เจาะแคมเปญ 'หัวเว่ย' ในยุคลูกค้าเป็นศูนย์กลาง
ผู้จัดการสุดสัปดาห์ 360 องศา ฉบับวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2559
'มุ่งมั่น พยายาม ก้าวข้ามอุปสรรค' คือ 3 แท็กไลน์สำคัญที่ 'หัวเว่ย' หยิบยกขึ้นมาเป็นข้อเตือนใจ เพื่อให้สามารถก้าวขึ้นเป็นมหาอำนาจทางเทคโนโลยี ในทั้ง 3 ธุรกิจหลักคือระบบ และอุปกรณ์เครือข่ายของโอเปอเรเตอร์ ,ผลิตภัณฑ์คอนซูเมอร์ และไอทีโซลูชันสำหรับลูกค้าองค์กร
แม้ว่าหัวเว่ยจะไม่สามารถเปิดเผยงบที่ใช้ในการโฆษณา แคมเปญชิ้นใหม่ ที่จะเน้นการตอกย้ำถึงภาพลักษณ์ขององค์กรทางด้านไอทีที่ไม่หยุดนิ่ง ผ่าน 3 โฆษณาหลักก็ตาม แต่เมื่อมองย้อนกลับไปก็เชื่อได้ว่าแคมเปญดังกล่าวของหัวเว่ยต้องอยู่ภายใต้การลงทุนอย่างมหาศาลในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ข้อมูลที่น่าสนใจจากช่วงการทำตลาดที่ผ่านมา เมื่อหัวเว่ยขยายธุรกิจออกมาสู่ระดับโลกได้ใช้เงินลงทุนไปแล้วกว่า 1 แสนล้านหยวน โดยแบ่งครึ่งระหว่างการนำเงินมาใช้ในการวิจัยและพัฒนา เพื่อให้เกิดนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง และอีกส่วนหนึ่งจะถูกใช้ไปกับการพัฒนาเรื่องบริการเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าและผู้บริโภค
เฉิน ลี่ฟาง รองประธานอาวุโส ฝ่ายองค์กร ผู้อำนวยการ คณะกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ จำกัด กล่าวในโอกาสที่มาเยือนประเทศไทยเป็นครั้งแรกว่า หัวเว่ยจะยังคงการลงทุนอย่างต่อเนื่องในส่วนของการวิจัยและพัฒนา โดยคิดเป็นสัดส่วนราว 10% จากรายได้ของหัวเว่ย พร้อมไปกับการลงทุนทางด้านบุคลากรที่ถือว่าเป็นพื้นฐานที่สำคัญที่สุดขององค์กรในยุคที่ต้องการเติบโตไปสู่ตลาดระดับโลก
'ความมุ่งมั่นที่จะไปให้ถึงเป้าหมายที่วางไว้ ภายใต้ความพยายามในการวิจัยและพัฒนา เพื่อให้ก้าวข้ามอุปสรรคที่เกิดขึ้น ถือเป็น 3 ส่วนสำคัญที่ทำให้หัวเว่ยสามารถเติบโตขึ้นมาในระดับโลกได้ จากที่แต่เดิมมีพนักงานไม่กี่สิบคน จนปัจจุบันหัวเว่ยมีพนักงานอยู่ทั่วโลกกว่า 1.76 แสนคน ซึ่งในจำนวนนี้กว่า 45% จะอยู่ในส่วนของการวิจัยและพัฒนาทั้งสิ้น'
สำหรับการเติบโตในปีที่ผ่านมา ภาพรวมของหัวเว่ยในระดับโลกมีการเติบโตราว 30% โดยมีปัจจัยหลักจากการขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟน และอุปกรณ์เสริมเข้าสู่ตลาดหลักๆในหลายภูมิภาค พร้อมๆไปกับการที่มีการลงทุนเครือข่าย 3G และ 4G ทั่วทุกมุมโลก ทำให้ปีที่ผ่านมาถือว่าเป็นปีที่ดีสำหรับหัวเว่ย
'ปีนี้เชื่อว่าหัวเว่ยจะสามารถเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 10% ซึ่งอาจจะดูแล้วน้อยลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา แต่ก็ถือว่าเป็นอัตราการเติบโตที่สูง เพราะจากสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น และส่งผลกระทบในวงกว้างไปทั่วโลก ทำให้เชื่อว่าอาจจะกระทบกับการลงทุนทางด้านไอทีโดยรวม'
