ทำข้อมูล BvS เสริมให้ อาจเข้าใจมากขึ้น

1.เล็กซ์ ลูเทอร์
- เล็กซ์ ลูเทอร์ อายุเท่ากับ Superman (รุ่นเดียวกัน)
- Lex Corp บริษัทของเล็กซ์ ลูเทอร์ ทำธุรกิจหลายอย่าง ได้แก่ วิศวกรรมการบิน วิศวกรรมชีวภาพ อุตสาหกรรมปิโตรเลียม อสังหาริมทรัพย์ การค้า สารเคมี ไปจนถึงอุตสาหรรมคอมพิวเตอร์ และระบบเครือข่ายการสื่อสาร จึงไม่แปลกที่เขาจะค้นหาแร่คริปโตไนต์มาได้โดยง่าย และเล็กซ์ ลูเทอร์ก็มีไฟล์รูปและวิดิโอของซุปเปอร์ฮีโร่ 4 คน(WW , อควา แมน , แฟลช , Cyborg) ซึ่งเป็นรูปที่มาจากภาพถ่ายเก่าและการบันทึกวิดิโอ ซึ่งหาได้ยากมากเลยทีเดียว ไฟล์เหล่านี้ถูกเข้ารหัสไว้อย่างปลอดภัย และมีแต่บรูซ เวย์นที่มีทรัพยากรและศักยภาพทางเทคโนโลยีที่จะสามารถถอดรหัสได้ แม้แต่ไดอาน่า(Wonder Woman) ก็ยังถอดรหัสไฟล์ไม่ได้ ทั้งแร่คริปโตไนต์ และ ไฟล์ข้อมูลนี้ เล็กซ์ ลูเทอร์ได้มาก็เพราะความสามารถของบริษัท Lex Corp นั่นเอง
- ความเกลียดชังที่มีต่อ Superman เรื่องนี้มันจะมีอยู่ 2 สาเหตุใหญ่
1.1 ถ้าตามซีรีย์กับคอมมิค มาจนถึงภาพยนตร์ Superman Return เล็กซ์ เกลียด superman จากอุบัติเหตุสารเคมีในห้องทดลองของโรงเรียนตอนไฮสคูลจนทำให้หัวล้าน เริ่มเกลียดมาตั้งแต่ตอนนี้(เรื่องไม่เป็นเรื่อง เขาโทษว่ามันเป็นความผิดของ superman)
1.2 แต่พอมาถึง BvS เล็กซ์เริ่มต้นด้วยการมีผมและหัวโล้นตอนติดคุก(ไม่ใช่หัวล้าน) เขากับ Superman ไม่ได้เป็นเพื่อนกันในวัยเด็ก ไม่รู้จักกันมาก่อน เล็กซ์ ลูเทอร์มีความคิดคล้ายๆ Batman ว่าควรจะต้องกำจัด Superman ทิ้งหลังจากที่ได้เห็นเหตุการณ์ต่อสู้กันระหว่าง Superman กับ นายพลซอร์ด เพียงแต่เหตุผลของ Batman กับ เล็กซ์ นั้นแตกต่างกัน Batman อยากกำจัด Superman เพราะเขาสูญเสีย ส่วนเล็กซ์ ลูเทอร์อยากกำจัด Superman เพราะความอิจฉาริษยา ความเห็นแก่ตัว ความทะเยอะทะยาน และการมีปมในใจตอนเด็ก แต่เป็นคนที่ฉลาดมาก สรุปเพราะเล็กซ์ ลูเทอร์ คือคนชั่วคนนึงนั่นเอง Superman ก็เหมือนสิ่งที่แสดงถึงศักยภาพของเล็กซ์ว่าเขาจะก้าวข้ามมันไปได้หรือไม่ Superman เป็นแค่เหยื่อของเขาเท่านั้น เล็กซ์ ลูเทอร์ทำทุกอย่างเพื่อตัวเขาเองล้วนๆ
1.3 การที่เล็กซ์ ลูเทอร์มีไฟล์ของซุปเปอร์ฮีโร่นั้น แสดงว่าเขาได้ติดตามคนพิเศษเหล่านี้มาตลอด แต่คนเหล่านี้ไม่เปิดเผยตัว ใช้ชีวิตอยู่แบบเงียบๆ และไม่ได้มีบทบาทอะไรกับสังคมมนุษย์มากนัก จะมีก็แต่ Superman คนเดียวนี่แหละที่เปิดเผยตัวตนซึ่งเล็กซ์ ลูเทอร์จะสามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่าซุเปอร์ฮีโร่คนอื่นๆ

