จะไปบางกะเจ้า จะไปไง คนเดียว เที่ยวจะหนุกมั้ยจะอันตรายไปหรือเปล่า กลัวอ่ะ แต่เอาว่ะถ้าไม่ลองก็ไม่รู้ดิ ถ้าเรามัวแต่กลัว ก็ไม่รู้สิว่าความกล้าคืออะไร มันต้องได้ๆ ท่องไว้ๆ
จากถิ่นที่พำนัก คือ พระราม3 ที่ 23 จึงนั่ง รถเม 205 จะมาลงตลาดคลองเตย เลยถามพี่กระเป๋ารถเมว่าถ้าจะไปท่าเรือคลองเตย หนูจะต้องค่อรถไรไป พี่เค้าก็บอกมาว่าต้องเดินข้ามตลาดคลองเตยไปฝั่งตรงข้าม ไปต่อ รถเม สาย 4 หรือ 47 ก็จะถึงเลย เราเลยสงสัยว่าถ้าต้องนั่งรถเมไป มันจะนานหรือเปล่าเพราะใน Google ใช้เวลาพอสมควร พี่เค้าบอกโอ๊ยย 5นาทีก็ถึงถ้ารถไม่ติด (ห๊ะ อึ้งแปบ@@) เนี่ยผ่านไฟแดงไป 3 จุด ก็ถึง คือพี่เค้าอธิบาย พูดคุยกับเราดีมากเหมือนจะดีใจที่มีคนถามทาง ฮ่าๆ แล้วพอจะลง พี่เค้ายังชี้ทางให้อีก ว่าเนี่ยเดินทะลุตลาดไปขึ้นรถเมฝั่งตรงข้ามได้เลย (205 ที่ไป จะเป็นสายถนนตก-คลองเตยรถจอดป้ายสุดท้ายที่ตลาด ถ้าเป็นสายเดอะมอลล์-กรมศุลกากร ก็ต้องลองถามดูว่าต้องลงจุดไหน) อ่อค่ารถเม 6.50 บาทตลอดสาย ไอ้เราก็เดินดุ่มๆ มาทะลุตลาด ขึ้นจากฝั่งนั้นได้เลย ไม่ต้องข้ามฝั่ง ยืนอยู่แปบเดียว มีสาย 47 อุ้ยย เมฟรีด้วยดีจัง เอ๊ะ!! แต่รถเมฟรีจะไม่มีกระเป๋ารถ จะขึ้นดีมั้ยน๊า อ้อมีผู้โดยสารบนรถอยู่นี่หน่า ขึ้นไปปุ๊บ พี่ค่ะถ้าหนูจะไปท่าเรือคลองเตย ต้องลงป้ายไหนค่ะ พี่เค้าบอก อ่อป้ายสุดท้ายเลย เดี๋ยวลงพร้อมกัน ข้ามฟากมั้ยค่ะ อ่อ หนูจะไปบางกะเจ้าอ่ะค่ะ เค้าบอกอ่อต้องนั่งเรือข้ามฟากไป แล้วพี่เค้าก็พาเราเดินต่อไปยังท่าเรือ บอกว่าเรือเล็กจะมีตลอด ราคา 10 บาทต่อเที่ยว ต้องซื้อตั๋วก่อนลงเรือ เรือใหญ่ราคา 5 บาท บริการถึง ประมาณ สามทุ่มครึ่ง (ถ้าจำไม่ผิดนะ) แล้วก็ถ้าจะไปตลาดบางน้ำผึ้งหากนั่งมอไซต์ไปจะ ราคา 30 บาท ถ้าเช่า จักรยาน ราคา 80 บาท นี่ค่ะพี่เสื้อขาวใจดีที่ให้ข้อมูลการเดินทาง
บรรยากาศนั่งเรือข้ามฟากค่ะ เอ่อ พี่คนข้างหน้าเค้าเอาสุ่มไก่ไปด้วยนะ นั่งไปลมพัดสบายดีพร้อมน้ำสาดกระเซ็นโดนหน้าฉ่ำเลยค่ะ ฮ่าๆ แล้วตอนลงเรือ หรือขึ้นฝั่ง พี่ผู้หญิงเค้าก็ช่วยจับมือเราด้วยนะ คือดูเป็นมิตรอย่างมาก ขอบคุณมากๆเลย
พอมาถึง ก็จะเป็นท่าเรือ กำนันขาวค่ะ ราคาเช่าจักรยาน 80บาท /วัน 40บาท/ ชม.
