ใน 1 วัน จอยทำหลายอย่างมากกกกก
ตื่นเช้า ออกกำลังกาย กลางวัน ทำงาน บ่าย พบลูกค้า เย็น ไปงาน กลับบ้านมา ทำงานอีก
เจอมลภาวะ เจอแสงแดด และฝุ่นละอองต่างๆ
แล้วเอาเวลาที่ไหนดูแลผิว????
กลายเป็นว่า ก่อนนอนเป็นช่วงเวลาที่จอยจะบำรุงกันแบบเต็มสูตร
“ultimate miracle worker night”
แค่ชื่อก็สัมผัสได้ว่า ความสวยจะถูกดูแลในเวลากลางคืน
ตรงกับไลฟ์สไตล์จอยพอดี
คุณสมบัติ
ตัวช่วยฟื้นฟูและบำรุงผิวในยามค่ำคืน ต่อต้านและลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย
ทำให้ผิวที่เรียบเนียน ดูกระชับขึ้น และรูขุมขนแลดูเล็กลง
เป็น มอยซ์เจอร์ไรเซอร์ ที่จอยเพิ่งได้รับมาทดลองใช้ จาก philosophy
ตัวช่วยใหม่ที่จอยอยากจะมาแนะนำให้รู้จักกันค่ะ
มา!!! เริ่มทดลองใช้ไปด้วยกันกับจอยนะคะ
“ultimate miracle worker night” มอยซ์เจอร์ไรเซอร์เนื้อครีมตัวนี้
ประกอบด้วย Patented high-performance bi-retinoid HPR ที่เป็นประจุบวก ดึงดูดเข้าเซลล์ผิวของมนุษย์ซึ่งเป็นประจุลบ ทำให้ bi-retinoid สามารถซึมเข้าสู่ผิวได้ 100%
และ retinol microcapsules (เรตินอลขนาดเล็กที่สามารถซึมเข้าผิวได้ลึกขึ้น)
จะเพิ่มการซึมผ่านเรตินอลลงสู่ผิวชั้นลึก เพื่อกระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่
และการทำงานของไฟโบรบลาสต์
ส่งผลให้การสังเคราะห์คอลลาเจนและอิลาสตินเพิ่มขึ้น
ซึ่งเรตินอยด์ประสิทธิภาพสูง
จะช่วยเร่งกระบวนการหมุนเวียนและปกป้องคอลลาเจนให้กับเซลล์ผิว ช่วยกักเก็บความชุ่มชื่นและฟื้นฟูผิวแบบชั้นต่อชั้น เต็มเปี่ยมด้วยการเติมคอลลาเจนและอิลาสตินให้กับผิว รวมถึงช่วยในกระบวนการผลัดเซลล์ผิวตามธรรมชาติ ไม่ก่อให้เกิดการกระคายเคือง
“ultimate miracle worker night” ตัวนี้แตกต่างจากมอยซ์เจอร์ไรซ์เซอร์ตัวอื่น ๆ
ก็เพราะ เม็ดไข่มุกเซรั่ม (Serum-in-Pearl) ใส่ซองแยกตัวนี้
มีส่วนผสมจาก ดอกไอริส (Iris flower) ปริมาณ 2 เท่า
ที่ประกอบไปด้วยสารสำคัญ ที่ช่วยปกป้องโมเลกุลในชั้นผิว
และเสริมสร้างกระบวนการต่อต้านอนุมูลอิสระ
แล้วที่มัน ว้าว!!! มาก ๆ ก็คงเป็นการที่คนที่จะใช้
ต้องนำ เม็ดไข่มุกเซรั่ม ผสมลงในมอยซ์เจอร์ไรเซอร์ด้วยตัวเอง
มาค่ะ มาช่วยจอยร่ายเวทมนต์ ความสวย ด้วยดอกไอริสที่อยู่ใน เม็ดไข่มุกเซรั่ม
ลงกระปุกมอยซ์เจอร์ไรซ์เซอร์กันค่ะ
เริ่ม!!!
