นึกย้อนไปสมัย ซิโก้ รับงานคุมทีมชาติใหม่ๆ คอมเม้นต่างๆ นานๆ
"ซิโก้ มือไม่ถึง สู้เอาโค้ชต่างชาติมีฝีมือไม่ได้"
"ไม่เคยคุมทีมสโมสรได้ผลงานที่ดีมากนัก"
คำปรามาส คือ แรงผลักดันที่ดีที่ทำให้ ซิโก้ ฝ่าฝันมายืน ณ จุดที่ แฟนบอลไทยทั้งยุคเก่าและยุคใหม่ ไม่อยากจะเชื่อว่าฉุดทีมชาติอันตกต่ำเรี่ยดิน ขึ้นมาติด TOP 12 ของเอเชียได้
วันเวลาผ่านไป กับวันเดอร์คิดที่ซิโก้สร้าง จุดเริ่มต้นเล็กๆ ทีมเยาวชนแชมป์เกรดรายการเล็กๆ อย่างซีเกม พัฒนาการมาเรื่อยๆ จนได้แชมป์อาเซียนในรอบ ทศวรรษ แข่งขันเอเชี่ยนเกมกับผลงานที่ยอดเยี่ยม มาจนถึงติด TOP 12 ผู้ท้าชิงตั๋วบอลโลกรอบสุดท้าย และรูปเกมการเล่นที่สนุกเร้าใจสู้ทีมชั้นนำเอเชียได้สูสีไม่เละเป็นโจ้กเหมือนยุคบอลกลียุค
การแก้เกมและแทคติคได้ทันท่วงทีมีเซอร์ไพรสให้แฟนบอลได้ติดตามตลอด ซิโก้มีจิตวิทยาที่ดีกับนักเตะ ไม่โอหัง ถ่อมตัว และมักจะบอกน้องๆ เสมอว่าถ้าแพ้ "พี่โก้จะรับผิดชอบเอง เพราะเป็นแทคติคของพี่โก้" สัมภาษณ์ทุกครั้งก็ให้เกียรติน้องๆ ทุกคนที่เล่นเพื่อชาติ ยึดอกรับแทนเสมอ และขอบคุณน้องๆ ทุกครั้งที่ให้สัมภาษณ์ รู้จักวิธีการพูดปลุกใจให้แง่คิดกับนักเตะ เหมือนพี่สอนน้อง ทำให้เด็กในทีมไม่ว่าหน้าเก่าหรือใหม่ที่มารวมตัวกันต่างสโมสร ไม่มีอีโก้ถือตัวสูงเหมือนยุคเก่า รักสามัคคีกัน และสู้เพื่อแฟนบอล สู้เพื่อสีเสื้อของชาติตัวเอง แบบวิ่งสู้ฟัดลืมตาย


องค์ประกอบเหล่านี้ ไม่ได้สร้างกันได้ง่ายๆ ทั้งระบบการเล่นที่ลงตัว สปิริตทีม สิ่งเหล่านี้คือมาตรฐานสูงของ ซิโก้ ได้สร้างไว้ และแน่นอนว่าถ้าเมื่อไหร่ไม่ว่าเหตุผลกลใดทำให้ซิโก้วางมือ มันก็จะวนลูปอีกครั้ง เหมือนสมัยที่ซิโก้เข้ามาทำงานใหม่ๆ ให้ทีมชาติ แต่วาระการปรามาสจะต่างออกไป สำหรับโค้ชใหม่ที่จะมาทำ คำถามแฟนบอลส่วนใหญ่ที่จะตามมา "ทำได้ดีกว่าซิโก้หรือเปล่า" ถ้าพลาดแม้แต่น้อย ไม่ใช่เฉพาะโค้ชใหม่เท่านั้น คนที่จะโดยหางเลขไปด้วยคือคนตัดสินใจว่าจ้าง เก้าอี้ในสมาคม มันก็จะวนลูปไปไม่ต่างจากยุคบังยี


