ผมได้ดูในรูปแบบของ Live View ที่เมเจอร์รัชโยธินนะครับ ไม่ได้ไปดูถึง Tokyo Dome
Reportจะมาจากวันสุดท้าย เพราะมีเหตุการณ์ให้พูดถึงเยอะกว่า

เริ่มด้วยอนิเมชั่นที่ให้สมาชิก µ's ทั้ง9คน พาไปแนะนำสถานที่จัดคอนเสิร์ต 5ครั้งก่อนหน้านี้ ได้แก่
Yokohama Blitz ใช้จัดคอนเสิร์ตครั้งแรก µ's First Love Live! ในวันที่ 19 ก.พ. 2012
Tokyo Dome City Hall  ใช้จัดคอนเสิร์ตครั้งที่2  µ's New Year LoveLive! 2013 ในวันที่ 3 ม.ค. 2013
Pacifico Yokohama　ใช้จัดคอนเสิร์ตครั้งที่3 µ's 3rd Anniversary Love Live! ในวันที่ 6 มิ.ย. 2013
Saitama Super Arena ใช้จัดคอนเสิร์ตครั้งที่4 µ's →NEXT LoveLive! 2014 ~ENDLESS PARADE~ ในวันที่ 8-9 ก.พ. 2014
และคอนเสิร์ตครั้งที่5 µ's Go→Go! LoveLive! 2015 ~Dream Sensation!~ ในวันที่ 31ม.ค.-1ก.พ. 2015
แล้วก็มาจบที่ Tokyo Dome สถานที่ที่ใช้จัดคอนเสิร์ตครั้งนี้ µ's Final LoveLive! ~µ'sic Forever♪~


จากนั้นก็เริ่มการแสดงคอนเสิร์ต โดยสมาชิก µ's ทั้ง9คนขึ้นเวทีมาด้วยชุดเพลง Bokura no LIVE kimi to LIFE  





แล้วก็เริ่มแสดง 2เพลง Bokura no LIVE kimi to LIFE  และ Bokura wa Ima no Naka de
จบ2เพลงแรกก็เข้าสู่ช่วง MC ในช่วงนี้ อุจิดะ อายะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ในขณะที่กำลังMCในส่วนของเธอเอง นิตตะ เอมิ และโทคุอิ โซระต้องพยายามช่วยกันปลอบจนเธอสามารถMCต่อจนจบได้
MC กันครบ ก็เริ่มการแสดงต่ออีก3 เพลง Natsuiro Egao de 1,2 Jump! , Wonderful Rush ,Yuujou no Change

ช่วงที่พักเวที เพื่อรอสาวๆเปลี่ยนชุด จะมีวีดีโอ µ's Chronicle ให้ผู้ชมดูระหว่างรอคั่นเวที

พอวีดีโอ µ's Chronicle Part1จบ สาวๆก็เปลี่ยนชุดเสร็จพอดี แล้วก็เข้าสู่การแสดงถัดไป สมาชิก µ's ขึ้นเวทีมาในชุดเพลง Mogyutto love de Sekkin Chu! แต่ในช่วงนี้ นันโจ โยชิโนะไม่ได้ร่วมแสดงด้วยเพราะอาการบาดเจ็บที่เข่าที่ยังไม่หายดี แต่การแสดงก็ต้องดำเนินต่อไปด้วยสมาชิกที่เหลือทั้ง 8คน  แน่นอนว่าต้องเริ่มด้วยเพลงMogyutto love de Sekkin Chu!  ต่อด้วย Baby maybe koi no button และ Music S.T.A.R.T!!

พัก MC แป๊ปนึง ก่อนจะต่อด้วยช่วง Medley เพลงที่ปรากฏในอนิเมซีซั่น1และ2 เริ่มด้วย  Yume no Tobira , Susume Tomorrow , Wonder Zone
และนันโจก็กลับมาอีกครั้งบนรถสำหรับให้สมาชิก μ's ขึ้นไปโบกมือทักทายคนดูรอบทางเดินArena  พร้อมกับตุ๊กตาอัลปาก้า2ตัว ซึ่งเรียกเสียงกรี๊ดเสียงเฮฮาจากคนดูได้เปนอย่างมาก  ช่วงที่ μ's อยู่บนรถ  µ's ร้องเพลง  Korekara no Someday และ Love wing bell
พอได้เวลากลับขึ้นเวที นันโจก็ต้องกลับไปที่หลังเวทีอีกครั้ง สมาชิกก็ที่เหลือก็เริ่มแสดงต่อด้วยเพลง Dancing stars on me! ในเพลงนี้จะมีการเปลี่ยนลานผ้ากันเปื้อนเปนลายฟักทองฮัลโลวีนเพื่อให้เข้ากับธีมของเพลง แล้วก็ต่อด้วย Happy Maker จากนั้นก็ได้เวลาเปลี่ยนชุดอีกรอบ