นอกจากนี้ ยังเปิดเผยถึง 4 ปัจจัยหลัก ที่ทำให้หัวเว่ยประสบความสำเร็จในช่วงที่ผ่านมาประกอบไปด้วย 1.สภาพแวดล้อม เพราะเวลานั้นอยู่ในช่วงที่จีนมีนโยบายในการเปิดประเทศ ทำให้มีโอกาสในการเติบโตอย่างรวดเร็ว คิดแล้วเป็นการเติบโตมากกว่า 1,000 เท่า 2.การลงทุนต่อเนื่องในส่วนของการวิจัยและพัฒนา เป็นจำนวนเงินถึง 37,000 ล้านเหรียญสหรัฐ 3.ความร่วมมือกับองค์กร และที่ปรึกษาชั้นนำของโลก ในการควบคุมระบบริหารภายในองค์กร ให้เติบโตอย่างแข็งแรง และยั่งยืน และ4.พนักงาน มีเป้าหมายเดียวกันในการมุ่งไปข้างหน้า
ด้าน วัง อี้ฝาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมถึง ภาพรวมตลาดของหัวเว่ยในปีที่ผ่านมาว่า ปีที่ผ่านมาบริษัทเติบโตได้ราว 20% และคาดการณ์ว่าในปีนี้ก็จะสามารถรักษาอัตราการเติบโตดังกล่าวไว้ได้ โดยมีปัจจัยหลักมาจากการขยายตัวของเครือข่าย 4G ที่เกิดขึ้นหลังจากการประมูลคลื่นความถี่ในช่วงปลายปี 2558 ส่งผลให้โอเปอเรเตอร์จำเป็นต้องมีการลงทุนทั้งระบบ และสถานีฐานให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
ขณะเดียวกันยังมีในส่วนของตลาดสมาร์ทโฟนที่ถือว่าเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีอัตราการเติบโตสูงที่สุด จากการเปลี่ยนผ่านสู่ 3G ในปีที่ผ่านมา และคาดว่าการมาของ 4G ก็จะช่วยให้กลุ่มผลิตภัณฑ์นี้ยังรักษาอัตราการเติบโตไว้ได้ รวมถึงการทำตลาดอุปกรณ์เสริมอื่นๆอย่าง Wearable Device ที่หัวเว่ยเริ่มทำตลาดด้วย
'กลุ่มผลิตภัณฑ์คอนซูเมอร์ จะเป็นหนึ่งในอนาคตที่สำคัญของหัวเว่ย ทำให้หัวเว่ยต้องให้ความสำคัญกับผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น จากเดิมที่หัวเว่ยจะเน้นทำตลาดองค์กรด้วยการสื่อสารโดยตรงกับคู่ค้าเป็นหลัก ทำให้ที่ผ่านมาหัวเว่ยอาจจะไม่ได้เป็นที่รู้จักสำหรับผู้บริโภคมากนัก
ในส่วนของกลยุทธ์การทำตลาดของหัวเว่ยในประเทศไทย ก็จะยึดไปในแนวทางเดียวกับการทำตลาดในระดับโลกของหัวเว่ย เพียงแต่จะมีการเพิ่มในส่วนของ ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric) เพื่อตอบสนองกับความต้องการของลูกค้าให้มากขึ้น
'หัวเว่ยเชื่อมั่นในศักยภาพของตลาดประเทศไทย ว่ายังมีกำลังซื้อ และจะช่วยให้ได้รับการตอบรับจากทั้งในส่วนของผลิตภัณฑ์ แบรนด์ จึงทำให้มีแผนที่จะเปิดตัวศูนย์เทคโนโลยีขึ้นบริเวณถนนวิทยุ เพื่อให้กลายเป็นแหล่งรวมเทคโนโลยีของหัวเว่ยให้ทั้งลูกค้า และผู้บริโภคได้เข้าถึง'
เดวิด หลิว ผู้อำนวยการ ฝ่ายประชาสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หัวเว่ย เทคโนโลยี่ ให้ข้อมูลถึงศูนย์นวัตกรรมที่ใช้ชื่อว่า CSIC (Customer Solution Innovation & Integration Experience Center) ที่จะนำนวัตกรรมทางเทคโนโลยีของหัวเว่ยมาจัดแสดงให้ทั้งลูกค้า คู่ค้า และสถาบันการศึกษา ให้เห็นถึงแผนการทำธุรกิจที่ชัดเจน
'ภายในศูนย์จะแบ่งการแสดงนวัตกรรมออกเป็น 2 ส่วนคือส่วนของเทคโนโลยีไร้สาย อย่างการให้บริการ 4G ,4.5G อีกส่วนคือเทคโนโลยีแบบมีสาย ที่จะแสดงในส่วนของระบบไอทีโซลูชันต่างๆที่ถูกนำมาประยุกต์ใช้งาน พร้อมการสาธิตในการใช้งานจริง'
