มันถึงจุดสิ้นสุดความอดทนเมื่อปีที่แล้ว เธออายุ25แล้วเลยตั้งใจเลิกสนใจ ตั้งใจว่าไม่ว่าอะไรเกิดขึ้นก็จะปล่อย ทุกวันนี้มีโทรมาบ่างและแค่เห็นมีสคอลมาก็นอนไม่หลับไมเกรนขึ้นละ ว่าจะมีปัญหาอะไรมาอีกก็ปล่อยละโตละ และเราเองก็มีภาระหน้าที่ที่ต้องส่งตังเลี้ยงดูลูกและพ่ออยู่แล้ว ไม่ไหวที่จะมานั่งล้างนั่งเช็ดให้แบบนี้ อยากรู้เหมือนกันว่าบ้านอื่นมีเป้นแบบเราไหม เหนื่อยและเบื่อหน่ายมาหาก็มีแต่มาสร้างปัญหาให้
เอาจากเด็กๆกินเที่ยวไม่เคยทำงาน แต่เรานี่มีอะไรก็ได้ทำหมด เข้าใจว่าน้องแต่ก็ไม่คิดว่าจากวันนั้นจนวันนี้มันก็ยังไม่เคยปรับปรุงตัว เกเรหัวไม้ต่อยตีจนต้องขึ้นโรงขึ้นโรงขึ้นศาล จนได้ย้ายรร. ตอนอยู่บ้านก็เหมือนเลี้ยงโจรไว้ที่บ้าน ข้าวของถ้าเผลอวางไว้ ก็คือหายตามไม่เจอเพราะเธอจะไปจำนำ พอจะไปไถ่คนรับจำก็จะบอกขายไปแล้วบลาๆๆ มือถือ,โน้ตบุ๊คหรืออะไรที่พอจะขายได้ไม่มีเหลือ เราเกลียดมากเพราะอย่างคอมรูปทั้งหมดงานทั้งหมด ก็เก็บไว้ในนั้น หรือมือถือสามเครื่องได้ที่หายเรียกว่ากลับบ้านแล้วนอนไม่หลับหวาดระแวง หายทีต้องเสียเวลาไปคัดลอกเบอร์ตามศูนย์ ขโมยไปไม่คิดเลยว่าเราจะเดือดร้อนซื้อมาหมื่นกว่าขายก็สามสี่ร้อยก็เอา เคยด่าก็ไปตัดผ้าเราทิ้งทั้งตู้ ทำลายข้าวของ แม่ก็บ่นเราแทนไม่ให้ด่าน้อง หรือแม้แต่ของหายถามหาก็มาตวาดเราแทน ว่าเก็บไม่ดีแทนที่จะด่าลูกชาย ของแกก็หายเคยโทรหาแม่คนรับจำรับสายบอกลูกชายแกเอามาจำ น่าอายมากเพราะวันๆเพื่อนแม่ก็โทรมาก็คงพูดคำเดียวกัน จริงๆซ่อนแล้วนะแต่ก็เจอ
ตอนนั้นที่บ้านมีปัญหาการเงินไม่มีตังส่งเรียนต่อเลยออกมาช่วยทำงานใช้หนี้ สละให้น้องได้เรียนต่อ อยากได้อะไรก็หาให้ เพราะตอนนั้นทำงานก็พอมีตัง เคยทำบัตรเครดิตทำมาไม่รู้จะใช้อะไรไม่กล้าซื้อเพราะเคยจน แต่น้องมาพาไปเดินห้างเจอร้านกีต้าขอแวะดู มันมือสั่นน้ำตาเอ่อก็นึกสงสารมัน เพราะเราโตมาก็ไม่เคยได้มีของขวัญของเล่น เลยตัดใจรูดไปนั่นคือครั้งแรกที่ใช้ ตอนนั้นขอว่าตั้งใจเรียนพอ เหตุการณ์ช่วงนั้นปกติเพราะต่างคนต่างแยกย้ายไปทำงานไปเรียน ไม่ได้อยู่ด้วยกัน จน 3 ปีต่อมา น้องจะจบ.ปวชอ.ที่ปรึกษาโทรมาหาเราว่าน้องเราจะไม่จบเรียนสิบกว่าวิชา ติดร,มส,หมดเลย ขาดสอบขาดงาน เราเสียดายเวลาและตังเลยลงไปขอช่วยแก้ ด้วยเราวิ่งรถจากกทม.ไปรร.อ.เขาคงเห็นใจ เลยให้เราแก้ (ซึ้งก็ไม่ดีแต่ก็ทั้งตังที่เสียไปทั้งเวลาก็คิดว่านี่อาจจะทำให้น้องฟังเราบ้างและคิดว่าจบแล้วจะพาไปสอบนั่นนี่นู้นตำรวจทหาร) แก้ด้วยการทำงานส่งทำรายงานจนครบหมดเหลือวิชาเดียวคือศิลป์อ.ขอว่าวิชานี้มันง่ายๆขอให้เขาทำงานมาส่งเองนะ ตอนแรกเราจะทำให้แต่ อ.