ก่อนอื่นเลยต้องขอออกตัวก่อนว่าเจ้าของกระทู้ไม่ได้ประสบปัญหานี้ด้วยตนเองนะคะ อาจจะไม่เข้าใจหัวอกคนที่ประสบปัญหาเหล่านี้โดยตรง เนื่องจากอยู่บ้านเดี่ยว แต่เหตุการณ์เหล่านี้มักจะเกิดขึ้นกับคนใกล้ตัวบ่อยมาก หลายครั้งที่ได้คุยกัน ก็ทำให้รู้สึกอึดอัดใจว่าจะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ให้หมดไปได้อย่างไร จึงอยากจะขอคำแนะนำจากทุกคนที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้ ร่วมกันแสดงความคิดเห็น หรือเสนอวิธีการแก้ไขเกี่ยวกับ "ปัญหาสุนัขจรจัดในหมู่บ้าน" กันค่ะ
เริ่มจากหนึ่งในเรื่องราวที่เคยได้รับฟังมาก่อนเลยละกันนะคะ ใครมีเรื่องราวทำนองเดียวกัน และสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้แล้วในตอนนี้ รบกวนมาแชร์ประสบการณ์กัน เพื่อเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหา สำหรับคนที่กำลังเผชิญกับปัญหาเหล่านี้กันอยู่นะคะ
เรื่องมีอยู่ว่า คนรู้จักเราอาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง แรกเริ่มเดิมทีเลยก็ไม่มีสุนัขจรจัดเข้ามาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านหรอกค่ะ จนกระทั่งเริ่มมีคนให้อาหารสุนัขจรจัดที่ผ่านเข้ามาในหมู่บ้าน หลังจากนั้นสุนัขเหล่านี้ก็ได้เข้ามาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านนี้อย่างถาวร และเพิ่มจำนวนประชากรขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา มากมาย อาทิเช่น วิ่งไล่กัดคน/สัตว์เลี้ยงในหมู่บ้าน กระโดดลงเล่นน้ำในสระว่ายน้ำของหมู่บ้านช่วงหน้าร้อน ถ่ายปัสสาวะ/อุจาระเรี่ยราด ปัญหาเห็บหมัด เป็นต้น คนรู้จักเราจึงนำปัญหาเหล่านี้ไปปรึกษาพูดคุยกับคนที่ชอบให้อาหารสุนัขจรจัดค่ะ ว่าจะแก้ไขปัญหากันอย่างไรดี ผลปรากฏว่า คุยกันไม่รู้เรื่องค่ะ แถมโดนต่อว่ากลับมาอีกหลายกระบุง จากที่ตั้งใจจะเข้าไปพูดคุยกันดีๆ จึงทำให้มีปากเสียงกันขึ้นมานิดหน่อย และเกิดความบาดหมางกันในที่สุด คนรู้จักเราเลยเลือกที่จะนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมหมู่บ้าน พร้อมกับเสนอแนวทางแก้ไขไปว่าให้ควบคุมจำนวนประชากรของสุนัขจรจัด ไม่ให้เพิ่มจำนวนจากที่มีอยู่ (ทำหมัน, ป้องกันไม่ให้สุนัขจรจัดเข้ามาเพิ่ม) เพราะเข้าใจค่ะ ว่าเลี้ยงกันมานาน ความผูกพันธ์ย่อมเกิดขึ้นเป็นธรรมดา แต่กรณีของสุนัขจรจัดเดิมที่อยู่ในหมู่บ้าน ผู้ที่อ้างสิทธิ์ว่าเป็นเจ้าของสุนัข ต้องร่วมกันดูแลสุนัขจรจัดดังกล่าว ไม่ให้ไปสร้างความเดือดร้อนให้กับลูกบ้านคนอื่นๆ หากทำไม่ได้ตามข้อตกลงดังกล่าว สุนัขจรจัดเหล่านี้ จะต้องถูกเทศบาลนำออกไปจากหมู่บ้านทันที ปรากฏว่าหลังจากนั้นคนรู้จักเราโดนเค้าพาพวกมารุมต่อว่า ว่าทำไมต้องทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ ถูกขู่ทำร้ายร่างกาย แถมแช่งทิ้งท้ายให้โดนน้องหมาพวกนี้กัด แล้วเค้าจะจ่ายค่ารักษาให้เอง เอิ่มมมมมมมมมมม!!! ได้ยินแบบนี้แล้ว ถึงกับไปต่อไม่ถูกกันเลยทีเดียวค่ะ ยังไงล่ะเนี่ย คิดจะเลี้ยงน้องหมาไว้ในพื้นที่ส่วนรวม แต่ก็ไม่ดูแลให้ดี แล้วจะอยู่ร่วมกันต่อไปได้อย่างไร?