-ถ้านักเรียนหรือนักศึกษา จะคิดราคา 60 บาท
-ถ้ากด Like page ของM-bike จะลด 10 บาท เหลือ 70 บาท/วัน
กรณีที่ไม่มีบัตร สามารถ จดชื่อและเบอร์โทรทิ้งไว้กับทางร้านได้ ค่ะ แล้วพี่เค้าจะอธิบายแผนที่ให้เราว่าไปจุดไหนบ้าง จากนั้นเลือกจักรยานคะ พี่พนักงานก็บริการดีนะค่ะ ให้เราลองว่า ขี่เป็นไง เบาะสูงไปหรือเปล่า ดูเป็นกันเองค่ะ
**บางที่ มีน้ำดื่มให้ 1 ขวดด้วยนะค่ะ เห็นจากป้ายระหว่าง แล้วก็อาจจะมีวางเงินมัดจำหรือวางบัตรไว้ในการเช่าจักรยาน อันนี้เห็นจากรีวิวอื่นๆ ค่ะ
เริ่มแรกเลยขอปั่นไป พิพิธภัณฑ์ปลากัดไทยก่อนเลย เพราะใกล้สุด อิอิ เกือบหลงเหมือนกันนะ อันนี้ภาพจากด้านในนะค่ะ แต่ก่อนถึงจะมีป้ายบอกทาง
นี่!!วิธีจอดจักรยาน เอิ่มมไม่ใช่ล่ะ นี่เป็นตัวอย่างที่ไม่ควรทำต่างหาก
นี่ค่ะจอดเป็นปกติเหมือนคนอื่นๆเค้าเถอะ
น้องปลาบางส่วนค่ะ
บรรยากาศภายใน
ข้างในยังมีร้านกาแฟ ให้ได้นั่งดื่มพร้อมชมน้องปลานะค่ะ แต่ไม่ได้ถ่ายมาเพราะยังไม่ได้ไปชิม ฮ่าๆ
หลังจากนั้นไปต่อที่ สวนศรีนครเขื่อนขันธ์
บรรยากาศร่มรื่นมากค่ะ ลมพัดเย็นสบาย
จะมีเด็กปั่นจักรยานขายอาหารปลาด้วยนะ
เริ่มหิวน้ำล่ะ พอออกมาเลยแวะซื้อน้ำเปล่า ตอนแรกคิดว่าจะแพงเหมือนที่ท่องเที่ยวอื่นๆ แต่ที่จริงราคาก็ทั่วไปๆ ไม่แพงเกิน คือ ขวดละ 8 บาท อันนี้คือน้ำไม่เย็น แต่ถ้าน้ำเย็นจะเท่ากันหรือเปล่าไม่รู้ เพราะไม่ได้ถาม ฮ่าๆ แล้วไปหากาแฟในบ้าน เนื่องจากเห็นรีวิวมา และเจ้าของร้านเช่าจักรยานเค้าบอกอร่อย เลยต้องตามไปชิม
เราลองกาแฟมะพร้าวน้ำหอมปั่น ตอนแรกที่กินก็ เย็นๆ ได้รสกาแฟ ไม่หวาน รู้สึกจะมีเนื้อมะพร้าวด้วยเล็กๆเนื่องจากผ่านการปั่น แต่พอทิ้งไว้สักพัก ซึ่งเหลือประมาณครึ่งแก้ว รู้สึกว่า เฮ้ยยย ทำไมอร่อยขึ้นว่ะ หรือว่ากินไปตอนแรกนี่เพราะหิวน้ำ !!
