กับคำว่าน้องคุณยอมได้แค่ไหนให้ได้แค่ไหน? เคยถึงจุดที่หมดความอดทนไหม?

มันถึงจุดสิ้นสุดความอดทนเมื่อปีที่แล้ว   เธออายุ25แล้วเลยตั้งใจเลิกสนใจ  ตั้งใจว่าไม่ว่าอะไรเกิดขึ้นก็จะปล่อย  ทุกวันนี้มีโทรมาบ่างและแค่เห็นมีสคอลมาก็นอนไม่หลับไมเกรนขึ้นละ  ว่าจะมีปัญหาอะไรมาอีกก็ปล่อยละโตละ  และเราเองก็มีภาระหน้าที่ที่ต้องส่งตังเลี้ยงดูลูกและพ่ออยู่แล้ว  ไม่ไหวที่จะมานั่งล้างนั่งเช็ดให้แบบนี้   อยากรู้เหมือนกันว่าบ้านอื่นมีเป้นแบบเราไหม    เหนื่อยและเบื่อหน่ายมาหาก็มีแต่มาสร้างปัญหาให้
       เอาจากเด็กๆกินเที่ยวไม่เคยทำงาน   แต่เรานี่มีอะไรก็ได้ทำหมด  เข้าใจว่าน้องแต่ก็ไม่คิดว่าจากวันนั้นจนวันนี้มันก็ยังไม่เคยปรับปรุงตัว   เกเรหัวไม้ต่อยตีจนต้องขึ้นโรงขึ้นโรงขึ้นศาล   จนได้ย้ายรร.  ตอนอยู่บ้านก็เหมือนเลี้ยงโจรไว้ที่บ้าน  ข้าวของถ้าเผลอวางไว้   ก็คือหายตามไม่เจอเพราะเธอจะไปจำนำ  พอจะไปไถ่คนรับจำก็จะบอกขายไปแล้วบลาๆๆ  มือถือ,โน้ตบุ๊คหรืออะไรที่พอจะขายได้ไม่มีเหลือ  เราเกลียดมากเพราะอย่างคอมรูปทั้งหมดงานทั้งหมด  ก็เก็บไว้ในนั้น  หรือมือถือสามเครื่องได้ที่หายเรียกว่ากลับบ้านแล้วนอนไม่หลับหวาดระแวง  หายทีต้องเสียเวลาไปคัดลอกเบอร์ตามศูนย์  ขโมยไปไม่คิดเลยว่าเราจะเดือดร้อนซื้อมาหมื่นกว่าขายก็สามสี่ร้อยก็เอา  เคยด่าก็ไปตัดผ้าเราทิ้งทั้งตู้  ทำลายข้าวของ  แม่ก็บ่นเราแทนไม่ให้ด่าน้อง  หรือแม้แต่ของหายถามหาก็มาตวาดเราแทน  ว่าเก็บไม่ดีแทนที่จะด่าลูกชาย  ของแกก็หายเคยโทรหาแม่คนรับจำรับสายบอกลูกชายแกเอามาจำ  น่าอายมากเพราะวันๆเพื่อนแม่ก็โทรมาก็คงพูดคำเดียวกัน   จริงๆซ่อนแล้วนะแต่ก็เจอ   
         ตอนนั้นที่บ้านมีปัญหาการเงินไม่มีตังส่งเรียนต่อเลยออกมาช่วยทำงานใช้หนี้  สละให้น้องได้เรียนต่อ  อยากได้อะไรก็หาให้  เพราะตอนนั้นทำงานก็พอมีตัง  เคยทำบัตรเครดิตทำมาไม่รู้จะใช้อะไรไม่กล้าซื้อเพราะเคยจน   แต่น้องมาพาไปเดินห้างเจอร้านกีต้าขอแวะดู   มันมือสั่นน้ำตาเอ่อก็นึกสงสารมัน   เพราะเราโตมาก็ไม่เคยได้มีของขวัญของเล่น  เลยตัดใจรูดไปนั่นคือครั้งแรกที่ใช้   ตอนนั้นขอว่าตั้งใจเรียนพอ  เหตุการณ์ช่วงนั้นปกติเพราะต่างคนต่างแยกย้ายไปทำงานไปเรียน   ไม่ได้อยู่ด้วยกัน  จน 3 ปีต่อมา น้องจะจบ.