ทดลองใช้ Digital Amp Meter 3 เฟส ปรับ Balance เฟส

เริ่มจากค่าไฟแพง เดือนละ 3,500-4,100 ต่อเดือน ทั้งที่เรา "คิดว่า" เราใช้ไฟน้อยนะ เนื่องจากเป็น Home Office กลางวันใช้คอมฯ 3 เครื่อง พัดลม 3 ตัว Printer 2 เครื่อง (ไม่ได้เปิดตลอด) กลางคืน TV ดูน้อย เปิดแอร์ตัวเดียว เจอค่าไฟแบบนี้เลยสงสัยมากลายปีแล้วมันแพงเพราะอะไร?
แต่ที่สงสัยคือ น่าจะมาจากการจัดเฟสไฟที่ไม่ Balance กัน (ใช้ไฟ 3 เฟส)  ก่อนหน้านี้ซื้อแคลมป์มิเตอร์มาคล้องวัดที่ละเฟสก็จัดไปได้ระดับหนึ่ง เพราะก่อนจะเป็นค่าไฟ 3,500 เจอ 4,300-4,900 มาตลอด
บังเอิญไปเห็น Digital Amp Meter 3 เฟส ก็ปิ๊งไอเดียเลย ถ้าได้เห็นค่าการกินกระแสไฟตลอดจะได้จัดการได้ง่าย คราวนี้เลยจัดการเอามาลองเลยและต้องขอบคุณเพื่อนๆ ที่ให้คำปรึกษาจนติดตั้งสำเร็จ

รายการการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า
อุปกรณ์ที่ทำงาน 24 ชม
1. ตู้เย็น 3 ตู้ จะกินไฟสูงเฉพาะตอนคอมเพรสเซอร์ทำงาน
2. กล้องวงจรปิด 7 ตัว + เครื่องบันทึก + เครื่องสำรองไฟ 800 VA
3. สัญญาณกันขโมย 1 ชุด
4. ADSL Router + Access Point 1 ตัว

ช่วงกลางวัน
1.คอมพิวเตอร์ 3 เครื่อง
2. Laser Printer 1 เครื่อง
3. Inkjet Printer 1 เครื่อง
4. พัดลม 3 ตัว (อีกตัวเปิดเป็นครั้งคราว)

ช่วงเย็น-ค่ำ
1.ไฟแสงสว่าง
2.พัดลม

กลางคืน
1. แอร์ 12000 BTU 1 ตัว 21.00-04.30 (ตั้งเวลาปิด)
2. ไฟ LED 1 ดวง 23.00-06.00

เครื่องใช้ในครัว
1. เครื่องทอดไร้น้ำมันฟิลิปส์
2. เตาอบขนาดเล็ก
3. ไมโครเวฟ
4. กระน้ำน้ำร้อนไฟฟ้า

อื่นๆ
1.ชาร์จแบต Tablet, Smartphone, กล้อง EOS
2. ปั๊มน้ำ (ทำงานครั้งคราว)

เมื่อต่อเสร็จค่าแรกที่เห็น คือ

เจอแล้วเจ้าตัวดีที่ทำให้ค่าไฟกระโดดเพราะเฟสไฟไม่ Balance นี่เอง
คราวนี้ตามไล่หากันต่อว่าอุปกรณ์อะไรเป็นตัวทำให้ตัวเลขมันโดดมาขนาดนี้ คำตอบที่ได้คือ



พอถอดปลั๊กไฟกระติกน้ำร้อนออกค่าที่ได้



ดังนั้น กระติกน้ำร้อนถ้าไม่ใช้ให้ถอดปลั๊ก จะใช้ค่อยมาเสียบเอา จะประหยัดไฟได้ด้วย

คราวนี้มาดูค่าที่อยากรู้คือ ช่วงที่จะต้องเข้านอน คือเปิดแอร์ 1 ตัวกับไฟ LED 5 watts 1 ดวง ค่ามิเตอร์ที่ได้



จบแค่นี้ก่อน เพราะไม่รู้ช่างไฟเดินสายไว้อย่างไรบ้าง ดังนั้นถ้าประคองเฟสไฟให้สมดุลในช่วงกลางวัน 08.00-18.00 รอดูผลค่าไฟอีก 1 เดือนว่าจะลดได้แค่ไหน แล้วจะ update ให้ชมครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่