ขั้นตอนที่ 1 ค่อย ๆ เทเม็ดไข่มุกเซรั่ม (Serum-in-Pearl) ลงในกระปุกมอยซ์เจอร์ไรเซอร์
ขั้นตอนที่ 2 พักทิ้งไว้แปปนึงซักประมาณ 5 นาที ก็พอดีแล้วล่ะคะ
ขั้นตอนที่ 3 ค่อยๆ คน ค่อยๆ ผสมเม็ดไข่มุกเซรั่ม กับมอยซ์เจอร์ไรเซอร์เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน
ขั้นตอนที่ 4 ปิ๊ง!! ตัวช่วยความสวยที่เราปรุงด้วยตัวเองเสร็จแล้ว
ขั้นตอนที่ 5 ทา ultimate miracle worker night ให้ทั่วทั้งบริเวณใบหน้าและลำคอ
ไม่ยากเลยใช่มั้ยคะ?
มาลองให้คะแนนเจ้า “ultimate miracle worker night” กันดีกว่า
รูปลักษณ์ภายนอก :
กระปุกขนาดกำลังพอดี มีลูกเล่น ชอบมากเลย สนุก 555
ไม้พายที่ให้มาก็น่ารัก แต่ไม่ชอบถ้าต้องล้าง ทำให้แอบกังวลเรื่องความสะอาดเวลาใช้
จอยเลยแก้ปัญหาโดยเอา cotton bud มาตักแทน
เลยขอแอบหักคะแนนนิดนึง เอาไป 3.5/5 ค่ะ
เนื้อครีม :
กลิ่นหอม เนื้อดูหนัก แต่พอทาหน้าแล้วเบาไม่เหนอะเลยอ่ะ
เหมาะที่จะทาตอนนอน แล้วปล่อยให้นางทำงานไป แอบปลื้มตัวกลิ่น และเนื้อสัมผัสของครีมเป็นพิเศษให้ 5/5 ไปเลยค่ะ
ผลลัพธ์หลังใช้ :
ตื่นเช้ามา ผิวดูสดชื่น ไม่แห้งเหมือนที่เคยเป็น
ปกติเวลาพักผ่อนน้อย หรือช่วงโหมงานหนักๆ จะแต่งหน้าแล้วเครื่องสำอางไม่ค่อยติด แต่ใช้ตัวนี้ทาทิ้งไว้ตอนกลางคืน เช้ามารู้สึกได้เลยว่าหน้ายังชุ่มชื่น ไม่แห้ง ตอนแต่งหน้าเครื่องสำอางติดดี แถมแอบรู้สึกว่าเรียบเนียนขึ้นด้วยค่ะ ให้ 4/5 ขอกั๊กไว้ 1 เพราะเพิ่งใช้ไปแค่ 2 อาทิตย์เองของอย่างนี้ต้องดูกันยาวๆ เนอะ
ปกติจอยเองเป็นคนที่ผิวหน้าแห้งมากกก
ทำให้บางทีแต่งหน้าไม่ค่อยติด
เคยใช้ Sleeping Mask ก็ติดสเตียรอยด์
ทำให้ไม่กล้าใช้ครีมอะไรอีก
แต่ได้ลอง philosophy ultimate miracle worker night มาระยะนึง
คือมันก็ใช่นะ เป็นครีมที่ให้มอยส์เจอร์ระดับสุด
นอกจาก “ดอกไม้” ซักช่อในวันพิเศษ ๆ
ก็มี “ความสวย” นี่ล่ะที่ผู้หญิงอย่างพวกเราต้องการ เพื่อน ๆ ว่ามั้ย?