ปวชอ.ที่ปรึกษาโทรมาหาเราว่าน้องเราจะไม่จบเรียนสิบกว่าวิชา  ติดร,มส,หมดเลย  ขาดสอบขาดงาน   เราเสียดายเวลาและตังเลยลงไปขอช่วยแก้  ด้วยเราวิ่งรถจากกทม.ไปรร.อ.เขาคงเห็นใจ  เลยให้เราแก้  (ซึ้งก็ไม่ดีแต่ก็ทั้งตังที่เสียไปทั้งเวลาก็คิดว่านี่อาจจะทำให้น้องฟังเราบ้างและคิดว่าจบแล้วจะพาไปสอบนั่นนี่นู้นตำรวจทหาร)  แก้ด้วยการทำงานส่งทำรายงานจนครบหมดเหลือวิชาเดียวคือศิลป์อ.ขอว่าวิชานี้มันง่ายๆขอให้เขาทำงานมาส่งเองนะ  ตอนแรกเราจะทำให้แต่ อ.ขอว่าต้องน้องทำ  เลยไปบอกน้องว่า  แก้ให้หมดแล้วนะเหลือวิชาเดียวให้ประดิษฐ์ของไปส่งเอา  พอปิดเทอมเราก็บอกให้ลงมาหาเราเพราะตั้งใจจะพาไปตระเวณสมัครสอบให้มาอ่านหนังสือเตรียมสอ   แต่เธอขอไปหาเพื่อนที่สัตหีบก่อนแล้วจะตั้งใจสอบ  เราก็เลยพาไป   พอกลับมาเราก็ให้โทรศัพท์หนึ่งเครื่องเพื่อไว้ติดต่อกัน  และซื้อข้าวปลาอาหารทิ้งไว้ให้สั่งร้านข้าวข้างล่างให้  และตระเวณพาวิ่งสมัครสอบ  และซื้อหนังสือให้ ให้อยู่ห้องอ่านหนังสืออย่างเดียว  เราก็ไปพักกับแฟนคิดว่าจะได้มีสมาธิอ่าน  ที่ไหนได้   หายไปพร้อมตังและมือถือสรุปหายไปหาเพื่อน  และขายมือถือเราตามเคยแค้นเลยทำเพื่อมันทุกอย่างมันยังไม่แก้ไขปรับปรุงตัว  บทจะกลับก็   เหมาแท็กซี่มาเลยมาหักคอเอาข้างหน้า  ให้เราไปจ่ายเกือบพัน   จากนั้นคือไม่ได้เรียนต่อเพราะไม่จบ  ขึ้นๆลงกทม.มาทีแม่ให้ตังมาก็ใช้หมด  หมดก็ยืมกะเรา  ยืมค่าชุดค่าทำงานจนเงินเดือนออกก็คือหยุดใช้เงินตังหมดก็กลับมายืม  ฉากเดิมๆ  หลายทีเหมาแท็กซี่มาหาเราไม่อยู่ก็ให้แท็กซี่รอ  ทำงานเข้าๆออกตามอำเภอใจยืมแม่บ้านพี่บ้างไม่ให้ยืมก็กลับ   วนๆเข้างานใหม่แต่ละที่  ไหนจะค่าเปิดห้องค่าเข้างานใหม่ก็หลายพัน  มันไม่เคยคิดเลยว่าเอาตังมาจากไหน  ถ้าด่ามันก็โทรหาแม่ แม่ก็หาเพื่อนให้ช่วยหางานใหม่ให้มัน   โอนตังให้โดยบอกว่าเราไม่ดูน้อง  ไม่เคยพูดถึงลูกชายในทางไม่ดีเลย  ทุกอย่างที่ผ่านมามาหาทุกรอบก็จบที่ฉากเดิมๆ  ตังออกแล้วกินหมดจะยืมต่อ  ไม่เคยได้ให้พ่อแม่   ขนาดพ่อป่วยน้องว่างงานนะแต่ไม่ดูเที่ยวกินเหล้าเฉย   เราเลยต้องออกจากงานไปเฝ้าพ่อที่รร.ดีที่พ่อใช้สิทธิราชการของแม่เลยรักษาฟรี  เลยตชจ.ไม่เยอะเท่าไหร่  ต่อมาเราป่วยลงพักพื้นน้องก็ว่างงาน  ก็ไม่เคยช่วยยังต้องจ้างป้าคนแถวบ้านมาอยู่เป็นเพื่อน  คือเป้นที่พึ่งใครไม่ได้เลย
       พอเราดีขึ้นกลับมาทำงานก็วนมาหาอีกละ   มีอยู่ทีที่สามารถทำงานได้นานสุดเลย 8 เดือนเพราะอยู่กับเพื่อนกลุ่มที่ไม่ได้เรียนกินเที่ยวด้วยกัน  แต่คนอื่นเขารู้หน้าที่พอถึงฤดูทำนาเพื่อนก็กลับแต่น้องเราก็ออกตาม  จากนั้นก็เดิมๆวนๆมาทีไรหาภาระมาให้ตลอด  
     จนห้าปีที่แล้ว  เราเพิ่งมารู้ว่าน้องเราเรียนไม่จบ  เพราะไม่ไปแก้งานที่เหลือแค่วิชาเดียว  ที่ผ่านมาเราไม่รู้เลย   แม่ก็ไม่บอกแม่จะดีกับน้องมาก  และไม่เคยพูดถึงน้องชายในทางที่ไม่ดีเลย  พยายามชมยอลูกชายให้คนอื่นฟัง  เช่นให้ตังใช้บ้างทั้งที่ไม่ได้  แกไปซื้อวุฒิมาคือไปแก้วิชาเดียวไม่แก้  ต้องมาเสียหลายหมื่นแลกกระดาษวุฒิหางานทำ   ทุกวันนี้ก็ยังดีดกีต้าโชว์ในเฟคไปวันๆ   ล่าสุดทำงานเท่าไหร่ๆก็ไม่พอใช้  แม่เลยให้กลับไปอยู่กับแม่ไม่ได้จ่ายค่าเช่าบ้านทำงานที่บ้านเผื่อเหลือ  
ที่ผ่านมายืมเรากี่พันๆหรือเป็นหมื่นเราไม่เคยคิดว่าจะได้คืนไม่ทวง  ปลงยืมได้เหมือนขอได้  ปีที่แล้วมาอยู่ด้วยสามรอบเราหมดไปเกือบสองสามหมื่นยืมค่าเข้างาน  ไม่พอใจงานออกก็ยืม   สุดท้ายไปสมัครงานได้งานดีแล้วงานสบายด้วย  พักกับเราที่บ้าน  ก็พอมีตังเหลือ  แต่อยู่ได้แค่สองเดือนเมาแล้วขับโดนจับ   ประกัน1หมื่น  ต่อมาแค่อาทิตย์เดียวก็โดนจับอีก  ข้อหาเดิมที่เดิมเวลาเดิมขาดงานอีก  หัวหน้าก็คงด่าเลยออก  ครั้งนี้แม่ก็เรียกเพื่อนแกให้มาช่วยอีก  โดยบอกใครต่อใครว่าเราไม่ดูน้องผิดแค่ครั้งเดียวไม่อภัย   (T.Tเราเองก็แย่เพราะช่วงนี้งานไม่ดีเท่าไหร่  ถ้าเราต้องคอยอุ้มน้องถ้าเราไม่มีมาลูกอดพ่ออด)
