แม่เจินเจิน - เอก พอจะเข้าใจว่าทำไมคะแนนออกมา 40:10

หลายคนถามว่า คณะกรรมการใช้อะไรฟัง ทำไมถึงตัดสินออกมาค้านกับความเห็นของคนดูขนาดนี้
คำตอบก็คือ ใช้หูค่ะ แต่ต่างกันที่หูของคนดูทั่วไปกับหูของคณะกรรมการมีความละเอียดในการฟังไม่เท่ากัน

สำหรับคนทั่วไป ใครร้องได้เสียงสูง มีลูกคอ อารมณ์มา โชว์ดี ก็จะมองว่าเก่งแล้ว แต่สำหรับคณะกรรมการที่ตัดสินการร้องเป็นหลัก สิ่งเหล่านั้นที่คนดูมองว่าเก่ง จริงๆแล้วไม่ได้แปลว่าเก่งสำหรับกรรมการค่ะ แต่จะมีรายละเอียดทางเทคนิคลึกๆที่คนทั่วไปอาจจะฟังไม่ออก
ถ้าเป็นรายการที่เอาดาราศิลปินมาเป็นกรรมการตัดสิน ผลการตัดสินก็อาจจะออกมาใกล้เคียงกับคนดูมากขึ้น เพราะดาราศิลปินมักตัดสินจากอารมณ์ร่วมในการร้อง และโชว์เป็นส่วนใหญ่
แต่รายการนี้ กรรมการส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นแค่ศิลปิน แต่หลายท่านเป็นอาจารย์สอนร้องเพลงที่เรียนมาด้านนี้โดยตรง บางท่านก็เป็นอาจารย์ของดาราศิลปินอีกที เป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของดารานักร้องหลายๆคน เพราะฉะนั้นมาตรฐานการตัดสินก็จะอยู่ที่รายละเอียดเทคนิคการร้องมากกว่า

พื้นๆเลยที่แตกต่างระหว่างหูคนดูทั่วไป กับหูกรรมการ ก็คือความสามารถในการฟังและจับเสียงที่เพี้ยน ถ้าเอาประชาชนทั่วไปหลายๆคนมาร้องเพลงพร้อมกัน หรือเอาไปร้องคาราโอเกะ ส่วนมากทำนองจะเพี้ยนจนถ้าไม่มีเนื้อร้องก็จะแทบฟังไม่ออกว่าเป็นเพลงอะไร ซึ่งการร้องเพลงเพี้ยนก็เกิดจากหูที่ฟังระดับเสียงสูงต่ำผิดเพี้ยน ดังนั้น ถ้าประชาชนทั่วไปส่วนใหญ่ร้องเพลงเพี้ยน ก็หมายความว่าประชาชนทั่วไปส่วนใหญ่เวลาฟังเพลงจะแยกไม่ออกว่าเสียงไหนที่เพี้ยน เสียงไหนที่ไม่เพี้ยน เวลาคนทั่วไปฟังเสียง คนร้องต้องร้องเพี้ยนสูงกว่าหรือต่ำกว่าที่ควรจะเป็นประมาณ 2-3 ระดับเสียง ถึงจะเริ่มฟังออกว่าเพี้ยน แต่สำหรับหูคณะกรรมการหรือคนที่เรียนด้านนี้มาอย่างจริงจัง ร้องเพี้ยนแค่ครึ่งเสียงหรือเสี้ยวนึงของเสียงก็ฟังออกแล้วว่าเพี้ยน

ประเด็นหลักที่น่าจะเป็นสิ่งที่ดึงคะแนนของแม่เจินเจินหลงต่ำในมุมของเทคนิคการร้องก็คือ ลูกคอที่กว้างเกินไป
ลูกคอที่อยู่ในระดับที่พอดี จะเรียกว่า vibrato  แต่ลูกคอที่อยู่ในระดับกว้างเกินพอดีจะเรียกว่า warble ซึ่งในทางเทคนิคจะหมายความว่านักร้องคุมเสียงไม่ค่อยอยู่ ปกติแล้ว vibrato จะเป็นคลื่นระหว่างโน๊ตที่ห่างกันระหว่างครึ่งถึงหนึ่งเสียง แต่ที่ได้ยินจากแม่เจินเจิน ในบางจุด คลื่นลูกคอห่างกันมากถึง 2-3 เสียง จึงเข้าข่าย warble มากกว่า vibrato ซึ่งข้อนี้น่าจะทำให้คะแนนจากกรรมการหายไปเยอะ

นอกจากนี้แล้ว การผิดพลาดทางเทคนิคของการใช้ลูกคอ นำพาไปสู่ข้อผิดพลาดอื่นๆที่เป็นหลักสำคัญในการตัดสินการร้องเพลง
ข้อหนึ่งลูกคอที่กว้างเกินไป เป็นสาเหตุที่ทำให้ทำนองที่ร้องออกมานั้นเพี้ยน ซึ่งอย่างที่บอกไปตอนต้น คนดูทั่วไปถ้าไม่เพี้ยนมากจริงๆอาจจะฟังไม่ค่อยออก แต่สำหรับกรรมการ เพี้ยนนิดเดียวก็ฟังออกแล้ว
ข้อสอง เสียงที่ส่ายไปมาจากลูกคอที่กว้างเกินนั้นบางครั้งสามารถไปกลบคำร้อง จนทำให้ฟังเนื้อร้องบางส่วนไม่ชัดเจนได้ ซึ่งคำร้องที่ชัดเจนก็เป็นส่วนประกอบสำคัญในการร้องเพลง

ดังนั้น สรุปได้ว่า แม่เจินเจินโชว์ดี มีอารมณ์ร่วมกับเพลงมาก แต่ผิดพลาดทางเทคนิคของลูกคอ นำไปสู่เสียงบางจุดที่เพี้ยน และบางจุดที่คำร้องไม่ชัด
ในขณะที่เอก อาจมีอารมณ์ร่วมกับเพลงไม่กินใจเท่าแม่เจินเจิน แต่เทคนิคปลีกย่อยอื่นๆที่สำคัญต่อการร้องเพลงแทบหาที่ติไม่ได้
เมื่อโจทย์ของกรรมการคือ ให้คะแนนในการร้องเพลง ไม่ใช่ให้คะแนนตามความชอบของประชาชน ผลการตัดสินจึงออกมาแบบที่เห็น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่