ตีนโรง ตีนศาล...
หลายคนอาจเคยได้ยินคำนี้มาบ้าง แต่ไม่รู้ว่าแท้จริงแล้ว มันคืออะไรกันแน่ วันนี้ขอเล่าสู่กันฟังในมุมที่ผมเจอมานะครับ
ผู้ต้องหาในคดีอาญา เวลาถูกฟ้องต่อศาล หากต้องการต่อสู้คดีก็ต้องทำเรื่องประกันตัวออกมา ใช่มั้ยครับ
ถ้าหากจำเลยมีเงินสด มีหลักทรัพย์ ก็ไม่มีปัญหาอะไร
ปัญหามันอยู่ที่พวกเขาไม่มีเงินสด และ ไม่มีหลักทรัพย์พอที่จะประกันตัว เค้าจึงต้องใช้บริการพวกตีนโรงตีนศาลพวกนี้..
ซึ่งคนพวกนี้เหมือนมีพรายกระซิบ มันจะเข้ามาตีสนิท มาพูด มาเสนอทางออกให้ คนกำลังใจเสียก็เลยหลงกลพวกมัน
วิธีการของคนพวกนี้คือ จะเรียกเงินค่ากินเปล่าในการเช่าหลักทรัพย์ หรือ วางเงินสดต่อศาลแทนเรา โดยไม่คิดเป็น% แต่จะเรียกราคาแบบตกลงกันเอง เช่น ศาลกำหนดวงเงินประกันตัว 5 แสนบาท พวกตีนโรงตีนศาลพวกนี้ ก็จะเรียกเก็บเงินจากเราประมาณ 1 แสน ถึง 1.5 แสนกันเลยทีเดียว เพื่อแลกกับเงินสดที่มันจะเอาไปวางในศาลแทนเรา..
คราวนี้พอมันได้เงินไปจากเราแล้ว มันก็จะไม่คืน ไม่ว่ากรณีใดๆทั้งสิ้น แถมมันยังให้จำเลยหาญาติพี่น้องมาค้ำประกันเงินมันอีก 5 แสนบาท
ตามจำนวนที่มันวางศาลไป เรียกว่า หากจำเลยหนี มันก็ฟ้องญาติๆจำเลยได้อีก
ดูเหมือนมันจะใจดีใช่มั้ย แต่เปล่าเลยครับ
พอใกล้ถึงวันสืบพยานก่อนสัก 1 เดือน มันจะพาตำรวจไปจับตัวจำเลยคนนั้นไปส่งศาล
อ้างว่าจำเลยจะหลบหนี มันจึงวางแผนถอนประกันเอางเินที่วางศาลไว้ออกมา ทั้งที่ความจริงจำเลยไม่ได้หนีเลย..
พอตำรวจไปจับตัวจำเลยมาได้ ก็ส่งตัวจำเลยเข้าเรือนจำสิครับ ถูกขังรอวันนัดของศาลต่อไป....
อ้าว... แล้วเงินประกันที่จ่ายมันไป 1 แสนล่ะ...ทำไง..
พวกมันไม่คืนครับ เพราะมันคือเงินกินเปล่า เหมือนเราซื้อประกันรถยนต์นั่นเอง แต่ที่แสบคือ มันพาตำรวจมาจับจำเลย อ้างว่าจำเลยจะหลบหนีนี่แหละครับ ซึ่งตรงนี้บอกเลยว่าเป็นช่องว่างของกฎหมายที่ให้อำนาจนายประกันจับตัวจำเลยได้ หากปรากฎว่าจำเลยจะหลบหนี แล้วเอาตัวมาส่งศาล และถอนประกันในที่สุด
มีอีกกรณีหนึ่งที่มันทำได้อย่างหน้าด้านๆ คือ
กรณีที่ศาลกำหนดให้วางหลักทรัพย์ค้ำประกัน เป็นโฉนดในวงเงิน 3 แสนบาท (สมมุติวงเงิน)
มันก็จะเอาโฉนดที่มีวงเงินประมาณ 4-5 แสนบาทมาวางไว้ที่ศาลแทนโฉนดที่ราคาประเมิน 3 แสน
แล้วมันมาบอกว่า ต้องวางโฉนดราคาสูงกว่า เพราะศาลไม่ยอม ซึ่งจริงๆ ศาลไม่ได้สั่งแบบนั้นเลย มันแอบอ้างศาลเอง
สมมุติว่ามันตกลงจะให้จำเลยเช่าโฉนดราคาประเมิน 3 แสน คือเรียกเก็บจากจำเลย 5 หมื่นบาท พอมันเอาโฉนดราคา 4-5 แสนมา มันบอกว่าจำเลยต้องจ่ายเงินมันเพิ่มอีก 2 หมื่น เพราะต้องวางโฉนดที่มีราคาแพงกว่าเดิมไป 1-2 แสนบาท..แล้วมันก็อ้างอีกว่า หากจำเลยหนี มันจะถูกยึดโฉนดเลย
ซึ่งในความเป็นจริงไม่ได้เป็นไปตามที่มันอ้าง เพราะว่า หากศาลจะยึดจริงๆ ศาลก็ยึดได้ในวงเงินที่ศาลกำหนดเท่านั้น หากศาลกำหนดไว้ 3 แสน แม้ว่าเราจะวางโฉนด 1 ล้าน ศาลก็ยึดได้เพียง 3 แสนเท่านั้น...
