การเพ้อฝันอันยาวไกล
ดร.อะมีน บิน อับดุลลอฮฺ อัช-ชะกอวีย์
พระองค์อัลลอฮฺ ได้ทรงติเตียนบุคคลหลายกลุ่มที่วาดฝันหวานอย่างยาวไกลจนละเลยการงานเพื่ออนาคตในโลกอาคิเราะฮฺ ซึ่งจู่ๆ ความตายก็เข้ามาเยือนโดยที่พวกอยู่ในสภาพหลงระเริง พวกเขาวาดความฝันอย่างลม ๆ แล้งว่า หากได้รับการต่ออายุไปอีกหน่อย พวกเขาคงสามารถกู้ภาระการงานที่ละเลยไปมาทำใหม่ได้ แต่มันสายเกินแก้เสียแล้ว
พระองค์อัลลอฮฺได้ตรัสว่า :
“บางครั้ง บรรดาผู้ไม่ศรัทธานั้นได้ฝันหวานนึกอยากจะเป็นมุสลิม เจ้าจงปล่อยให้พวกเขากินไปเถอะ เฮฮาไปเถอะ
และให้ความฝันหวานขับกล่อมพวกเขาไปเถอะ อีกไม่ช้าพวกเขาก็จะรู้เอง”
(อัล-หิจญ์รฺ :2-3)
ฏูลุลอะมัล คือ ความคร่ำเคร่งในการแสวงหาและกระทำการเพื่อประโยชน์ทางดุนยาพร้อมกับหันหลังอย่างมากให้กับโลกอาคิเราะฮฺ
(สารานุกรมนัฎเราะตุนนะอีม เรื่องมะการิมุ อัคลาก อัร-เราะสูล อัล-กะรีม เล่มที่ 11 หน้า 4857)
ทั้งนี้ ท่านนบี ได้บอกว่ามีหลายคนที่ฝันหวานยาวไกลกว่าอายุที่มี บุร็อยดะฮฺ -เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮฺ- ได้รายงานว่า
"ท่านนบี ได้ขีดเส้นหลายเส้นและบอกว่านี่คือความใฝ่ฝันและนี่อายุขัยของเขา
ซึ่งในขณะที่เขากำลังหลงอยู่ในความฝันอย่างนั้น อยู่ๆ เส้นที่ใกล้กว่า(หมายถึงความตาย)ก็มาหาเขา"
(เศาะฮีหฺ อัล-บุคอรียฺ เล่มที่ 4หน้า 176 หมายเลข 6418)
พฤติกรรมที่น่าแปลกของมนุษย์ประการหนึ่งก็คือ ยิ่งใกล้ถึงวันตาย ความฝันก็ยิ่งยาวไกล ความต้องการและปรารถนาในดุนยาก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น ไม่มีใครรอดพ้นจากสิ่งนี้เว้นแต่ผู้ที่พระองค์อัลลอฮฺทรงคุ้มครอง ซึ่งมีน้อยมาก
อบู ฮุร็อยเราะฮฺ -เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮฺ- ได้รายงานว่า : ฉันได้ยินท่านเราะสูลุลลอฮฺ ได้กล่าวว่า :
«لاَ يَزَالُ قَلْبُ الْكَبِيرِ شَابًّا فِي اثْنَتَيْنِ: فِي حُبِّ الدُّنْيَا وَطُولِ الأَمَلِ» [البخاري برقم 7420]
" หัวใจของคนแก่จะไม่แก่ในสองเรื่อง คือ ในเรื่องรักดุนยาและฝันหวานยาวไกล"
(เศาะฮีหฺ อัล-บุคอรียฺ เล่มที่ 4 หน้า 176 หมายเลข 7420)
♥ การฝันหวานยาวไกล คนส่วนใหญ่มักจะถอนตัวไม่ได้ เพราะหากไม่ใช่ความฝันหวานยาวไกลแล้ว ทุกคนก็คงไม่มีความสุขกับชีวิตเลย กวีอาหรับได้ร่ายกลอนว่า
ฉันปล่อยให้ใจเพ้ออยู่กับความฝันหวานยาวไกล และคอยเฝ้ามองดูมัน
ชีวิตช่างคับแคบเหลือเกิน หากไม่ใช่เพราะความกว้างไกลของการฝันหวาน
อิบนุ หะญัรฺ ได้กล่าวมีความว่า :
"ความฝันหวานนั้นมีคุณค่าอย่างลึกซึ้ง เพราะหากไม่ใช่เพราะมัน ทุกคนก็คงไม่มีความสุขในชีวิต ไม่มีอารมณ์ที่จะทำงานดุนยาใดๆ เลย เพียงแต่ว่าที่ถือเป็นข้อเสียและน่ารังเกียจก็คือ การฝันหวานอย่างเลื่อนลอยและไม่มีการเตรียมตัวเพื่ออาคิเราะฮฺ ซึ่งหากผู้ใดไม่เป็นอย่างนั้น ศาสนาก็ไม่บังคับให้เขาลบล้างความฝันหวานนั้น"
