ตกงาน เอาเสื้อผ้าเก่าๆไปขายตลาดนัด โดนที่บ้านด่าว่า โง่

ผมตกงาน มีหนี้สินอยู่ สองหมื่น ไม่มีเงินเก็บ

ผมกำลังได้งานใหม่ แต่ไม่มีเงินติดกระเป๋ามากพอที่จะถึงสิ้นเดือน เลยโละเสื้อผ้าตัวเองในตู้มาขาย (เก็บไว้เป็นสิบๆปีแล้ว)

ที่บ้านผมเค้าราชการหัวโบราณ พ่อก็เกษียณแล้ว แม่ก็ใกล้เกษียณ เค้าไม่ชอบงานค้าขาย พอเห็นผมจะเอาเสื้อผ้าตัวเองไปขายก็ถามราคาบอกว่าซื้อมาตัวเท่าไรบ้าง ทำไมไม่ขายเท่าทุน ตัวละ 300 บาท เอาไปขายตัวละ 50 บาท ขาดทุนจะตาย แล้วค่าเช่าที่อีกเท่าไร เป็นร้อย ตากแดด ตากลม ใครมาเห็นอายเค้าอีก (แต่ผมไม่อาย เพราะ ไม่มีจะกินแล้ว พ่อกับแม่ก็เหลือเงินบำนาญติดตัวแค่เดือนละสี่พัน)

ผมไม่ฟังเสียงใครแล้วครับ ณ วินาทีนั้นมีตังติดกระเป๋าแค่ 400 บาท เอาไปแลกเหรียญ แลกแบงค์ย่อย วิ่งไปรื้อถุงพลาสติก หยิบเสื่อน้ำมันเก่าๆในห้องพระมา หยิบใส่กล่องใหญ่ๆ แบกใส่มอไซต์ จ่ายค่าเช่าที่ 100 นึง ภาวนาอย่าให้ฝนตก ภาวนาอย่าให้ตังหาย เพราะผมมีแค่นั้นจริงๆ

เหมือนสวรรค์เข้าข้าง ผมตั้งของขาย ยังพอมีคนซื้อ ขายตั้งแต่บ่ายสี่ ถึง สองทุ่ม ขายตัวละ 50 บาท แต่ผ้าดูใหม่ สะอาด ใช้ไม่กี่ครั้ง มีของแฟนเก่าผมบ้าง มีของเพื่อนบ้าง มีของที่เคยจะเอาไปบริจาคบ้าง  ได้เงินเข้ากระเป๋าประมาณ 1600 บาท (จ่ายค่าที่ไปแล้ว)

ผมไม่รู้ทำถูกไหม ผมเคยพยายามเชื่อพ่อกับแม่ แต่เซนส์ผมมันบอกว่าถ้าอยู่ไปมันจะอดตายแน่ๆ ผมเหลือแค่ 400 บาท แต่อีกทั้งเดือนเลยนะ กว่าจะได้เงินมาประทังชีวิตใหม่ ไหนจะค่าน้ำมันรถไปทำงาน ค่ากิน ค่าจิปาถะ แล้วพ่อแม่ผมเค้าไม่ใช่ให้เงินซักบาทตั้งแต่เรียนจบ ผมเลยต้องสู้ ถ้ามองว่าขาดทุนก็ต้องยอม เพราะผมร้อนเงิน แต่ถ้าไม่ขายผมก็อดตาย

คำถามคือ คิดยังไงกับเรื่องนี้ครับ มันมองได้สองแง่ ผมเคารพที่บ้านนะ ช่วยสอนการดำเนินชีวิตจริงๆให้ผมที บางทีผมก็เหมือนอยู่ในกะลา แต่ปัญญาผมก็มีแค่นี้แหละ




Update ล่าสุด วันจันทร์ 04/04/2559 ตีหนึ่งพึ่งกลับมาถึงบ้านครับ เป็นวันที่ผมภูมิในที่สุด ------ ผมปลดหนี้สองหมื่นบาทหมดเรียบร้อยแล้วนะครับ วันเสาร์ อาทิตย์ ลองเปลี่ยนตลาดนัด ขายตั้งแต่ บ่ายสอง ถึง ห้าทุ่มครับ วันนึงได้หมื่นเศษๆครับ ค่าที่เพิ่มจาก 100 บาท เป็น 150 บาท แต่นับหัวคนเดินตลาดนัดแล้วเยอะกว่าตลาดเดิมสามเท่าตัว มีของหายประมาณสี่ชิ้นครับ (อาจมากกว่านี้) ผมซวยหลายอย่างครับ แต่ถือว่าฟาดเคราะห์ไป ขายคนเดียวด้วย ไม่อยากคิดเล็กคิดน้อยแล้วครับ ขากลับก็ขี่มอไซต์แวะเซเว่นซื้อเสลอปี้ ซื้อหลอดหนวด จ่ายหนี้บัตรกดเงินสด พ้นเคราะห์แล้วครับชีวิต พรุ่งนี้เริ่มงานใหม่แล้วครับ อยู่ให้รอดถึงสิ้นเดือนพอครับ อาจหาทางขายของต่อด้วยครับ    

เดี๋ยวทยอยตอบคอมเม้นให้นะครับ ขอบคุณทุกคนครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
อย่าอายทำกิน อย่าหมิ่นเงินน้อย อย่าคอยวาสนา

คุณทำดีแล้วนะคะ คือล้มแล้วพยายามยืนด้วยขาของตัวเอง ไม่ได้ไปกู้หนี้ยืมสินใครมา

เรื่องเอาเสื้อผ้าเก่าไปขายก็บอกคนอื่นไปสวยๆก็ได้ว่า..กำลังเปลี่ยนสินทรัพย์ให้เป็นทุนสำหรับซื้อชุดใหม่...จบ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่