ขอว่าต้องน้องทำ เลยไปบอกน้องว่า แก้ให้หมดแล้วนะเหลือวิชาเดียวให้ประดิษฐ์ของไปส่งเอา พอปิดเทอมเราก็บอกให้ลงมาหาเราเพราะตั้งใจจะพาไปตระเวณสมัครสอบให้มาอ่านหนังสือเตรียมสอ แต่เธอขอไปหาเพื่อนที่สัตหีบก่อนแล้วจะตั้งใจสอบ เราก็เลยพาไป พอกลับมาเราก็ให้โทรศัพท์หนึ่งเครื่องเพื่อไว้ติดต่อกัน และซื้อข้าวปลาอาหารทิ้งไว้ให้สั่งร้านข้าวข้างล่างให้ และตระเวณพาวิ่งสมัครสอบ และซื้อหนังสือให้ ให้อยู่ห้องอ่านหนังสืออย่างเดียว เราก็ไปพักกับแฟนคิดว่าจะได้มีสมาธิอ่าน ที่ไหนได้ หายไปพร้อมตังและมือถือสรุปหายไปหาเพื่อน และขายมือถือเราตามเคยแค้นเลยทำเพื่อมันทุกอย่างมันยังไม่แก้ไขปรับปรุงตัว บทจะกลับก็ เหมาแท็กซี่มาเลยมาหักคอเอาข้างหน้า ให้เราไปจ่ายเกือบพัน จากนั้นคือไม่ได้เรียนต่อเพราะไม่จบ ขึ้นๆลงกทม.มาทีแม่ให้ตังมาก็ใช้หมด หมดก็ยืมกะเรา ยืมค่าชุดค่าทำงานจนเงินเดือนออกก็คือหยุดใช้เงินตังหมดก็กลับมายืม ฉากเดิมๆ หลายทีเหมาแท็กซี่มาหาเราไม่อยู่ก็ให้แท็กซี่รอ ทำงานเข้าๆออกตามอำเภอใจยืมแม่บ้านพี่บ้างไม่ให้ยืมก็กลับ วนๆเข้างานใหม่แต่ละที่ ไหนจะค่าเปิดห้องค่าเข้างานใหม่ก็หลายพัน มันไม่เคยคิดเลยว่าเอาตังมาจากไหน ถ้าด่ามันก็โทรหาแม่ แม่ก็หาเพื่อนให้ช่วยหางานใหม่ให้มัน โอนตังให้โดยบอกว่าเราไม่ดูน้อง ไม่เคยพูดถึงลูกชายในทางไม่ดีเลย ทุกอย่างที่ผ่านมามาหาทุกรอบก็จบที่ฉากเดิมๆ ตังออกแล้วกินหมดจะยืมต่อ ไม่เคยได้ให้พ่อแม่ ขนาดพ่อป่วยน้องว่างงานนะแต่ไม่ดูเที่ยวกินเหล้าเฉย เราเลยต้องออกจากงานไปเฝ้าพ่อที่รร.ดีที่พ่อใช้สิทธิราชการของแม่เลยรักษาฟรี เลยตชจ.ไม่เยอะเท่าไหร่ ต่อมาเราป่วยลงพักพื้นน้องก็ว่างงาน ก็ไม่เคยช่วยยังต้องจ้างป้าคนแถวบ้านมาอยู่เป็นเพื่อน คือเป้นที่พึ่งใครไม่ได้เลย
พอเราดีขึ้นกลับมาทำงานก็วนมาหาอีกละ มีอยู่ทีที่สามารถทำงานได้นานสุดเลย 8 เดือนเพราะอยู่กับเพื่อนกลุ่มที่ไม่ได้เรียนกินเที่ยวด้วยกัน แต่คนอื่นเขารู้หน้าที่พอถึงฤดูทำนาเพื่อนก็กลับแต่น้องเราก็ออกตาม จากนั้นก็เดิมๆวนๆมาทีไรหาภาระมาให้ตลอด
จนห้าปีที่แล้ว เราเพิ่งมารู้ว่าน้องเราเรียนไม่จบ เพราะไม่ไปแก้งานที่เหลือแค่วิชาเดียว ที่ผ่านมาเราไม่รู้เลย แม่ก็ไม่บอกแม่จะดีกับน้องมาก และไม่เคยพูดถึงน้องชายในทางที่ไม่ดีเลย พยายามชมยอลูกชายให้คนอื่นฟัง เช่นให้ตังใช้บ้างทั้งที่ไม่ได้ แกไปซื้อวุฒิมาคือไปแก้วิชาเดียวไม่แก้ ต้องมาเสียหลายหมื่นแลกกระดาษวุฒิหางานทำ ทุกวันนี้ก็ยังดีดกีต้าโชว์ในเฟคไปวันๆ ล่าสุดทำงานเท่าไหร่ๆก็ไม่พอใช้ แม่เลยให้กลับไปอยู่กับแม่ไม่ได้จ่ายค่าเช่าบ้านทำงานที่บ้านเผื่อเหลือ
ที่ผ่านมายืมเรากี่พันๆหรือเป็นหมื่นเราไม่เคยคิดว่าจะได้คืนไม่ทวง ปลงยืมได้เหมือนขอได้ ปีที่แล้วมาอยู่ด้วยสามรอบเราหมดไปเกือบสองสามหมื่นยืมค่าเข้างาน ไม่พอใจงานออกก็ยืม สุดท้ายไปสมัครงานได้งานดีแล้วงานสบายด้วย พักกับเราที่บ้าน ก็พอมีตังเหลือ แต่อยู่ได้แค่สองเดือนเมาแล้วขับโดนจับ ประกัน1หมื่น ต่อมาแค่อาทิตย์เดียวก็โดนจับอีก ข้อหาเดิมที่เดิมเวลาเดิมขาดงานอีก หัวหน้าก็คงด่าเลยออก ครั้งนี้แม่ก็เรียกเพื่อนแกให้มาช่วยอีก โดยบอกใครต่อใครว่าเราไม่ดูน้องผิดแค่ครั้งเดียวไม่อภัย (T.Tเราเองก็แย่เพราะช่วงนี้งานไม่ดีเท่าไหร่ ถ้าเราต้องคอยอุ้มน้องถ้าเราไม่มีมาลูกอดพ่ออด)
