดงที่ส่วนใหญ่ขอใช้สิทธิ์ผ่อนผัน ขณะที่หลายคนต้องเข้าเป็นทหารอย่าง ชิน ชินวุฒ ในปีนี้ ล่าสุด "ป้าแจ๋ว-ยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์" ขอร่วมกระแสสนุกๆ ด้วยการโพสต์รำลึกความหลัง ครั้งเคยไปจับใบแดง และเข้าเป็นทหารเกณฑ์ พร้อมโชว์หลักฐาน เป็นสมุดประจำตัวทหารกองหนุน ดังนี้
"เคยเป็นทหารกับเขาเหมือนกัน เมื่อถึงวันเกณฑ์ เดินไปคนเดียวไปจับใบดำใบแดง เพราะผ่อนผันจนเรียนจบมหาวิทยาลัยแล้ว จับเป็นคนสุดท้าย ฉลากใบสุดท้าย เป็น #ใบแดง #ทร.2 555 ได้เป็นทหารเกณฑ์ผลัดสอง ยื่นวุฒิการศึกษาปริญญาตรี จาก 2 ปี เหลือ เป็นทหารแค่ 1 ปี ชีวิตแจ๋วแหววเปลี่ยนไปในทันที"
หลายคนคิดว่าเป็นทหารคงจะลำบาก จากประสบการณ์ที่ได้เป็นทหารมาหนึ่งปี ขอบอกว่าไม่ลำบากอย่างที่คิด จากวันแรกที่นั่งรถบัสทหารเรือไปยังโรงเรียนพลทหารที่ เกร็ดแก้ว สัตหีบ เมื่อถึงที่อย่างแรกก็คือตัดผมอย่างทรงที่เห็นในรูป คือไถเตียนหมดหัว แล้วเหลือข้างบนไว้นิดเดียว ไปถ่ายรูปติดบัตร จากนั้นก็ไปรับชุดกะลาสีสีกากี กับเสื้อขาวคอกลมสองชุดและชุดกีฬาอีกสองชุดและรองเท้าไอ้โอ๊บหนึ่งคู่ แล้วไปแบ่งแยกคัดเลือกให้ไปอยู่ตามกองร้อยต่างๆฉันได้ไปอยู่กองร้อยที่เก้า ความที่เรียนจบปริญญาตรีมาก็เลยถูกเลือกให้เป็นหัวหน้าหมวดมีลูกน้องในหมวด 40 คน พลทหารใหม่นั้นมาจากจังหวัดต่างๆทั้งภาคกลางภาคใต้และภาคอิสานนิดหน่อย ทั้งหมดจะถูกฝึกร่วมกันเป็นเวลาสองเดือนที่โรงเรียนพลทหาร แต่จะได้พักกลับบ้านเจ็ดวันหลังจากฝึกได้หนึ่งเดือนแรก การฝึกนั้นในเดือนแรกครึ่งวันเช้าถึงเที่ยงก็จะฝึกเดินให้พร้อมเพรียงกันวิ่งให้พร้อมเพรียงกันหันซ้ายขวาให้พร้อมเพรียงกัน ง่ายง่ายแค่นี้แหละ แต่ยากสำหรับบางคนเพราะการเดินให้พร้อมเพรียงกันหันทางซ้ายหันทางขวาให้พร้อมเพรียงกันนั้นมันยากสำหรับเขา ผู้ไม่เคยมีระเบียบวินัยมาก่อน ส่วนตอนบ่ายก็ไปเรียนหนังสือวิชาทหารเบื้องต้นในอาคารเรียน
สิ่งที่ฉันคิดได้ในขณะที่ฝึกอยู่นั้นว่าความลำบากสำหรับทหารใหม่ส่วนมากก็คือความมีวินัยและความพร้อมเพรียงกันแบบทหาร การกินอยู่ที่มีระเบียบและตรงเวลา ตั้งแต่ตื่นจนถึงตอนนอน ซึ่งไม่ยากเย็นอะไรเลยถ้าตั้งใจทำ แต่คนมาจากต่างถิ่นต่างทิศ ต่างความคิดกัน ระดับการศึกษาไม่เท่ากัน ร้อยพ่อพันแม่ เลยทำให้เรื่องเดินแถวง่ายๆกลายเป็นเรื่องยากขึ้นมาทันที ใครจะคิดว่าแม้การพูดจาสื่อสารกันก็ลำบาก เพราะทหารใหม่จากภาคใต้บางคนพูดได้แต่ภาษายาวี พูดกลางไม่ได้ หัวหน้าหมวดมือใหม่อย่างฉันก็เริ่มจะท้อแท้บ้างละ เพราะการที่จะให้ลูกน้องที่มาจากที่ต่างกันอยู่รวมกันอย่างมีระเบียบนั้นมันติดขัดตรงการสื่อสารให้เข้าใจกันนี่เอง รวมทั้งการแบ่งพรรคแบ่งพวกตามถิ่นที่อยู่ ไม่ยอมปรองดองกัน ก็มีส่วนทำให้การอยู่รวมกันเป็นหมวดหมู่นั้นยากยิ่งขึ้น...
จากโพสต์ดังกล่าว มีแฟนๆ เข้ามาแสดงความเห็นในเชิงชื่นชมจำนวนมาก ถึงการเป็นตัวอย่างที่ดีของการทำหน้าที่ชายไทย ขณะที่ชายไทยหลายคนพยายามจะหลบหนี ไม่มารายงานตัว ซึ่งบางคนกล่าวว่า ป้าแจ๋วมีความแมนกว่าดาราบางคนด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวยังไม่จบเพียงเท่านี้ ป้าแจ๋วเตรียมอัพเดทเหตุการณ์สนุกๆ ในสมัยเกณฑ์ทหารต่อจากโพสต์นี้อีกครั้ง
**จขกท.ขอนำเสนอเรื่องดาราวงการบันเทิงที่ติดเกณฑ์ทหารที่ในปีนี้ นอกจากบูม และหลุยห์ 2 พระเอกแห่งวิกหมอชิด และนักร้องและนักแสดงค่าย GMM อย่าง ชิน ชินวุฒิ แล้ว ยังมีบุคคลหนึ่งประชาชนที่ยังไม่ทราบ เขาเป็นผู้กำกับละครชื่อดังแห่งวิกพระราม 4 เป็นผู้กำกับคู่บุญของ ณเดชน์ ,ญาญ่า,เจมส์ จิรายุ และค่ายคุณแหม่ม ธิติมา ครั้งหนึ่งในสมัยหนุ่ม เขาได้ถูกเกณฑ์และติดทหารมาแล้ว เขาได้เล่าประสบการณ์ที่เขาได้ซ้อมเป็นทหารว่าไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอย่างที่เขา คิดเอาไว้ เขาคือป้าแจ๋ว ยุทธนา นั้นเอง
จขกท.อยากให้ดาราชายต้นสังกัดช่อง 3 ดูป้าแจ๋ว ยุทธนา เป็นตัวอย่างครับ ว่า การเกณฑ์ทหารมันไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวอย่างที่คุณคิดครับ**