สำหรับผมการเดินทางก็เหมือนกับการไปชาร์ตแบตให้ชีวิต ถ้านับจากทริปที่แล้ว คือ ทริปเชียงใหม่ ก็ 2 เดือนแล้ว…ถึงเวลาที่ผมต้องออกไปชาร์ตแบตให้ชีวิตอีกครั้งแล้วละ
แปะกระทู้ทริปเชียงใหม่ไว้ด้วยเลยละกัน
http://ppantip.com/topic/34736971
แถมทริปอื่นให้ด้วย
ไปชาร์ตแบตให้ชีวิต ที่ เชียงคาน
http://ppantip.com/topic/34576667
Backpack เที่ยวสังขละบุรี 2วัน 1คืน ก็เที่ยวได้
http://ppantip.com/topic/33837642
One Day Trip เกาะแสมสาร
http://ppantip.com/topic/33326238
เที่ยวน้ำตกเอราวัณ 2วัน 1คืน
http://ppantip.com/topic/33191796
ทริปเกาะเสม็ด เที่ยวถ่ายรูปชิลๆ
http://ppantip.com/topic/32919336
ปัญหาเดิมๆของผม คือเรื่องเวลาครับ แค่วันหยุดสุดสัปดาห์อันน้อยนิดของเราจะไปเที่ยวที่ไหนได้ คำถามนี้กระจายไปสู่เพื่อนๆ และคำตอบที่ได้มาเยอะเลยก็คือ “เขาแหลมหญ้า” นี่แหละ เมื่อหลายเสียงบอกต่อมาเราก็ต้องไปพิสูจน์ด้วยตาตัวเองครับ
และเมื่อถึงวันหยุดแล้ว เราก็เตรียมตัวเดินทางสู่จุดหมายของเรา รอบนี้เดินทางด้วยรถตู้ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยวินรถตู้ครัวคุณป้า
เดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง เราก็มาถึงที่หมายครับ รถตู้ส่งเราที่หน้าทางเข้าอุทยาน ที่เหลือเราต้องเดินต่อไปเองครับ
ก่อนจะเข้าไปสู่จุดมุ่งหมายที่แท้จริง เราต้องจ่ายค่าเข้าอุทยานก่อน คนละ 40 บาท รวมทั้งไปติดต่อเช่าเต้นท์ ณ ที่ทำการอุทยานด้วย แนะนำสำหรับใครจะมาค้างคืนให้โทรจองไว้ก่อนก็ดีครับ
หลักฐานการเช่าเต้นท์
และแล้วเราก็เดินมาจนถึงทะเล และ จุดกางเต้นท์ของเราอยู่โซนท่าเรือถ้าไม่นับว่าอากาศที่ร้อนขนาดตากผ้า 10 นาทีแห้ง...ตรงนี้ถือว่าโลเคชั่นดีมากๆครับ
หลังจากเจ้าหน้าที่กางเต็นท์เสร็จแล้วเราก็เก็บสัมภาระเข้าเต็นท์ เตรียมจะออกไปสำรวจเขาแหลมหญ้าอย่างจริงจัง การเตรียมตัวของเราในที่นี้ก็คือการเตรียมท้องแหละครับ ที่นี่ก็มีร้านอาหารไว้บริการ กินให้อิ่มแล้วค่อยเที่ยวกัน
เอาล่ะ อิ่มท้องเรียบร้อยแล้ว...ได้เวลาออกสำรวจ ตามหาเสน่ห์ของเขาแหลมหญ้าที่ใครๆก็พูดถึงกันแล้วล่ะครับ ทริปนี้ผมเก็บภาพโดย กล้อง Fuji X-T10 กับเลนส์ 18-55 และ 35mm F1.4 ของค่ายฟูจิ เหมือนเดิม ส่วนสีและโทนภาพปรับแต่งตามอารมณ์ครับ
จุดแรกคือบริเวณท่าเรือนี่เลย ใครมาเขาแหลมหญ้าก็ต้องเห็น
จุดที่ดึงดูดสายตาของบริเวณท่าเรือนี้ ก็คงจะเป็นหอคอยสีขาว(หรือศาลา หรืออะไรสักอย่าง) ที่ตั้งอยู่สุดปลายทาง ใครๆก็มาถ่ายรูป มาเช็คอินที่มุมนี้กัน
ข้างๆกันนั้นเป็นท่าเรือเก่า ที่ดึงดูดสายตาให้ผมหามุมดีๆถ่ายรูปเก็บเอาไว้