คั่นเวทีด้วย μ's Chronicle Part2 แล้วก็เข้าสู่ช่วงของยูนิท Printemps , Lily White , BiBi

เริ่มจาก Printemps 3เพลง ได้แก่  WAO-WAO Powerful day , NO EXIT ORION , sweet & sweet holiday ในช่วง MC จะมีพูดถึงตอนจัดอีเวนท์ครั้งแรกที่มีผู้ร่วมงานเพียง 80คน  

ต่อด้วย Lily White ในชุดที่ดูราวกับว่าปกคลุมด้วยฟองอากาศ ในเพลงแรก Omoide Ijou ni Naritakute จะแสดงที่คนละจุดของเวทีกัน แล้วก็ขึ้นรถวนรอบทางเดินรอบArenaในเพลงที่2 Futari Happiness ช่วงอยู่บนรถ ริปปี้เกือบล้มบนรถ และคุซซึนก็เป่าฟองสบู่ไม่สำเร็จอีกครั้งหลังจากไม่สำเร็จไปแล้วรอบนึงในวันแรก จากนั้นก็มารวมตัวกันตรงกลางเวทีในเพลงที่3  Shunjou Romantic
ช่วงMC คุซุดะ ไอนะจะพูดถึงชุดที่ปกคลุมด้วยฟองอากาศแล้วเธอรู้สึกเหมือนกับว่าจะลอยได้ แล้วก็กระโดดดึ๋งๆอยู่2-3ที เปนภาพที่น่ารักและทำให้หัวใจผมละลายได้เลย

แล้วก็ถึงเวลาของBiBi ซึ่งนันโจมาร่วมแสดงด้วย เริ่มด้วยเพลง Cutie Panther แล้วต่อด้วยเพลง Psychic Fire ซึ่งผมว่าเปนเพลงที่เชียร์มันส์ที่สุดในคอนนี้ละ โดยเฉพาะตอนที่ให้คนดูตะโกน BiBi BiBi อยู่สิบกว่าวินาทีนั้น เปนช่วงเวลาที่ผมรู้สึกสะใจมากๆ  
ช่วงMC โซระมารุจะขอให้นันโจนำในการคอล BiBi นันโจนำอยู่สักพัก ก็ส่งต่อให้ไพล์ แล้วไพล์ส่งกลับมาที่โซระมารุอีกที แล้วก็ปิดท้ายยูนิทBiBiด้วยเพลง Sakkaku CROSSROADS

คั่นเวทีด้วย μ's Chronicle Part 3

พอวีดีโอpart 3จบ สมาชิกทุกคนก็ขึ้นเวทีมาในชุดเพลง Angelic Angel ซึ่งเปนชุดและทรงผมที่ผมชอบมาก โดยเฉพาะตรงทรงผมของมิโมรินที่ทำผมปลอมเพิ่ม โดยการมัดให้เปนพอนเดอริงด้วย แล้วก็เริ่มด้วยเพลงโปรดของผมจากภาค movie เพลง Angelic Angel หลังเพลงจบ ชิกะโกะสนใจพอนเดอริงของมิโมริน แล้วก็ลองแตะดูด้วย ถ้าเปนวันแรก คนแตะจะเปนคุซซึน



ในเมื่อใส่ชุดกิโมโนประยุกต์มาแล้ว เพลงต่อไปจะเปนเพลงไหนไม่ได้ ถ้าไม่ใช่เพลง Kaguya no Shiro de Odoritai ซึ่งมีการเปลี่ยน intro เล็กน้อย เหมือนทำเพื่อให้สาวๆได้มีเวลาเดินขึ้นบันไดไปยังเวทีด้านบน พอขึ้นไปถึงก็เข้า Intro ตามปกติแล้วก็เริ่มการแสดง
ในระหว่างการแสดงเพลง Kaguya no Shiro de Odoritai ชิกะโกะกับริปปี้มีแอบจูบกันโดยเอาพัดบัง ถ้าดูใน Live View จะเปนช็อตที่อยู่ริมซ้ายของเฟรม แล้วก็เห็นแค่วินาทีเดียว แต่ว่าแค่นั้นก็เพียงพอสำหรับความฟินของเหล่าๆแฟนรินฮานาโยะแล้ว