(ฟัตหฺ อัล-บารียฺ เล่มที่ 11 หน้า 237 )
♥ คนมีปัญญาจึงเป็นคนที่ไม่ถูกความฝันหวานหลอกและกล่อมให้ลืมความสุขสบายในอาคิเราะฮฺที่พระองค์อัลลอฮฺเตรียมไว้สำหรับทุกคน
พระองค์อัลลอฮฺได้ตรัสความว่า :
“แต่ละชีวิตนั้นจะได้ลิ้มรสแห่งความตาย และในวันอาคิเราะฮฺเท่านั้นที่พวกเจ้าจะได้รับผลตอบแทนอย่างสมบูรณ์
โดยผู้ใดที่ถูกกระชากออกจากไฟนรกและถูกผลักให้เข้าสวรรค์แล้วไซร้ แน่นอน ผู้นั้นก็ประสบความสำเร็จแล้ว
ชีวิตในโลกนี้นั้น มิใช่อะไรอื่นนอกจากเป็นเพียงสิ่งหลอกลวงเท่านั้น”
(อาล อิมรอน : 185)
อับดุลลอฮฺ บินอุมัรฺ -เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮฺ- ได้รายงานว่า ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ได้จับไหล่ของฉันทั้งสองข้างและบอกว่า
“เจ้าจงอยู่ในดุนยาเหมือนกับเจ้าเป็นคนแปลกหน้าหรือคนเดินผ่านทาง”
และท่านอิบนุ อุมัรฺ มักกล่าวอยู่เสมอว่า :
"เมื่อถึงเช้า ท่านจงอย่าคอยค่ำ เมื่อถึงค่ำท่านจงอย่าคอยเช้า จงฉกฉวยตอนแข็งแรงไว้เผื่อตอนเจ็บไข้ และฉกฉวยตอนมีชีวิตไว้เผื่อตอนสิ้นใจ"
(เศาะฮีหฺ อัล-บุคอรียฺ เล่มที่ 4 หน้า 176 หมายเลข 6416)
การเพ้อฝันอันยาวไกลกับมุมมองคำสอนศาสนาอิสลาม
ดร.อะมีน บิน อับดุลลอฮฺ อัช-ชะกอวีย์
พระองค์อัลลอฮฺ ได้ทรงติเตียนบุคคลหลายกลุ่มที่วาดฝันหวานอย่างยาวไกลจนละเลยการงานเพื่ออนาคตในโลกอาคิเราะฮฺ ซึ่งจู่ๆ ความตายก็เข้ามาเยือนโดยที่พวกอยู่ในสภาพหลงระเริง พวกเขาวาดความฝันอย่างลม ๆ แล้งว่า หากได้รับการต่ออายุไปอีกหน่อย พวกเขาคงสามารถกู้ภาระการงานที่ละเลยไปมาทำใหม่ได้ แต่มันสายเกินแก้เสียแล้ว
พระองค์อัลลอฮฺได้ตรัสว่า :
“บางครั้ง บรรดาผู้ไม่ศรัทธานั้นได้ฝันหวานนึกอยากจะเป็นมุสลิม เจ้าจงปล่อยให้พวกเขากินไปเถอะ เฮฮาไปเถอะ
และให้ความฝันหวานขับกล่อมพวกเขาไปเถอะ อีกไม่ช้าพวกเขาก็จะรู้เอง”
(อัล-หิจญ์รฺ :2-3)
ฏูลุลอะมัล คือ ความคร่ำเคร่งในการแสวงหาและกระทำการเพื่อประโยชน์ทางดุนยาพร้อมกับหันหลังอย่างมากให้กับโลกอาคิเราะฮฺ
(สารานุกรมนัฎเราะตุนนะอีม เรื่องมะการิมุ อัคลาก อัร-เราะสูล อัล-กะรีม เล่มที่ 11 หน้า 4857)
ทั้งนี้ ท่านนบี ได้บอกว่ามีหลายคนที่ฝันหวานยาวไกลกว่าอายุที่มี บุร็อยดะฮฺ -เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮฺ- ได้รายงานว่า
"ท่านนบี ได้ขีดเส้นหลายเส้นและบอกว่านี่คือความใฝ่ฝันและนี่อายุขัยของเขา
ซึ่งในขณะที่เขากำลังหลงอยู่ในความฝันอย่างนั้น อยู่ๆ เส้นที่ใกล้กว่า(หมายถึงความตาย)ก็มาหาเขา"