มองไปอีกฝั่งของท่าเรือ จะเป็นสะพานไม้ที่ทอดยาวออกไป ตรงนี้เป็นจุดถ่ายรูปยอดฮิตของใครหลายๆคนที่มาเที่ยวเขาแหลมหญ้า ด้วยความที่เป็นสะพานไม้ ทำให้มันมีเสน่ห์อยู่ในตัวของมันครับ
หลังจากถ่ายรูปพร้อมอาบแดดกันอย่างเต็มที่บริเวณท่าเรือ ผมก็ไปตามหาเสน่ห์ต่อไปของเขาแหลมหญ้า โดยเดินไปตามเส้นทางสำรวจธรรมชาติ
ระหว่างทาง หลังจากเข้าสู่เส้นทางสำรวจธรรมชาติได้สักพัก ผมได้เจอจุดชมวิวสวยๆที่จะมองเห็นวิวมุมสูงของบริเวณท่าเรือ มองเห็นท้องทะเลกว้างๆและที่เห็นเกาะอยู่ไกลๆนั่นก็คือ เกาะเสม็ดนั่นเองครับ
กลับเข้าสู่เส้นทางศึกษาธรรมชาติกันต่อ ณ จุดนี้ ถ้าจะพูดให้ดูดีคือ มีความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ แต่ถ้าให้พูดความรู้สึกตอนนั้นคือ ร้อนอิ๊บอ๋าย เลยครับ
แต่หลังจากออกจากป่ามาได้ สิ่งที่ผมได้เห็นก็คือ...สิ่งที่ผมคิดว่าเป็นเสน่ห์ของเขาแหลมหญ้าที่โดนใจผมมากที่สุดแล้ว จุดที่ผมมองเห็นทะเลสวยๆได้จากภูเขา จุดที่เป็นเขาแหลมหญ้าที่ใครๆก็พูดถึงกัน
ถ้าบอกไปจะเชื่อมั้ยล่ะ ว่าวิวที่ผมเห็น ณ จุดนี้ทำให้ผมลืมไปชั่วขณะเลยว่าอากาศตอนนั้นมันร้อนขนาดไปไหน(แต่แค่แป๊บเดียวจริงๆนะ แล้วก็กลับมาร้อนเหมือนเดิม )
เมื่อมีขึ้นก็ต้องมีลง เราเดินลงจากภูเขาเมื่อกี้ สู่ส่วนที่เป็นทะเลของเขาแหลมหญ้า ที่นี่น้ำใสมากๆและลมทะเลก็พัดคลื่นมาแรงมากเช่นกัน ทำเอาผมเปียกโดยไม่ต้องลงน้ำเลย
หากเดินตามเส้นทางเรียบชายทะเล จะพาเรากลับสู่บริเวณท่าเรือ ระหว่างทางจุดไหนที่เดินไม่สะดวกก็จะมีทางเดินไม้ทำไว้ให้ครับ
เวลาล่วงเลยไป แสงแดดก็เริ่มจะเบาลง หลายๆคนเลือกที่จะนั่งเล่น หรือเล่นน้ำอยู่ริมทะเล
แต่!! รู้หรือไม่ครับ ว่าเวลาแบบนี้แหละที่คนชอบถ่ายรูปต้องการ นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมเดินย้อนกลับไปยังจุดที่เป็นภูเขาอีกครั้ง
เวลาแบบนี้เราจะได้เห็น แสงที่ส่องมายังทุ่งหญ้า สวยงามตามแบบที่ผมชอบเลย นอกจากนี้ยังเป็นเวลาและสถานที่ที่ดีมากๆหากใครอยากจะถ่ายภาพ Portrait ด้วยครับ
อีกอย่างที่ควรค่าแก่การรอคอย ไหนๆก็มาแล้ว จุดนี้เป็นจุดที่ดีมากๆสำหรับการนั่งรอชมพระอาทิตย์ตก
ระหว่างนั้นคือ การนั่งรอเวลาที่พระอาทิตย์จะลับขอบฟ้า แสงสว่างค่อยๆน้อยลงๆ จนกระทั่งแสงตะวันจางลับลาไป สำหรับผมมันคือบรรยากาศที่ดีที่สุดของทริปนี้เลยครับ
ตะวันลับขอบฟ้า เทเลทับบี้บอกลา (คนละเรื่องแล้วมั้ง)...เอาเป็นว่าถึงเวลาที่เราต้องพักผ่อนกันแล้วละครับ
นอนหลับเต็มที่ พอถึงเวลาฟ้าสางสัญชาตญาณบอกว่าให้ตื่นเช้าสักหน่อยเถอะ มีเรื่องดีดีรออยู่อีกนิดนึง