Credit : https://twitter.com/sktr_sgt/status/716233199299354624/photo/1

จากนั้นก็ต่อด้วย Datte Datte aa Mujou แล้วก็พักเวทีด้วย  μ's Chronicle Part 4

ช่วงถัดมาจะเปนเพลงจากภาค Movie ของแต่ละชั้นปี เริ่มด้วยเพลงของปี1 Hello,Hoshi o Kazoete โดยมีการทำฉากให้เหมือนกับในอนิเมด้วย อย่างเช่น เสาไฟฟ้าที่รินไปเดินหมุนวน1รอบ  แท๊กซี่ที่มากินั่ง แล้วก็โต๊ะเก้าอี้ที่ฮานาโยะนั่งจิบชา  ในส่วนของการแสดง เริ่มมาริปปี้จะใส่ชุดแบบเดียวกับในอนิเม (ผมก็ไม่รู้ว่าเรียกว่าชุดอะไร) ส่วนไพล์กับชิกะโกะจะใส่โค้ทเหมือนที่มากิกับฮานาโยะใส่ในอนิเม แต่พอเข้าท่อนที่สอง ไพล์กับชิกะโกะจะถอดโค้ททิ้ง ซึ่งก็เปนช็อตที่ทำเอาคนดูร้องเฮกันทั่วหน้า

ต่อด้วยเพลงสุดรั่วของปี3  ? <-- HEARTBEAT นันโจ คุซซึน และโซระมารุปรากฏตัวในชุดตอนที่เต้นอยู่ในทีวี แล้วก็แสดงความรั่วได้อย่างไม่ทำให้ผมผิดหวัง ผมชอบมากๆ โดยเฉพาะตอนที่โซระมารุกับคุซซึนผลัดกันดึงแก้มนันโจ  แล้วก็ตอนเข้าท่อนสองที่คุซซึนลุกขึ้นจากโซฟาแล้วก็ปาตุ๊กตาทิ้ง

ตามด้วยเพลงปี2 Future Style แล้วก็พักเวทีด้วย  μ's Chronicle Part 5

สมาชิกทุกคนกลับขึ้นเวทีมาในชุดเพลง Sunny Day Song โดยเริ่มด้วยเพลง Sore wa Bokutachi no Kiseki , Mi wa Mu'sic no Mi และ Super LOVE = Super LIVE!
ในระหว่างช่วงดนตรีของเพลง Super LOVE = Super LIVE! คุซซึนวิ่งเข้ามากอดนันโจที่ยืนอยู่กลางเวที ตามด้วยโซระมารุกับชิกะโกะ  ช็อตที่คุซซึนวิ่งเข้ามากอดนันโจ ผมถึงกับหลุดตะโกนเฮออกมาดังๆเลย ทั้งปกติไม่ใช่คนชอบเฮเวลาอยู่ในคอน ชอบโฟกัสที่อิริยาบทของศิลปินมากกว่า แต่ช็อตนี้แรงจริง เปนช็อตที่ผมประทับใจมาก และเชื่อทุกคนที่ได้เห็นก็ประทับใจมากเช่นกัน ถึงขั้นมีคนเอาไปวาดเปนfanartกันเลยทีเดียว





Credit : https://twitter.com/yakaze1604/status/716561923488100352

ต่อมานันโจต้องกลับไปหลังเวทีอีกครั้ง แล้วก็ต่อด้วยเพลงสุดมันส์ No Brand Girls ที่ทำให้คนดูพร้อมใจกันตะโกน Hai Hai Hai กันอย่างพร้อมเพรียง แล้วก็ตามด้วยเพลง Kira-Kira Sensation หลังจากนั้นนันโจก็กลับขึ้นมาบนเวทีอีกรอบ