ไปต่อดีกว่า มีแรงล่ะ ปั่นตรงไปเรื่อยๆ เอ๊ะทำไม ไม่เห็นจะมีนักปั่นเลยอ่ะ เปิดแผนที่ๆ ดูไม่ออกอ่ะ แวะถามลุงแถวๆนั้นเค้าบอก ถ้าจะไปต้องเข้าทางซุ้มประตูวัดที่เลยมาหน่ะ จะเป็นทางด้านหน้า ฮ่าๆ ก็คนมันปั่นเพลินนี่น่า เอาล่ะ ถึงล่ะตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง ที่นี่มี ห้องน้ำ จุดให้เช่าจักรยาน ไว้บริการด้วยค่ะ
ร้านนี้เข้าไปนั่งชิล ได้เลย แต่ไม่เข้า เพราะเพิ่งจะกินมา
โมจิ ไอศกรีม ไม่ได้ลอง ไม่เห็นคนขาย ฮ่าๆ
จะไปบ้านธูปต่อ แต่งง แผนที่ เลยถามพี่วินมอไซต์ หน้าทางเข้าเค้าเลี้ยวซ้ายตรงนี้ 1 เลี้ยวซ้ายอีกที ตรงประตูวัด แล้วถึงสามแยกเลี้ยวซ้ายอีกที เจอสะพาน ลงสะพาน แล้วบ้านธูปจะอยู่ทางขวามือ จำได้มั้ย ผ่านไป 3 ซ้ายนะ แล้วเค้าก็ยิ้มๆ คุยอยู่แปบนึง ก่อนจะ ซ้าย ซ้าย ซ้าย ขวา ฮ่าๆ
ขวาเนี่ยแหละ ที่ไม่รู้ว่าต้องเข้าจากจุดไหน เลยแวะถามร้านเช่าจักรยานข้างทาง สรุปว่า เพิ่งเลยมานิดเดียวเองเพราะทางเข้าจะเล็กมาก
นี่ค่ะ ถึงแล้ว มีลุงกล่าวสวัสดีครับ ทักทาย ยิ้มแย้มแจ่มใส ด้วย
ลุง:ลุงเค้าถาม ทำไมไม่มาเช้าๆ ตอนนี้ของหมดแล้ว
เรา: อ่าวเหรอค่ะ แล้วปกติปิด กี่โมงค่ะ
ลุง : ปิดบ่าย 3
เราดูเวลาตอนนี้ก็ 4 โมงแล้ว ฮ่าๆ ก็เราไม่รู้หนิ ก็เข้ามาเฉยๆ เลย แต่เค้าก็ให้เข้าไปถ่ายรูปได้นะค่ะ แล้วคุยกับเจ้าของที่นั่น เค้าบอกว่า มีทำผ้ามัดย้อม แล้วแต่ ขนาด เล็ก กลาง ใหญ่ 60 80 100 หรือทำธูปหอมก็จะอีกราคานึง (คือที่จริงเค้าบอกข้อมูลมาแหละ แต่ความจำในหัวมีน้อย ฮ่าๆ)
ที่นี่ยังมีรับกลุ่มสัมมนาด้วยนะ มีบริการของว่างด้วย เลือกเซต เล็ก กลาง ใหญ่ จำนวนกี่มื้อ ทั้งเป็นแบบจำนวน ชั่วโมงก็ได้ค่ะ มีวิทยากรสอนทำผ้ามัดย้อม ธูป ราคาขึ้นอยู่กับว่า ต้องการอะไรบ้าง เช่น อาหารว่าง จักรยาน เป็นต้น (เคยรับ 50 คนมาแล้ว)
หากสนใจจัดสัมมนาติดต่อได้ค่ะ ไม่ว่าจะจัดเป็นวันธรรมดา หรือ เสาร์อาทิตย์
นอกจากนี้ยังมีอีกหลายโซนให้ได้นั่งกันนะค่ะ ห้องน้ำสะอาดค่ะ ถ้าไม่ได้มาร่วมกิจกรรม มีค่าบริการ 5 บาทค่ะ เห็นจากป้าย ฮ่าๆ
จากนั้นก็ปั่นไปเรื่อยๆเลยจ้า เกือบหลง!!
