คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 15
ส่วนประกอบหลักๆของกระสุนปืนไรเฟิลก็ตามรูปเลยครับ ทีนี้เรามาโฟกัสว่าทำไม กระสุนอาวุธสงครามถึงแรงจัง
โดนแขนขาขาด
ตัวแปร คือ
1.. กระสุน (มีหลายขนาด ลักษณะ ความแข็ง แต่เรามาพูดถึงน้ำหนักของหัวกระสุนที่มีหน่วยเป็น grain ซึ่ง 1 grain = 0.06479891 กรัม)
2..ดินขับ(เปลี่ยนจากพลังงานเคมี เป็นพลังงานจล และ ความร้อน จากของแข็งกลายเป็นแก๊ส)
ซึ่ง เมื่อ เราเหนี่ยวไก เข็มแทงชนวนจะวิ่งไปชนแก๊บ ทำให้จุดระเบิดดินขับ จากนั้น ดินขับก็ระเบิดขยายตัวเกิดแรงดันในรังเพลิง ซึ่ง
รังเพลิงเขาออกแบบมาเพื่อให้ทนกับแรงดันที่ใช้กับกระสุน ชนิดนั้นๆเสมอ แต่หัวกระสุนซึ่งถูกปลอกกระสุนรัดไว้อย่างหลวม จะถูก
แรงดันของดินขับดันออกไป
สมการพลังงานจลน์Basic
Energy ( joules ) = 1/2 x mass ( kg ) x Velocity ( mps ยกกำลัง 2 )
Mass = นำหนักหัวกระสุน ( หน่วยเป็นกิโลกรัม, Kg )
Velocity = ความเร็ว ( หน่วยเป็นเมตรต่อวินาที , Meter Per Second, MPS )
Energy = พลังงานของกระสุน ( หน่วยเป็นจูลล์, Joules )
ขอยกตัวอย่างกระสุน .50 Browning Machine Gun (.50 BMG) หรือ 12.7×99mm NATO
ซึ่งน้ำหนักหัวกระสุน ของกระสุนชนิดนี้ มีตั้งแต่ 647 gr (42 g)จนถึง 800 gr (52 g)
และความเร็วของ กระสุนซึ่งไม่แน่ใจว่าวัดจากปลายกระปอกปืนหรือไม่คือ 928 m/s(3,050ft/s)
Energy= 1/2x0.042x928^2= 18,084 Joules หรือ 13,314 fl*lbs
ทีนี้ลองมาเทียบกับกระสุนปืนพก ในตารางนี้ จะเห็นได้ว่า น้ำหนักหัวกระสุน และความเร็วของหัวกระสุน
คือตัวแปรสำคัญในการ หาพลังงานที่ได้ออกมา .50 BMG แรงกว่า 9 mm ถึง 33 เท่า กระสุนเร็วกว่า น้ำหนักกระสุน
ก็มากกว่า(ได้โมเมนตัมออกมาเยอะกว่า) ฉันใดฉันนั้นครับ
ปล. คลิปด้านล่างเปรียบเทียบ กระสุน 9mm กับ Ballistic Gel หนาสิบนิ้ว กับ .50 BMG กับ Ballistic Gel หนา 30 นิ้ว และ 60 นิ้ว
ส่วนประกอบหลักๆของกระสุนปืนไรเฟิลก็ตามรูปเลยครับ ทีนี้เรามาโฟกัสว่าทำไม กระสุนอาวุธสงครามถึงแรงจัง
โดนแขนขาขาด
ตัวแปร คือ
1.. กระสุน (มีหลายขนาด ลักษณะ ความแข็ง แต่เรามาพูดถึงน้ำหนักของหัวกระสุนที่มีหน่วยเป็น grain ซึ่ง 1 grain = 0.06479891 กรัม)
2..ดินขับ(เปลี่ยนจากพลังงานเคมี เป็นพลังงานจล และ ความร้อน จากของแข็งกลายเป็นแก๊ส)
ซึ่ง เมื่อ เราเหนี่ยวไก เข็มแทงชนวนจะวิ่งไปชนแก๊บ ทำให้จุดระเบิดดินขับ จากนั้น ดินขับก็ระเบิดขยายตัวเกิดแรงดันในรังเพลิง ซึ่ง
รังเพลิงเขาออกแบบมาเพื่อให้ทนกับแรงดันที่ใช้กับกระสุน ชนิดนั้นๆเสมอ แต่หัวกระสุนซึ่งถูกปลอกกระสุนรัดไว้อย่างหลวม จะถูก
แรงดันของดินขับดันออกไป
สมการพลังงานจลน์Basic
Energy ( joules ) = 1/2 x mass ( kg ) x Velocity ( mps ยกกำลัง 2 )
Mass = นำหนักหัวกระสุน ( หน่วยเป็นกิโลกรัม, Kg )
Velocity = ความเร็ว ( หน่วยเป็นเมตรต่อวินาที , Meter Per Second, MPS )
Energy = พลังงานของกระสุน ( หน่วยเป็นจูลล์, Joules )
ขอยกตัวอย่างกระสุน .50 Browning Machine Gun (.50 BMG) หรือ 12.7×99mm NATO
ซึ่งน้ำหนักหัวกระสุน ของกระสุนชนิดนี้ มีตั้งแต่ 647 gr (42 g)จนถึง 800 gr (52 g)
และความเร็วของ กระสุนซึ่งไม่แน่ใจว่าวัดจากปลายกระปอกปืนหรือไม่คือ 928 m/s(3,050ft/s)
Energy= 1/2x0.042x928^2= 18,084 Joules หรือ 13,314 fl*lbs
ทีนี้ลองมาเทียบกับกระสุนปืนพก ในตารางนี้ จะเห็นได้ว่า น้ำหนักหัวกระสุน และความเร็วของหัวกระสุน
คือตัวแปรสำคัญในการ หาพลังงานที่ได้ออกมา .50 BMG แรงกว่า 9 mm ถึง 33 เท่า กระสุนเร็วกว่า น้ำหนักกระสุน
ก็มากกว่า(ได้โมเมนตัมออกมาเยอะกว่า) ฉันใดฉันนั้นครับ
ปล. คลิปด้านล่างเปรียบเทียบ กระสุน 9mm กับ Ballistic Gel หนาสิบนิ้ว กับ .50 BMG กับ Ballistic Gel หนา 30 นิ้ว และ 60 นิ้ว
แสดงความคิดเห็น
ทำไม ไรเฟิล,สไนเปอร์(อาวุธสงคราม) หัวกระสุนนิดเดียวแต่ทำไมสามารถทำให้หัวกระจุย แขนขาด ขาขาดได้ครับ