พูดไปแล้วก็เหมือนปัญหาโลกแตกนะคะ ท่ามกลางปัญหาเหล่านี้ ผู้ที่เดือดร้อน มักจะถูกมองว่า เห็นแก่ตัว ใจร้าย ไม่รักสัตว์ แต่ถ้าคิดถึงใจเขาใจเราสักหน่อย ความคิดเหล่านี้น่าจะหมดไป ส่วนตัวแล้ว เจ้าของกระทู้คิดว่า "ความรัก ความสงสาร ต้องมาพร้อมกับความรับผิดชอบต่อสังคม" ค่ะ ถ้าเรารักที่จะช่วยเหลือสุนัขจรจัดเหล่านั้นแล้ว เราก็ควรระมัดระวังไม่ให้ความรัก ความเมตตาของเราไปส่งผลกระทบ หรือสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่นด้วยค่ะ สุดท้ายขอฝากถึงคนที่คิดจะเลี้ยงน้องหมาหรือสัตว์เลี้ยงอื่นๆหน่อยนะคะ ถ้าไม่พร้อม หรือไม่สามารถเลี้ยงเค้าดูแลเค้าได้ จนกระทั้งเค้าหมดสิ้นอายุไข อย่าเลี้ยงเลยค่ะ เพราะสุดท้ายแล้วจะมีอีกหลายชีวิตที่ต้องเดือดร้อนเพราะการกระทำของคุณ
ปล. สาเหตุที่เขียนกระทู้นี้ขึ้นมา เนื่องจากอยากให้ทุกคนมาแชร์ความคิดเห็น เกี่ยวกับประเด็น "ปัญหาสุนัขจรจัดในหมู่บ้าน" กันค่ะ จะได้มองเห็นปัญหานี้ ในหลากหลายแง่มุม และในขณะเดียวกันก็หวังว่าคู่กรณีในปัญหาเหล่านี้จะได้เข้ามาอ่าน และทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในมุมมองของผู้ที่ได้รับผลกระทบในกรณีที่คล้ายๆกันนี้ และช่วยกันแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเหล่านี้ให้หมดไป เพื่อที่จะกลับมาอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุขอีกครั้งค่ะ แน่นอนว่าเราเป็นห่วงคนรู้จักของเรา เราไม่อยากให้เรื่องแบบนี้มาทำให้คนรู้จักของเราตกอยู่ในอันตราย และสภาวะวิตกกังวล เนื่องจากความไม่เข้าใจกันค่ะ
ปัญหาสุนัขจรจัดในหมู่บ้าน
เริ่มจากหนึ่งในเรื่องราวที่เคยได้รับฟังมาก่อนเลยละกันนะคะ ใครมีเรื่องราวทำนองเดียวกัน และสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้แล้วในตอนนี้ รบกวนมาแชร์ประสบการณ์กัน เพื่อเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหา สำหรับคนที่กำลังเผชิญกับปัญหาเหล่านี้กันอยู่นะคะ
เรื่องมีอยู่ว่า คนรู้จักเราอาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง แรกเริ่มเดิมทีเลยก็ไม่มีสุนัขจรจัดเข้ามาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านหรอกค่ะ จนกระทั่งเริ่มมีคนให้อาหารสุนัขจรจัดที่ผ่านเข้ามาในหมู่บ้าน หลังจากนั้นสุนัขเหล่านี้ก็ได้เข้ามาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านนี้อย่างถาวร และเพิ่มจำนวนประชากรขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา มากมาย อาทิเช่น วิ่งไล่กัดคน/สัตว์เลี้ยงในหมู่บ้าน กระโดดลงเล่นน้ำในสระว่ายน้ำของหมู่บ้านช่วงหน้าร้อน ถ่ายปัสสาวะ/อุจาระเรี่ยราด ปัญหาเห็บหมัด เป็นต้น คนรู้จักเราจึงนำปัญหาเหล่านี้ไปปรึกษาพูดคุยกับคนที่ชอบให้อาหารสุนัขจรจัดค่ะ ว่าจะแก้ไขปัญหากันอย่างไรดี ผลปรากฏว่า คุยกันไม่รู้เรื่องค่ะ แถมโดนต่อว่ากลับมาอีกหลายกระบุง จากที่ตั้งใจจะเข้าไปพูดคุยกันดีๆ จึงทำให้มีปากเสียงกันขึ้นมานิดหน่อย และเกิดความบาดหมางกันในที่สุด คนรู้จักเราเลยเลือกที่จะนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมหมู่บ้าน พร้อมกับเสนอแนวทางแก้ไขไปว่าให้ควบคุมจำนวนประชากรของสุนัขจรจัด ไม่ให้เพิ่มจำนวนจากที่มีอยู่ (ทำหมัน, ป้องกันไม่ให้สุนัขจรจัดเข้ามาเพิ่ม) เพราะเข้าใจค่ะ ว่าเลี้ยงกันมานาน ความผูกพันธ์ย่อมเกิดขึ้นเป็นธรรมดา แต่กรณีของสุนัขจรจัดเดิมที่อยู่ในหมู่บ้าน ผู้ที่อ้างสิทธิ์ว่าเป็นเจ้าของสุนัข ต้องร่วมกันดูแลสุนัขจรจัดดังกล่าว ไม่ให้ไปสร้างความเดือดร้อนให้กับลูกบ้านคนอื่นๆ หากทำไม่ได้ตามข้อตกลงดังกล่าว สุนัขจรจัดเหล่านี้ จะต้องถูกเทศบาลนำออกไปจากหมู่บ้านทันที ปรากฏว่าหลังจากนั้นคนรู้จักเราโดนเค้าพาพวกมารุมต่อว่า ว่าทำไมต้องทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ ถูกขู่ทำร้ายร่างกาย แถมแช่งทิ้งท้ายให้โดนน้องหมาพวกนี้กัด แล้วเค้าจะจ่ายค่ารักษาให้เอง เอิ่มมมมมมมมมมม!!! ได้ยินแบบนี้แล้ว ถึงกับไปต่อไม่ถูกกันเลยทีเดียวค่ะ ยังไงล่ะเนี่ย คิดจะเลี้ยงน้องหมาไว้ในพื้นที่ส่วนรวม แต่ก็ไม่ดูแลให้ดี แล้วจะอยู่ร่วมกันต่อไปได้อย่างไร?
พูดไปแล้วก็เหมือนปัญหาโลกแตกนะคะ ท่ามกลางปัญหาเหล่านี้ ผู้ที่เดือดร้อน มักจะถูกมองว่า เห็นแก่ตัว ใจร้าย ไม่รักสัตว์ แต่ถ้าคิดถึงใจเขาใจเราสักหน่อย ความคิดเหล่านี้น่าจะหมดไป ส่วนตัวแล้ว เจ้าของกระทู้คิดว่า "ความรัก ความสงสาร ต้องมาพร้อมกับความรับผิดชอบต่อสังคม" ค่ะ ถ้าเรารักที่จะช่วยเหลือสุนัขจรจัดเหล่านั้นแล้ว เราก็ควรระมัดระวังไม่ให้ความรัก ความเมตตาของเราไปส่งผลกระทบ หรือสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่นด้วยค่ะ สุดท้ายขอฝากถึงคนที่คิดจะเลี้ยงน้องหมาหรือสัตว์เลี้ยงอื่นๆหน่อยนะคะ ถ้าไม่พร้อม หรือไม่สามารถเลี้ยงเค้าดูแลเค้าได้ จนกระทั้งเค้าหมดสิ้นอายุไข อย่าเลี้ยงเลยค่ะ เพราะสุดท้ายแล้วจะมีอีกหลายชีวิตที่ต้องเดือดร้อนเพราะการกระทำของคุณ
ปล. สาเหตุที่เขียนกระทู้นี้ขึ้นมา เนื่องจากอยากให้ทุกคนมาแชร์ความคิดเห็น เกี่ยวกับประเด็น "ปัญหาสุนัขจรจัดในหมู่บ้าน" กันค่ะ จะได้มองเห็นปัญหานี้ ในหลากหลายแง่มุม และในขณะเดียวกันก็หวังว่าคู่กรณีในปัญหาเหล่านี้จะได้เข้ามาอ่าน และทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในมุมมองของผู้ที่ได้รับผลกระทบในกรณีที่คล้ายๆกันนี้ และช่วยกันแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเหล่านี้ให้หมดไป เพื่อที่จะกลับมาอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุขอีกครั้งค่ะ แน่นอนว่าเราเป็นห่วงคนรู้จักของเรา เราไม่อยากให้เรื่องแบบนี้มาทำให้คนรู้จักของเราตกอยู่ในอันตราย และสภาวะวิตกกังวล เนื่องจากความไม่เข้าใจกันค่ะ