มีจุดที่รู้สึกรับไม่ได้เลยคือ พ่อกับแม่แยกทางกันพ่อแกอยู่บ้านคนเดียว เรารับอาสาว่าจะส่งให้พ่อ ทีนี้มีครั้งหนึ่งเราอยากรู้น้ำใจน้องเรากับแฟน เลยบอกมันว่าเดือนนี้ไม่มีตังนะ ตังไม่พอส่งพ่อ พ่อรอค่ากินอยู่ให้ช่วยส่งทีหนึ่งพัน(ขอไว้แค่หนึ่งพัน)ว่ามันรับปากดิบดี ว่าจะโอนไปสมทบ เราอยากรู้ว่ามันจะให้ไหมแค่พันเดียวตัวเองก็ทำงาน กินคนเดียวสุดท้ายให้ไม่ได้ ถึงเวลาเงียบ ทั้งที่พ่อนะต้องเป้นภาระคนอื่นเราทำงานเลี้ยงลูกเองด้วย เลยไม่ได้ไปดูเอง เราอยากเอามาดูแลเองนะแต่พ่อหายออกจากบ้านเนื่องจากแกหลงๆลืมๆ เลยบอกพี่ข้างบ้านว่าพ่อป่วยจะรับมาดูแลเองตอนนี้แกแข้งแรงก็จะส่งตังให้พี่ช่วยส่งข้าวน้ำ คิดว่าวันข้างหน้าคงมีโอกาสตอบแทน แต่น้องเราก็เห็นเลยว่ามันไม่ดูใครเลย
ดีแต่โพสดีว่างานทำเพื่อพ่อแม่ บอกไปหาพ่อแต่ไม่เคยถามพ่อหรือให้ตังหรือซื้ออะไรไปฝากเลย แต่กล้ามาด่าเราว่าอกตัญญูไม่ดูพ่อทั้งที่เราส่งนะ และที่ผ่านมาก็ดูแลมีมากให้มากยามยากอย่างตอนนี้ก็ให้น้อย ก่อนจะมาผ่อนบ้านผ่อนรถตัวเอง ก็ได้ใช้หนี้บำรุงพ่อแม่ลูกอย่างดีก่อนแล้ว "ถ้าดีจริงคงเอาลูกมาเลี้ยงเอง"คำด่าน้องเรา เรามีลูกสองคนคนนึงอยู่กับแม่แต่เด็ก เราเคยขอมาเลี้ยงเองสามครั้งตั้งแต่เล็กแม่คงกลัวเสียงานไม่ให้มา นี่คือที่มาที่ไม่ได้เลี้ยงเองแต่ส่งเสียตลอด และไม่เคยคิดทอดทิ้งเวลาปิดเทอมก็มาอยู่ด้วยเก็บตังให้เรียน แต่หลังๆไม่ติดต่อทางแม่ทางน้องเพราะปัญหาแม่กับน้องที่เป็นแบบนี้ พูดกธเลาะเลาะเลยเลี่ยงคุยพูดอะไรไปไม่ค่อยถูกใจแม่เหมือนน้องชายเราพูด เราพูดตรงๆและมีไรก็แก้ตรงๆแต่แม่เราชอบแก้อะไรต้องเอาหน้าตาสังคมมาก่อน เลยคิดไม่ค่อยลงรอยกัน หลังๆเลยห่างๆไม่ค่อยได้ติดต่อเพราะก็รู้อยู่แล้วว่าสบายดีเลยไม่ได้ห่วง พูดไปก็ทะเลาะกันและลามไปเรื่อยๆเลยเหนื่อย แต่ก็พยายามที่จะส่งตามกำลังช่วงนี้มีน้อยก็ให้น้อยแต่น้องมาอยู่ด้วยเราก็ไม่อยากส่งเลย คงส่งพอใช้พอกินพอ เพราะคนจะได้ใช้ไม่ใช้ลูกกับแม่จะเป็นน้องแทนเก็บไว้ให้ลูกเรียนดีกว่า
ถ้าคนอื่นด่าเราจากปากน้องชายหรือจากใคร เราเฉยๆเพราะคนอื่นก็คือคนอื่นไม่ได้มารู้เรื่องในครอบครัวใครเป็นยังไง วันๆทำมาหากินทำงานเลี้ยงลูกก็หมดวันไปละ ใครจะนินทาก็ตามสบาย คิดว่าถ้าเราทำดีที่สุดแล้วก็คือดีแล้วเลิกสนใจสังคมเอาตัวเองให้รอดไว้พอ เพราะยังไงสุดท้ายไม่ว่าใครจะด่าเรายังไงพ่อแม่ป่วยมาก็คงเรานี่แระที่ดู น้องเรานี่ขอให้เป็นคนดีในสังคมโชเชี่ยลที่เขาภูมิใจต่อไป ส่วนเราขอมีความสุขในโลกความเป็นจริง ทุกวันนี้ยังละอายใจที่ดูแลพ่อแม่ไม่ได้ดีพอ แต่มั่นใจว่าทำดีที่สุดในจุดที่ยืนเสมอ เพิ่งเริ่มมาโดนด่าก็ตอนมีน้อยให้น้อย แต่ตอนด่าไม่เคยเอ่ยถึงเลยว่าที่ผ่านมาเราเคยดีบ้าง เราเคยงงนะว่าทำไมแม่เราไม่เคยชมเราบ้างทั้งที่เราทุ่มเพื่อที่บ้านนะ เคยสละโอกาสและอนาคตตัวเองทิ้งฝันมาให้น้องได้เรเหมือนไม่เคยมีความดี จนเราก็รู้เป็นส่วนเกินของบ้าน ทำดีแค่ไหนก็แพ้คำหยอดลูกชาย เหมือนแม่แกคงรักและห่วงน้องมาก แต่ถ้าห่วงเกินไปก็เป็นดาบสองคมทุกครั้งที่แม่บอกลูกชายว่าบ้านรถนั่นนี่แม่ก็หาไว้ให้ลูก มันทำให้คนอย่างน้องเราไม่คิดจะแสวงหาอะไรเลย เพราะคงคิดว่ามีบ้านมีรถแล้ว ไม่จำเป็นต้องดิ้นรนอะไร รอรับอย่างเดียว