แล้วก็ถึงเพลงจากภาคmovieที่ผมรอคอย Sunny Day Song ก่อนเริ่มมีการซ้อมคอลกันก่อนเพื่อความสวยงามตอนแสดงจริง พอเริ่มแสดงคนดูก็พร้อมใจคอลตามที่ซ้อมไว้ เปนเพลงที่สนุกมากๆอีกเพลงนึงในคอนนี้  จบเพลงสมาชิก µ's ก็กล่าวลาคนดู แล้วลงจากเวที  เข้าสู่ช่วงอังกอร์

ช่องอังกอร์เริ่มด้วยเพลง START DASH!!　แล้วก็ต่อด้วยเพลงชาติ Snow halation ซึ่งเมื่อถึงช่วงเปลี่ยนแท่งไฟจากสีขาวเปนสีส้ม ทุกคนก็พร้อมใจกันทำ จนเกิดภาพที่สวยงามมาก ยิ่งได้เห็นรูปตอนเปลี่ยนสีแท่งไฟจากโตเกียวโดม ถึงกับทำให้ผมขนลุกเลย ขนาดแค่เห็นในรูปยังอดขนลุกไม่ได้ แล้วคนที่อยู่ในโตเกียวโดม ณ เวลานั้นจะมีความรู้สึกที่ฟินขนาดไหน ทำเอาผมจินตนาการไม่ถูกเลยทีเดียว



จากนั้นก็ต่อด้วยเพลง Oh, Love&Peace! , Donna Toki mo Zutto แล้วก็เข้าสู่ช่วง MC ช่วงนี้สมาชิกแต่ละคนก็เริ่มร้องไห้กันแล้ว  แล้วก็เริ่มแสดงเพลงจาก Single ล่าสุด MOMENT RING จบเพลงก็ลงจากเวทีไปอีกครั้ง แต่คนดูก็รู้ว่ายังไม่จบ เพราะว่ายังไม่ได้ร้องเพลงที่สำคัญที่สุด ก็เลยยังตะโกนอังกอร์ๆ กันต่อ

แล้วบนจอLEDก็ขึ้นฉากสุดท้ายก่อนจะเข้าเพลงสุดท้ายในอนิเมภาค Movie ที่สมาชิก µ's ล้อมวงกันตะโกน ichi ni san yon go roku nana hachi kyu ซึ่งคนดูก็ไม่พลาดที่จะร่วมตะโกนไปด้วย

พอสิ้นสุดประโยค µ's Myujikku sutaa to~~~~~  สมาชิก µ's ก็ปรากฏตัวบนเวทีที่มีฉากประกอบเปนกลีบดอกไม้ที่บานออกมาเหมือนกับในอนิเมภาค Movie ฉากทำออกมาไม่เหมือนในอนิเม100% แต่แค่นี้ก็โอเคละ  แล้วก็เริ่มเพลงที่ทุกคนรอคอย Bokutachi wa hitotsu no hikari เพลงที่เนื้อหาแต่งขึ้นมาเพื่อใช้ปิดคอนเสิร์ตนี้





สมาชิก µ's ร้องเพลงนี้กันทั้งน้ำตา และคนดูทุกคนก็ตั้งใจร้องตามไปด้วย เมื่อเพลงจบ สมาชิก µ's ทุกคนก็โบกมือขอบคุณคนดู แล้วก็มีดนตรีของเพลง Bokutachi wa hitotsu no hikari เปิดประกอบ ซึ่งคนดูก็ยังคงร้องเพลงส่งสมาชิก µ's กันต่อไป พอถึงท่อนที่ร้องว่า ima ga saikouสมาชิกทุกคนก็จะร้องไปด้วยกัน  จนกระทั่งดนตรีจบ สมาชิกทุกคนก็จะยืนเรียงหน้ากระดาน และโค้งขอบคุณแฟนๆอีกครั้ง แล้วพื้นเวทีก็ค่อยพาสมาชิก µ's ลงจากเวทีไปอย่างช้าๆ เมื่อทุกคนลงไปจากเวที ก็เปนอันสิ้นสุดคอนเสิร์ตครั้งนี้อย่างสมบูรณ์แบบ



Credit : http://mantan-web.jp/gallery/2016/04/01/20160401dog00m200043000c/001.html  สำหรับรูปคอนเสิร์ตที่เอามาใช้ประกอบกระทู้
เพจ Love Live Philippines สำหรับ Timelineเหตุกาณ์ในคอนเสิร์ต เอามาใช้เปนแนวทางตอนเขียนรีพอร์ตได้ดีมาก

ต่อคห.1 ครับ