ก่อนนอน อย่าลืมหาเวลาดูแลตัวเองกันนะคะ
สำหรับใครที่สนใจ
Ultimate miracle worker night
สามารถหาซื้อได้ที่เคาน์เตอร์ philosophy ทุกสาขา ในราคากระปุกละ 3,300 บาทนะคะ ใช้ได้นานเลยเเหล่ะ
เลิฟยูวววววว
[SR] “philosophy ultimate miracle worker night” ตัวช่วยใหม่ กู้ดไนท์ก่อนนอน
ใน 1 วัน จอยทำหลายอย่างมากกกกก
ตื่นเช้า ออกกำลังกาย กลางวัน ทำงาน บ่าย พบลูกค้า เย็น ไปงาน กลับบ้านมา ทำงานอีก
เจอมลภาวะ เจอแสงแดด และฝุ่นละอองต่างๆ
แล้วเอาเวลาที่ไหนดูแลผิว????
กลายเป็นว่า ก่อนนอนเป็นช่วงเวลาที่จอยจะบำรุงกันแบบเต็มสูตร
“ultimate miracle worker night”
แค่ชื่อก็สัมผัสได้ว่า ความสวยจะถูกดูแลในเวลากลางคืน
ตรงกับไลฟ์สไตล์จอยพอดี
คุณสมบัติ
ตัวช่วยฟื้นฟูและบำรุงผิวในยามค่ำคืน ต่อต้านและลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย
ทำให้ผิวที่เรียบเนียน ดูกระชับขึ้น และรูขุมขนแลดูเล็กลง
เป็น มอยซ์เจอร์ไรเซอร์ ที่จอยเพิ่งได้รับมาทดลองใช้ จาก philosophy
ตัวช่วยใหม่ที่จอยอยากจะมาแนะนำให้รู้จักกันค่ะ
มา!!! เริ่มทดลองใช้ไปด้วยกันกับจอยนะคะ
“ultimate miracle worker night” มอยซ์เจอร์ไรเซอร์เนื้อครีมตัวนี้
ประกอบด้วย Patented high-performance bi-retinoid HPR ที่เป็นประจุบวก ดึงดูดเข้าเซลล์ผิวของมนุษย์ซึ่งเป็นประจุลบ ทำให้ bi-retinoid สามารถซึมเข้าสู่ผิวได้ 100%
และ retinol microcapsules (เรตินอลขนาดเล็กที่สามารถซึมเข้าผิวได้ลึกขึ้น)
จะเพิ่มการซึมผ่านเรตินอลลงสู่ผิวชั้นลึก เพื่อกระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่
และการทำงานของไฟโบรบลาสต์
ส่งผลให้การสังเคราะห์คอลลาเจนและอิลาสตินเพิ่มขึ้น
ซึ่งเรตินอยด์ประสิทธิภาพสูง
จะช่วยเร่งกระบวนการหมุนเวียนและปกป้องคอลลาเจนให้กับเซลล์ผิว ช่วยกักเก็บความชุ่มชื่นและฟื้นฟูผิวแบบชั้นต่อชั้น เต็มเปี่ยมด้วยการเติมคอลลาเจนและอิลาสตินให้กับผิว รวมถึงช่วยในกระบวนการผลัดเซลล์ผิวตามธรรมชาติ ไม่ก่อให้เกิดการกระคายเคือง
“ultimate miracle worker night” ตัวนี้แตกต่างจากมอยซ์เจอร์ไรซ์เซอร์ตัวอื่น ๆ
ก็เพราะ เม็ดไข่มุกเซรั่ม (Serum-in-Pearl) ใส่ซองแยกตัวนี้
มีส่วนผสมจาก ดอกไอริส (Iris flower) ปริมาณ 2 เท่า
ที่ประกอบไปด้วยสารสำคัญ ที่ช่วยปกป้องโมเลกุลในชั้นผิว
และเสริมสร้างกระบวนการต่อต้านอนุมูลอิสระ
แล้วที่มัน ว้าว!!! มาก ๆ ก็คงเป็นการที่คนที่จะใช้
ต้องนำ เม็ดไข่มุกเซรั่ม ผสมลงในมอยซ์เจอร์ไรเซอร์ด้วยตัวเอง
มาค่ะ มาช่วยจอยร่ายเวทมนต์ ความสวย ด้วยดอกไอริสที่อยู่ใน เม็ดไข่มุกเซรั่ม
ลงกระปุกมอยซ์เจอร์ไรซ์เซอร์กันค่ะ
เริ่ม!!!