จะมีคำที่ แม่เราจะเปลียบเทียบเรากับน้องเสมอว่า ไม่ว่าน้องจะทำอะไรผิดแค่ไหนเสียตังไปด้วยเท่าไหร่ แต่มันยังดีกว่าที่เราหาภาระมาให้ หมายถึงหลาน(ลูกเรา)คือภาระ แต่พอจะเอามาเลี้ยงแต่แรกกลับไม่ให้มา ทั้งที่เราพร้อมนะทำงานก็พอมีกำลังส่งเสียลูกเรียนเองได้ ไม่ยอมให้มาและไม่มีสิทธิอะไรในตัวลูกเลย เราเลยไม่ค่อยสนใจพอไม่สนใจก็ด่าว่าไม่สนใจ พอสนใจก็ยิ่งเหมือนทำประชดให้เสียใจเรื่อยมา เลยเลยปล่อยวางรอแค่ปิดเทอมได้เจอกัน ได้ดูแลใส่ใจ แต่เปิดเทอมก็แค่ส่งตังไม่ได้ไปไถ่ถามอะไรเยอะ เหมือนไม่ว่าเราพูดอะไรแม่และญาติสนิทแกก็จะเอาไปต่อปากต่อคำด่ากัน เรารู้สึกไร้สาระและเสียเวลา เลยปลงปล่อยอยากพูดก็พูดจะทำงานพอ มีเพียงลูกที่แม่เราใช้เป็นอาวุธที่คอยด่าเราว่าหาภาระมาให้ ทำดียังไงก็ลบล้างคำพูดนี้ไม่ได้ เพราะเจอทีไรแกก็พูดจนเรารู้สึกว่า เป็นภาระๆทำไมไม่เอามาให้ดูแลเองนะ ทั้งที่พูดกันหลายทีมาก เหมือนแค่อยากด่าแต่ก่อนมีมากให้มาก ก็ใช้ไปกับเรื่องที่เราไม่เห้นด้วยเยอะ ไม่ถึงลูกเรา ตอนนี้มีน้อยให้น้อย พอคนมีลูกคนที่2เราเลยไม่ให้แม่เราเลี้ยงเลย แกจะเอาไปเรากับแฟนก็ไม่ให้ตั้งใจจะเลี้ยงเอง ขณะที่น้องสร้างแต่ปัญหาคือดี แเลยม่จะพูดบ่อยเรื่องรถบ้านหามาไว้แม่ตายไปก็เป็นของลูก น้องเราเลยไม่คิดเก้บหาอะไร ผิดกับเราตั้งแต่ทำงานมาก็คิดตลอดเวลาว่าต้องสร้างต้องหาอะไรเป็นของตัวเอง ด้วยกำลังตัวเองให้ได้ เพราะไม่ชอบแบบกงสีหรืออยู่กับน้อง เบื่อที่ต้องมารับปัญหานั่นนี่ของน้อง มีอะไรก็ให้หมดเลยไม่อยากได้
อยากช่วยคนอื่นได้เยอะกว่านี้ก็ต้องยืนได้มั่นก่อน ต้องทำงานไม่มีหยุดเลยจริงๆเพราะธุรกิจแย่เลยมีหนี้ให้เคลียจำต้องขยัน ส่วนน้องโชว์ในเฟคไปวันๆทั้งที่ไม่เคยทำตัวให้ได้พึ่งพาเลย แถมด่าเราด้วยว่ามีพี่เหมือนมีหมา ทั้งที่เคยให้ข้าวน้ำมันกิน มาอยู่กับเรานอกจากระวังของหายยังลามไปถึงของพี่เขยรองเท้า เสื้อ เพลเกมอยากได้หยิบเลย น้องมาที เป็นว่าเรารู้กันกลัวไปเลย วันดีคืนดีเมามาเคยนอนห้องชุดนอนรวมกัน เมามานอนหอนและลุกมายืนฉี่รดเรากะแฟนที่นอนอยู่ เราว่าเราทนกันมาเยอะพอสมควรและไม่เคยไปแพร่งพลายให้ใครฟัง ในพันทิพต่างคนต่างไม่รู้จักกัน เป็นที่แลกเปลี่ยนและระบายที่ดี ที่มาเขียนในพันทิพอยากบอกกลายๆไปว่า อยากระบายทิ้งไว้เผื่อมาอ่านเจอ เพราะชอบเล่นเฟคแต่เรากับแฟนไม่เล่น เคยเล่นแต่งานเยอะ(หนี้เยอะภาระเยอะไม่มีเวลาเล่น) เรามีเล่นก็เปิดไว้แค่ติดตามข่าวสารและแลกเปลี่ยนในกรุ๊ปแลกเปลี่ยนในการงานเท่านั้น
อยากรู้ว่ามีใครแย่กว่าเราไหมสุดทนจริงๆ
กับคำว่าน้องคุณยอมได้แค่ไหนให้ได้แค่ไหน? เคยถึงจุดที่หมดความอดทนไหม?
เอาจากเด็กๆกินเที่ยวไม่เคยทำงาน แต่เรานี่มีอะไรก็ได้ทำหมด เข้าใจว่าน้องแต่ก็ไม่คิดว่าจากวันนั้นจนวันนี้มันก็ยังไม่เคยปรับปรุงตัว เกเรหัวไม้ต่อยตีจนต้องขึ้นโรงขึ้นโรงขึ้นศาล จนได้ย้ายรร. ตอนอยู่บ้านก็เหมือนเลี้ยงโจรไว้ที่บ้าน ข้าวของถ้าเผลอวางไว้ ก็คือหายตามไม่เจอเพราะเธอจะไปจำนำ พอจะไปไถ่คนรับจำก็จะบอกขายไปแล้วบลาๆๆ มือถือ,โน้ตบุ๊คหรืออะไรที่พอจะขายได้ไม่มีเหลือ เราเกลียดมากเพราะอย่างคอมรูปทั้งหมดงานทั้งหมด ก็เก็บไว้ในนั้น หรือมือถือสามเครื่องได้ที่หายเรียกว่ากลับบ้านแล้วนอนไม่หลับหวาดระแวง หายทีต้องเสียเวลาไปคัดลอกเบอร์ตามศูนย์ ขโมยไปไม่คิดเลยว่าเราจะเดือดร้อนซื้อมาหมื่นกว่าขายก็สามสี่ร้อยก็เอา เคยด่าก็ไปตัดผ้าเราทิ้งทั้งตู้ ทำลายข้าวของ แม่ก็บ่นเราแทนไม่ให้ด่าน้อง หรือแม้แต่ของหายถามหาก็มาตวาดเราแทน ว่าเก็บไม่ดีแทนที่จะด่าลูกชาย ของแกก็หายเคยโทรหาแม่คนรับจำรับสายบอกลูกชายแกเอามาจำ น่าอายมากเพราะวันๆเพื่อนแม่ก็โทรมาก็คงพูดคำเดียวกัน จริงๆซ่อนแล้วนะแต่ก็เจอ
ตอนนั้นที่บ้านมีปัญหาการเงินไม่มีตังส่งเรียนต่อเลยออกมาช่วยทำงานใช้หนี้ สละให้น้องได้เรียนต่อ อยากได้อะไรก็หาให้ เพราะตอนนั้นทำงานก็พอมีตัง เคยทำบัตรเครดิตทำมาไม่รู้จะใช้อะไรไม่กล้าซื้อเพราะเคยจน แต่น้องมาพาไปเดินห้างเจอร้านกีต้าขอแวะดู มันมือสั่นน้ำตาเอ่อก็นึกสงสารมัน เพราะเราโตมาก็ไม่เคยได้มีของขวัญของเล่น เลยตัดใจรูดไปนั่นคือครั้งแรกที่ใช้ ตอนนั้นขอว่าตั้งใจเรียนพอ เหตุการณ์ช่วงนั้นปกติเพราะต่างคนต่างแยกย้ายไปทำงานไปเรียน ไม่ได้อยู่ด้วยกัน จน 3 ปีต่อมา น้องจะจบ.ปวชอ.ที่ปรึกษาโทรมาหาเราว่าน้องเราจะไม่จบเรียนสิบกว่าวิชา ติดร,มส,หมดเลย ขาดสอบขาดงาน เราเสียดายเวลาและตังเลยลงไปขอช่วยแก้ ด้วยเราวิ่งรถจากกทม.ไปรร.อ.เขาคงเห็นใจ เลยให้เราแก้ (ซึ้งก็ไม่ดีแต่ก็ทั้งตังที่เสียไปทั้งเวลาก็คิดว่านี่อาจจะทำให้น้องฟังเราบ้างและคิดว่าจบแล้วจะพาไปสอบนั่นนี่นู้นตำรวจทหาร) แก้ด้วยการทำงานส่งทำรายงานจนครบหมดเหลือวิชาเดียวคือศิลป์อ.ขอว่าวิชานี้มันง่ายๆขอให้เขาทำงานมาส่งเองนะ ตอนแรกเราจะทำให้แต่ อ.ขอว่าต้องน้องทำ เลยไปบอกน้องว่า แก้ให้หมดแล้วนะเหลือวิชาเดียวให้ประดิษฐ์ของไปส่งเอา พอปิดเทอมเราก็บอกให้ลงมาหาเราเพราะตั้งใจจะพาไปตระเวณสมัครสอบให้มาอ่านหนังสือเตรียมสอ แต่เธอขอไปหาเพื่อนที่สัตหีบก่อนแล้วจะตั้งใจสอบ เราก็เลยพาไป พอกลับมาเราก็ให้โทรศัพท์หนึ่งเครื่องเพื่อไว้ติดต่อกัน และซื้อข้าวปลาอาหารทิ้งไว้ให้สั่งร้านข้าวข้างล่างให้ และตระเวณพาวิ่งสมัครสอบ และซื้อหนังสือให้ ให้อยู่ห้องอ่านหนังสืออย่างเดียว เราก็ไปพักกับแฟนคิดว่าจะได้มีสมาธิอ่าน ที่ไหนได้ หายไปพร้อมตังและมือถือสรุปหายไปหาเพื่อน และขายมือถือเราตามเคยแค้นเลยทำเพื่อมันทุกอย่างมันยังไม่แก้ไขปรับปรุงตัว บทจะกลับก็ เหมาแท็กซี่มาเลยมาหักคอเอาข้างหน้า ให้เราไปจ่ายเกือบพัน จากนั้นคือไม่ได้เรียนต่อเพราะไม่จบ ขึ้นๆลงกทม.