ตื่นนอนแล้วออกมานอกเต้น พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้นเลยครับ แต่คนตื่นเช้ากว่าเราก็มีไม่ใช่น้อยเลย สิ่งนึงที่ได้จากการตื่นเช้าที่เขาแหลมหญ้านี้คือ อากาศดีมากๆครับ ไม่ร้อน มีลมพัดมาเรื่อยๆ เย็นกำลังดีเลย
และสิ่งที่ดีขึ้นไปอีกคือ เรามองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นได้จากมุมนี้เลยครับ เป็นเวลาแห่งการซึมซับบรรยากาศยามเช้าที่ดีมากๆ ก่อนที่เราจะเตรียมตัวเดินทางกลับช่วงสายๆ
ทั้งหมดนี้คือบางส่วนของการไปพักผ่อนที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า จ.ระยอง ถ้าถามว่าสำหรับผมเสน่ห์ของที่นี่คืออะไร ผมคงต้องตอบว่าทั้งหมดที่เล่ามาเลยครับ ความสวยงาม บรรยากาศของทะเลและภูเขาในที่เดียวกัน แถมยังเดินทางไม่ไกลจากกรุงเทพฯด้วย อยากให้ทุกคนได้มาสัมผัสสิ่งเหล่านี้เองแล้วจะรู้ว่าเสน่ห์ของเขาแหลมหญ้าคืออะไร ทำไมใครๆรวมถึงตัวผมเองถึงอยากให้ลองมาเที่ยวกัน
สุดท้ายผมขอบคุณทุกคนที่อ่านมาจนจบนะครับ ถ้าใครอยากพูดคุยหรือสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับทริปนี้หรือทริปอื่นๆก็เข้ามาถามได้ที่ Facebook
https://www.facebook.com/journeygallery/
ไว้ถ้ามีทริปดีดีครั้งหน้าจะมาเล่าสู่กันอ่านใหม่นะครับ
[CR] เขาแหลมหญ้ามีอะไร…ทำไมใครๆก็แนะนำ
สำหรับผมการเดินทางก็เหมือนกับการไปชาร์ตแบตให้ชีวิต ถ้านับจากทริปที่แล้ว คือ ทริปเชียงใหม่ ก็ 2 เดือนแล้ว…ถึงเวลาที่ผมต้องออกไปชาร์ตแบตให้ชีวิตอีกครั้งแล้วละ
แปะกระทู้ทริปเชียงใหม่ไว้ด้วยเลยละกัน http://ppantip.com/topic/34736971
แถมทริปอื่นให้ด้วย
ไปชาร์ตแบตให้ชีวิต ที่ เชียงคาน http://ppantip.com/topic/34576667
Backpack เที่ยวสังขละบุรี 2วัน 1คืน ก็เที่ยวได้ http://ppantip.com/topic/33837642
One Day Trip เกาะแสมสาร http://ppantip.com/topic/33326238
เที่ยวน้ำตกเอราวัณ 2วัน 1คืน http://ppantip.com/topic/33191796
ทริปเกาะเสม็ด เที่ยวถ่ายรูปชิลๆ http://ppantip.com/topic/32919336
ปัญหาเดิมๆของผม คือเรื่องเวลาครับ แค่วันหยุดสุดสัปดาห์อันน้อยนิดของเราจะไปเที่ยวที่ไหนได้ คำถามนี้กระจายไปสู่เพื่อนๆ และคำตอบที่ได้มาเยอะเลยก็คือ “เขาแหลมหญ้า” นี่แหละ เมื่อหลายเสียงบอกต่อมาเราก็ต้องไปพิสูจน์ด้วยตาตัวเองครับ
และเมื่อถึงวันหยุดแล้ว เราก็เตรียมตัวเดินทางสู่จุดหมายของเรา รอบนี้เดินทางด้วยรถตู้ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยวินรถตู้ครัวคุณป้า
เดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง เราก็มาถึงที่หมายครับ รถตู้ส่งเราที่หน้าทางเข้าอุทยาน ที่เหลือเราต้องเดินต่อไปเองครับ