มีทางแยกไม่รู้จะไปทางไหน เจอคุณลุงเดินอยู่ เลยถาม ทางนี่ทางออกใช่มั้ยค่ะ พร้อมชี้ไปทางขวามือ ออกได้หมดแหละ ทางนี้ก็ออกตลาดน้ำได้ ลุงเดินไปทางซ้าย สักพัก เราชั่งใจอยู่ไปไหนดี ซ้ายดีกว่า เห็เป็นแม่น้ำ น่าจะมีไรดีๆ ปั่นผ่านลุงไปลุงถามมาคนเดียวเหรอ ตอบใช่ค่ะ แล้วรีบปั่นเลย ฮ่าๆ การบอกว่าคนเดียวกับคนแปลกหน้าอันตรายนะค่ะ แต่โกหกไม่เก่ง ฮ่าๆ เลยปั่นมาเรื่อย ก็เจอ นี่ค่ะ
แล้วก็ปั่นตามทางมาเรื่อย ก็มาเจอกับเรือ
พี่เค้าบอกถ่ายกับเรือได้ไม่คิดตังค์หรอก รอไรล่ะ จอดรถลงเรือสิค่ะ ฮ่าๆ เจ้าของที่เป็นผู้ใหญ่บ้านเค้าถ่ายให้ค่ะ
เลยถามสอบถามข้อมูลค่าบริการ เค้าบอก เรือ 100 บาทได้ทั้งวัน ถ้าวันธรรมดามากันหลายๆคน ก็ติดต่อมาก่อนได้ เค้ามี โอมสเตย์ด้วยนะ ห้องแอร์ 800 บาท มีมื้อเช้า 1 มื้อ รายละเอียดอื่นๆ เช่น จักรยาน พายเรือ ต้องเพิ่มหรือเปล่า อันนี้โทรสอบถามตามเบอร์ในภาพเลยค่ะ
อันนี้ทางเข้าค่ะ ติดถนน สังเกตุเห็นง่าย
จากนั้นก็กลับออกมา เข้าไปสวนศรีนครเขื่อนขันธ์อีกรอบ ฮ่าๆ ประมาณห้าโมงเย็น
จากนั้นออกจากสวน ตอนจะออกแม่ค้าที่ขายน้ำอยู่ฝั่งตรงข้ามเค้าบอก “ ระวังรถค่ะ” คือรู้สึกดีอ่ะ มีคนเป็นห่วง ฮ่าๆ แล้วก็ปั่นกลับค่ะ ส่งจักรยานเสร็จเรือใหญ่กำลังจะออกพอดี เค้าบอกข้ามฝั่ง ก็รีบขึ้นเลย นั่งไปสักพัก เอ๊ะ ทำไมเลียบฝั่งเดิมล่ะ ถ้าพี่คนข้างๆ เค้าบอกว่าแวะจุดนี้ก่อน แล้วเดี๋ยวจะข้ามไปอีกฝั่ง (แหม่ ไอ้เราก็ตกใจ นึกว่าขึ้นเรือผิด)
หลังจากขึ้นฝั่งได้ ก็ไปจ่าย 5 บาท ตรงเคาน์เตอร์ ตั๋วเรือ แล้วเดินมาขึ้น เม สาย 47 กลับไปคลองเตย
ก็ถามพี่กระเป๋ารถเม เค้าก็จะบอกว่าลงป้ายไหน โอเค สบายใจ กลับถูก ค่ารถเมสาย 47 ราคา 6.50 บาท สาย 205 อีก 6.50 บาทค่ะ
สรุปค่าใช้จ่ายทริปนี้
ค่ารถเม 3 เที่ยว 6.50 x 3 = 19.5 บาท
ค่าเรือไป 10 กลับ 5 = 15บาท
ค่าเช่าจักรยาน = 70 บาท
ค่าน้ำเปล่า+ค่ากาแฟ = 68 บาท
รวมค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น = 172.5 บาท
ตั้งแต่กระเป๋ารถเมเลย แล้วก็ผู้คนที่เจอระหว่างทางในจุดต่าง (ที่เราเข้าไปถามทาง ถามข้อมูล) คือทุกคนน่ารักมาก พูดคุยยิ้มแย้ม อำนวยความสะดวกให้ ขอบคุณมากค่ะ บรรยากาศชอบที่สวนมากค่ะพื้นที่กว้าง ร่มรื่นดีแล้วก็กาแฟในบ้าน เจ้าของน่ารักเป็นกันเองค่ะ