มาทีแม่ให้ตังมาก็ใช้หมด หมดก็ยืมกะเรา ยืมค่าชุดค่าทำงานจนเงินเดือนออกก็คือหยุดใช้เงินตังหมดก็กลับมายืม ฉากเดิมๆ หลายทีเหมาแท็กซี่มาหาเราไม่อยู่ก็ให้แท็กซี่รอ ทำงานเข้าๆออกตามอำเภอใจยืมแม่บ้านพี่บ้างไม่ให้ยืมก็กลับ วนๆเข้างานใหม่แต่ละที่ ไหนจะค่าเปิดห้องค่าเข้างานใหม่ก็หลายพัน มันไม่เคยคิดเลยว่าเอาตังมาจากไหน ถ้าด่ามันก็โทรหาแม่ แม่ก็หาเพื่อนให้ช่วยหางานใหม่ให้มัน โอนตังให้โดยบอกว่าเราไม่ดูน้อง ไม่เคยพูดถึงลูกชายในทางไม่ดีเลย ทุกอย่างที่ผ่านมามาหาทุกรอบก็จบที่ฉากเดิมๆ ตังออกแล้วกินหมดจะยืมต่อ ไม่เคยได้ให้พ่อแม่ ขนาดพ่อป่วยน้องว่างงานนะแต่ไม่ดูเที่ยวกินเหล้าเฉย เราเลยต้องออกจากงานไปเฝ้าพ่อที่รร.ดีที่พ่อใช้สิทธิราชการของแม่เลยรักษาฟรี เลยตชจ.ไม่เยอะเท่าไหร่ ต่อมาเราป่วยลงพักพื้นน้องก็ว่างงาน ก็ไม่เคยช่วยยังต้องจ้างป้าคนแถวบ้านมาอยู่เป็นเพื่อน คือเป้นที่พึ่งใครไม่ได้เลย
พอเราดีขึ้นกลับมาทำงานก็วนมาหาอีกละ มีอยู่ทีที่สามารถทำงานได้นานสุดเลย 8 เดือนเพราะอยู่กับเพื่อนกลุ่มที่ไม่ได้เรียนกินเที่ยวด้วยกัน แต่คนอื่นเขารู้หน้าที่พอถึงฤดูทำนาเพื่อนก็กลับแต่น้องเราก็ออกตาม จากนั้นก็เดิมๆวนๆมาทีไรหาภาระมาให้ตลอด
จนห้าปีที่แล้ว เราเพิ่งมารู้ว่าน้องเราเรียนไม่จบ เพราะไม่ไปแก้งานที่เหลือแค่วิชาเดียว ที่ผ่านมาเราไม่รู้เลย แม่ก็ไม่บอกแม่จะดีกับน้องมาก และไม่เคยพูดถึงน้องชายในทางที่ไม่ดีเลย พยายามชมยอลูกชายให้คนอื่นฟัง เช่นให้ตังใช้บ้างทั้งที่ไม่ได้ แกไปซื้อวุฒิมาคือไปแก้วิชาเดียวไม่แก้ ต้องมาเสียหลายหมื่นแลกกระดาษวุฒิหางานทำ ทุกวันนี้ก็ยังดีดกีต้าโชว์ในเฟคไปวันๆ ล่าสุดทำงานเท่าไหร่ๆก็ไม่พอใช้ แม่เลยให้กลับไปอยู่กับแม่ไม่ได้จ่ายค่าเช่าบ้านทำงานที่บ้านเผื่อเหลือ
ที่ผ่านมายืมเรากี่พันๆหรือเป็นหมื่นเราไม่เคยคิดว่าจะได้คืนไม่ทวง ปลงยืมได้เหมือนขอได้ ปีที่แล้วมาอยู่ด้วยสามรอบเราหมดไปเกือบสองสามหมื่นยืมค่าเข้างาน ไม่พอใจงานออกก็ยืม สุดท้ายไปสมัครงานได้งานดีแล้วงานสบายด้วย พักกับเราที่บ้าน ก็พอมีตังเหลือ แต่อยู่ได้แค่สองเดือนเมาแล้วขับโดนจับ ประกัน1หมื่น ต่อมาแค่อาทิตย์เดียวก็โดนจับอีก ข้อหาเดิมที่เดิมเวลาเดิมขาดงานอีก หัวหน้าก็คงด่าเลยออก ครั้งนี้แม่ก็เรียกเพื่อนแกให้มาช่วยอีก โดยบอกใครต่อใครว่าเราไม่ดูน้องผิดแค่ครั้งเดียวไม่อภัย (T.Tเราเองก็แย่เพราะช่วงนี้งานไม่ดีเท่าไหร่ ถ้าเราต้องคอยอุ้มน้องถ้าเราไม่มีมาลูกอดพ่ออด)