ก่อนจะเข้าไปสู่จุดมุ่งหมายที่แท้จริง เราต้องจ่ายค่าเข้าอุทยานก่อน คนละ 40 บาท รวมทั้งไปติดต่อเช่าเต้นท์ ณ ที่ทำการอุทยานด้วย แนะนำสำหรับใครจะมาค้างคืนให้โทรจองไว้ก่อนก็ดีครับ
หลักฐานการเช่าเต้นท์
และแล้วเราก็เดินมาจนถึงทะเล และ จุดกางเต้นท์ของเราอยู่โซนท่าเรือถ้าไม่นับว่าอากาศที่ร้อนขนาดตากผ้า 10 นาทีแห้ง...ตรงนี้ถือว่าโลเคชั่นดีมากๆครับ
หลังจากเจ้าหน้าที่กางเต็นท์เสร็จแล้วเราก็เก็บสัมภาระเข้าเต็นท์ เตรียมจะออกไปสำรวจเขาแหลมหญ้าอย่างจริงจัง การเตรียมตัวของเราในที่นี้ก็คือการเตรียมท้องแหละครับ ที่นี่ก็มีร้านอาหารไว้บริการ กินให้อิ่มแล้วค่อยเที่ยวกัน
เอาล่ะ อิ่มท้องเรียบร้อยแล้ว...ได้เวลาออกสำรวจ ตามหาเสน่ห์ของเขาแหลมหญ้าที่ใครๆก็พูดถึงกันแล้วล่ะครับ ทริปนี้ผมเก็บภาพโดย กล้อง Fuji X-T10 กับเลนส์ 18-55 และ 35mm F1.4 ของค่ายฟูจิ เหมือนเดิม ส่วนสีและโทนภาพปรับแต่งตามอารมณ์ครับ
จุดแรกคือบริเวณท่าเรือนี่เลย ใครมาเขาแหลมหญ้าก็ต้องเห็น
จุดที่ดึงดูดสายตาของบริเวณท่าเรือนี้ ก็คงจะเป็นหอคอยสีขาว(หรือศาลา หรืออะไรสักอย่าง) ที่ตั้งอยู่สุดปลายทาง ใครๆก็มาถ่ายรูป มาเช็คอินที่มุมนี้กัน
ข้างๆกันนั้นเป็นท่าเรือเก่า ที่ดึงดูดสายตาให้ผมหามุมดีๆถ่ายรูปเก็บเอาไว้
มองไปอีกฝั่งของท่าเรือ จะเป็นสะพานไม้ที่ทอดยาวออกไป ตรงนี้เป็นจุดถ่ายรูปยอดฮิตของใครหลายๆคนที่มาเที่ยวเขาแหลมหญ้า ด้วยความที่เป็นสะพานไม้ ทำให้มันมีเสน่ห์อยู่ในตัวของมันครับ
หลังจากถ่ายรูปพร้อมอาบแดดกันอย่างเต็มที่บริเวณท่าเรือ ผมก็ไปตามหาเสน่ห์ต่อไปของเขาแหลมหญ้า โดยเดินไปตามเส้นทางสำรวจธรรมชาติ
ระหว่างทาง หลังจากเข้าสู่เส้นทางสำรวจธรรมชาติได้สักพัก ผมได้เจอจุดชมวิวสวยๆที่จะมองเห็นวิวมุมสูงของบริเวณท่าเรือ มองเห็นท้องทะเลกว้างๆและที่เห็นเกาะอยู่ไกลๆนั่นก็คือ เกาะเสม็ดนั่นเองครับ
กลับเข้าสู่เส้นทางศึกษาธรรมชาติกันต่อ ณ จุดนี้ ถ้าจะพูดให้ดูดีคือ มีความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ แต่ถ้าให้พูดความรู้สึกตอนนั้นคือ ร้อนอิ๊บอ๋าย เลยครับ
แต่หลังจากออกจากป่ามาได้ สิ่งที่ผมได้เห็นก็คือ...สิ่งที่ผมคิดว่าเป็นเสน่ห์ของเขาแหลมหญ้าที่โดนใจผมมากที่สุดแล้ว จุดที่ผมมองเห็นทะเลสวยๆได้จากภูเขา จุดที่เป็นเขาแหลมหญ้าที่ใครๆก็พูดถึงกัน
ถ้าบอกไปจะเชื่อมั้ยล่ะ ว่าวิวที่ผมเห็น ณ จุดนี้ทำให้ผมลืมไปชั่วขณะเลยว่าอากาศตอนนั้นมันร้อนขนาดไปไหน(แต่แค่แป๊บเดียวจริงๆนะ แล้วก็กลับมาร้อนเหมือนเดิม )