การว่าจ้างต่างๆ ก็เป็นข้อตกลงที่ควรยอมรับได้ เพราะโค้ชต้องการทีมงาน มือซ้าย มือขวา ที่รู้ใจ ถ้ายิ่งสมาคมเข้าไปจัดการเลือก หรือจัดทีมงานให้ซิโก้ โดยที่ซิโก้ไม่ได้เลือกเอง แฟนบอลอาจตั้งข้อสังเกตจุดประเด็นได้ นั่นคือ เป็นกระบวนการทำให้ซิโก้อยู่ยาก และลำบากในการทำงาน เพื่อกีดกันออกไป แล้วหาคนใหม่ทำแทน คนจะมองได้ว่ามีนอมินีในสมาคมที่จ้องจะกำจัดซิโก้ก็เป็นได้ ซึ่งอาจจะจริง หรือไม่จริงก็ได้ แต่แล้วเวลาก็จะเผยความจริงออกมาเอง

การที่ซิโก้วางมือจากทีมชาติไทย ด้วยผลงานขนาดนี้ ไม่ได้ทำให้ซิโก้ตกงานนานแต่อย่างใด เพราะทั้งสโมสรและทีมชาติในเวียดนาม และมาเลเซีย จ้องไว้แล้ว และพร้อมจะทุ่มเงินไม่อั้นและอิสระในการทำงานสนับสนุนอย่างเต็มที่ ถ้าถึงจุดนั้นจริง คนที่เจ็บปวดมากที่สุด คือ แฟนบอลไทย เมื่อเห็นนักเตะและโค้ชในตำนานไปคุมทีมชาติอื่น เพราะทั้งใน เวียดนาม และมาเล ถ้าบริหารจัดการดีๆ พัฒนาถูกจุด พัฒนาต่อเนื่อง เป็นสิ่งที่น่ากลัวสำหรับทีมชาติไทย

ประเด็นสปอร์ตฮีโร่ สมาคมก็ควรเคารพให้ตัดสินใจเรื่องทีมงานของซิโก้ มันก็ไม่ต่างกับ สมาคมฟุตบอลจ้าง Outsource บริษัททั่วไปข้างนอก เข้ามาทำจัดการกิจกรรมให้สมาคม ในสัญญาก็ตกลงกันให้ชัดเจนว่าสิทธิ์ประโยชน์มีอะไรบ้าง ถ้าซิโก้รับงานพรีเซ็นเตอร์ นักเตะรับงานพรีเซ็นเตอร์ ต้องไปในนามอะไร ถ้าสปอนเซอร์ติดต่อผ่านสมาคมก็ต้องแบ่งให้สมาคม แต่ถ้าติดต่อโดยตรงกับเจ้าตัวเองก็ไปตกลงกันเองรับไปกันเอง อะไรทำนองนั้น

ในสัญญาต้องระบุชัดเจนเรื่องตัวเงิน ถ้าจ้างสปอร์ตฮีโร่ ซิโก้ก็ต้องไปคำนวณค่าใช้จ่ายๆ ต่างๆ ให้สมาคมตรวจสอบได้ สมาคมอาจเหมาจ่ายค้าจ้างเป็นงวดๆ ไป เพื่อให้ซิโก้เอาไปจ่ายค้าจ้าง ให้ทีมงานตัวเอง ส่วนสิทธิ์ประโยชน์สปอร์นเซอร์โฆษณา เงินอัดฉีด ที่จะเข้ามา ก็ต้องตกลงกันว่าต้องผ่านมาทางสมาคมแล้วจะจัดสรรให้เป็นโบนัสทั้งนักเตะและบริษัทสปอร์ตฮีโร่ของซิโก้อย่างไร แต่ถ้ามีโฆษณาพรีเซ็นเตอร์มาติดต่อโดยตรงกับเจ้าตัว ให้ไปเป็นพนีเซ็นเตอร์สินค้านั้นๆ สมาคมก็ไม่ควรไปยิ่งเกี่ยวถ้าไม่ได้ผ่านทางสมาคม อันนี้ก็แล้วแต่สัญญาตกลงกันว่ามีเงื่อนไขไรบ้าง หรือจะให้ผ่านสมาคมแล้วมาแบ่งสรรกันอีกทีก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย

เราต้องยกมาตรฐานคุณภาพชีวิตนักกีฬาและอดีตนักกีฬาไทยให้ดีขึ้นรายได้เทียบเท่ากับต่างประเทศให้ได้ไม่ว่ากีฬาชนิดไหน ไม่ใข่เป็นอดีตแชมป์ตกอับมาขายก๋วยเตี๋ยวชายสี่ ขายซีดี อย่างบ้านเรา
ดูต่างประเทศ นักฟุตบอล นักมวย บ้านเขา เพราะราคาที่แพง ย่อมมาด้วยคุณภาพที่สูงเสมอ สมน้ำสมเนื้อ