ศูนย์ CSIC ที่จะเปิดในกรุงเทพฯ ถือเป็นแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของหัวเว่ย ในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้ ซึ่งหัวเว่ยเชื่อว่าไทยถือเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค ประกอบกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ชื่นชอบการเรียนรู้ และปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีได้อย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สำหรับหัวเว่ยจะครอบคลุม ประเทศไทย ลาว กัมพูชา พม่า เวียดนาม ไต้หวัน ฮ่องกง มาเก๊า อินเดีย ศรีลังกา เนปาล และบังคลาเทศ ไม่ได้นับรวมฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และสิงคโปร์ ที่จะมีอีกสำนักงานดูแลอยู่
บรรยายใต้ภาพ
เฉิน ลี่ฟาง รองประธานอาวุโส ฝ่ายองค์กร ผู้อำนวยการ คณะกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ จำกัด (กลาง)
วัง อี้ฝาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด (ขวา)
เดวิด หลิว ผู้อำนวยการ ฝ่ายประชาสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ซ้าย)
แหล่งข่าว
หนังสือพิมพ์ผู้จัดการสุดสัปดาห์ 360 องศา ฉบับวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2559 หน้า 53
ภาพประกอบจาก Manager Online
http://www.manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9590000033700
ข่าวอื่นๆ
ทรูฯ ลังเลประมูล 4G ใหม่ หลังได้ไลเซ่นส์ใบแรกไปแล้ว/รับมีภาระต้นทุน
http://ppantip.com/topic/34988090
ดันแจก 'อีคูปอง' ทีวีดิจิทัลลอตใหม่จัดซื้อระบบพ.ค.- 'กสท.' ยันโครงข่ายได้ตามแผน
http://ppantip.com/topic/34988037
คอลัมน์ สัมมนา: '4G มา' ประเทศชาติได้ประโยชน์
http://ppantip.com/topic/34988325
เจาะแคมเปญ 'หัวเว่ย' ในยุคลูกค้าเป็นศูนย์กลาง
เจาะแคมเปญ 'หัวเว่ย' ในยุคลูกค้าเป็นศูนย์กลาง
ผู้จัดการสุดสัปดาห์ 360 องศา ฉบับวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2559
'มุ่งมั่น พยายาม ก้าวข้ามอุปสรรค' คือ 3 แท็กไลน์สำคัญที่ 'หัวเว่ย' หยิบยกขึ้นมาเป็นข้อเตือนใจ เพื่อให้สามารถก้าวขึ้นเป็นมหาอำนาจทางเทคโนโลยี ในทั้ง 3 ธุรกิจหลักคือระบบ และอุปกรณ์เครือข่ายของโอเปอเรเตอร์ ,ผลิตภัณฑ์คอนซูเมอร์ และไอทีโซลูชันสำหรับลูกค้าองค์กร
แม้ว่าหัวเว่ยจะไม่สามารถเปิดเผยงบที่ใช้ในการโฆษณา แคมเปญชิ้นใหม่ ที่จะเน้นการตอกย้ำถึงภาพลักษณ์ขององค์กรทางด้านไอทีที่ไม่หยุดนิ่ง ผ่าน 3 โฆษณาหลักก็ตาม แต่เมื่อมองย้อนกลับไปก็เชื่อได้ว่าแคมเปญดังกล่าวของหัวเว่ยต้องอยู่ภายใต้การลงทุนอย่างมหาศาลในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ข้อมูลที่น่าสนใจจากช่วงการทำตลาดที่ผ่านมา เมื่อหัวเว่ยขยายธุรกิจออกมาสู่ระดับโลกได้ใช้เงินลงทุนไปแล้วกว่า 1 แสนล้านหยวน โดยแบ่งครึ่งระหว่างการนำเงินมาใช้ในการวิจัยและพัฒนา เพื่อให้เกิดนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง และอีกส่วนหนึ่งจะถูกใช้ไปกับการพัฒนาเรื่องบริการเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าและผู้บริโภค
เฉิน ลี่ฟาง รองประธานอาวุโส ฝ่ายองค์กร ผู้อำนวยการ คณะกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ จำกัด กล่าวในโอกาสที่มาเยือนประเทศไทยเป็นครั้งแรกว่า หัวเว่ยจะยังคงการลงทุนอย่างต่อเนื่องในส่วนของการวิจัยและพัฒนา โดยคิดเป็นสัดส่วนราว 10% จากรายได้ของหัวเว่ย พร้อมไปกับการลงทุนทางด้านบุคลากรที่ถือว่าเป็นพื้นฐานที่สำคัญที่สุดขององค์กรในยุคที่ต้องการเติบโตไปสู่ตลาดระดับโลก