เมื่อมีขึ้นก็ต้องมีลง เราเดินลงจากภูเขาเมื่อกี้ สู่ส่วนที่เป็นทะเลของเขาแหลมหญ้า ที่นี่น้ำใสมากๆและลมทะเลก็พัดคลื่นมาแรงมากเช่นกัน ทำเอาผมเปียกโดยไม่ต้องลงน้ำเลย
หากเดินตามเส้นทางเรียบชายทะเล จะพาเรากลับสู่บริเวณท่าเรือ ระหว่างทางจุดไหนที่เดินไม่สะดวกก็จะมีทางเดินไม้ทำไว้ให้ครับ
เวลาล่วงเลยไป แสงแดดก็เริ่มจะเบาลง หลายๆคนเลือกที่จะนั่งเล่น หรือเล่นน้ำอยู่ริมทะเล
แต่!! รู้หรือไม่ครับ ว่าเวลาแบบนี้แหละที่คนชอบถ่ายรูปต้องการ นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมเดินย้อนกลับไปยังจุดที่เป็นภูเขาอีกครั้ง
เวลาแบบนี้เราจะได้เห็น แสงที่ส่องมายังทุ่งหญ้า สวยงามตามแบบที่ผมชอบเลย นอกจากนี้ยังเป็นเวลาและสถานที่ที่ดีมากๆหากใครอยากจะถ่ายภาพ Portrait ด้วยครับ
อีกอย่างที่ควรค่าแก่การรอคอย ไหนๆก็มาแล้ว จุดนี้เป็นจุดที่ดีมากๆสำหรับการนั่งรอชมพระอาทิตย์ตก
ระหว่างนั้นคือ การนั่งรอเวลาที่พระอาทิตย์จะลับขอบฟ้า แสงสว่างค่อยๆน้อยลงๆ จนกระทั่งแสงตะวันจางลับลาไป สำหรับผมมันคือบรรยากาศที่ดีที่สุดของทริปนี้เลยครับ
ตะวันลับขอบฟ้า เทเลทับบี้บอกลา (คนละเรื่องแล้วมั้ง)...เอาเป็นว่าถึงเวลาที่เราต้องพักผ่อนกันแล้วละครับ
นอนหลับเต็มที่ พอถึงเวลาฟ้าสางสัญชาตญาณบอกว่าให้ตื่นเช้าสักหน่อยเถอะ มีเรื่องดีดีรออยู่อีกนิดนึง
ตื่นนอนแล้วออกมานอกเต้น พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้นเลยครับ แต่คนตื่นเช้ากว่าเราก็มีไม่ใช่น้อยเลย สิ่งนึงที่ได้จากการตื่นเช้าที่เขาแหลมหญ้านี้คือ อากาศดีมากๆครับ ไม่ร้อน มีลมพัดมาเรื่อยๆ เย็นกำลังดีเลย
และสิ่งที่ดีขึ้นไปอีกคือ เรามองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นได้จากมุมนี้เลยครับ เป็นเวลาแห่งการซึมซับบรรยากาศยามเช้าที่ดีมากๆ ก่อนที่เราจะเตรียมตัวเดินทางกลับช่วงสายๆ
ทั้งหมดนี้คือบางส่วนของการไปพักผ่อนที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า จ.ระยอง ถ้าถามว่าสำหรับผมเสน่ห์ของที่นี่คืออะไร ผมคงต้องตอบว่าทั้งหมดที่เล่ามาเลยครับ ความสวยงาม บรรยากาศของทะเลและภูเขาในที่เดียวกัน แถมยังเดินทางไม่ไกลจากกรุงเทพฯด้วย อยากให้ทุกคนได้มาสัมผัสสิ่งเหล่านี้เองแล้วจะรู้ว่าเสน่ห์ของเขาแหลมหญ้าคืออะไร ทำไมใครๆรวมถึงตัวผมเองถึงอยากให้ลองมาเที่ยวกัน
สุดท้ายผมขอบคุณทุกคนที่อ่านมาจนจบนะครับ ถ้าใครอยากพูดคุยหรือสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับทริปนี้หรือทริปอื่นๆก็เข้ามาถามได้ที่ Facebook https://www.facebook.com/journeygallery/
ไว้ถ้ามีทริปดีดีครั้งหน้าจะมาเล่าสู่กันอ่านใหม่นะครับ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น