คือไอ้พวกตีนโรงตีนศาล มันรู้ไงว่า จำเลยถูกขังอยู่ใต้ถุนศาล อยากจะออกเต็มที มันเลยโก่งราคาแบบนี้ไง จาก 5 หมื่น เป็น 7 หมื่นบาท.......
ตอนนี้เข้าใจหรือยังว่า ไอ้พวกตีนโรงตีนศาล มันคือคน(อาชีพ)แบบไหน มันคืออาชีพที่หากินกับความเดือนร้อนทุกข์ยากของคนที่มีทุกข์อยู่แล้วนั่นเอง
ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ศาลจะมีบริการตรงนี้อยู่แล้ว และราคาก็เป็นธรรมโดยคิดค่าบริการ 8-10% แล้วแต่ลักษณะคดี
โดยผู้ที่มีสิทธตรงนี้จะขึ้นทะเบียนไว้กับศาล ตรวจสอบได้ ถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนใหญ่ก็จะเป็นบริษัทประกันชื่อดังของไทยอยู่แล้ว
แต่อาจมีช่องว่างในกรณีที่ฐานความผิดที่ร้ายแรง หรือ มีวงเงินสูงๆ อาจจะทำเรื่องลำบากหน่อย
พวกตีนโรงตีนศาลเลยเข้ามาได้ในช่องว่างตรงนี้แหละครับ
++ วันนี้ขอเสนอคำว่า "ตีนโรง ตีนศาล" ++
หลายคนอาจเคยได้ยินคำนี้มาบ้าง แต่ไม่รู้ว่าแท้จริงแล้ว มันคืออะไรกันแน่ วันนี้ขอเล่าสู่กันฟังในมุมที่ผมเจอมานะครับ
ผู้ต้องหาในคดีอาญา เวลาถูกฟ้องต่อศาล หากต้องการต่อสู้คดีก็ต้องทำเรื่องประกันตัวออกมา ใช่มั้ยครับ
ถ้าหากจำเลยมีเงินสด มีหลักทรัพย์ ก็ไม่มีปัญหาอะไร
ปัญหามันอยู่ที่พวกเขาไม่มีเงินสด และ ไม่มีหลักทรัพย์พอที่จะประกันตัว เค้าจึงต้องใช้บริการพวกตีนโรงตีนศาลพวกนี้..
ซึ่งคนพวกนี้เหมือนมีพรายกระซิบ มันจะเข้ามาตีสนิท มาพูด มาเสนอทางออกให้ คนกำลังใจเสียก็เลยหลงกลพวกมัน
วิธีการของคนพวกนี้คือ จะเรียกเงินค่ากินเปล่าในการเช่าหลักทรัพย์ หรือ วางเงินสดต่อศาลแทนเรา โดยไม่คิดเป็น% แต่จะเรียกราคาแบบตกลงกันเอง เช่น ศาลกำหนดวงเงินประกันตัว 5 แสนบาท พวกตีนโรงตีนศาลพวกนี้ ก็จะเรียกเก็บเงินจากเราประมาณ 1 แสน ถึง 1.5 แสนกันเลยทีเดียว เพื่อแลกกับเงินสดที่มันจะเอาไปวางในศาลแทนเรา..