เขียนรีวิวครั้งแรก หากผิดพลาดดีไม่ดียังไงช่วยแนะนำด้วยนะคะ
[CR] ทริปเดี่ยว เที่ยวบางกะเจ้า
จากถิ่นที่พำนัก คือ พระราม3 ที่ 23 จึงนั่ง รถเม 205 จะมาลงตลาดคลองเตย เลยถามพี่กระเป๋ารถเมว่าถ้าจะไปท่าเรือคลองเตย หนูจะต้องค่อรถไรไป พี่เค้าก็บอกมาว่าต้องเดินข้ามตลาดคลองเตยไปฝั่งตรงข้าม ไปต่อ รถเม สาย 4 หรือ 47 ก็จะถึงเลย เราเลยสงสัยว่าถ้าต้องนั่งรถเมไป มันจะนานหรือเปล่าเพราะใน Google ใช้เวลาพอสมควร พี่เค้าบอกโอ๊ยย 5นาทีก็ถึงถ้ารถไม่ติด (ห๊ะ อึ้งแปบ@@) เนี่ยผ่านไฟแดงไป 3 จุด ก็ถึง คือพี่เค้าอธิบาย พูดคุยกับเราดีมากเหมือนจะดีใจที่มีคนถามทาง ฮ่าๆ แล้วพอจะลง พี่เค้ายังชี้ทางให้อีก ว่าเนี่ยเดินทะลุตลาดไปขึ้นรถเมฝั่งตรงข้ามได้เลย (205 ที่ไป จะเป็นสายถนนตก-คลองเตยรถจอดป้ายสุดท้ายที่ตลาด ถ้าเป็นสายเดอะมอลล์-กรมศุลกากร ก็ต้องลองถามดูว่าต้องลงจุดไหน) อ่อค่ารถเม 6.50 บาทตลอดสาย ไอ้เราก็เดินดุ่มๆ มาทะลุตลาด ขึ้นจากฝั่งนั้นได้เลย ไม่ต้องข้ามฝั่ง ยืนอยู่แปบเดียว มีสาย 47 อุ้ยย เมฟรีด้วยดีจัง เอ๊ะ!! แต่รถเมฟรีจะไม่มีกระเป๋ารถ จะขึ้นดีมั้ยน๊า อ้อมีผู้โดยสารบนรถอยู่นี่หน่า ขึ้นไปปุ๊บ พี่ค่ะถ้าหนูจะไปท่าเรือคลองเตย ต้องลงป้ายไหนค่ะ พี่เค้าบอก อ่อป้ายสุดท้ายเลย เดี๋ยวลงพร้อมกัน ข้ามฟากมั้ยค่ะ อ่อ หนูจะไปบางกะเจ้าอ่ะค่ะ เค้าบอกอ่อต้องนั่งเรือข้ามฟากไป แล้วพี่เค้าก็พาเราเดินต่อไปยังท่าเรือ บอกว่าเรือเล็กจะมีตลอด ราคา 10 บาทต่อเที่ยว ต้องซื้อตั๋วก่อนลงเรือ เรือใหญ่ราคา 5 บาท บริการถึง ประมาณ สามทุ่มครึ่ง (ถ้าจำไม่ผิดนะ) แล้วก็ถ้าจะไปตลาดบางน้ำผึ้งหากนั่งมอไซต์ไปจะ ราคา 30 บาท ถ้าเช่า จักรยาน ราคา 80 บาท นี่ค่ะพี่เสื้อขาวใจดีที่ให้ข้อมูลการเดินทาง
บรรยากาศนั่งเรือข้ามฟากค่ะ เอ่อ พี่คนข้างหน้าเค้าเอาสุ่มไก่ไปด้วยนะ นั่งไปลมพัดสบายดีพร้อมน้ำสาดกระเซ็นโดนหน้าฉ่ำเลยค่ะ ฮ่าๆ แล้วตอนลงเรือ หรือขึ้นฝั่ง พี่ผู้หญิงเค้าก็ช่วยจับมือเราด้วยนะ คือดูเป็นมิตรอย่างมาก ขอบคุณมากๆเลย
พอมาถึง ก็จะเป็นท่าเรือ กำนันขาวค่ะ ราคาเช่าจักรยาน 80บาท /วัน 40บาท/ ชม.