2.สีสเปรย์บนชุดของ Robin

“Hahaha Joke’s on You Batman” เป็นคำล้อเลียน เยาะเย้ยให้แก่ Batman และคนที่ใช้สีสเปรย์พ่นลงไปก็คือ Joker ภาพนี้เป็นเหตุการณ์จากคอมมิคตอน Death in the Family โรบินตายเพราะโจ๊กเกอร์ และแบทแมนมาช่วยชีวิตไม่ทัน สาเหตุที่มาปรากฎใน BvS ก็เนื่องจาก(ขออธิบายยาวสักหน่อย) Superman มองว่าพฤติกรรมของแบทแมนคือการทำตัวเหนือกฎหมาย ใช้ศาลเตี้ย ทำให้ประชาชนหวาดกลัว แต่ บรูซ เวย์นไม่คิดว่าชาวเมืองก็อตแธมจะมองว่าแบทแมนคือภัยร้ายของพวกเขา เพราะ Batman คือผู้ที่มากำจัดโจ๊กเกอร์ผู้สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวเมืองก๊อตแธม ดังนั้นชาวเมืองก๊อตแธมจะอุ่นใจถ้ายังมี Batman(อย่านึกถึงโจ๊กเกอร์ในภาคของคริสเตียน เบลนะครับ ให้นึกถึงชุดของ Robin จากคอมมิคตอน Death in the Family เพราะภาพยนตร์ BvS เขาอ้างอิงมาจากตรงนั้น)

3.You let your family Die ข้อความในหนังสือพิมพ์

มันต่อจากข้อ 2 ซึ่งกำลังสงสัยกันอยู่ว่าใครกันแน่ระหว่าง Jason Todd/Red Hood หรือ โจ๊กเกอร์ ที่เป็นผู้ส่งมาให้ บางคนคิดว่าเป็น Jason Todd แต่เขาตายไปแล้ว ต่อมาในปี 2010 เหมือนจะมีการทำซีรีย์ออกมาประมาณว่า Jason Todd ถูกชุบชีวิตขึ้นมาอีก จากนั้นเขาได้หายตัวไปแล้วใช้ชีวิตเงียบๆอยู่ในเมืองก็อตแธม เพราะเหตุนี้บางคนจึงคิดว่าน่าจะเป็น Jason Todd แต่บางคนก็คิดว่าเป็นโจ๊กเกอร์เป็นผู้ส่งข้อความมา เพราะคิดว่า Jason Todd ตายไปแล้ว เรื่องนี้ก็ยังหาความชัดเจนได้ยาก มีเบื้องลึก และปมเล็กๆตรงนี้อาจเกี่ยวข้องกับ Justice League part 1 ด้วยก็เป็นได้