มีจุดที่รู้สึกรับไม่ได้เลยคือ พ่อกับแม่แยกทางกันพ่อแกอยู่บ้านคนเดียว เรารับอาสาว่าจะส่งให้พ่อ ทีนี้มีครั้งหนึ่งเราอยากรู้น้ำใจน้องเรากับแฟน เลยบอกมันว่าเดือนนี้ไม่มีตังนะ ตังไม่พอส่งพ่อ พ่อรอค่ากินอยู่ให้ช่วยส่งทีหนึ่งพัน(ขอไว้แค่หนึ่งพัน)ว่ามันรับปากดิบดี ว่าจะโอนไปสมทบ เราอยากรู้ว่ามันจะให้ไหมแค่พันเดียวตัวเองก็ทำงาน กินคนเดียวสุดท้ายให้ไม่ได้ ถึงเวลาเงียบ ทั้งที่พ่อนะต้องเป้นภาระคนอื่นเราทำงานเลี้ยงลูกเองด้วย เลยไม่ได้ไปดูเอง เราอยากเอามาดูแลเองนะแต่พ่อหายออกจากบ้านเนื่องจากแกหลงๆลืมๆ เลยบอกพี่ข้างบ้านว่าพ่อป่วยจะรับมาดูแลเองตอนนี้แกแข้งแรงก็จะส่งตังให้พี่ช่วยส่งข้าวน้ำ คิดว่าวันข้างหน้าคงมีโอกาสตอบแทน แต่น้องเราก็เห็นเลยว่ามันไม่ดูใครเลย
ดีแต่โพสดีว่างานทำเพื่อพ่อแม่ บอกไปหาพ่อแต่ไม่เคยถามพ่อหรือให้ตังหรือซื้ออะไรไปฝากเลย แต่กล้ามาด่าเราว่าอกตัญญูไม่ดูพ่อทั้งที่เราส่งนะ และที่ผ่านมาก็ดูแลมีมากให้มากยามยากอย่างตอนนี้ก็ให้น้อย ก่อนจะมาผ่อนบ้านผ่อนรถตัวเอง ก็ได้ใช้หนี้บำรุงพ่อแม่ลูกอย่างดีก่อนแล้ว "ถ้าดีจริงคงเอาลูกมาเลี้ยงเอง"คำด่าน้องเรา เรามีลูกสองคนคนนึงอยู่กับแม่แต่เด็ก เราเคยขอมาเลี้ยงเองสามครั้งตั้งแต่เล็กแม่คงกลัวเสียงานไม่ให้มา นี่คือที่มาที่ไม่ได้เลี้ยงเองแต่ส่งเสียตลอด และไม่เคยคิดทอดทิ้งเวลาปิดเทอมก็มาอยู่ด้วยเก็บตังให้เรียน แต่หลังๆไม่ติดต่อทางแม่ทางน้องเพราะปัญหาแม่กับน้องที่เป็นแบบนี้ พูดกธเลาะเลาะเลยเลี่ยงคุยพูดอะไรไปไม่ค่อยถูกใจแม่เหมือนน้องชายเราพูด เราพูดตรงๆและมีไรก็แก้ตรงๆแต่แม่เราชอบแก้อะไรต้องเอาหน้าตาสังคมมาก่อน เลยคิดไม่ค่อยลงรอยกัน หลังๆเลยห่างๆไม่ค่อยได้ติดต่อเพราะก็รู้อยู่แล้วว่าสบายดีเลยไม่ได้ห่วง พูดไปก็ทะเลาะกันและลามไปเรื่อยๆเลยเหนื่อย แต่ก็พยายามที่จะส่งตามกำลังช่วงนี้มีน้อยก็ให้น้อยแต่น้องมาอยู่ด้วยเราก็ไม่อยากส่งเลย คงส่งพอใช้พอกินพอ เพราะคนจะได้ใช้ไม่ใช้ลูกกับแม่จะเป็นน้องแทนเก็บไว้ให้ลูกเรียนดีกว่า
ถ้าคนอื่นด่าเราจากปากน้องชายหรือจากใคร เราเฉยๆเพราะคนอื่นก็คือคนอื่นไม่ได้มารู้เรื่องในครอบครัวใครเป็นยังไง วันๆทำมาหากินทำงานเลี้ยงลูกก็หมดวันไปละ ใครจะนินทาก็ตามสบาย คิดว่าถ้าเราทำดีที่สุดแล้วก็คือดีแล้วเลิกสนใจสังคมเอาตัวเองให้รอดไว้พอ เพราะยังไงสุดท้ายไม่ว่าใครจะด่าเรายังไงพ่อแม่ป่วยมาก็คงเรานี่แระที่ดู น้องเรานี่ขอให้เป็นคนดีในสังคมโชเชี่ยลที่เขาภูมิใจต่อไป ส่วนเราขอมีความสุขในโลกความเป็นจริง ทุกวันนี้ยังละอายใจที่ดูแลพ่อแม่ไม่ได้ดีพอ แต่มั่นใจว่าทำดีที่สุดในจุดที่ยืนเสมอ เพิ่งเริ่มมาโดนด่าก็ตอนมีน้อยให้น้อย แต่ตอนด่าไม่เคยเอ่ยถึงเลยว่าที่ผ่านมาเราเคยดีบ้าง เราเคยงงนะว่าทำไมแม่เราไม่เคยชมเราบ้างทั้งที่เราทุ่มเพื่อที่บ้านนะ เคยสละโอกาสและอนาคตตัวเองทิ้งฝันมาให้น้องได้เรเหมือนไม่เคยมีความดี จนเราก็รู้เป็นส่วนเกินของบ้าน ทำดีแค่ไหนก็แพ้คำหยอดลูกชาย เหมือนแม่แกคงรักและห่วงน้องมาก แต่ถ้าห่วงเกินไปก็เป็นดาบสองคมทุกครั้งที่แม่บอกลูกชายว่าบ้านรถนั่นนี่แม่ก็หาไว้ให้ลูก มันทำให้คนอย่างน้องเราไม่คิดจะแสวงหาอะไรเลย เพราะคงคิดว่ามีบ้านมีรถแล้ว ไม่จำเป็นต้องดิ้นรนอะไร รอรับอย่างเดียว