-ถ้านักเรียนหรือนักศึกษา จะคิดราคา 60 บาท
-ถ้ากด Like page ของM-bike จะลด 10 บาท เหลือ 70 บาท/วัน
กรณีที่ไม่มีบัตร สามารถ จดชื่อและเบอร์โทรทิ้งไว้กับทางร้านได้ ค่ะ แล้วพี่เค้าจะอธิบายแผนที่ให้เราว่าไปจุดไหนบ้าง จากนั้นเลือกจักรยานคะ พี่พนักงานก็บริการดีนะค่ะ ให้เราลองว่า ขี่เป็นไง เบาะสูงไปหรือเปล่า ดูเป็นกันเองค่ะ
**บางที่ มีน้ำดื่มให้ 1 ขวดด้วยนะค่ะ เห็นจากป้ายระหว่าง แล้วก็อาจจะมีวางเงินมัดจำหรือวางบัตรไว้ในการเช่าจักรยาน อันนี้เห็นจากรีวิวอื่นๆ ค่ะ
เริ่มแรกเลยขอปั่นไป พิพิธภัณฑ์ปลากัดไทยก่อนเลย เพราะใกล้สุด อิอิ เกือบหลงเหมือนกันนะ อันนี้ภาพจากด้านในนะค่ะ แต่ก่อนถึงจะมีป้ายบอกทาง
นี่!!วิธีจอดจักรยาน เอิ่มมไม่ใช่ล่ะ นี่เป็นตัวอย่างที่ไม่ควรทำต่างหาก
นี่ค่ะจอดเป็นปกติเหมือนคนอื่นๆเค้าเถอะ
น้องปลาบางส่วนค่ะ
บรรยากาศภายใน
ข้างในยังมีร้านกาแฟ ให้ได้นั่งดื่มพร้อมชมน้องปลานะค่ะ แต่ไม่ได้ถ่ายมาเพราะยังไม่ได้ไปชิม ฮ่าๆ
หลังจากนั้นไปต่อที่ สวนศรีนครเขื่อนขันธ์
บรรยากาศร่มรื่นมากค่ะ ลมพัดเย็นสบาย
จะมีเด็กปั่นจักรยานขายอาหารปลาด้วยนะ
เริ่มหิวน้ำล่ะ พอออกมาเลยแวะซื้อน้ำเปล่า ตอนแรกคิดว่าจะแพงเหมือนที่ท่องเที่ยวอื่นๆ แต่ที่จริงราคาก็ทั่วไปๆ ไม่แพงเกิน คือ ขวดละ 8 บาท อันนี้คือน้ำไม่เย็น แต่ถ้าน้ำเย็นจะเท่ากันหรือเปล่าไม่รู้ เพราะไม่ได้ถาม ฮ่าๆ แล้วไปหากาแฟในบ้าน เนื่องจากเห็นรีวิวมา และเจ้าของร้านเช่าจักรยานเค้าบอกอร่อย เลยต้องตามไปชิม
เราลองกาแฟมะพร้าวน้ำหอมปั่น ตอนแรกที่กินก็ เย็นๆ ได้รสกาแฟ ไม่หวาน รู้สึกจะมีเนื้อมะพร้าวด้วยเล็กๆเนื่องจากผ่านการปั่น แต่พอทิ้งไว้สักพัก ซึ่งเหลือประมาณครึ่งแก้ว รู้สึกว่า เฮ้ยยย ทำไมอร่อยขึ้นว่ะ หรือว่ากินไปตอนแรกนี่เพราะหิวน้ำ !!