'ความมุ่งมั่นที่จะไปให้ถึงเป้าหมายที่วางไว้ ภายใต้ความพยายามในการวิจัยและพัฒนา เพื่อให้ก้าวข้ามอุปสรรคที่เกิดขึ้น ถือเป็น 3 ส่วนสำคัญที่ทำให้หัวเว่ยสามารถเติบโตขึ้นมาในระดับโลกได้ จากที่แต่เดิมมีพนักงานไม่กี่สิบคน จนปัจจุบันหัวเว่ยมีพนักงานอยู่ทั่วโลกกว่า 1.76 แสนคน ซึ่งในจำนวนนี้กว่า 45% จะอยู่ในส่วนของการวิจัยและพัฒนาทั้งสิ้น'
สำหรับการเติบโตในปีที่ผ่านมา ภาพรวมของหัวเว่ยในระดับโลกมีการเติบโตราว 30% โดยมีปัจจัยหลักจากการขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟน และอุปกรณ์เสริมเข้าสู่ตลาดหลักๆในหลายภูมิภาค พร้อมๆไปกับการที่มีการลงทุนเครือข่าย 3G และ 4G ทั่วทุกมุมโลก ทำให้ปีที่ผ่านมาถือว่าเป็นปีที่ดีสำหรับหัวเว่ย
'ปีนี้เชื่อว่าหัวเว่ยจะสามารถเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 10% ซึ่งอาจจะดูแล้วน้อยลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา แต่ก็ถือว่าเป็นอัตราการเติบโตที่สูง เพราะจากสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น และส่งผลกระทบในวงกว้างไปทั่วโลก ทำให้เชื่อว่าอาจจะกระทบกับการลงทุนทางด้านไอทีโดยรวม'
นอกจากนี้ ยังเปิดเผยถึง 4 ปัจจัยหลัก ที่ทำให้หัวเว่ยประสบความสำเร็จในช่วงที่ผ่านมาประกอบไปด้วย 1.สภาพแวดล้อม เพราะเวลานั้นอยู่ในช่วงที่จีนมีนโยบายในการเปิดประเทศ ทำให้มีโอกาสในการเติบโตอย่างรวดเร็ว คิดแล้วเป็นการเติบโตมากกว่า 1,000 เท่า 2.การลงทุนต่อเนื่องในส่วนของการวิจัยและพัฒนา เป็นจำนวนเงินถึง 37,000 ล้านเหรียญสหรัฐ 3.ความร่วมมือกับองค์กร และที่ปรึกษาชั้นนำของโลก ในการควบคุมระบบริหารภายในองค์กร ให้เติบโตอย่างแข็งแรง และยั่งยืน และ4.พนักงาน มีเป้าหมายเดียวกันในการมุ่งไปข้างหน้า
ด้าน วัง อี้ฝาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมถึง ภาพรวมตลาดของหัวเว่ยในปีที่ผ่านมาว่า ปีที่ผ่านมาบริษัทเติบโตได้ราว 20% และคาดการณ์ว่าในปีนี้ก็จะสามารถรักษาอัตราการเติบโตดังกล่าวไว้ได้ โดยมีปัจจัยหลักมาจากการขยายตัวของเครือข่าย 4G ที่เกิดขึ้นหลังจากการประมูลคลื่นความถี่ในช่วงปลายปี 2558 ส่งผลให้โอเปอเรเตอร์จำเป็นต้องมีการลงทุนทั้งระบบ และสถานีฐานให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
ขณะเดียวกันยังมีในส่วนของตลาดสมาร์ทโฟนที่ถือว่าเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีอัตราการเติบโตสูงที่สุด จากการเปลี่ยนผ่านสู่ 3G ในปีที่ผ่านมา และคาดว่าการมาของ 4G ก็จะช่วยให้กลุ่มผลิตภัณฑ์นี้ยังรักษาอัตราการเติบโตไว้ได้ รวมถึงการทำตลาดอุปกรณ์เสริมอื่นๆอย่าง Wearable Device ที่หัวเว่ยเริ่มทำตลาดด้วย
'กลุ่มผลิตภัณฑ์คอนซูเมอร์ จะเป็นหนึ่งในอนาคตที่สำคัญของหัวเว่ย ทำให้หัวเว่ยต้องให้ความสำคัญกับผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น จากเดิมที่หัวเว่ยจะเน้นทำตลาดองค์กรด้วยการสื่อสารโดยตรงกับคู่ค้าเป็นหลัก ทำให้ที่ผ่านมาหัวเว่ยอาจจะไม่ได้เป็นที่รู้จักสำหรับผู้บริโภคมากนัก