ขั้นตอนที่ 1 ค่อย ๆ เทเม็ดไข่มุกเซรั่ม (Serum-in-Pearl) ลงในกระปุกมอยซ์เจอร์ไรเซอร์
ขั้นตอนที่ 2 พักทิ้งไว้แปปนึงซักประมาณ 5 นาที ก็พอดีแล้วล่ะคะ
ขั้นตอนที่ 3 ค่อยๆ คน ค่อยๆ ผสมเม็ดไข่มุกเซรั่ม กับมอยซ์เจอร์ไรเซอร์เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน
ขั้นตอนที่ 4 ปิ๊ง!! ตัวช่วยความสวยที่เราปรุงด้วยตัวเองเสร็จแล้ว
ขั้นตอนที่ 5 ทา ultimate miracle worker night ให้ทั่วทั้งบริเวณใบหน้าและลำคอ
ไม่ยากเลยใช่มั้ยคะ?
มาลองให้คะแนนเจ้า “ultimate miracle worker night” กันดีกว่า
รูปลักษณ์ภายนอก :
กระปุกขนาดกำลังพอดี มีลูกเล่น ชอบมากเลย สนุก 555
ไม้พายที่ให้มาก็น่ารัก แต่ไม่ชอบถ้าต้องล้าง ทำให้แอบกังวลเรื่องความสะอาดเวลาใช้
จอยเลยแก้ปัญหาโดยเอา cotton bud มาตักแทน
เลยขอแอบหักคะแนนนิดนึง เอาไป 3.5/5 ค่ะ
เนื้อครีม :
กลิ่นหอม เนื้อดูหนัก แต่พอทาหน้าแล้วเบาไม่เหนอะเลยอ่ะ
เหมาะที่จะทาตอนนอน แล้วปล่อยให้นางทำงานไป แอบปลื้มตัวกลิ่น และเนื้อสัมผัสของครีมเป็นพิเศษให้ 5/5 ไปเลยค่ะ
ผลลัพธ์หลังใช้ :
ตื่นเช้ามา ผิวดูสดชื่น ไม่แห้งเหมือนที่เคยเป็น
ปกติเวลาพักผ่อนน้อย หรือช่วงโหมงานหนักๆ จะแต่งหน้าแล้วเครื่องสำอางไม่ค่อยติด แต่ใช้ตัวนี้ทาทิ้งไว้ตอนกลางคืน เช้ามารู้สึกได้เลยว่าหน้ายังชุ่มชื่น ไม่แห้ง ตอนแต่งหน้าเครื่องสำอางติดดี แถมแอบรู้สึกว่าเรียบเนียนขึ้นด้วยค่ะ ให้ 4/5 ขอกั๊กไว้ 1 เพราะเพิ่งใช้ไปแค่ 2 อาทิตย์เองของอย่างนี้ต้องดูกันยาวๆ เนอะ
ปกติจอยเองเป็นคนที่ผิวหน้าแห้งมากกก
ทำให้บางทีแต่งหน้าไม่ค่อยติด
เคยใช้ Sleeping Mask ก็ติดสเตียรอยด์
ทำให้ไม่กล้าใช้ครีมอะไรอีก
แต่ได้ลอง philosophy ultimate miracle worker night มาระยะนึง
คือมันก็ใช่นะ เป็นครีมที่ให้มอยส์เจอร์ระดับสุด
นอกจาก “ดอกไม้” ซักช่อในวันพิเศษ ๆ
ก็มี “ความสวย” นี่ล่ะที่ผู้หญิงอย่างพวกเราต้องการ เพื่อน ๆ ว่ามั้ย?
ก่อนนอน อย่าลืมหาเวลาดูแลตัวเองกันนะคะ
สำหรับใครที่สนใจ
Ultimate miracle worker night
สามารถหาซื้อได้ที่เคาน์เตอร์ philosophy ทุกสาขา ในราคากระปุกละ 3,300 บาทนะคะ ใช้ได้นานเลยเเหล่ะ
เลิฟยูวววววว