ไปต่อดีกว่า มีแรงล่ะ ปั่นตรงไปเรื่อยๆ เอ๊ะทำไม ไม่เห็นจะมีนักปั่นเลยอ่ะ เปิดแผนที่ๆ ดูไม่ออกอ่ะ แวะถามลุงแถวๆนั้นเค้าบอก ถ้าจะไปต้องเข้าทางซุ้มประตูวัดที่เลยมาหน่ะ จะเป็นทางด้านหน้า ฮ่าๆ ก็คนมันปั่นเพลินนี่น่า เอาล่ะ ถึงล่ะตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง ที่นี่มี ห้องน้ำ จุดให้เช่าจักรยาน ไว้บริการด้วยค่ะ
ร้านนี้เข้าไปนั่งชิล ได้เลย แต่ไม่เข้า เพราะเพิ่งจะกินมา
โมจิ ไอศกรีม ไม่ได้ลอง ไม่เห็นคนขาย ฮ่าๆ
จะไปบ้านธูปต่อ แต่งง แผนที่ เลยถามพี่วินมอไซต์ หน้าทางเข้าเค้าเลี้ยวซ้ายตรงนี้ 1 เลี้ยวซ้ายอีกที ตรงประตูวัด แล้วถึงสามแยกเลี้ยวซ้ายอีกที เจอสะพาน ลงสะพาน แล้วบ้านธูปจะอยู่ทางขวามือ จำได้มั้ย ผ่านไป 3 ซ้ายนะ แล้วเค้าก็ยิ้มๆ คุยอยู่แปบนึง ก่อนจะ ซ้าย ซ้าย ซ้าย ขวา ฮ่าๆ
ขวาเนี่ยแหละ ที่ไม่รู้ว่าต้องเข้าจากจุดไหน เลยแวะถามร้านเช่าจักรยานข้างทาง สรุปว่า เพิ่งเลยมานิดเดียวเองเพราะทางเข้าจะเล็กมาก
นี่ค่ะ ถึงแล้ว มีลุงกล่าวสวัสดีครับ ทักทาย ยิ้มแย้มแจ่มใส ด้วย
ลุง:ลุงเค้าถาม ทำไมไม่มาเช้าๆ ตอนนี้ของหมดแล้ว
เรา: อ่าวเหรอค่ะ แล้วปกติปิด กี่โมงค่ะ
ลุง : ปิดบ่าย 3
เราดูเวลาตอนนี้ก็ 4 โมงแล้ว ฮ่าๆ ก็เราไม่รู้หนิ ก็เข้ามาเฉยๆ เลย แต่เค้าก็ให้เข้าไปถ่ายรูปได้นะค่ะ แล้วคุยกับเจ้าของที่นั่น เค้าบอกว่า มีทำผ้ามัดย้อม แล้วแต่ ขนาด เล็ก กลาง ใหญ่ 60 80 100 หรือทำธูปหอมก็จะอีกราคานึง (คือที่จริงเค้าบอกข้อมูลมาแหละ แต่ความจำในหัวมีน้อย ฮ่าๆ)
ที่นี่ยังมีรับกลุ่มสัมมนาด้วยนะ มีบริการของว่างด้วย เลือกเซต เล็ก กลาง ใหญ่ จำนวนกี่มื้อ ทั้งเป็นแบบจำนวน ชั่วโมงก็ได้ค่ะ มีวิทยากรสอนทำผ้ามัดย้อม ธูป ราคาขึ้นอยู่กับว่า ต้องการอะไรบ้าง เช่น อาหารว่าง จักรยาน เป็นต้น (เคยรับ 50 คนมาแล้ว)
หากสนใจจัดสัมมนาติดต่อได้ค่ะ ไม่ว่าจะจัดเป็นวันธรรมดา หรือ เสาร์อาทิตย์
นอกจากนี้ยังมีอีกหลายโซนให้ได้นั่งกันนะค่ะ ห้องน้ำสะอาดค่ะ ถ้าไม่ได้มาร่วมกิจกรรม มีค่าบริการ 5 บาทค่ะ เห็นจากป้าย ฮ่าๆ
จากนั้นก็ปั่นไปเรื่อยๆเลยจ้า เกือบหลง!!