คราวนี้พอมันได้เงินไปจากเราแล้ว มันก็จะไม่คืน ไม่ว่ากรณีใดๆทั้งสิ้น แถมมันยังให้จำเลยหาญาติพี่น้องมาค้ำประกันเงินมันอีก 5 แสนบาท
ตามจำนวนที่มันวางศาลไป เรียกว่า หากจำเลยหนี มันก็ฟ้องญาติๆจำเลยได้อีก
ดูเหมือนมันจะใจดีใช่มั้ย แต่เปล่าเลยครับ
พอใกล้ถึงวันสืบพยานก่อนสัก 1 เดือน มันจะพาตำรวจไปจับตัวจำเลยคนนั้นไปส่งศาล
อ้างว่าจำเลยจะหลบหนี มันจึงวางแผนถอนประกันเอางเินที่วางศาลไว้ออกมา ทั้งที่ความจริงจำเลยไม่ได้หนีเลย..
พอตำรวจไปจับตัวจำเลยมาได้ ก็ส่งตัวจำเลยเข้าเรือนจำสิครับ ถูกขังรอวันนัดของศาลต่อไป....
อ้าว... แล้วเงินประกันที่จ่ายมันไป 1 แสนล่ะ...ทำไง..
พวกมันไม่คืนครับ เพราะมันคือเงินกินเปล่า เหมือนเราซื้อประกันรถยนต์นั่นเอง แต่ที่แสบคือ มันพาตำรวจมาจับจำเลย อ้างว่าจำเลยจะหลบหนีนี่แหละครับ ซึ่งตรงนี้บอกเลยว่าเป็นช่องว่างของกฎหมายที่ให้อำนาจนายประกันจับตัวจำเลยได้ หากปรากฎว่าจำเลยจะหลบหนี แล้วเอาตัวมาส่งศาล และถอนประกันในที่สุด
มีอีกกรณีหนึ่งที่มันทำได้อย่างหน้าด้านๆ คือ
กรณีที่ศาลกำหนดให้วางหลักทรัพย์ค้ำประกัน เป็นโฉนดในวงเงิน 3 แสนบาท (สมมุติวงเงิน)
มันก็จะเอาโฉนดที่มีวงเงินประมาณ 4-5 แสนบาทมาวางไว้ที่ศาลแทนโฉนดที่ราคาประเมิน 3 แสน
แล้วมันมาบอกว่า ต้องวางโฉนดราคาสูงกว่า เพราะศาลไม่ยอม ซึ่งจริงๆ ศาลไม่ได้สั่งแบบนั้นเลย มันแอบอ้างศาลเอง
สมมุติว่ามันตกลงจะให้จำเลยเช่าโฉนดราคาประเมิน 3 แสน คือเรียกเก็บจากจำเลย 5 หมื่นบาท พอมันเอาโฉนดราคา 4-5 แสนมา มันบอกว่าจำเลยต้องจ่ายเงินมันเพิ่มอีก 2 หมื่น เพราะต้องวางโฉนดที่มีราคาแพงกว่าเดิมไป 1-2 แสนบาท..แล้วมันก็อ้างอีกว่า หากจำเลยหนี มันจะถูกยึดโฉนดเลย
ซึ่งในความเป็นจริงไม่ได้เป็นไปตามที่มันอ้าง เพราะว่า หากศาลจะยึดจริงๆ ศาลก็ยึดได้ในวงเงินที่ศาลกำหนดเท่านั้น หากศาลกำหนดไว้ 3 แสน แม้ว่าเราจะวางโฉนด 1 ล้าน ศาลก็ยึดได้เพียง 3 แสนเท่านั้น...
คือไอ้พวกตีนโรงตีนศาล มันรู้ไงว่า จำเลยถูกขังอยู่ใต้ถุนศาล อยากจะออกเต็มที มันเลยโก่งราคาแบบนี้ไง จาก 5 หมื่น เป็น 7 หมื่นบาท.......
ตอนนี้เข้าใจหรือยังว่า ไอ้พวกตีนโรงตีนศาล มันคือคน(อาชีพ)แบบไหน มันคืออาชีพที่หากินกับความเดือนร้อนทุกข์ยากของคนที่มีทุกข์อยู่แล้วนั่นเอง
ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ศาลจะมีบริการตรงนี้อยู่แล้ว และราคาก็เป็นธรรมโดยคิดค่าบริการ 8-10% แล้วแต่ลักษณะคดี
โดยผู้ที่มีสิทธตรงนี้จะขึ้นทะเบียนไว้กับศาล ตรวจสอบได้ ถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนใหญ่ก็จะเป็นบริษัทประกันชื่อดังของไทยอยู่แล้ว
แต่อาจมีช่องว่างในกรณีที่ฐานความผิดที่ร้ายแรง หรือ มีวงเงินสูงๆ อาจจะทำเรื่องลำบากหน่อย
พวกตีนโรงตีนศาลเลยเข้ามาได้ในช่องว่างตรงนี้แหละครับ