       มีจุดที่รู้สึกรับไม่ได้เลยคือ   พ่อกับแม่แยกทางกันพ่อแกอยู่บ้านคนเดียว  เรารับอาสาว่าจะส่งให้พ่อ    ทีนี้มีครั้งหนึ่งเราอยากรู้น้ำใจน้องเรากับแฟน  เลยบอกมันว่าเดือนนี้ไม่มีตังนะ  ตังไม่พอส่งพ่อ  พ่อรอค่ากินอยู่ให้ช่วยส่งทีหนึ่งพัน(ขอไว้แค่หนึ่งพัน)ว่ามันรับปากดิบดี  ว่าจะโอนไปสมทบ    เราอยากรู้ว่ามันจะให้ไหมแค่พันเดียวตัวเองก็ทำงาน  กินคนเดียวสุดท้ายให้ไม่ได้   ถึงเวลาเงียบ  ทั้งที่พ่อนะต้องเป้นภาระคนอื่นเราทำงานเลี้ยงลูกเองด้วย  เลยไม่ได้ไปดูเอง  เราอยากเอามาดูแลเองนะแต่พ่อหายออกจากบ้านเนื่องจากแกหลงๆลืมๆ   เลยบอกพี่ข้างบ้านว่าพ่อป่วยจะรับมาดูแลเองตอนนี้แกแข้งแรงก็จะส่งตังให้พี่ช่วยส่งข้าวน้ำ  คิดว่าวันข้างหน้าคงมีโอกาสตอบแทน  แต่น้องเราก็เห็นเลยว่ามันไม่ดูใครเลย
        ดีแต่โพสดีว่างานทำเพื่อพ่อแม่   บอกไปหาพ่อแต่ไม่เคยถามพ่อหรือให้ตังหรือซื้ออะไรไปฝากเลย  แต่กล้ามาด่าเราว่าอกตัญญูไม่ดูพ่อทั้งที่เราส่งนะ  และที่ผ่านมาก็ดูแลมีมากให้มากยามยากอย่างตอนนี้ก็ให้น้อย   ก่อนจะมาผ่อนบ้านผ่อนรถตัวเอง  ก็ได้ใช้หนี้บำรุงพ่อแม่ลูกอย่างดีก่อนแล้ว  "ถ้าดีจริงคงเอาลูกมาเลี้ยงเอง"คำด่าน้องเรา  เรามีลูกสองคนคนนึงอยู่กับแม่แต่เด็ก   เราเคยขอมาเลี้ยงเองสามครั้งตั้งแต่เล็กแม่คงกลัวเสียงานไม่ให้มา  นี่คือที่มาที่ไม่ได้เลี้ยงเองแต่ส่งเสียตลอด  และไม่เคยคิดทอดทิ้งเวลาปิดเทอมก็มาอยู่ด้วยเก็บตังให้เรียน  แต่หลังๆไม่ติดต่อทางแม่ทางน้องเพราะปัญหาแม่กับน้องที่เป็นแบบนี้  พูดกธเลาะเลาะเลยเลี่ยงคุยพูดอะไรไปไม่ค่อยถูกใจแม่เหมือนน้องชายเราพูด  เราพูดตรงๆและมีไรก็แก้ตรงๆแต่แม่เราชอบแก้อะไรต้องเอาหน้าตาสังคมมาก่อน  เลยคิดไม่ค่อยลงรอยกัน  หลังๆเลยห่างๆไม่ค่อยได้ติดต่อเพราะก็รู้อยู่แล้วว่าสบายดีเลยไม่ได้ห่วง  พูดไปก็ทะเลาะกันและลามไปเรื่อยๆเลยเหนื่อย  แต่ก็พยายามที่จะส่งตามกำลังช่วงนี้มีน้อยก็ให้น้อยแต่น้องมาอยู่ด้วยเราก็ไม่อยากส่งเลย  คงส่งพอใช้พอกินพอ  เพราะคนจะได้ใช้ไม่ใช้ลูกกับแม่จะเป็นน้องแทนเก็บไว้ให้ลูกเรียนดีกว่า