(เศาะฮีหฺ อัล-บุคอรียฺ เล่มที่ 4หน้า 176 หมายเลข 6418)
พฤติกรรมที่น่าแปลกของมนุษย์ประการหนึ่งก็คือ ยิ่งใกล้ถึงวันตาย ความฝันก็ยิ่งยาวไกล ความต้องการและปรารถนาในดุนยาก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น ไม่มีใครรอดพ้นจากสิ่งนี้เว้นแต่ผู้ที่พระองค์อัลลอฮฺทรงคุ้มครอง ซึ่งมีน้อยมาก
อบู ฮุร็อยเราะฮฺ -เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮฺ- ได้รายงานว่า : ฉันได้ยินท่านเราะสูลุลลอฮฺ ได้กล่าวว่า :
«لاَ يَزَالُ قَلْبُ الْكَبِيرِ شَابًّا فِي اثْنَتَيْنِ: فِي حُبِّ الدُّنْيَا وَطُولِ الأَمَلِ» [البخاري برقم 7420]
" หัวใจของคนแก่จะไม่แก่ในสองเรื่อง คือ ในเรื่องรักดุนยาและฝันหวานยาวไกล"
(เศาะฮีหฺ อัล-บุคอรียฺ เล่มที่ 4 หน้า 176 หมายเลข 7420)
♥ การฝันหวานยาวไกล คนส่วนใหญ่มักจะถอนตัวไม่ได้ เพราะหากไม่ใช่ความฝันหวานยาวไกลแล้ว ทุกคนก็คงไม่มีความสุขกับชีวิตเลย กวีอาหรับได้ร่ายกลอนว่า
ฉันปล่อยให้ใจเพ้ออยู่กับความฝันหวานยาวไกล และคอยเฝ้ามองดูมัน
ชีวิตช่างคับแคบเหลือเกิน หากไม่ใช่เพราะความกว้างไกลของการฝันหวาน
อิบนุ หะญัรฺ ได้กล่าวมีความว่า :
"ความฝันหวานนั้นมีคุณค่าอย่างลึกซึ้ง เพราะหากไม่ใช่เพราะมัน ทุกคนก็คงไม่มีความสุขในชีวิต ไม่มีอารมณ์ที่จะทำงานดุนยาใดๆ เลย เพียงแต่ว่าที่ถือเป็นข้อเสียและน่ารังเกียจก็คือ การฝันหวานอย่างเลื่อนลอยและไม่มีการเตรียมตัวเพื่ออาคิเราะฮฺ ซึ่งหากผู้ใดไม่เป็นอย่างนั้น ศาสนาก็ไม่บังคับให้เขาลบล้างความฝันหวานนั้น"
(ฟัตหฺ อัล-บารียฺ เล่มที่ 11 หน้า 237 )
♥ คนมีปัญญาจึงเป็นคนที่ไม่ถูกความฝันหวานหลอกและกล่อมให้ลืมความสุขสบายในอาคิเราะฮฺที่พระองค์อัลลอฮฺเตรียมไว้สำหรับทุกคน
พระองค์อัลลอฮฺได้ตรัสความว่า :
“แต่ละชีวิตนั้นจะได้ลิ้มรสแห่งความตาย และในวันอาคิเราะฮฺเท่านั้นที่พวกเจ้าจะได้รับผลตอบแทนอย่างสมบูรณ์
โดยผู้ใดที่ถูกกระชากออกจากไฟนรกและถูกผลักให้เข้าสวรรค์แล้วไซร้ แน่นอน ผู้นั้นก็ประสบความสำเร็จแล้ว
ชีวิตในโลกนี้นั้น มิใช่อะไรอื่นนอกจากเป็นเพียงสิ่งหลอกลวงเท่านั้น”
(อาล อิมรอน : 185)
อับดุลลอฮฺ บินอุมัรฺ -เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮฺ- ได้รายงานว่า ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ได้จับไหล่ของฉันทั้งสองข้างและบอกว่า
“เจ้าจงอยู่ในดุนยาเหมือนกับเจ้าเป็นคนแปลกหน้าหรือคนเดินผ่านทาง”
และท่านอิบนุ อุมัรฺ มักกล่าวอยู่เสมอว่า :
"เมื่อถึงเช้า ท่านจงอย่าคอยค่ำ เมื่อถึงค่ำท่านจงอย่าคอยเช้า จงฉกฉวยตอนแข็งแรงไว้เผื่อตอนเจ็บไข้ และฉกฉวยตอนมีชีวิตไว้เผื่อตอนสิ้นใจ"
(เศาะฮีหฺ อัล-บุคอรียฺ เล่มที่ 4 หน้า 176 หมายเลข 6416)