มีทางแยกไม่รู้จะไปทางไหน เจอคุณลุงเดินอยู่ เลยถาม ทางนี่ทางออกใช่มั้ยค่ะ พร้อมชี้ไปทางขวามือ ออกได้หมดแหละ ทางนี้ก็ออกตลาดน้ำได้ ลุงเดินไปทางซ้าย สักพัก เราชั่งใจอยู่ไปไหนดี ซ้ายดีกว่า เห็เป็นแม่น้ำ น่าจะมีไรดีๆ ปั่นผ่านลุงไปลุงถามมาคนเดียวเหรอ ตอบใช่ค่ะ แล้วรีบปั่นเลย ฮ่าๆ การบอกว่าคนเดียวกับคนแปลกหน้าอันตรายนะค่ะ แต่โกหกไม่เก่ง ฮ่าๆ เลยปั่นมาเรื่อย ก็เจอ นี่ค่ะ
แล้วก็ปั่นตามทางมาเรื่อย ก็มาเจอกับเรือ
พี่เค้าบอกถ่ายกับเรือได้ไม่คิดตังค์หรอก รอไรล่ะ จอดรถลงเรือสิค่ะ ฮ่าๆ เจ้าของที่เป็นผู้ใหญ่บ้านเค้าถ่ายให้ค่ะ
เลยถามสอบถามข้อมูลค่าบริการ เค้าบอก เรือ 100 บาทได้ทั้งวัน ถ้าวันธรรมดามากันหลายๆคน ก็ติดต่อมาก่อนได้ เค้ามี โอมสเตย์ด้วยนะ ห้องแอร์ 800 บาท มีมื้อเช้า 1 มื้อ รายละเอียดอื่นๆ เช่น จักรยาน พายเรือ ต้องเพิ่มหรือเปล่า อันนี้โทรสอบถามตามเบอร์ในภาพเลยค่ะ
อันนี้ทางเข้าค่ะ ติดถนน สังเกตุเห็นง่าย
จากนั้นก็กลับออกมา เข้าไปสวนศรีนครเขื่อนขันธ์อีกรอบ ฮ่าๆ ประมาณห้าโมงเย็น
จากนั้นออกจากสวน ตอนจะออกแม่ค้าที่ขายน้ำอยู่ฝั่งตรงข้ามเค้าบอก “ ระวังรถค่ะ” คือรู้สึกดีอ่ะ มีคนเป็นห่วง ฮ่าๆ แล้วก็ปั่นกลับค่ะ ส่งจักรยานเสร็จเรือใหญ่กำลังจะออกพอดี เค้าบอกข้ามฝั่ง ก็รีบขึ้นเลย นั่งไปสักพัก เอ๊ะ ทำไมเลียบฝั่งเดิมล่ะ ถ้าพี่คนข้างๆ เค้าบอกว่าแวะจุดนี้ก่อน แล้วเดี๋ยวจะข้ามไปอีกฝั่ง (แหม่ ไอ้เราก็ตกใจ นึกว่าขึ้นเรือผิด)
หลังจากขึ้นฝั่งได้ ก็ไปจ่าย 5 บาท ตรงเคาน์เตอร์ ตั๋วเรือ แล้วเดินมาขึ้น เม สาย 47 กลับไปคลองเตย
ก็ถามพี่กระเป๋ารถเม เค้าก็จะบอกว่าลงป้ายไหน โอเค สบายใจ กลับถูก ค่ารถเมสาย 47 ราคา 6.50 บาท สาย 205 อีก 6.50 บาทค่ะ
สรุปค่าใช้จ่ายทริปนี้
ค่ารถเม 3 เที่ยว 6.50 x 3 = 19.5 บาท
ค่าเรือไป 10 กลับ 5 = 15บาท
ค่าเช่าจักรยาน = 70 บาท
ค่าน้ำเปล่า+ค่ากาแฟ = 68 บาท
รวมค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น = 172.5 บาท
ตั้งแต่กระเป๋ารถเมเลย แล้วก็ผู้คนที่เจอระหว่างทางในจุดต่าง (ที่เราเข้าไปถามทาง ถามข้อมูล) คือทุกคนน่ารักมาก พูดคุยยิ้มแย้ม อำนวยความสะดวกให้ ขอบคุณมากค่ะ บรรยากาศชอบที่สวนมากค่ะพื้นที่กว้าง ร่มรื่นดีแล้วก็กาแฟในบ้าน เจ้าของน่ารักเป็นกันเองค่ะ
เขียนรีวิวครั้งแรก หากผิดพลาดดีไม่ดียังไงช่วยแนะนำด้วยนะคะ