       ถ้าคนอื่นด่าเราจากปากน้องชายหรือจากใคร  เราเฉยๆเพราะคนอื่นก็คือคนอื่นไม่ได้มารู้เรื่องในครอบครัวใครเป็นยังไง   วันๆทำมาหากินทำงานเลี้ยงลูกก็หมดวันไปละ  ใครจะนินทาก็ตามสบาย   คิดว่าถ้าเราทำดีที่สุดแล้วก็คือดีแล้วเลิกสนใจสังคมเอาตัวเองให้รอดไว้พอ  เพราะยังไงสุดท้ายไม่ว่าใครจะด่าเรายังไงพ่อแม่ป่วยมาก็คงเรานี่แระที่ดู   น้องเรานี่ขอให้เป็นคนดีในสังคมโชเชี่ยลที่เขาภูมิใจต่อไป  ส่วนเราขอมีความสุขในโลกความเป็นจริง   ทุกวันนี้ยังละอายใจที่ดูแลพ่อแม่ไม่ได้ดีพอ  แต่มั่นใจว่าทำดีที่สุดในจุดที่ยืนเสมอ  เพิ่งเริ่มมาโดนด่าก็ตอนมีน้อยให้น้อย   แต่ตอนด่าไม่เคยเอ่ยถึงเลยว่าที่ผ่านมาเราเคยดีบ้าง   เราเคยงงนะว่าทำไมแม่เราไม่เคยชมเราบ้างทั้งที่เราทุ่มเพื่อที่บ้านนะ  เคยสละโอกาสและอนาคตตัวเองทิ้งฝันมาให้น้องได้เรเหมือนไม่เคยมีความดี  จนเราก็รู้เป็นส่วนเกินของบ้าน  ทำดีแค่ไหนก็แพ้คำหยอดลูกชาย   เหมือนแม่แกคงรักและห่วงน้องมาก   แต่ถ้าห่วงเกินไปก็เป็นดาบสองคมทุกครั้งที่แม่บอกลูกชายว่าบ้านรถนั่นนี่แม่ก็หาไว้ให้ลูก  มันทำให้คนอย่างน้องเราไม่คิดจะแสวงหาอะไรเลย  เพราะคงคิดว่ามีบ้านมีรถแล้ว  ไม่จำเป็นต้องดิ้นรนอะไร   รอรับอย่างเดียว  
   จะมีคำที่ แม่เราจะเปลียบเทียบเรากับน้องเสมอว่า   ไม่ว่าน้องจะทำอะไรผิดแค่ไหนเสียตังไปด้วยเท่าไหร่  แต่มันยังดีกว่าที่เราหาภาระมาให้  หมายถึงหลาน(ลูกเรา)คือภาระ  แต่พอจะเอามาเลี้ยงแต่แรกกลับไม่ให้มา  ทั้งที่เราพร้อมนะทำงานก็พอมีกำลังส่งเสียลูกเรียนเองได้  ไม่ยอมให้มาและไม่มีสิทธิอะไรในตัวลูกเลย  เราเลยไม่ค่อยสนใจพอไม่สนใจก็ด่าว่าไม่สนใจ  พอสนใจก็ยิ่งเหมือนทำประชดให้เสียใจเรื่อยมา  เลยเลยปล่อยวางรอแค่ปิดเทอมได้เจอกัน  ได้ดูแลใส่ใจ  แต่เปิดเทอมก็แค่ส่งตังไม่ได้ไปไถ่ถามอะไรเยอะ  เหมือนไม่ว่าเราพูดอะไรแม่และญาติสนิทแกก็จะเอาไปต่อปากต่อคำด่ากัน   