จะมีคำที่ แม่เราจะเปลียบเทียบเรากับน้องเสมอว่า ไม่ว่าน้องจะทำอะไรผิดแค่ไหนเสียตังไปด้วยเท่าไหร่ แต่มันยังดีกว่าที่เราหาภาระมาให้ หมายถึงหลาน(ลูกเรา)คือภาระ แต่พอจะเอามาเลี้ยงแต่แรกกลับไม่ให้มา ทั้งที่เราพร้อมนะทำงานก็พอมีกำลังส่งเสียลูกเรียนเองได้ ไม่ยอมให้มาและไม่มีสิทธิอะไรในตัวลูกเลย เราเลยไม่ค่อยสนใจพอไม่สนใจก็ด่าว่าไม่สนใจ พอสนใจก็ยิ่งเหมือนทำประชดให้เสียใจเรื่อยมา เลยเลยปล่อยวางรอแค่ปิดเทอมได้เจอกัน ได้ดูแลใส่ใจ แต่เปิดเทอมก็แค่ส่งตังไม่ได้ไปไถ่ถามอะไรเยอะ เหมือนไม่ว่าเราพูดอะไรแม่และญาติสนิทแกก็จะเอาไปต่อปากต่อคำด่ากัน เรารู้สึกไร้สาระและเสียเวลา เลยปลงปล่อยอยากพูดก็พูดจะทำงานพอ มีเพียงลูกที่แม่เราใช้เป็นอาวุธที่คอยด่าเราว่าหาภาระมาให้ ทำดียังไงก็ลบล้างคำพูดนี้ไม่ได้ เพราะเจอทีไรแกก็พูดจนเรารู้สึกว่า เป็นภาระๆทำไมไม่เอามาให้ดูแลเองนะ ทั้งที่พูดกันหลายทีมาก เหมือนแค่อยากด่าแต่ก่อนมีมากให้มาก ก็ใช้ไปกับเรื่องที่เราไม่เห้นด้วยเยอะ ไม่ถึงลูกเรา ตอนนี้มีน้อยให้น้อย พอคนมีลูกคนที่2เราเลยไม่ให้แม่เราเลี้ยงเลย แกจะเอาไปเรากับแฟนก็ไม่ให้ตั้งใจจะเลี้ยงเอง ขณะที่น้องสร้างแต่ปัญหาคือดี แเลยม่จะพูดบ่อยเรื่องรถบ้านหามาไว้แม่ตายไปก็เป็นของลูก น้องเราเลยไม่คิดเก้บหาอะไร ผิดกับเราตั้งแต่ทำงานมาก็คิดตลอดเวลาว่าต้องสร้างต้องหาอะไรเป็นของตัวเอง ด้วยกำลังตัวเองให้ได้ เพราะไม่ชอบแบบกงสีหรืออยู่กับน้อง เบื่อที่ต้องมารับปัญหานั่นนี่ของน้อง มีอะไรก็ให้หมดเลยไม่อยากได้
อยากช่วยคนอื่นได้เยอะกว่านี้ก็ต้องยืนได้มั่นก่อน ต้องทำงานไม่มีหยุดเลยจริงๆเพราะธุรกิจแย่เลยมีหนี้ให้เคลียจำต้องขยัน ส่วนน้องโชว์ในเฟคไปวันๆทั้งที่ไม่เคยทำตัวให้ได้พึ่งพาเลย แถมด่าเราด้วยว่ามีพี่เหมือนมีหมา ทั้งที่เคยให้ข้าวน้ำมันกิน มาอยู่กับเรานอกจากระวังของหายยังลามไปถึงของพี่เขยรองเท้า เสื้อ เพลเกมอยากได้หยิบเลย น้องมาที เป็นว่าเรารู้กันกลัวไปเลย วันดีคืนดีเมามาเคยนอนห้องชุดนอนรวมกัน เมามานอนหอนและลุกมายืนฉี่รดเรากะแฟนที่นอนอยู่ เราว่าเราทนกันมาเยอะพอสมควรและไม่เคยไปแพร่งพลายให้ใครฟัง ในพันทิพต่างคนต่างไม่รู้จักกัน เป็นที่แลกเปลี่ยนและระบายที่ดี ที่มาเขียนในพันทิพอยากบอกกลายๆไปว่า อยากระบายทิ้งไว้เผื่อมาอ่านเจอ เพราะชอบเล่นเฟคแต่เรากับแฟนไม่เล่น เคยเล่นแต่งานเยอะ(หนี้เยอะภาระเยอะไม่มีเวลาเล่น) เรามีเล่นก็เปิดไว้แค่ติดตามข่าวสารและแลกเปลี่ยนในกรุ๊ปแลกเปลี่ยนในการงานเท่านั้น
อยากรู้ว่ามีใครแย่กว่าเราไหมสุดทนจริงๆ