ในส่วนของกลยุทธ์การทำตลาดของหัวเว่ยในประเทศไทย ก็จะยึดไปในแนวทางเดียวกับการทำตลาดในระดับโลกของหัวเว่ย เพียงแต่จะมีการเพิ่มในส่วนของ ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric) เพื่อตอบสนองกับความต้องการของลูกค้าให้มากขึ้น
'หัวเว่ยเชื่อมั่นในศักยภาพของตลาดประเทศไทย ว่ายังมีกำลังซื้อ และจะช่วยให้ได้รับการตอบรับจากทั้งในส่วนของผลิตภัณฑ์ แบรนด์ จึงทำให้มีแผนที่จะเปิดตัวศูนย์เทคโนโลยีขึ้นบริเวณถนนวิทยุ เพื่อให้กลายเป็นแหล่งรวมเทคโนโลยีของหัวเว่ยให้ทั้งลูกค้า และผู้บริโภคได้เข้าถึง'
เดวิด หลิว ผู้อำนวยการ ฝ่ายประชาสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หัวเว่ย เทคโนโลยี่ ให้ข้อมูลถึงศูนย์นวัตกรรมที่ใช้ชื่อว่า CSIC (Customer Solution Innovation & Integration Experience Center) ที่จะนำนวัตกรรมทางเทคโนโลยีของหัวเว่ยมาจัดแสดงให้ทั้งลูกค้า คู่ค้า และสถาบันการศึกษา ให้เห็นถึงแผนการทำธุรกิจที่ชัดเจน
'ภายในศูนย์จะแบ่งการแสดงนวัตกรรมออกเป็น 2 ส่วนคือส่วนของเทคโนโลยีไร้สาย อย่างการให้บริการ 4G ,4.5G อีกส่วนคือเทคโนโลยีแบบมีสาย ที่จะแสดงในส่วนของระบบไอทีโซลูชันต่างๆที่ถูกนำมาประยุกต์ใช้งาน พร้อมการสาธิตในการใช้งานจริง'
ศูนย์ CSIC ที่จะเปิดในกรุงเทพฯ ถือเป็นแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของหัวเว่ย ในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้ ซึ่งหัวเว่ยเชื่อว่าไทยถือเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค ประกอบกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ชื่นชอบการเรียนรู้ และปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีได้อย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สำหรับหัวเว่ยจะครอบคลุม ประเทศไทย ลาว กัมพูชา พม่า เวียดนาม ไต้หวัน ฮ่องกง มาเก๊า อินเดีย ศรีลังกา เนปาล และบังคลาเทศ ไม่ได้นับรวมฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และสิงคโปร์ ที่จะมีอีกสำนักงานดูแลอยู่
บรรยายใต้ภาพ
เฉิน ลี่ฟาง รองประธานอาวุโส ฝ่ายองค์กร ผู้อำนวยการ คณะกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ จำกัด (กลาง)
วัง อี้ฝาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด (ขวา)
เดวิด หลิว ผู้อำนวยการ ฝ่ายประชาสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ซ้าย)
แหล่งข่าว
หนังสือพิมพ์ผู้จัดการสุดสัปดาห์ 360 องศา ฉบับวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2559 หน้า 53
ภาพประกอบจาก Manager Online
http://www.manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9590000033700
ข่าวอื่นๆ
ทรูฯ ลังเลประมูล 4G ใหม่ หลังได้ไลเซ่นส์ใบแรกไปแล้ว/รับมีภาระต้นทุน
http://ppantip.com/topic/34988090
ดันแจก 'อีคูปอง' ทีวีดิจิทัลลอตใหม่จัดซื้อระบบพ.ค.- 'กสท.' ยันโครงข่ายได้ตามแผน
http://ppantip.com/topic/34988037
คอลัมน์ สัมมนา: '4G มา' ประเทศชาติได้ประโยชน์
http://ppantip.com/topic/34988325