เรารู้สึกไร้สาระและเสียเวลา  เลยปลงปล่อยอยากพูดก็พูดจะทำงานพอ  มีเพียงลูกที่แม่เราใช้เป็นอาวุธที่คอยด่าเราว่าหาภาระมาให้ ทำดียังไงก็ลบล้างคำพูดนี้ไม่ได้  เพราะเจอทีไรแกก็พูดจนเรารู้สึกว่า   เป็นภาระๆทำไมไม่เอามาให้ดูแลเองนะ  ทั้งที่พูดกันหลายทีมาก  เหมือนแค่อยากด่าแต่ก่อนมีมากให้มาก   ก็ใช้ไปกับเรื่องที่เราไม่เห้นด้วยเยอะ  ไม่ถึงลูกเรา  ตอนนี้มีน้อยให้น้อย   พอคนมีลูกคนที่2เราเลยไม่ให้แม่เราเลี้ยงเลย  แกจะเอาไปเรากับแฟนก็ไม่ให้ตั้งใจจะเลี้ยงเอง   ขณะที่น้องสร้างแต่ปัญหาคือดี   แเลยม่จะพูดบ่อยเรื่องรถบ้านหามาไว้แม่ตายไปก็เป็นของลูก  น้องเราเลยไม่คิดเก้บหาอะไร  ผิดกับเราตั้งแต่ทำงานมาก็คิดตลอดเวลาว่าต้องสร้างต้องหาอะไรเป็นของตัวเอง  ด้วยกำลังตัวเองให้ได้ เพราะไม่ชอบแบบกงสีหรืออยู่กับน้อง  เบื่อที่ต้องมารับปัญหานั่นนี่ของน้อง  มีอะไรก็ให้หมดเลยไม่อยากได้
      อยากช่วยคนอื่นได้เยอะกว่านี้ก็ต้องยืนได้มั่นก่อน  ต้องทำงานไม่มีหยุดเลยจริงๆเพราะธุรกิจแย่เลยมีหนี้ให้เคลียจำต้องขยัน  ส่วนน้องโชว์ในเฟคไปวันๆทั้งที่ไม่เคยทำตัวให้ได้พึ่งพาเลย    แถมด่าเราด้วยว่ามีพี่เหมือนมีหมา  ทั้งที่เคยให้ข้าวน้ำมันกิน   มาอยู่กับเรานอกจากระวังของหายยังลามไปถึงของพี่เขยรองเท้า  เสื้อ  เพลเกมอยากได้หยิบเลย  น้องมาที  เป็นว่าเรารู้กันกลัวไปเลย  วันดีคืนดีเมามาเคยนอนห้องชุดนอนรวมกัน  เมามานอนหอนและลุกมายืนฉี่รดเรากะแฟนที่นอนอยู่  เราว่าเราทนกันมาเยอะพอสมควรและไม่เคยไปแพร่งพลายให้ใครฟัง  ในพันทิพต่างคนต่างไม่รู้จักกัน  เป็นที่แลกเปลี่ยนและระบายที่ดี  ที่มาเขียนในพันทิพอยากบอกกลายๆไปว่า   อยากระบายทิ้งไว้เผื่อมาอ่านเจอ   เพราะชอบเล่นเฟคแต่เรากับแฟนไม่เล่น   เคยเล่นแต่งานเยอะ(หนี้เยอะภาระเยอะไม่มีเวลาเล่น)  เรามีเล่นก็เปิดไว้แค่ติดตามข่าวสารและแลกเปลี่ยนในกรุ๊ปแลกเปลี่ยนในการงานเท่านั้น  
  อยากรู้ว่ามีใครแย่กว่าเราไหมสุดทนจริงๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่