4.เหตุผล 1% ของบรูซ เวย์น
- มีอยู่ช่วงนึงที่ บรูซ เวย์น พูดกับอัลเฟรดในเรื่องของ Superman ว่า "แม้มีโอกาสแค่ 1% ให้เชื่อได้ว่าเขาเป็นศัตรู เราต้องจัดการให้มันเด็ดขาดไปเลย"  เหตุผล 1% นั้นคือนิมิตที่เขาเห็นจากผลของการย้อนเวลามาบอกของ Flash ราวกับว่าบรูซ เวย์น คิดจะตัดไฟตั้งแต่ต้นลม ฆ่า Superman ทิ้งเสียแต่ตอนนี้ไปเลย เพื่อไม่ให้มันเกิดเหตุการณ์เลวร้ายเหมือนในอนาคตที่เขาเห็น คือมันไม่ใช่ความฝันแต่เหมือนเป็นความทรงจำจากอนาคตที่เป็นจริงและกำลังเป็นอยู่ ว่าเหล่า Justice League กำลังพ่ายแพ้ โลกตกอยู่ในอันตราย Superman กลายเป็นคนชั่ว ส่งผ่านมาจากการย้อนเวลาของ Flash
- แล้วอัลเฟรดก็บอกว่า Superman ไม่ใช่ศัตรู เพราะตอนนี้ศัตรูที่แท้จริงคือเล็กซ์ ลูเทอร์ ซึ่งจะว่าไปแล้วมันก็ถูกนะครับ Batman ไม่มีสิทธิ์มาตัดสิน Superman ในสิ่งที่เขายังไม่ได้ทำ มันเป็นเหตุการณ์ในอนาคต ไม่ใช่ปัจจุบัน ซึ่งปัจจุบัน Superman ยังเป็นคนดี การฆ่า Superman รังแต่จะทำให้ Batman กลายเป็นคนผิดและจะมีตราบาปติดตัวไปจนตาย
- บรูซ เวย์น ยังมีเวลาที่จะเปลี่ยนอนาคตได้ หรือทำให้มันแย่น้อยกว่าในฝัน แน่นอนว่าใน BvS Superman ยังไม่ตายส่วนตัวผมคิดว่าบรูซ เวย์นอาจเล่าความฝันให้ Superman และเหล่าซุปเปอร์ฮีโร่คนอื่นๆฟังโดยเฉพาะ Flash และร่วมมือกันเตรียมตัวรับมือกับศัตรูในอนาคต(พวก Darkseid)
- อย่างที่ผมบอกไปในตอนต้นว่า Batman อยากกำจัด Superman เพราะเขาสูญเสีย และเมื่อมันมาผนวกเข้ากับสิ่งที่เขาฝันเห็น มันก็ยิ่งทำให้เขาอยากกำจัด Superman มากขึ้น ซึ่งเป็นความคิดที่ผิดพลาดของ Batman มันจะมีช่วงนึงที่อัลเฟรดพูดถึง Batman ว่า ความโกรธ ได้เปลี่ยนให้คนดีกลายเป็นโหดเหี้ยม บรูซ เวย์น ปล่อยให้ความแค้น ความโกรธมาบดบังความจริงและความถูกต้อง สิ่งที่อัลเฟรดพูดไปแต่ละอย่างก็เหมือนเตือนสติบรูซ เวย์น แต่มันก็เหมือนเข้าหูซ้าย ทะลุหูขวา เพราะบรูซ เวย์น ไม่สนใจอะไรนอกจากกำจัด Superman อย่างเดียว

5.ภาพยนตร์แยกเดี่ยวของ Wonder Woman จะออกฉายในปี 2017 และจะมี Chris Pine พระเอกจาก Star Trek มาร่วมแสดงด้วย แต่ที่งงกับ Wonder Woman เท่าที่เห็นตอนนี้ก็คือ โล่ มันไม่เหมือนกับ BvS เลย ก็ไม่รู้เพราะอะไร อาจจะเพราะวันเวลามันต่างกันเป็นร้อยปีก็ได้ละมั้ง Wonder Woman เธอาจไปทำอะไรมาก็ได้ ในช่วงท้ายของ BvS ที่ไดอาน่าพูดกับบรูซ เวย์นในงานศพของ Superman ว่า "ฉันเลือกที่จะหันหลังให้มนุษย์ไปแล้วเมื่อร้อยกว่าปีก่อน" มันอาจหมายถึงหลังจากจบเหตุการณ์ในภาค Wonder Woman ที่จะออกฉายในปี 2017 นี่ก็เป็นได้

โล่ของ Wonder Woman ที่จะออกฉายในปี 2017

เครดิต geekslifeluxembourg.com
         www.metalbridges.com
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่